ราคาพริก พุ่งปรี๊ด! กิโลกรัมละกว่า 200บาท มะเขือเทศ ปรับราคาขึ้นด้วย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6788953
พ่อค้าแม่ค้า เผย ราคาพริก ในอ.เบตง จ.ยะลา พุ่งสูงกิโลกรัมละกว่า 200 บาท แพงสุดในรอบ 20 ปี ระบุ มะเขือเทศ-มะพร้าวก็ปรับราคาขึ้นด้วย
วันที่ 18 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ ราคาพริก ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา หลังพบว่าราคาจำหน่ายพริกทุกประเภทในช่วงนี้มีการปรับราคาขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีมะพร้าวแก่จากราคาเดิมลูกละ 10 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 17-20 บาท ขณะเดียวกันมะเขือเทศ แม่ค้าอยากรู้ว่าราคาทำไมถึงแพงหลังมีการปรับราคาจากเดิม กิโลกรัมละ 50 บาทปรับขึ้นเป็น 80-88 บาท เลยทีเดียว
จากการลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่ขายพริกมาราคาพริกไม่เคยแพงและแพงยาวนานขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ มะพร้าวแกง (มะพร้าวแก่) และพริก เกือบทุกชนิดปรับราคาขึ้นหมด ซึ่งขณะนี้เป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว ราคาพริกและมะเขือ มะพร้าว ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
แม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า จากการที่สวนปลูกพริกในพื้นที่ภาคใต้ถูกน้ำท่วม ทำให้ไม่มีพริกที่จะส่งมาจำหน่ายในพื้นที่ จึงทำให้พริกประเภทต่าง ๆ มีราคาแพงขึ้น ประกอบกับพริกจากต่างประเทศไม่สามารถส่งเข้ามาขายได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้ตลาดแทบทุกที่พริกขาดตลาด
“ตั้งแต่ขายมากว่า 20 ปีในปีนี้พริกมีราคาแพงมาก และแพงมายาวนานที่สุดเท่าที่เคยขายพริกมา เดิมปกติราคาพริกแดงจินดาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 80 บาท วันนี้ขยับราคาขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท พริกขี้หนูสวนปกติราคา 120 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 250 บาท พริกชี้ฟ้าแดงกิโลกรัมละ 70 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 170 บาท” แม่ค้า กล่าว
แม่ค้า กล่าวต่อว่า ราคาพริกที่แพงขึ้นแบบนี้ แพงขึ้นมานานกว่า 1เดือนเศษแล้วยังไม่มีทีท่าว่าราคาจะลดลง ถ้าเอาไปชั่งกิโลขายลองนับเม็ดดูตกเกือบเม็ดละ 1 บาท ทำให้ลูกค้าประจำโดยเฉพาะ แม่ค้าส้มตำ ที่เคยมาสั่งพริกนำไปประกอบอาหารขายก็บ่นว่าช่วงนี้พริกแพงแต่ก็จำเป็นต้องซื้อ โดยเฉพาะแม่ค้าส้มตำ เพราะไม่สามารถหาสิ่งที่จะมาแทนความเผ็ดของพริกได้
แม่ค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาพริกที่แพงสาเหตุอาจจะเป็นเพราะคนปลูกอาจจะน้อยลง แต่ความต้องการของผู้บริโภคเท่าเดิม ส่งผลกระทบต่อแม่ค้าที่ซื้อมาขายอย่างมาก เพราะคนส่งมาแพงเราก็ต้องขายแพง คนซื้อก็ต้องซื้อแพงตามไปด้วย ตั้งแต่ขายพริกมากว่า 20 ปี ยังไม่เคยเห็นราคาพริกแพงขนาดนี้ ลูกค้าประจำที่มาซื้อก็รับได้แต่ก็ปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อจากซื้อ 1 กิโลกรัมครึ่ง ก็ลดลงมาเหลือ 1 กิโลกรัม ซึ่งโดยส่วนตัวคาดว่าราคาจะลดลง หากสามารถนำเข้าพริกมาจากต่างประเทศได้ตามปกติ
ด้าน พ่อค้าขายมะพร้าวแกง กล่าวว่า ขายมะพร้าวมาหลายปีไม่เคยเห็นมะพร้าวปรับราคามาถึงขนาดนี้จากราคาลูกละ 10 บาท ปรับขึ้นลูกละ 17-20 บาทแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มะพร้าวจะรับมาจากแถวจ.ยะลา แต่ก็ไม่เคยปรับขึ้นมาขนาดนี้ วอนหน่วยงานที่เกี่นวข้องเร่งแก้ปัญหาสินค้าด้วยหลังจากมีการเปิดเมืองแทนที่จะได้ลืมตาอ้าปากได้กลับต้องมาแบกภาระกับสินค้าหลายประเภทที่ปรับราคาขึ้นสวนกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน
สวดภาษีหุ้นซ้ำเติมรายย่อย หลายรายหารายได้เพิ่มช่วงโควิด
https://www.matichon.co.th/economy/news_3093721
สวดภาษีหุ้นซ้ำเติมรายย่อย หลายรายหารายได้เพิ่มช่วงโควิด
แหล่งข่าวจากนักลงทุนรายย่อย กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลังกำลังมีแผนเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขาย อัตรา 0.1% ว่า เท่าที่ทราบรัฐบาลมีความพยายามจะเก็บภาษีหุ้นมานานหลายปีแล้ว แต่ไม่สำเร็จ และล้มเลิกไปก่อนนี้ อดสงสัยไม่ได้ว่าการที่รัฐบาลปัดฝุ่นแนวคิดเดิมในช่วงเวลาที่รัฐบาลต้องกู้เงินขนานใหญ่เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และโควิดยังไม่จบ ยังกลายพันธุ์อยู่ รัฐบาลอาจจำเป็นต้องตุนเงินเพิ่ม ขณะเดียวกันก็โดนกระแสข่าวว่ากำลังถังแตก จึงคาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการเก็บภาษีหุ้นเพื่อพยุงสถานะการเงินของรัฐหรือไม่
แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นจะเก็บภาษีหุ้นที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทนั้น รัฐบาลระบุว่าจะไม่เดือดร้อนนักลงทุนรายย่อยนั้น ในฐานะเป็นนักลงทุนรายย่อยเหมือนกัน ไม่คิดเช่นนั้น เพราะหากเป็นการคิดภาษีจากมูลค่าฐานการลงทุนรวมกับส่วนต่างกำไรราคาหุ้น ไม่ใช่การคิดภาษีเฉพาะกำไรจากการขายหุ้นอย่างเดียว เท่ากับว่ามีการคิดภาษีส่วนต้นทุนหุ้นด้วย หากนักลงทุนซื้อหุ้นที่มีต้นทุนแพงมาก อาทิ ต้นทุนต่อหุ้นหลัก 100 บาท แต่มีส่วนต่างกำไรต่อหุ้นเพียงหลักสิบบาท ก็จะกำไรส่วนต่างราคาหุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่โดนหักภาษีอีก แทนที่ผู้ลงทุนจะได้กำไรการลงทุนหุ้น อาจจะขาดทุนจากที่โดนหักภาษีได้ จึงอยากให้รัฐบาลออกเกณฑ์ที่รอบคอบชัดเจนก่อนจะแจ้งให้ประชาชนรับทราบ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความตื่นตระหนกได้
“การที่รัฐบาลมีแนวคิดช่วงที่ประชาชนกำลังลำบากจากโควิด-19 หลายคนกำลังมองหาการลงทุนที่ทำให้เงินงอกเงย เพราะการทำธุรกิจส่วนตัวหรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือนต่างรู้สึกไม่มั่นคงทางการเงินทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าหลังเกิดโควิด เกิดนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงอายุหลากหลาย ตั้งแต่เด็กนักเรียน วัยเริ่มทำงาน วัยกำลังทำงาน และวัยใกล้เกษียณ เปิดบัญชีเล่นหุ้นเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ดังนั้นการที่รัฐบาลมีแนวคิดดังกล่าวอาจเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่พยายามหาทางช่วยตัวเองด้านการเงิน เพื่อไม่เป็นหนี้นอกระบบอยู่หรือไม่” แหล่งข่าวกล่าว
‘ก้าวไกล’ ชูนโยบาย Greater Bangkok ชิงผู้ว่าฯกทม.ยันไม่หลีกทาง ‘ชัชชาติ’
https://www.dailynews.co.th/news/584244/
'ก้าวไกล' ชัดเจนไม่หลีกทาง 'ชัชชาติ' อุบไต๋ส่ง 'พี่สาวธนาธร-ศิริกัญญา' ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ยันเตรีมงานล่วงหน้าครึ่งปี ชูนโยบาย Greater Bangkok
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)ในนามพรรคก้าวไกล ว่าเตรียมเปิดตัวช่วงครึ่งเเรกของเดือนม.ค.ปี2565 คือหลังปีใหม่ ทั้งนี้พรรคก้าวไกลทำงานมา6-7 เดือนแล้ว ทั้งการฟอร์มทีมและด้านนโยบาย ซึ่งพรรคก้าวไกลมีส.ส.กทม.หลายคนถ้าเราไม่เสนอตัวคงเป็นไปไม่ได้การเลือกตั้งสมัยนี้ ไม่ใช่เเค่หยั่งกระเเสไม่ใช่แค่เกมการเมืองการวัดคะแนนเสียง แต่ต้องหาตัวคนดีที่สุด นโยบายดีที่สุด ให้ประชาชนตัดสินคนที่เราคิดว่าจะส่งลงสนาม มีความสด ชัดเจน ทำงานร่วมกับพรรค อาทิ เรื่องนิติบัญญัติ งานกทม. อย่างไร้รอยต่อ
เมื่อถามว่า ใช่น.ส.
ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาว นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หรือ น.ส.
ศิริกัญญา ตันสกุลส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลหรือไม่ นาย
พิธา หัวเราะ พร้อมกับตอบว่า
“เดี๋ยวรอฟังพร้อมกันหลังปีใหม่ 2565”
เมื่อถามย้ำว่าผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคก้าวไกล คือเป็นผู้หญิงแน่ๆ นาย
พิธา ตอบว่า
“ไม่มีอะไรตายตัว คงไม่ได้ตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จะมีการเเข่งกันอีกหลายเรื่อง เช่น การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพร จ.สงขลา ตอนนี้เราได้ตัวผู้สมัครแล้วเตรียมลงไปหาเสียง เป็นคนพื้นที่จริงๆ เป็นคนที่ดูแลเรื่องปัญหาที่ดิน มั่นใจว่าแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนได้”
JJNY : 4in1 ราคาพริก พุ่งปรี๊ด!│สวดภาษีหุ้นซ้ำเติมรายย่อย│‘ก้าวไกล’ ชูนโยบาย Greater Bangkok│ญี่ปุ่นยืดเวลาปิดประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6788953
พ่อค้าแม่ค้า เผย ราคาพริก ในอ.เบตง จ.ยะลา พุ่งสูงกิโลกรัมละกว่า 200 บาท แพงสุดในรอบ 20 ปี ระบุ มะเขือเทศ-มะพร้าวก็ปรับราคาขึ้นด้วย
วันที่ 18 ธ.ค.2564 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจ ราคาพริก ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา หลังพบว่าราคาจำหน่ายพริกทุกประเภทในช่วงนี้มีการปรับราคาขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีมะพร้าวแก่จากราคาเดิมลูกละ 10 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 17-20 บาท ขณะเดียวกันมะเขือเทศ แม่ค้าอยากรู้ว่าราคาทำไมถึงแพงหลังมีการปรับราคาจากเดิม กิโลกรัมละ 50 บาทปรับขึ้นเป็น 80-88 บาท เลยทีเดียว
จากการลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้า ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ตั้งแต่ขายพริกมาราคาพริกไม่เคยแพงและแพงยาวนานขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศ มะพร้าวแกง (มะพร้าวแก่) และพริก เกือบทุกชนิดปรับราคาขึ้นหมด ซึ่งขณะนี้เป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว ราคาพริกและมะเขือ มะพร้าว ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง
แม่ค้าขายผักในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า จากการที่สวนปลูกพริกในพื้นที่ภาคใต้ถูกน้ำท่วม ทำให้ไม่มีพริกที่จะส่งมาจำหน่ายในพื้นที่ จึงทำให้พริกประเภทต่าง ๆ มีราคาแพงขึ้น ประกอบกับพริกจากต่างประเทศไม่สามารถส่งเข้ามาขายได้เนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้ตลาดแทบทุกที่พริกขาดตลาด
“ตั้งแต่ขายมากว่า 20 ปีในปีนี้พริกมีราคาแพงมาก และแพงมายาวนานที่สุดเท่าที่เคยขายพริกมา เดิมปกติราคาพริกแดงจินดาอยู่ที่ กิโลกรัมละ 80 บาท วันนี้ขยับราคาขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 200 บาท พริกขี้หนูสวนปกติราคา 120 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 250 บาท พริกชี้ฟ้าแดงกิโลกรัมละ 70 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 170 บาท” แม่ค้า กล่าว
