.
ไดอารี่ความคิดถึง
“แม่ขั้นบอสไปเกี่ยวข้าวซอยยาย บอสขอกางเกงยีนส์ได้บ่อโตนึง” บอสคุยโทรศัพท์กับแม่ตอนหัวค่ำเช่นทุกวัน คุยอยู่ชั้นสองของบ้านคนเดียว น้องบีมกับพี่ ๆ กับยายและตาดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่าง
“กางเกงอีหยังอีกบอส! เงินส่งให้ซุเดือนนั่นเด้กะไปซื้อเอาติ๊ล่ะ” แม่ตอบ บอสกลอกตาให้กับคำตอบของแม่ เงินแค่นี้เนี่ยนะ เอาไปซื้อแล้วระหว่างเดือนบอสจะใช้อะไร “ขอยายถะแหมะขั้นอยากได้ แอ่วยายขายข้าวโลด” แม่พูดกลั้วหัวเราะ บอสขอจริงจังแม่ยังจะตลกอีก
“หื้อ! ยายเราบ่อให้ บอสขอเงินซื้อกางเกงแม็กโตนึงเด้อแม่ กางเกงแม็กโตละพัน รายเดือนมันกะเมิดท่อนแหล่วขั้นเอาไปซื้อ” พูดน้ำเสียงออกงอแงกับแม่
“คือใส่แพงแถะลูก! แม่เกิดมาจนเฒ่าปานหนิแม่ยังบ่เคยใส่โตละพันจักเทือ ใส่แล้วมันลอยได้อยู่บ่อลูก แต่ข้าราชการกะบ่อใส่แพงปานหนิ แต่ครูกิ๋มเราแฮงเป็นครูตั้ว เรากะบ่อใส่แพงซำลูก” แม่พูดประชดเธอ ลากน้ำเสียงกกระแนะกระแหนประชดประชันเก่งเหลือเกิน ยกครูกิ๋มลูกย่าน้อยมาอ้างอีก
“เห่อนำเขาคักหลายอี่แฝดนั่น เขาพาใส่หยังกะอยากใส่นำเขาเด้เดี๋ยวหนิ” บอสถึงจะงอนแม่แต่ก็แอบหัวเราะ แม่รู้ดีไปอีกนะ ถูกต้อง! เธออยากใส่ตามสองฝาแฝดเองแหละ แต่มันก็สวยจริง ๆ นี่นา ผ้าดีด้วย “มาเบิ่งแน่ลุงหนุ่ยแฮงเป็นหมอตั้ว ใส่ซ่งขาด ๆ มาซื้อกับข้าวนำพ่อมืง” ยกลุงหนุ่ยลูกของย่าน้อยมาอีกคน
“หมอหมา!” เธออุทานกลั้วหัวเราะกับแม่
“กะหมอหมานั่นล้า เรากะบ่อใส่เสื้อผ้าแพง ๆ จะของหาเงินทันเป็นอยู่ คืออยากใส่ของแพงของยี่ห้อแถะ หาเงินเป็นก่อนเป็นหยังจังซื้อใส่ อดอย่าสะเห่อนำมูคักหลาย” แม่บ่นผ่านโทรศัพท์ ทว่าไม่ได้เหวี่ยงสักนิด บ่นเหมือนคนบ่นไปเรื่อย
“บ่อได้เห่อ! บอสอยากใส่บอสเห็นมันงามอีหลิแม่ ผ้าดีนำ! ขาเดฟยีนส์แม็กสีดำงามคือหยังหนิ แม่ให้บอสซื้อเด้อ ยายเกี่ยวข้าวแล้ว มื้ออื่นยายกะลงเกี่ยว บอสกะไปเกี่ยวซอยยายเด้อแม่” เธอพยายามหว่านล้อมแม่ ยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างให้จงได้สมปรารถนา
“บ่อซื้อเสื้อแขนยาวบ่อหั่นหนิ หนาวบ่อบ้านเฮา อยู่ลำลูกกาบ่อหนาวปานใด” แม่เองก็พยายามจะเปลี่ยนเรื่องคุยให้ได้เช่นกัน แม่พูดถึงเสื้อแขนยาวของเธอที่เธอขอซื้อก่อนหน้านั้น เสื้อแขนยาวแม็กเหมือนกัน
