หลังจบสงครามโลก ครั้งที่ 2  อเมริกามีบทบาทนำในการยุติสงคราม 
แม้ว่าวิธีการจะรุนแรง คือ ใช้ระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งทำให้ชาวเมืองฮิโรชิม่า ผู้บริสุทธิ์ตายไปเยอะ 
แต่อเมริกาในยุคนั้น ก็กลายเป็นประเทศที่น่าเชื่อถือในสายตาชาวโลก ใน 5-6 ทศวรรษต่อมาหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

มาสู่ยุคนี้ อเมริกา กลายเป็นผู้ปฏิเสธการปิดสวิซท์สงคราม 
ไม่ว่าจะด้วยการวีโต้ในยูเอ็น ไม่ยอมรับปาเลสไตล์เป็นรัฐ
การเข้าข้างอย่างชัดเจนต่อยูเครนและอิสราเอล
แม้อาจมีผลประโยชน์อีกด้าน เรื่องการเติบโตของบริษัทผลิตนวัตกรรมอาวุธ
ราคาที่ต้องจ่ายคือ เศรษฐกิจอเมริกาที่แย่ลงและการสูญเสียภาวะผู้นำระดับโลก 

ถ้ามองกันแบบหนังแอ็คชั่น สุดท้าย เมื่อเหนื่อยและตายกันเยอะ แล้วก็เริ่มจะสะกดคำว่า "peace" เป็น
ไทยน่าจะใช้โอกาสนี้ พัฒนาหลักสูตร diplomacy (การฑูต) ที่ประชาคมโลกไม่ควรจะไปเรียนจากประเทศที่แก้ปัญหาด้วยสงคราม
และเราคงจะไม่โง่ไปนะ ถ้าจะทายว่า ประเทศที่จะโดดเด่นขึ้นประเทศหนึ่ง ก็คือ ประเทศไทย 
ถ้าเพียงแต่ประเทศเราจะมั่นใจมากขึ้นในสิ่งที่เรามีดี  
แน่นอน คนไทยบางส่วนอาจแสวงประโยชน์จากสงครามในอดีต แต่ก็มีให้ได้ยินว่า เราจะสูญเสียให้น้อยที่สุด นั่นคือ แกนในการตัดสินใจ

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เราได้ยินเพลง " Heal The World" จากไมเคิ่ล แจ็คสัน สัญชาตอเมริกัน โดนใจคนทั่วโลกที่ต้องการสันติภาพ
ตอนนี้ ลลิษา มโนบาล อาจจะต้องคิดสักเพลง ที่เป็นตัวแทนของ Voice of Peace 
บทเพลงสำหรับชาวโลก ไม่มากเกินไปสำหรับ Global Icon

แล้วเพื่อนๆหล่ะ คิดว่าประเทศไหน ?