แม่ค้า กล่าวต่อว่า ราคาพริกที่แพงขึ้นแบบนี้ แพงขึ้นมานานกว่า 1เดือนเศษแล้วยังไม่มีทีท่าว่าราคาจะลดลง ถ้าเอาไปชั่งกิโลขายลองนับเม็ดดูตกเกือบเม็ดละ 1 บาท ทำให้ลูกค้าประจำโดยเฉพาะ แม่ค้าส้มตำ ที่เคยมาสั่งพริกนำไปประกอบอาหารขายก็บ่นว่าช่วงนี้พริกแพงแต่ก็จำเป็นต้องซื้อ โดยเฉพาะแม่ค้าส้มตำ เพราะไม่สามารถหาสิ่งที่จะมาแทนความเผ็ดของพริกได้
แม่ค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ราคาพริกที่แพงสาเหตุอาจจะเป็นเพราะคนปลูกอาจจะน้อยลง แต่ความต้องการของผู้บริโภคเท่าเดิม ส่งผลกระทบต่อแม่ค้าที่ซื้อมาขายอย่างมาก เพราะคนส่งมาแพงเราก็ต้องขายแพง คนซื้อก็ต้องซื้อแพงตามไปด้วย ตั้งแต่ขายพริกมากว่า 20 ปี ยังไม่เคยเห็นราคาพริกแพงขนาดนี้ ลูกค้าประจำที่มาซื้อก็รับได้แต่ก็ปรับเปลี่ยนวิธีการซื้อจากซื้อ 1 กิโลกรัมครึ่ง ก็ลดลงมาเหลือ 1 กิโลกรัม ซึ่งโดยส่วนตัวคาดว่าราคาจะลดลง หากสามารถนำเข้าพริกมาจากต่างประเทศได้ตามปกติ
ด้าน พ่อค้าขายมะพร้าวแกง กล่าวว่า ขายมะพร้าวมาหลายปีไม่เคยเห็นมะพร้าวปรับราคามาถึงขนาดนี้จากราคาลูกละ 10 บาท ปรับขึ้นลูกละ 17-20 บาทแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่มะพร้าวจะรับมาจากแถวจ.ยะลา แต่ก็ไม่เคยปรับขึ้นมาขนาดนี้ วอนหน่วยงานที่เกี่นวข้องเร่งแก้ปัญหาสินค้าด้วยหลังจากมีการเปิดเมืองแทนที่จะได้ลืมตาอ้าปากได้กลับต้องมาแบกภาระกับสินค้าหลายประเภทที่ปรับราคาขึ้นสวนกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน
สวดภาษีหุ้นซ้ำเติมรายย่อย หลายรายหารายได้เพิ่มช่วงโควิด
https://www.matichon.co.th/economy/news_3093721
สวดภาษีหุ้นซ้ำเติมรายย่อย หลายรายหารายได้เพิ่มช่วงโควิด
แหล่งข่าวจากนักลงทุนรายย่อย กล่าวถึงกรณีกระทรวงการคลังกำลังมีแผนเรียกเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขาย อัตรา 0.1% ว่า เท่าที่ทราบรัฐบาลมีความพยายามจะเก็บภาษีหุ้นมานานหลายปีแล้ว แต่ไม่สำเร็จ และล้มเลิกไปก่อนนี้ อดสงสัยไม่ได้ว่าการที่รัฐบาลปัดฝุ่นแนวคิดเดิมในช่วงเวลาที่รัฐบาลต้องกู้เงินขนานใหญ่เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และโควิดยังไม่จบ ยังกลายพันธุ์อยู่ รัฐบาลอาจจำเป็นต้องตุนเงินเพิ่ม ขณะเดียวกันก็โดนกระแสข่าวว่ากำลังถังแตก จึงคาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับการเก็บภาษีหุ้นเพื่อพยุงสถานะการเงินของรัฐหรือไม่
แหล่งข่าวกล่าวว่า ประเด็นจะเก็บภาษีหุ้นที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านบาทนั้น รัฐบาลระบุว่าจะไม่เดือดร้อนนักลงทุนรายย่อยนั้น ในฐานะเป็นนักลงทุนรายย่อยเหมือนกัน ไม่คิดเช่นนั้น เพราะหากเป็นการคิดภาษีจากมูลค่าฐานการลงทุนรวมกับส่วนต่างกำไรราคาหุ้น ไม่ใช่การคิดภาษีเฉพาะกำไรจากการขายหุ้นอย่างเดียว เท่ากับว่ามีการคิดภาษีส่วนต้นทุนหุ้นด้วย หากนักลงทุนซื้อหุ้นที่มีต้นทุนแพงมาก อาทิ ต้นทุนต่อหุ้นหลัก 100 บาท แต่มีส่วนต่างกำไรต่อหุ้นเพียงหลักสิบบาท ก็จะกำไรส่วนต่างราคาหุ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่โดนหักภาษีอีก แทนที่ผู้ลงทุนจะได้กำไรการลงทุนหุ้น อาจจะขาดทุนจากที่โดนหักภาษีได้ จึงอยากให้รัฐบาลออกเกณฑ์ที่รอบคอบชัดเจนก่อนจะแจ้งให้ประชาชนรับทราบ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความตื่นตระหนกได้