“บ่อหนาว! ปีหนิบ่อเอาเสื้อแขนยาวเด้อแม่ บอสอยากได้กางเกงยีนส์แม็ก ตัวละพันนึง แม่ให้บอสซื้อเด้อ บอสจะไปเกี่ยวข้าวซอยอี่ยายมื้ออื่น”
“ขั้นยายขายข้าวมืงกะขอเงินยายถะแม้” แม่ปัดความรับผิดชอบไปให้ยายอีก บอสถอนหายใจ ยายจะขายข้าวที่ไหนล่ะ ไม่เคยเห็นยายจะเอ่ยขายข้าวสักที ถ้าแม่ไม่กลับมาขายเอง “เขาพาใส่หยังกะอย่าใส่นำเขาคักหลาย นึงพั่นว่า ม.4 เข้าไปเรียนในเมืองนำเขาอีก มีพุบ่าวแล้วบ่อคืออยากใส่ตะของยี่ห้อแถะ เทียวเข้าไปแต่ในเมืองนำเขาดู๋ ๆ คุยมูเขาเป็นผู้บ่าวบ่อ”
“บ่อ! บ่อมีตะอยากใส่ซือ ๆ หนิล่ะแม่ เทียวเข้าไปในเมืองอีหยัง พามันไปตะพลาซ่าซือ ๆ ไปคลองถมจังสิ เว้ากับมูมันอีหยัง บ่อได้คุย!“ แม่พูดมาแบบนี้บอสแทบสำลักน้ำลายกันเลย คำว่าแม่นี่เดาลูกเกือบแม่นทุกอย่างจริง ๆ
“อี่แม่กะฮู้อี่แม่คือบ่อให้บอสเข้าไปเรียนตะ ม. 1 หั่น บอสอยากไปคัก อยู่โรงเรียนบ้านเฮาบอสบ่อมีมูเล่นเด้แม่ ซุมอี่น้ำอี่จอยอี่ชมพู่เขาบ่อเล่นนำบอส บอสเล่นนำซุมมูบ้านอื่นยามไปโรงเรียน ย้อนว่าบอสบ่อไปหาเลาะเล่นนำพวกมันล่ะ พวกมันเลยปลีกตัวออกจากบอส” บอสพูด มันมีเรื่องราวในใจ พูดไปก็เท่านั้น ช่างมันเถอะ
“บ่อนาง! เขาบ่อเล่นนำเลยติ อดเอาล่ะนางเอ้ย เล่นนำมูบ้านอื่นกะเล่นไปโลดซามได้เข้าไปหาเอื้อยในเมือง มันดีแล้วล่ะบ่อต้องไปเลาะบ้านอื่นให้คนซ่า ความก้าวหน้าของชีวิตบ่อได้ขึ้นอยู่กับมูเสมอไปหรอกแม่สิบอกให้ บ่อมีมูชีวิตเฮากะต้องย่างต่อไปลูก” แม่พูด
“อี่ยายเราบ่อขายข้าวหรอกแม่! เด้ออี่แม่… ปีนี้บอสบ่อเอาเสื้อแขนยาวหรอก บอสเอากางเกง! ตอนเกี่ยวข้าวดอซอยอี่ยายบอสยังบ่อได้อี่หยังอยู่ จนเกี่ยวข้าวใหญ่แล้วหนิ อี่แม่ให้บอสซื้อกางเกงเด้อ เด้อแม่! รวมกับเงินรายเดือนนำเด้อแม่ ส่งมาจักสามพันกะได้รวมเงินรายเดือนน่ะ กางเกงบ่อเกินพันห้าหรอก บอสไปถามมาแล้ว ลดแล้วเด้หนิ! เหลือบ่อเกินพันห้า” เธอวกกลับมาเรื่องกางเกงอีกรอบ แม่จะพาพูดวนออกไปไกลแล้ว เดี๋ยวลืม! สุดท้ายแม่ก็ยอมให้ซื้อจนได้
แม่ก็ต้องยอมนั่นแหละ ในทุก ๆ ปีเธอจะขอแม่ซื้อเสื้อแขนยาวแม็กไม่ก็ฮาร่าปีละตัว ทว่าปีนี้เธอเปลี่ยนจากเสื้อแขนยาวมาเป็นกางเกงแทน แม่จึงยอม แต่เธอมีแผนในใจ เดือนนี้ขอแม่ซื้อกางเกงก่อน พอปีใหม่แม่กลับมาบ้านค่อยอ้อนแม่ซื้อเสื้อแขนยาวก็ได้ บอสยิ้มกริ่มกับความคิดของตน ก่อนจะขอวางสายแล้วลงไปทานข้าวเย็นอย่างมีความสุข
