คือผมพึ่งจะลองเขียนนิยาย แต่คนเข้าอ่านกับคนเม้นน้อยมาก ผมอยากจะรู้ว่าผมพลาดตรงไหน ผมทำอะไรไม่ดีพอ ผมอยากพัฒนาตัวเองไปให้มากกว่านี้ ผมเลยิยากให้ทุกคนช่วยวิจารณ์หน่อยครับ จะด่าแรงๆ มาเลยก็ได้ แค่ขอช่วยบอกจุดที่ยังพลาดของผมให้หน่อย
นี่คือตัวอย่างตอนที่ 1 ครับ
"นี่เราทำเรื่องแบบนี้มากี่ครั้งกันนะ"
เด็กชายพูดกับตัวเองบนสะพานสูงหลายสิบเมตร
รอบกายคือผู้คนมากมายที่รุมล้อมและโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนความคิดในสิ่งที่เขากำลังจะทำ
"อนาคตของเธอยังอีกไกลนะ อย่าเอาชีวิตมาทิ้งเปล่าเลย"
"ฉันรู้ว่าเธอลำบาก แต่มีคนที่ลำบากกว่าเธออีกมากนะ ถ้าพวกเขาฝ่าฟันความลำบากมาได้ เธอก็ต้องทำได้เหมือนกัน"
พวกเขาเหล่านั้นพูดเตือนสติเด็กหนุ่มด้วยความหวังดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักเด็กหนุ่ม แต่ก็ยังแสดงถึงห่วงใยที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ที่ยืนหยัดอยู่ร่วมโลกใบเดียวกัน เป็นคนดีที่เปี่ยมล้นไปด้วยศีลธรรมเสียเหลือเกิน
[ช่างน่าขัน]
คนแปลกหน้าเหล่านั้นพยายามทำเป็นเหมือนเข้าใจเด็กหนุ่มดี ทำเป็นเข้าใจในความลำบากที่เด็กหนุ่มกำลังเผชิญ
[ช่างน่าขัน]
ทั้งหมดที่พูดมาก็แค่ภาพลวงของการแสร้งทำเป็นรู้ดีไปหมดทุกอย่าง แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้รู้อะไรเลยสักอย่าง
[ช่างน่าขัน]
พวกเขาไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มมาจากที่ไหน ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มต้องเผชิญกับอะไร...พวกเขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของเด็กหนุ่มเสียด้วยซ้ำ
พวกเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่บังเอิญผ่านทางมาก็เท่านั้น....คนเช่นนี้น่ะหรือคือคนที่จะช่วยเหลือเด็กหนุ่ม...?
[ยิ่งพูดก็ยิ่งน่าขัน]
"ลูกกล้าดียังไง!!"
เสียงตะโกนดังจากฝั่งปลายสะพาน เสียงรอบข้างเงียบหายไปในพริบตาราวกับความวุ่นวายเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องโกหก
เสียงนั้นเย็นชาและดุดัน ความเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาจากเสียงนั้น
"ลูกทำให้พ่อเสียเวลามารับถึงที่นี่ ลูกคิดว่ากำลังเล่นอะไรอยู่"
น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยถามเด็กชาย บรรยากาศอันเย็นยะเยือกเพิ่มพูนจากทุกถ้อยคำ
เด็กชายเหลียวตามองไปยังต้นเสียง
ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำ ชายคนนั้นคือคนที่เป็นเจ้าของเสียงเมื่อครู่ และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นพ่อของเด็กหนุ่มบนสะพาน
ทั้งสองจ้องหน้ากันสักพัก ก่อนที่ชายชุดดำจะเอ่ยปาก...
