สงครามโลกที่ถูกวางแผนไว้ (กอปมา)
กล่าวกันว่าอัลเบิร์ต ไพค์ (Albert Pike) คือบุคคลผู้สนับสนุนแผนการใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ไพค์เป็นนักกฎหมายและผู้นำฟรีเมสันกลุ่มที่เรียกว่า “Scottish Rite Masonry” ฝั่งสหรัฐ บางทีไพค์เป็นที่รู้จักในนามของ “สังฆราชาแห่งฟรีเมสันสากล” (Sovereign Pontiff of Universal Freemasonry) หรือ “ศาสดาพยากรณ์แห่งฟรีเมสัน” (Prophet of Freemasonry) หรือ “มหาบุรุษฟรีเมสันแห่งศตวรรษที่ ๑๙” (the greatest Freemason of the nineteenth century) แปลว่าไพค์มีตำแหน่งระดับสูงและทรงอิทธิพลมาก
ไพค์เกิดวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๑๘๐๙ ในเมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ เรียนจบมหาวิทยาลัยฮาร์วาด เป็นคนฉลาด สามารถอ่านเขียนได้ถึง ๑๖ ภาษา แต่ระหว่างเหตุการณ์สงครามกลางเมืองสหรัฐ ไพค์ทำงานในกองทัพของฝ่ายใต้ ได้รับมอบหมายให้ดูแลพวกอินเดียแดงในเขตทางใต้เพื่อโน้มน้าวให้ชนพวกนี้ร่วมกับกองทัพ เขาได้กลายเป็นผู้ว่าการเขตของเผ่าอินเดียแดงและประสบความสำเร็จในการสร้างกองทัพอินเดียแดง เผ่าพวกนี้ศรัทธาในตัวไพค์มาก ถึงกับยกให้เป็น “ผู้ปกป้องและมิตรชาวผิวขาวผู้ซื่อสัตย์” สะท้อนภาวะการนำของไพค์ได้ดี อย่างไรก็ตาม กองทัพอินเดียแดงของไพค์มีความโหดเหี้ยมในสงคราม นายเจฟเฟอร์สัน เดฟวิส (Jefferson Davis) ประธานาธิบดีของฝ่ายใต้จึงออกคำสั่งยุบกองทัพอินเดียแดงในภายหลัง เมื่อสงครามกลางเมืองผ่านพ้น ไพค์ถูกจองจำเพราะความผิดฐานทรยศต่อชาติ แต่ได้รับการอภัยโทษในวันที่ ๒๒ เมษายน ๑๘๖๖ โดยประธานาธิบดีแอนดรู จอห์นสัน (Andrew Johnson) สามปีต่อมา ไพค์กลายเป็นผู้นำระดับบนของอัศวินคูคลักซ์แคลน
ไพค์เป็นคนคลั่งแนวคิดโลกเดียว ปี ๑๘๕๙ ไพค์ได้รับเลือกให้ประสานกิจกรรมอิลลูมินาติในสหรัฐ ด้วยอิทธิพลในองค์กร ไพค์เสนอว่าองค์กรควรจะสร้างพรรคการเมืองทำหน้าที่ดำเนินภาวะสงครามบนโลกใบนี้จนกว่าสันติภาพที่แท้จริงจะเป็นไปได้ สำหรับไพค์ การนี้สำเร็จได้ด้วยชิวหาและปากกา อิทธิพลลับ เงิน รวมทั้งอาวุธถ้าจำเป็น สิ่งนี้สอดรับกับอุดมการณ์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งอิลลูมินาติไม่ผิดเพี้ยน ในจดหมายฉบับหนึ่งเขียนโดยไพค์ ส่งถึงจูเซปเป้ มาซซินี (Giuseppe Mazzini) ผู้นำอิลลูมินาติต่อจากไวซ์ฮอพท์ ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๑๘๗๑ สะท้อนแนวคิดหัวรุนแรงของเขา สรุปความได้ว่าเขาปรารถนาจะสนับสนุนกลุ่มคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่ศรัทธาในอะไรเลยให้มีอำนาจสั่นคลอนความสงบบนผืนโลกเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มผู้ศรัทธาออกมาสู้รบ เขาอยากให้การสู้รบดำเนินไปจนถึงระดับทำลายล้างกันและกันของทั้งสองฝ่ายจนกระทั่งฝ่ายนับถือพระเจ้าเองยังต้องหันมาตั้งคำถามเรื่องความเชื่อของตัวเองและเปลี่ยนใจมาละพระศาสนาในที่สุด