เกี่ยวข้าวช่วยยายก็แค่สองวันเอง เสาร์กับอาทิตย์ อีกอย่างยายจ้างคนงานตั้งหลายคน ไม่เห็นจะเหนื่อยตรงไหน ถึงอย่างไรบอกแม่ว่าจะทำก็ต้องทำ ขืนพูดไว้แล้วไม่ทำแม่ก็ไม่ให้เช่นกัน สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา
บอสถอนหายใจสู้ก็สู้วะ แค่เกี่ยวข้าวสองวันแลกกับกางเกงหนึ่งตัว ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย ๆ หรอก พอทำใจได้แล้วก็คลี่ยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะบอกยายว่าพรุ่งนี้ไปเกี่ยวข้าวด้วยคน
……………………………..
เช้าวันเสาร์บอสตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปนาเกี่ยวข้าวช่วยยาย ชวนน้องบีมไปนาด้วยคน น้องบีมก็ตกลงอย่างว่าง่าย พี่บอมกับพี่บอลก็ไปด้วย ยกเว้นก็เพียงพี่ปาวกับพี่แป้งที่ไม่ขอไปด้วย ยายก็ไม่ว่า เพียงแต่พอถึงตอนเที่ยงให้มาเตรียมกับข้าวไว้รอยายกับคนงาน
เกี่ยวข้าวใหญ่ทุก ๆ ปียายจะจ้างคนงาน เนื่องจากมันเยอะมาก เกี่ยวเองไม่ไหว ยายจึงไม่บังคับหลาน ๆ ทำ ส่วนเธอมีสิ่งแลกเปลี่ยนจึงต้องทำ จะโกหกแม่จะเหลี่ยมกับแม่ไม่ได้ ยายเตรียมเคียวคนละด้ามให้เธอกับน้องบีม พวกเธอสี่คนพี่น้องก็รีบแต่งตัว เพื่อจะออกไปนาแต่เช้าพร้อมยาย มีคนอาสาไปช่วยเกี่ยวข้าวเพิ่มยายยิ่งชอบใจ
พวกเธอเจ้าของนามาถึงตั้งแต่เช้า ที่นาบรรยากาศในตอนเช้าเย็นมาก เพราะนี่ก็เข้าหน้าหนาวแล้ว ทำให้อากาศในตอนเช้าเย็น และ มีน้ำค้างเกาะตามใบหญ้า แต่มันอากาศดีที่สุดเลย เจ็ดโมงเช้าลุงโล่ก็พาคนงานมาถึง จากนั้นก็หาข้าวเช้าให้คนงานกินก่อนลงทำงาน
“มื้อหนิครูคือมาเกี่ยวข้าวน้อ บ่อแดดบ่อย่านดำบ่อ” ยายเขียดคนงานที่ยายจ้างมาเกี่ยวข้าวแซวเธอ ๆ ยิ้มให้กับยาย “ครูต้วยกะมานำบาดหนิ แล้วมื้อเดียวล่ะเฮาแม่ใหญ่” ยายเขียดหันไปพูดแซวน้องบีมปนยิ้ม น้องบีมหัวเราะเถียงยายเขียดใหญ่เลยว่าไม่ใช่ครูต้วยสักหน่อย
“บอสมาซือ ๆ หนิแหล่ว บอสมีแนวอยากได้ตั้วยายเขียด อี่แม่ว่าไปเกี่ยวข้าวซอยยายแล้วอี่แม่สิซื้อให้” บอสตอบไปตามความจริง ตอนนี้คนงานมากันครบแล้วร่วมสิบกว่าคนได้ ยายจ้างคนงานเยอะกะให้เสร็จภายในวันเดียว หรือ ไม่ก็ภายในวันอาทิตย์นั่นเอง