"กลับบ้านกันได้แล้ว พ่อไม่ได้มีเวลาว่างมาเล่นกับลูกทั้งวันนะ"
สิ่งที่แสดงผ่านใบหน้าของเด็กชายคือดวงตาที่ไร้ซึ่งแวว ราวกับเป็นเพียงดวงตาที่มีไว้แค่ประดับใบหน้าไม่ให้ว่างเปล่า
"หมายความว่ายังไง นี่ลูกกล้าขัดคำสั่งพ่ออย่างงั้นเหรอ"
ชายในชุดสูทเดินเข้าหาเด็กหนุ่ม ทุกก้าวเดินนั้นมั่นคงและเรียบนิ่ง แต่ก็แฝงไปด้วยความสง่าและน่าเกรงขาม
"ถ้าแกอยากตายขนาดนั้น งั้นก็ตายไปเลยสิ....จะได้ไปอยู่กับแม่ของแกไง"
สิ้นเสียง เด็กชายหลบสายตามองต่ำ พึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง หันไปสบสายตากับผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
"ตาย? มันก็คงไม่แย่ไปกว่าตอนนี้หรอก"
เด็กหนุ่มกางแขนทั้งสองข้างออก และโน้มตัวลง แต่ก่อนที่ร่างกายจะถูกทิ้งให้ร่วงหล่นลงจากสะพาน
แผ่นดินก็เริ่มสั่นไหว เหล่าสัพสัตว์กู่ร้องอึกทึก หมอกควันดำทึบพวยพุ่งห้อมล้อมทั่วทุกสารทิศ ประกายละอองสีเหลืองทองปริศนาแพร่กระจายไปในทุกๆที่
ละอองทองนั้นเสกสรรค์ความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้แก่ผู้สูดดม
ราวกับถูกแทงที่หัวใจ ราวกับมีตะปูไหลอยู่ในเส้นเลือด ราวกับปอดกำลังถูกฉีก ราวกับสมองกำลังจะระเบิดออก
ผู้คนรอบกายทยอยสิ้นใจลงทีละคน ทีละคน ทีละคน จนเหลือแต่เพียงเด็กหนุ่มที่ยังคงประคับประคองสติเอาไว้ได้
ทั้งที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนทำเป็นพูดดีเหมือนรู้จักกับความทรมาน แต่ตอนนี้กลับพวกเขาเป็นคนที่ทนต่อความทรมานไม่ได้เสียอย่างนั้น
แต่จะว่าก็ว่าเถอะ ทางเด็กชายเองก็ใก้ลขีดความอดทนเต็มทีแล้วเหมือนกัน
สติของเด็กชายค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ
....และแล้วเด็กชายก็ได้หมดสติลงในที่สุด
นี่คือเรื่องเต็ม :
http://writer.dek-d.com/CODE-1011/writer/viewlongc.php?id=2275441&chapter=1
ย้ำอีกครั้ง วิจารณ์แรงๆได้เลย
ผมไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใครแล้วจริงๆ
ช่วยวิจารณ์นิยายให้หน่อยครับ
นี่คือตัวอย่างตอนที่ 1 ครับ
"นี่เราทำเรื่องแบบนี้มากี่ครั้งกันนะ"
เด็กชายพูดกับตัวเองบนสะพานสูงหลายสิบเมตร
รอบกายคือผู้คนมากมายที่รุมล้อมและโน้มน้าวให้เขาเปลี่ยนความคิดในสิ่งที่เขากำลังจะทำ
"อนาคตของเธอยังอีกไกลนะ อย่าเอาชีวิตมาทิ้งเปล่าเลย"
"ฉันรู้ว่าเธอลำบาก แต่มีคนที่ลำบากกว่าเธออีกมากนะ ถ้าพวกเขาฝ่าฟันความลำบากมาได้ เธอก็ต้องทำได้เหมือนกัน"
พวกเขาเหล่านั้นพูดเตือนสติเด็กหนุ่มด้วยความหวังดี แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักเด็กหนุ่ม แต่ก็ยังแสดงถึงห่วงใยที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ที่ยืนหยัดอยู่ร่วมโลกใบเดียวกัน เป็นคนดีที่เปี่ยมล้นไปด้วยศีลธรรมเสียเหลือเกิน
[ช่างน่าขัน]
คนแปลกหน้าเหล่านั้นพยายามทำเป็นเหมือนเข้าใจเด็กหนุ่มดี ทำเป็นเข้าใจในความลำบากที่เด็กหนุ่มกำลังเผชิญ
[ช่างน่าขัน]
ทั้งหมดที่พูดมาก็แค่ภาพลวงของการแสร้งทำเป็นรู้ดีไปหมดทุกอย่าง แต่แท้ที่จริงแล้วไม่ได้รู้อะไรเลยสักอย่าง
[ช่างน่าขัน]
พวกเขาไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มมาจากที่ไหน ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มต้องเผชิญกับอะไร...พวกเขาไม่รู้แม้แต่ชื่อของเด็กหนุ่มเสียด้วยซ้ำ
พวกเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่บังเอิญผ่านทางมาก็เท่านั้น....คนเช่นนี้น่ะหรือคือคนที่จะช่วยเหลือเด็กหนุ่ม...?