ไพค์เขียนจดหมายอีกฉบับซึ่งถูกค้นพบในปี ๑๙๔๙ อธิบายแผนสำหรับสงครามโลกสามครั้งและสงครามปฏิวัติอย่างน้อยสองครั้ง สงครามโลกครั้งแรกเพื่อเปิดโอกาสให้พวกคอมมิวนิสต์โค่นระบบซาร์ในรัสเซีย สงครามโลกครั้งที่สองมุ่งทำลายนาซีและผลักดันลัทธิไซออนให้ก้าวหน้ากว่าเดิม เพื่อให้เป็นแรงขับสำหรับสร้างประเทศอิสราเอล หลังจากนั้น ต้องทำให้พรรคการเมืองสายคอมมิวนิสต์เข้มแข็งขึ้นขนาดคุมรัฐบาลอื่นที่อ่อนแอกว่าได้ ส่วนสงครามโลกครั้งที่สามในจดหมายของไพค์ตั้งใจจะให้ชนยิวกับอาหรับรบรากันเอง ให้เป็นความขัดแย้งที่ดูชุลมุนที่สุดทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม แล้วจึงตั้งรัฐบาลโลกคุมโดยอิลลูมินาติ กล่าวได้ว่าแต่ละสงครามเชื่อมโยงกัน ทั้งยังเป็นเหตุไปสู่อีกสงครามหนึ่ง
แม้กระนั้น จดหมายฉบับที่สองน่าจะเป็นของปลอม เพราะลักษณะเหตุการณ์ที่ไพค์ระบุละเอียดเกินไปและตรงกับข้อเท็จจริงเกินไป ที่สำคัญ เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดหลังจากยุคของไพค์นานมากเกินไป เป็นไปได้ที่ใครสักคนเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาภายหลังแล้วโยงกับกิจกรรมของไพค์ อย่างที่เกริ่นในเบื้องต้น การสับขอหลอกหรือเติมแต่งข้อมูลให้ดูไม่สมเหตุสมผลอาจมาจากความตั้งใจของใครสักคนที่ปรารถนาจะทำให้ผู้คนไขว้เขว ยิ่งถ้ามีข้อมูลปลอมหลุดออกมามาก ความสนใจที่จะศึกษาเรื่องการจัดการระบบโลกก็จะลดน้อยถอยลงไปมาก
อัลเบิร์ต ไพค์ และสงครามโลก
กล่าวกันว่าอัลเบิร์ต ไพค์ (Albert Pike) คือบุคคลผู้สนับสนุนแผนการใหญ่ในช่วงเวลาดังกล่าว ไพค์เป็นนักกฎหมายและผู้นำฟรีเมสันกลุ่มที่เรียกว่า “Scottish Rite Masonry” ฝั่งสหรัฐ บางทีไพค์เป็นที่รู้จักในนามของ “สังฆราชาแห่งฟรีเมสันสากล” (Sovereign Pontiff of Universal Freemasonry) หรือ “ศาสดาพยากรณ์แห่งฟรีเมสัน” (Prophet of Freemasonry) หรือ “มหาบุรุษฟรีเมสันแห่งศตวรรษที่ ๑๙” (the greatest Freemason of the nineteenth century) แปลว่าไพค์มีตำแหน่งระดับสูงและทรงอิทธิพลมาก
ไพค์เกิดวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๑๘๐๙ ในเมืองบอสตัน มลรัฐแมสซาชูเซตส์ เรียนจบมหาวิทยาลัยฮาร์วาด เป็นคนฉลาด สามารถอ่านเขียนได้ถึง ๑๖ ภาษา แต่ระหว่างเหตุการณ์สงครามกลางเมืองสหรัฐ ไพค์ทำงานในกองทัพของฝ่ายใต้ ได้รับมอบหมายให้ดูแลพวกอินเดียแดงในเขตทางใต้เพื่อโน้มน้าวให้ชนพวกนี้ร่วมกับกองทัพ เขาได้กลายเป็นผู้ว่าการเขตของเผ่าอินเดียแดงและประสบความสำเร็จในการสร้างกองทัพอินเดียแดง เผ่าพวกนี้ศรัทธาในตัวไพค์มาก ถึงกับยกให้เป็น “ผู้ปกป้องและมิตรชาวผิวขาวผู้ซื่อสัตย์” สะท้อนภาวะการนำของไพค์ได้ดี อย่างไรก็ตาม กองทัพอินเดียแดงของไพค์มีความโหดเหี้ยมในสงคราม นายเจฟเฟอร์สัน เดฟวิส (Jefferson Davis) ประธานาธิบดีของฝ่ายใต้จึงออกคำสั่งยุบกองทัพอินเดียแดงในภายหลัง เมื่อสงครามกลางเมืองผ่านพ้น ไพค์ถูกจองจำเพราะความผิดฐานทรยศต่อชาติ แต่ได้รับการอภัยโทษในวันที่ ๒๒ เมษายน ๑๘๖๖ โดยประธานาธิบดีแอนดรู จอห์นสัน (Andrew Johnson) สามปีต่อมา ไพค์กลายเป็นผู้นำระดับบนของอัศวินคูคลักซ์แคลน