“อยากได้อี่หยังจังมาเกี่ยวข้าวว่ะ อี่น้อย ๆ หนิสิเอาอีหยังนำเขาฮั่นจังมาเกี่ยวนำเขา เกี่ยวมันเก่ง ๆ เด้อ เกี่ยวแซงหน้ายายบู่ไปเลย” เมื่อทุกคนเห็นน้องบีมแต่งตัวลงมาเกี่ยวข้าวด้วย ต่างพูดแซวด้วยความเอ็นดู “สองใหญ่อยู่เฮือนบ่อคือบ่อมาเกี่ยวข้าวซอยยาย
“แมน! พี่ปาวกับพี่แป้งอยู่เฮือน บอสขออี่แม่ซื้อกางเกงตั้วใหญ่บู่ ส่วนอี่บีมมันสิเอาหยังบุ อ้ายบอมกับอ้ายบอลเอาเสื้อแขนยาวมั้ง” บอสตอบ บรรยากาศที่นาตอนเช้าเย็นมาก อากาศดีแม้แดดจะเริ่มออกมาบ้างแล้วก็ตาม ทว่ายังมีลมพัดโบกอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ไม่ร้อนมาก
“น้องบีมเอาเกิบกับเสื้อแขนยาวตั้วใหญ่บู่” น้องบีมตอบพร้อมปั้นข้าวเหนียวข้าวปากเคี้ยว ป้อนโดยยายอีกทีหนึ่ง
“ใหญ่เป็นสาวแล้วก็ให้ยายป้อนข้าวเด้เดี๋ยวหนิ” ป้าลีแซวหลานสาวคนเล็ก น้องบีมหัวเราะแก้เขิน
“เสื้อแขนยาวโตละห้าร้อยโตละพันนั่นบ่อ น้องแขแอ่วซื้ออยู่ แม่มันบ่อให้ซื้อ เป็นหยังมาพากันใส่แพงแถะ โตล่ะร้อยสองร้อยกะใส่โลดเป็นหยัง” ยายบู่พูด บอสก็ได้แต่ยิ้ม ยายบู่ไม่เข้าใจหรอก
“ลูกบักวิทย์เด้อฝาแฝดมันน่ะ ใส่เสื้อผ้ามีตะโตแพง ๆ ใส่ของมียี่ห้อ โตละห้าร้อยโตละพัน บักวิทย์จ่มอยู่ ตะเมียมันตามใจลูกว่าทอใดกะซื้อให้เมิด ” แม่นิดพูดถึงสองฝาแฝด นี่ลุงวิทย์ลุงของฉันนะ อย่าลืมว่าพ่อฉันเป็นน้องชายของลุงวิทย์ นี่นินทาระยะเผาขนกันเลยหรือ เธอแอบกลอกตามองบนกับสิ่งที่ได้ยิน และ ค่อนขอดในใจ นั่งฟังผู้ใหญ่คุย
“ตะเขามีเงินล่ะว้า ลูกเขาขอใส่โตละทอใดเขากะซื้อให้ จังมูเฮาบ่อกล้าซื้อให้ลูกใส่แล้ว แพงโพดเว้ยบ่อแมนข้าราชการ” อืมม์ นินทากันต่อหน้าต่อตาแบบนี้ก็ได้เหรอ ยังไม่หยุดพูดกันอีก บอสทำได้เพียงนึกในใจเท่านั้น อยากใส่ใครจะทำไม มีเงินอยากซื้อของยี่ห้อใส่แค่ตัวเดียวจะทำไม ใครมีเงินอยากซื้อตัวละหนึ่งร้อยบาทสิบตัวก็ซื่อไปสิ แอบเหวี่ยงคนงานของยายในใจระหว่างทานข้าวมื้อเช้ากัน
“ลูกเขยเรากะลูกอี่มวนนั่นเด้ มาเฝ้ากันซุมื้อ แมนบ่อนาง” แม่แบหันมาถาม
“แมน! อ้ายเม้าส์” เธอตอบแบบไม่ยินดียินร้ายด้วย จากนั้นคนงานก็เปลี่ยนเรื่องคุย พูดไปเรื่อยเปื่อยตามประสา
