จากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ดังรายละเอียดด้านล่าง
คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
(1) มีวงเงินสินเชื่อรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกินที่กำหนด โดยพิจารณาแยกวงเงินตามประเภทสินเชื่อต่อสถาบันการเงิน ดังนี้
o สินเชื่อบ้าน / บ้านแลกเงิน วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
o สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงินไม่เกิน 8 แสนบาท
o สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท
o สินเชื่อธุรกิจ SMEs วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
o กรณีสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต หากมีหนี้บ้านหรือรถที่เข้าเงื่อนไขข้างต้น สามารถพิจารณาเข้ามาตรการรวมหนี้ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่สถาบันการเงินรับได้ โดยวงเงินเมื่อรวมแล้วไม่เกินเงื่อนไขที่กำหนด
(2) เป็นสินเชื่อที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567
(3) มีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
(3.1) เป็นหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน
(3.2) เคยปรับโครงสร้างหนี้ (ปรับหนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 จากการค้างชำระเกิน 30 วัน)
แต่ปัจจุบัน ต้องไม่ค้างชำระหรือค้างไม่เกิน 30 วัน
กรณีของผมเป็นหนี้ สินเชื่อบ้าน 4.2 ล้านบาท
(ชำระงวดละ 25,000 บาท ครบชำระทุกวันที่ 5 ของเดือน)
-ค้างชำระ ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 เป็นจำนวน 50,000 กำลังจะเข้างวด 3 (ค้างบิล 5 ก.ย. 67 และ 5 ต.ค. 67 กำลังจะเข้าเดือน พ.ย. 67 บิลแจ้งยอดชำระปลายเดือน ต.ค. 67 รวม 75,000 บาท )
-ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 ช่วงเย็น ผมได้ชำระไป 1 งวด 25,000 บาท
-ต้นเดือน ม.ค. 68 มีเจ้าหน้าที่ ธนาคารเกียรตินาคิน โทรมาชวนให้ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร เลยแจ้งไปว่าผมได้ลงทะเบียนคุณสู้เราช่วยไว้แล้ว เจ้าหน้าที่เลยแจ้งทันทีเลยว่า ของผมไม่เข้าเงื่อนไข งงเลย
-สอบถามเหตุผล เขาบอกว่า ผมค้างชำระไม่เกิน 30 วัน เพราะ วันที่ 31 ต.ค. 67 ผมได้ชำระ 1 งวด ทำให้จากที่เคยค้างชำระ 55 วัน (บิลเดือน กย + ตค) เหลือค้างแค่ 25 วัน (บิลเดือน ตค) จึงไม่เข้าเงื่อนไข
-โทรสอบถามไปที่ ธปท เจ้าหน้าที่บอกว่าของผมเข้าเงื่อนไข และเจอเคสที่ธนาคารปฏิเสธลูกหนี้แบบนี้เยอะ หากลูกหนี้เข้าเงี่อนไข ธนาคารไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ครับ
อยากสอบถามว่าควรไปต่อยังไงดีครับ
คุณสู้เราช่วย ธนาคารไม่ช่วย
คุณสมบัติลูกหนี้ที่สามารถเข้าร่วมมาตรการได้
(1) มีวงเงินสินเชื่อรวมต่อสถาบันการเงินไม่เกินที่กำหนด โดยพิจารณาแยกวงเงินตามประเภทสินเชื่อต่อสถาบันการเงิน ดังนี้
o สินเชื่อบ้าน / บ้านแลกเงิน วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
o สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถยนต์ วงเงินไม่เกิน 8 แสนบาท
o สินเชื่อเช่าซื้อ / จำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาท
o สินเชื่อธุรกิจ SMEs วงเงินไม่เกิน 5 ล้านบาท
o กรณีสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต หากมีหนี้บ้านหรือรถที่เข้าเงื่อนไขข้างต้น สามารถพิจารณาเข้ามาตรการรวมหนี้ได้ ภายใต้ระดับความเสี่ยงที่สถาบันการเงินรับได้ โดยวงเงินเมื่อรวมแล้วไม่เกินเงื่อนไขที่กำหนด
(2) เป็นสินเชื่อที่ทำสัญญาก่อนวันที่ 1 มกราคม 2567
(3) มีสถานะหนี้ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2567 อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
(3.1) เป็นหนี้ที่ค้างชำระเกินกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 365 วัน
(3.2) เคยปรับโครงสร้างหนี้ (ปรับหนี้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 65 จากการค้างชำระเกิน 30 วัน)
แต่ปัจจุบัน ต้องไม่ค้างชำระหรือค้างไม่เกิน 30 วัน
กรณีของผมเป็นหนี้ สินเชื่อบ้าน 4.2 ล้านบาท
(ชำระงวดละ 25,000 บาท ครบชำระทุกวันที่ 5 ของเดือน)
-ค้างชำระ ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 เป็นจำนวน 50,000 กำลังจะเข้างวด 3 (ค้างบิล 5 ก.ย. 67 และ 5 ต.ค. 67 กำลังจะเข้าเดือน พ.ย. 67 บิลแจ้งยอดชำระปลายเดือน ต.ค. 67 รวม 75,000 บาท )
-ณ วันที่ 31 ต.ค. 67 ช่วงเย็น ผมได้ชำระไป 1 งวด 25,000 บาท
-ต้นเดือน ม.ค. 68 มีเจ้าหน้าที่ ธนาคารเกียรตินาคิน โทรมาชวนให้ปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคาร เลยแจ้งไปว่าผมได้ลงทะเบียนคุณสู้เราช่วยไว้แล้ว เจ้าหน้าที่เลยแจ้งทันทีเลยว่า ของผมไม่เข้าเงื่อนไข งงเลย
-สอบถามเหตุผล เขาบอกว่า ผมค้างชำระไม่เกิน 30 วัน เพราะ วันที่ 31 ต.ค. 67 ผมได้ชำระ 1 งวด ทำให้จากที่เคยค้างชำระ 55 วัน (บิลเดือน กย + ตค) เหลือค้างแค่ 25 วัน (บิลเดือน ตค) จึงไม่เข้าเงื่อนไข
-โทรสอบถามไปที่ ธปท เจ้าหน้าที่บอกว่าของผมเข้าเงื่อนไข และเจอเคสที่ธนาคารปฏิเสธลูกหนี้แบบนี้เยอะ หากลูกหนี้เข้าเงี่อนไข ธนาคารไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ครับ
อยากสอบถามว่าควรไปต่อยังไงดีครับ