[ยิ่งพูดก็ยิ่งน่าขัน]
"ลูกกล้าดียังไง!!"
เสียงตะโกนดังจากฝั่งปลายสะพาน เสียงรอบข้างเงียบหายไปในพริบตาราวกับความวุ่นวายเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องโกหก
เสียงนั้นเย็นชาและดุดัน ความเย็นยะเยือกถูกส่งออกมาจากเสียงนั้น
"ลูกทำให้พ่อเสียเวลามารับถึงที่นี่ ลูกคิดว่ากำลังเล่นอะไรอยู่"
น้ำเสียงเย็นชาเอ่ยถามเด็กชาย บรรยากาศอันเย็นยะเยือกเพิ่มพูนจากทุกถ้อยคำ
เด็กชายเหลียวตามองไปยังต้นเสียง
ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำ ชายคนนั้นคือคนที่เป็นเจ้าของเสียงเมื่อครู่ และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นพ่อของเด็กหนุ่มบนสะพาน
ทั้งสองจ้องหน้ากันสักพัก ก่อนที่ชายชุดดำจะเอ่ยปาก...
"กลับบ้านกันได้แล้ว พ่อไม่ได้มีเวลาว่างมาเล่นกับลูกทั้งวันนะ"
สิ่งที่แสดงผ่านใบหน้าของเด็กชายคือดวงตาที่ไร้ซึ่งแวว ราวกับเป็นเพียงดวงตาที่มีไว้แค่ประดับใบหน้าไม่ให้ว่างเปล่า
"หมายความว่ายังไง นี่ลูกกล้าขัดคำสั่งพ่ออย่างงั้นเหรอ"
ชายในชุดสูทเดินเข้าหาเด็กหนุ่ม ทุกก้าวเดินนั้นมั่นคงและเรียบนิ่ง แต่ก็แฝงไปด้วยความสง่าและน่าเกรงขาม
"ถ้าแกอยากตายขนาดนั้น งั้นก็ตายไปเลยสิ....จะได้ไปอยู่กับแม่ของแกไง"
สิ้นเสียง เด็กชายหลบสายตามองต่ำ พึมพำอะไรบางอย่างกับตัวเอง หันไปสบสายตากับผู้เป็นพ่ออีกครั้ง
"ตาย? มันก็คงไม่แย่ไปกว่าตอนนี้หรอก"
เด็กหนุ่มกางแขนทั้งสองข้างออก และโน้มตัวลง แต่ก่อนที่ร่างกายจะถูกทิ้งให้ร่วงหล่นลงจากสะพาน
แผ่นดินก็เริ่มสั่นไหว เหล่าสัพสัตว์กู่ร้องอึกทึก หมอกควันดำทึบพวยพุ่งห้อมล้อมทั่วทุกสารทิศ ประกายละอองสีเหลืองทองปริศนาแพร่กระจายไปในทุกๆที่
ละอองทองนั้นเสกสรรค์ความเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสให้แก่ผู้สูดดม
ราวกับถูกแทงที่หัวใจ ราวกับมีตะปูไหลอยู่ในเส้นเลือด ราวกับปอดกำลังถูกฉีก ราวกับสมองกำลังจะระเบิดออก
ผู้คนรอบกายทยอยสิ้นใจลงทีละคน ทีละคน ทีละคน จนเหลือแต่เพียงเด็กหนุ่มที่ยังคงประคับประคองสติเอาไว้ได้
ทั้งที่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนทำเป็นพูดดีเหมือนรู้จักกับความทรมาน แต่ตอนนี้กลับพวกเขาเป็นคนที่ทนต่อความทรมานไม่ได้เสียอย่างนั้น
แต่จะว่าก็ว่าเถอะ ทางเด็กชายเองก็ใก้ลขีดความอดทนเต็มทีแล้วเหมือนกัน
สติของเด็กชายค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ
....และแล้วเด็กชายก็ได้หมดสติลงในที่สุด
นี่คือเรื่องเต็ม : http://writer.dek-d.com/CODE-1011/writer/viewlongc.php?id=2275441&chapter=1
ย้ำอีกครั้ง วิจารณ์แรงๆได้เลย
ผมไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใครแล้วจริงๆ