เจ็ดโมงเช้ายายกับตาพาคนงานนั่งทานข้าวบนเถียงนา มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงมาเกี่ยวข้าวรับจ้างยายในวันนี้ บนเถียงนานั่งกันไม่พอต้องแบ่งมานั่งลานดินข้างล่างด้วย ปูเสื่อนั่งกินข้าว โม้กันไปเรื่อย ที่ฟัง ๆ ดูเห็นจะเป็นเรื่องนินทาชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่
แผนการทำงานในวันนี้ ยายจะพาคนงานเริ่มเกี่ยวมาจากฝั่งติดลำห้วยก่อน เกี่ยวขึ้นมาหาเถียงนา กะไว้ให้เสร็จภายในวันนี้นั่นแหละ ถ้าไม่เสร็จก็ไม่ให้เกินพรุ่งนี้วันอาทิตย์ ค่าแรงวันละสี่ร้อยบาท เพราะจ้างก่อนใคร ๆ เพราะเริ่มเกี่ยวข้าวก่อนใคร ๆ จึงได้ค่าแรงที่ถูก
ถ้าช่วงเดือนธันวาคมคนเกี่ยวข้าวเยอะ คนเริ่มทยอยลงเกี่ยวข้าวกันมาก ทำให้คนงานขาดแคลน จำต้องเพิ่มค่าแรงเกทับกันเพื่อแย่งคนงาน ค่าแรงเกี่ยวข้าวก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ สูงสุดถึงวันละหกเจ็ดร้อยก็มี สูงกว่านี้ก็เปลี่ยนเป็นการรับเหมาแทน
บางคนสู้ค่าแรงที่สูงไม่ได้จำต้องทนเกี่ยวกันเองก็มี ยายเกี่ยวในช่วงต้นฤดูกาล จึงยังได้ค่าแรงที่ถูกอยู่ วันละสี่ร้อยบาทแถมยังเลี้ยงข้าวอีกด้วย พอทานข้าวเสร็จ บอสกับน้องบีมเตรียมพร้อมมาก สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกมีปีก ถุงมือถุงเท้าอย่างพร้อมที่สุด เคียวคนละด้าม เดินลงไปปลายนากับยายและคนงานคนอื่น ๆ
“บอสกับบีมมาลงไฮนำยาย อย่าไปเคืองเพิ่นเฮ็ดเวียก” ยายเรียกเธอกับน้องบีม “บอมกับบอลนำ มาลงไฮนำยายคือกัน” ถึงจะเป็นเจ้าของนา ถึงจะเป็นนายจ้างก็ต้องทำไปพร้อม ๆ กับคนงาน เมื่อมาถึงปลายนา ยายก็พาคนงานเริ่มลงมือเกี่ยวข้าวในทันที
ทุกคนลงแขกเกี่ยวข้าวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพราะมีหลายคนจึงทุ่นแรงไปเยอะ แต่ละตานาเกี่ยวแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว เสียงหัวเราะเสียงพูดคุยของคนงานทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงา
บอสก้ม ๆ เงย ๆ สองสามครั้งก็เสร็จไปแล้วหนึ่งตานา เนื่องจากมียาย ป้าลี แม่หลอด และ คนอื่น ๆ เกี่ยวช่วย คนงานไม่ถือสาพวกเธอสี่คนพี่น้องที่ทำช้า เพราะแค่มาช่วยเสริมกำลังของตนเองเท่านั้น ตรงไหนมีข้าวล้มบอสก็ไม่เกี่ยว ปล่อยให้ผู้ใหญ่ทำกันไป
“มื้อลอยกระทงมื้อใดบอสปีหนิ” แม่หลอดถาม เกี่ยวข้าวไปด้วย ชวนเธอพูดคุยไปด้วย นาใกล้ ๆ กันก็มีคนลงเกี่ยวข้าวแล้วเช่นกัน
คิดถึง 2 บทที่ 85
.