“การที่รัฐบาลมีแนวคิดช่วงที่ประชาชนกำลังลำบากจากโควิด-19 หลายคนกำลังมองหาการลงทุนที่ทำให้เงินงอกเงย เพราะการทำธุรกิจส่วนตัวหรือแม้แต่มนุษย์เงินเดือนต่างรู้สึกไม่มั่นคงทางการเงินทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่าหลังเกิดโควิด เกิดนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงอายุหลากหลาย ตั้งแต่เด็กนักเรียน วัยเริ่มทำงาน วัยกำลังทำงาน และวัยใกล้เกษียณ เปิดบัญชีเล่นหุ้นเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ดังนั้นการที่รัฐบาลมีแนวคิดดังกล่าวอาจเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่พยายามหาทางช่วยตัวเองด้านการเงิน เพื่อไม่เป็นหนี้นอกระบบอยู่หรือไม่” แหล่งข่าวกล่าว
‘ก้าวไกล’ ชูนโยบาย Greater Bangkok ชิงผู้ว่าฯกทม.ยันไม่หลีกทาง ‘ชัชชาติ’
https://www.dailynews.co.th/news/584244/
'ก้าวไกล' ชัดเจนไม่หลีกทาง 'ชัชชาติ' อุบไต๋ส่ง 'พี่สาวธนาธร-ศิริกัญญา' ชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. ยันเตรีมงานล่วงหน้าครึ่งปี ชูนโยบาย Greater Bangkok
เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)ในนามพรรคก้าวไกล ว่าเตรียมเปิดตัวช่วงครึ่งเเรกของเดือนม.ค.ปี2565 คือหลังปีใหม่ ทั้งนี้พรรคก้าวไกลทำงานมา6-7 เดือนแล้ว ทั้งการฟอร์มทีมและด้านนโยบาย ซึ่งพรรคก้าวไกลมีส.ส.กทม.หลายคนถ้าเราไม่เสนอตัวคงเป็นไปไม่ได้การเลือกตั้งสมัยนี้ ไม่ใช่เเค่หยั่งกระเเสไม่ใช่แค่เกมการเมืองการวัดคะแนนเสียง แต่ต้องหาตัวคนดีที่สุด นโยบายดีที่สุด ให้ประชาชนตัดสินคนที่เราคิดว่าจะส่งลงสนาม มีความสด ชัดเจน ทำงานร่วมกับพรรค อาทิ เรื่องนิติบัญญัติ งานกทม. อย่างไร้รอยต่อ
เมื่อถามว่า ใช่น.ส.ชนาพรรณ จึงรุ่งเรืองกิจ พี่สาว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หรือ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุลส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลหรือไม่ นายพิธา หัวเราะ พร้อมกับตอบว่า “เดี๋ยวรอฟังพร้อมกันหลังปีใหม่ 2565”
เมื่อถามย้ำว่าผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคก้าวไกล คือเป็นผู้หญิงแน่ๆ นายพิธา ตอบว่า “ไม่มีอะไรตายตัว คงไม่ได้ตอบว่า ใช่หรือไม่ใช่ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้จะมีการเเข่งกันอีกหลายเรื่อง เช่น การเลือกตั้งซ่อมที่ จ.ชุมพร จ.สงขลา ตอนนี้เราได้ตัวผู้สมัครแล้วเตรียมลงไปหาเสียง เป็นคนพื้นที่จริงๆ เป็นคนที่ดูแลเรื่องปัญหาที่ดิน มั่นใจว่าแก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนได้”