พ่อแม่ อยากให้ซื้อบ้านราคา เกือบ 4 ล้านบาทให้

ที่บ้านเป็น อาคารพานิชย์ 2 คูหา ใช้เป็นที่เปิดกิจการ 
มีเครื่องจักรต่างๆจำนวนมาก 
เกิดปัญหาว่าหลังที่อาศัยอยู่ปัจจุบัน เป็นบ้านเช่าที่ไม่ได้ทำการซื้อ 
เนื่องจาก ตอนจะซื้อเจ้าของบ้านยังไม่อยากขาย เพราะที่ดินกำลังมีมูลค่า (อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ)
ส่วนบ้านอีกหลัง 1 คูหาอยู่อีกซอย ซื้อแต่ปล่อยเช่าต่อ 
แล้วปัญหาคือ 
ช่วงโควิทที่ผ่านมา งานน้อยลง มีงานแต่ไม่พอสำหรับค่าใช้จ่ายค่ะ 
แล้วจ่ายค่าเช่าบ้านช้า 
ทางเจ้าของบ้านก็เลยมีจดหมายมาแจ้งเตือนว่าให้ทำการย้ายออก (เลิกเช่า)
ถ้าจะย้ายไปอยู่บ้านหลัง 1 คูหา ก็วางเครื่องจักรไม่พอ ต้องมีการย้ายที่อยู่ของร้านด้วย 
พ่อกับแม่ก็เลยโทรมาคุย ให้เดินเรื่องซื้อบ้าน (เป็นคนเดียวที่เครดิตยังไม่เสีย พี่สาว กับพ่อแม่ เครดิตเสีย ไม่สามารถดำเนินการธุรกรรมการเงินได้)
แต่เราแจ้งพ่อกับแม่ไปว่า เราไม่มีเงินในบัญชีเลย แถมมีหนี้บัตรเครดิต และหนี้กยศ. อีก 2 แสนกว่าบาท
บ้านราคา 4 ล้าน จะเดินเรื่องให้ผ่านได้ยังไง 
แม่เลยบอกงั้นให้ทางแฟนช่วยซื้อ (แฟนทำงานฟรีแลนซ์ รายได้ไม่คงที่ เป็นแค่แฟนค่ะยังไม่ได้ทำการแต่งงาน)
หรือหาคนมาซื้อก็ได้ ให้ไปหาคุย หาทางดูว่าจะมีใครช่วยซื้อได้มั้ย 

ในอนาคตเรามีแผนจะซื้อบ้านกับแฟนค่ะ ถ้าแต่งงานไป 

คำถามคือ ถ้าเราเดินเรื่องซื้อบ้านให้แม่ผ่าน หนี้เป็นชื่อเรา เราต้องแบกภาระเรื่องบ้านแน่ๆ ถ้าสภาพการเงินที่บ้านยังไม่ดีแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ 

แล้วถ้าในอนาคต เราจะเดินเรื่องซื้อบ้านเอง จะมีโอกาสเดินเรื่องผ่านมั้ยคะ หรือเราต้องทำยังไงเรื่องนี้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เอาตรงๆ

ค่าเช่ายังจ่ายช้า

คิดว่าจะมีเงินผ่อนไหวเหรอครับ

ก็ขอเค้าเช่าต่อ หรือไม่ก็หาเช่าแถวๆที่เดิมนั่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 5
แนวคิดของบ้านคุณแปลกๆ นะ
ปกติคนทำธุรกิจ ถ้ามีปัญหาเรื่องหนี้สิน เขาจะหาทางให้คนในครอบครัวเดือดร้อนน้อยที่สุด เลือกเจ็บหรือเสียประวัติแค่บางคน
แต่บ้านคุณพร้อมลากทุกคนลงเหวด้วยกันหมด
ความคิดเห็นที่ 17
เอาจากที่ผมเจอคงคล้ายๆ กัน แต่ผมปฎิเสธแม่ไป แม่เอาทาวน์เฮ้าส์ชื่อตัวเองไปให้น้องค้ำประกันบริษัทของน้องชาย โดยปิดบังกันทั้งแม่ทั้งน้องชาย ไม่มีคนบอกผมสักคน สุดท้ายมาทราบบทีหลังว่าธุรกิจไปไม่ไหวปิดกิจการและาวน์เฮาส์แม่กำลังจะโดนยึด ทั้งที่ผมและญาติเคยบอกแม่แล้วว่าอย่าเอาบ้านไปทำอะไรเพราะเป็นสมบัติชิ้นเดียวและชิ้นสุดท้ายของแม่  ส่วนบ้านที่น้องชายกู้เองก็กำลังจะโดนธนาคารยึดเพราะไม่ได้ผ่อนเค้าหลายงวด

วันดีคืนดีแม่มาบอกว่าให้ผมไปเอาทาวน์เฮาส์ หรือเปลี่ยนสัญญาบ้านของน้องชายที่กำลังจะโดนยึดเลือกมา 1 หลังแล้วให้ผมเป็นหนี้ ผ่อนต่อโดยให้โอนชื่อในโฉนดเป็นชื่อผม ผมบอกว่าไม่เอา เพราะผมเคยเตือนเรื่องทาน์เฮาส์ของแม่แล้ว ไม่เคยฟังกัน ถ้าไม่ที่อยู่จริงๆก็ไปเช่าอยู่แทน

ทุกวันนี้ผมไม่เคยมีเครดิตเสีย บ้านผมอยู่บ้านของภรรยา รถก็ซื้อเงินสด ผมคิดเสมอว่าชีวิตคนเราไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้น ต้องให้เป็นหนี้น้อยที่สุดไม่อยากให้คนที่อยู่ข้างหลังต้องมาเป็นภาระ บัตรเครดิตผมจ่ายเต็มทุกเดือน แต่แม่กับให้ผมมาแบกภาระเพื่อช่วยน้องชาย ๆ ผมมีทั้งคดีแพ่ง อาญา หนี้ทั้งในะระบบ นอกระบบ เครดิตบูโรไม่เหลือ ติดไปนานล่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่