ไดอารี่ความคิดถึง
“แม่ขั้นบอสไปเกี่ยวข้าวซอยยาย บอสขอกางเกงยีนส์ได้บ่อโตนึง” บอสคุยโทรศัพท์กับแม่ตอนหัวค่ำเช่นทุกวัน คุยอยู่ชั้นสองของบ้านคนเดียว น้องบีมกับพี่ ๆ กับยายและตาดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่าง
“กางเกงอีหยังอีกบอส! เงินส่งให้ซุเดือนนั่นเด้กะไปซื้อเอาติ๊ล่ะ” แม่ตอบ บอสกลอกตาให้กับคำตอบของแม่ เงินแค่นี้เนี่ยนะ เอาไปซื้อแล้วระหว่างเดือนบอสจะใช้อะไร “ขอยายถะแหมะขั้นอยากได้ แอ่วยายขายข้าวโลด” แม่พูดกลั้วหัวเราะ บอสขอจริงจังแม่ยังจะตลกอีก
“หื้อ! ยายเราบ่อให้ บอสขอเงินซื้อกางเกงแม็กโตนึงเด้อแม่ กางเกงแม็กโตละพัน รายเดือนมันกะเมิดท่อนแหล่วขั้นเอาไปซื้อ” พูดน้ำเสียงออกงอแงกับแม่
“คือใส่แพงแถะลูก! แม่เกิดมาจนเฒ่าปานหนิแม่ยังบ่เคยใส่โตละพันจักเทือ ใส่แล้วมันลอยได้อยู่บ่อลูก แต่ข้าราชการกะบ่อใส่แพงปานหนิ แต่ครูกิ๋มเราแฮงเป็นครูตั้ว เรากะบ่อใส่แพงซำลูก” แม่พูดประชดเธอ ลากน้ำเสียงกกระแนะกระแหนประชดประชันเก่งเหลือเกิน ยกครูกิ๋มลูกย่าน้อยมาอ้างอีก
“เห่อนำเขาคักหลายอี่แฝดนั่น เขาพาใส่หยังกะอยากใส่นำเขาเด้เดี๋ยวหนิ” บอสถึงจะงอนแม่แต่ก็แอบหัวเราะ แม่รู้ดีไปอีกนะ ถูกต้อง! เธออยากใส่ตามสองฝาแฝดเองแหละ แต่มันก็สวยจริง ๆ นี่นา ผ้าดีด้วย “มาเบิ่งแน่ลุงหนุ่ยแฮงเป็นหมอตั้ว ใส่ซ่งขาด ๆ มาซื้อกับข้าวนำพ่อมืง” ยกลุงหนุ่ยลูกของย่าน้อยมาอีกคน
“หมอหมา!” เธออุทานกลั้วหัวเราะกับแม่
“กะหมอหมานั่นล้า เรากะบ่อใส่เสื้อผ้าแพง ๆ จะของหาเงินทันเป็นอยู่ คืออยากใส่ของแพงของยี่ห้อแถะ หาเงินเป็นก่อนเป็นหยังจังซื้อใส่ อดอย่าสะเห่อนำมูคักหลาย” แม่บ่นผ่านโทรศัพท์ ทว่าไม่ได้เหวี่ยงสักนิด บ่นเหมือนคนบ่นไปเรื่อย
“บ่อได้เห่อ! บอสอยากใส่บอสเห็นมันงามอีหลิแม่ ผ้าดีนำ! ขาเดฟยีนส์แม็กสีดำงามคือหยังหนิ แม่ให้บอสซื้อเด้อ ยายเกี่ยวข้าวแล้ว มื้ออื่นยายกะลงเกี่ยว บอสกะไปเกี่ยวซอยยายเด้อแม่” เธอพยายามหว่านล้อมแม่ ยกแม่น้ำทั้งห้ามาอ้างให้จงได้สมปรารถนา