ไพค์เป็นคนคลั่งแนวคิดโลกเดียว ปี ๑๘๕๙ ไพค์ได้รับเลือกให้ประสานกิจกรรมอิลลูมินาติในสหรัฐ ด้วยอิทธิพลในองค์กร ไพค์เสนอว่าองค์กรควรจะสร้างพรรคการเมืองทำหน้าที่ดำเนินภาวะสงครามบนโลกใบนี้จนกว่าสันติภาพที่แท้จริงจะเป็นไปได้ สำหรับไพค์ การนี้สำเร็จได้ด้วยชิวหาและปากกา อิทธิพลลับ เงิน รวมทั้งอาวุธถ้าจำเป็น สิ่งนี้สอดรับกับอุดมการณ์ดั้งเดิมของผู้ก่อตั้งอิลลูมินาติไม่ผิดเพี้ยน ในจดหมายฉบับหนึ่งเขียนโดยไพค์ ส่งถึงจูเซปเป้ มาซซินี (Giuseppe Mazzini) ผู้นำอิลลูมินาติต่อจากไวซ์ฮอพท์ ลงวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๑๘๗๑ สะท้อนแนวคิดหัวรุนแรงของเขา สรุปความได้ว่าเขาปรารถนาจะสนับสนุนกลุ่มคนที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ไม่ศรัทธาในอะไรเลยให้มีอำนาจสั่นคลอนความสงบบนผืนโลกเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มผู้ศรัทธาออกมาสู้รบ เขาอยากให้การสู้รบดำเนินไปจนถึงระดับทำลายล้างกันและกันของทั้งสองฝ่ายจนกระทั่งฝ่ายนับถือพระเจ้าเองยังต้องหันมาตั้งคำถามเรื่องความเชื่อของตัวเองและเปลี่ยนใจมาละพระศาสนาในที่สุด
ไพค์เขียนจดหมายอีกฉบับซึ่งถูกค้นพบในปี ๑๙๔๙ อธิบายแผนสำหรับสงครามโลกสามครั้งและสงครามปฏิวัติอย่างน้อยสองครั้ง สงครามโลกครั้งแรกเพื่อเปิดโอกาสให้พวกคอมมิวนิสต์โค่นระบบซาร์ในรัสเซีย สงครามโลกครั้งที่สองมุ่งทำลายนาซีและผลักดันลัทธิไซออนให้ก้าวหน้ากว่าเดิม เพื่อให้เป็นแรงขับสำหรับสร้างประเทศอิสราเอล หลังจากนั้น ต้องทำให้พรรคการเมืองสายคอมมิวนิสต์เข้มแข็งขึ้นขนาดคุมรัฐบาลอื่นที่อ่อนแอกว่าได้ ส่วนสงครามโลกครั้งที่สามในจดหมายของไพค์ตั้งใจจะให้ชนยิวกับอาหรับรบรากันเอง ให้เป็นความขัดแย้งที่ดูชุลมุนที่สุดทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม แล้วจึงตั้งรัฐบาลโลกคุมโดยอิลลูมินาติ กล่าวได้ว่าแต่ละสงครามเชื่อมโยงกัน ทั้งยังเป็นเหตุไปสู่อีกสงครามหนึ่ง
แม้กระนั้น จดหมายฉบับที่สองน่าจะเป็นของปลอม เพราะลักษณะเหตุการณ์ที่ไพค์ระบุละเอียดเกินไปและตรงกับข้อเท็จจริงเกินไป ที่สำคัญ เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดหลังจากยุคของไพค์นานมากเกินไป เป็นไปได้ที่ใครสักคนเขียนเรื่องนี้ขึ้นมาภายหลังแล้วโยงกับกิจกรรมของไพค์ อย่างที่เกริ่นในเบื้องต้น การสับขอหลอกหรือเติมแต่งข้อมูลให้ดูไม่สมเหตุสมผลอาจมาจากความตั้งใจของใครสักคนที่ปรารถนาจะทำให้ผู้คนไขว้เขว ยิ่งถ้ามีข้อมูลปลอมหลุดออกมามาก ความสนใจที่จะศึกษาเรื่องการจัดการระบบโลกก็จะลดน้อยถอยลงไปมาก