“บ่อซื้อเสื้อแขนยาวบ่อหั่นหนิ หนาวบ่อบ้านเฮา อยู่ลำลูกกาบ่อหนาวปานใด” แม่เองก็พยายามจะเปลี่ยนเรื่องคุยให้ได้เช่นกัน แม่พูดถึงเสื้อแขนยาวของเธอที่เธอขอซื้อก่อนหน้านั้น เสื้อแขนยาวแม็กเหมือนกัน
“บ่อหนาว! ปีหนิบ่อเอาเสื้อแขนยาวเด้อแม่ บอสอยากได้กางเกงยีนส์แม็ก ตัวละพันนึง แม่ให้บอสซื้อเด้อ บอสจะไปเกี่ยวข้าวซอยอี่ยายมื้ออื่น”
“ขั้นยายขายข้าวมืงกะขอเงินยายถะแม้” แม่ปัดความรับผิดชอบไปให้ยายอีก บอสถอนหายใจ ยายจะขายข้าวที่ไหนล่ะ ไม่เคยเห็นยายจะเอ่ยขายข้าวสักที ถ้าแม่ไม่กลับมาขายเอง “เขาพาใส่หยังกะอย่าใส่นำเขาคักหลาย นึงพั่นว่า ม.4 เข้าไปเรียนในเมืองนำเขาอีก มีพุบ่าวแล้วบ่อคืออยากใส่ตะของยี่ห้อแถะ เทียวเข้าไปแต่ในเมืองนำเขาดู๋ ๆ คุยมูเขาเป็นผู้บ่าวบ่อ”
“บ่อ! บ่อมีตะอยากใส่ซือ ๆ หนิล่ะแม่ เทียวเข้าไปในเมืองอีหยัง พามันไปตะพลาซ่าซือ ๆ ไปคลองถมจังสิ เว้ากับมูมันอีหยัง บ่อได้คุย!“ แม่พูดมาแบบนี้บอสแทบสำลักน้ำลายกันเลย คำว่าแม่นี่เดาลูกเกือบแม่นทุกอย่างจริง ๆ
“อี่แม่กะฮู้อี่แม่คือบ่อให้บอสเข้าไปเรียนตะ ม. 1 หั่น บอสอยากไปคัก อยู่โรงเรียนบ้านเฮาบอสบ่อมีมูเล่นเด้แม่ ซุมอี่น้ำอี่จอยอี่ชมพู่เขาบ่อเล่นนำบอส บอสเล่นนำซุมมูบ้านอื่นยามไปโรงเรียน ย้อนว่าบอสบ่อไปหาเลาะเล่นนำพวกมันล่ะ พวกมันเลยปลีกตัวออกจากบอส” บอสพูด มันมีเรื่องราวในใจ พูดไปก็เท่านั้น ช่างมันเถอะ
“บ่อนาง! เขาบ่อเล่นนำเลยติ อดเอาล่ะนางเอ้ย เล่นนำมูบ้านอื่นกะเล่นไปโลดซามได้เข้าไปหาเอื้อยในเมือง มันดีแล้วล่ะบ่อต้องไปเลาะบ้านอื่นให้คนซ่า ความก้าวหน้าของชีวิตบ่อได้ขึ้นอยู่กับมูเสมอไปหรอกแม่สิบอกให้ บ่อมีมูชีวิตเฮากะต้องย่างต่อไปลูก” แม่พูด
“อี่ยายเราบ่อขายข้าวหรอกแม่! เด้ออี่แม่… ปีนี้บอสบ่อเอาเสื้อแขนยาวหรอก บอสเอากางเกง! ตอนเกี่ยวข้าวดอซอยอี่ยายบอสยังบ่อได้อี่หยังอยู่ จนเกี่ยวข้าวใหญ่แล้วหนิ อี่แม่ให้บอสซื้อกางเกงเด้อ เด้อแม่! รวมกับเงินรายเดือนนำเด้อแม่ ส่งมาจักสามพันกะได้รวมเงินรายเดือนน่ะ กางเกงบ่อเกินพันห้าหรอก บอสไปถามมาแล้ว ลดแล้วเด้หนิ! เหลือบ่อเกินพันห้า” เธอวกกลับมาเรื่องกางเกงอีกรอบ แม่จะพาพูดวนออกไปไกลแล้ว เดี๋ยวลืม! สุดท้ายแม่ก็ยอมให้ซื้อจนได้
แม่ก็ต้องยอมนั่นแหละ ในทุก ๆ ปีเธอจะขอแม่ซื้อเสื้อแขนยาวแม็กไม่ก็ฮาร่าปีละตัว ทว่าปีนี้เธอเปลี่ยนจากเสื้อแขนยาวมาเป็นกางเกงแทน แม่จึงยอม แต่เธอมีแผนในใจ เดือนนี้ขอแม่ซื้อกางเกงก่อน พอปีใหม่แม่กลับมาบ้านค่อยอ้อนแม่ซื้อเสื้อแขนยาวก็ได้ บอสยิ้มกริ่มกับความคิดของตน ก่อนจะขอวางสายแล้วลงไปทานข้าวเย็นอย่างมีความสุข
เกี่ยวข้าวช่วยยายก็แค่สองวันเอง เสาร์กับอาทิตย์ อีกอย่างยายจ้างคนงานตั้งหลายคน ไม่เห็นจะเหนื่อยตรงไหน ถึงอย่างไรบอกแม่ว่าจะทำก็ต้องทำ ขืนพูดไว้แล้วไม่ทำแม่ก็ไม่ให้เช่นกัน สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา
บอสถอนหายใจสู้ก็สู้วะ แค่เกี่ยวข้าวสองวันแลกกับกางเกงหนึ่งตัว ไม่มีอะไรได้มาโดยง่าย ๆ หรอก พอทำใจได้แล้วก็คลี่ยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะบอกยายว่าพรุ่งนี้ไปเกี่ยวข้าวด้วยคน
……………………………..
เช้าวันเสาร์บอสตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปนาเกี่ยวข้าวช่วยยาย ชวนน้องบีมไปนาด้วยคน น้องบีมก็ตกลงอย่างว่าง่าย พี่บอมกับพี่บอลก็ไปด้วย ยกเว้นก็เพียงพี่ปาวกับพี่แป้งที่ไม่ขอไปด้วย ยายก็ไม่ว่า เพียงแต่พอถึงตอนเที่ยงให้มาเตรียมกับข้าวไว้รอยายกับคนงาน
เกี่ยวข้าวใหญ่ทุก ๆ ปียายจะจ้างคนงาน เนื่องจากมันเยอะมาก เกี่ยวเองไม่ไหว ยายจึงไม่บังคับหลาน ๆ ทำ ส่วนเธอมีสิ่งแลกเปลี่ยนจึงต้องทำ จะโกหกแม่จะเหลี่ยมกับแม่ไม่ได้ ยายเตรียมเคียวคนละด้ามให้เธอกับน้องบีม พวกเธอสี่คนพี่น้องก็รีบแต่งตัว เพื่อจะออกไปนาแต่เช้าพร้อมยาย มีคนอาสาไปช่วยเกี่ยวข้าวเพิ่มยายยิ่งชอบใจ
พวกเธอเจ้าของนามาถึงตั้งแต่เช้า ที่นาบรรยากาศในตอนเช้าเย็นมาก เพราะนี่ก็เข้าหน้าหนาวแล้ว ทำให้อากาศในตอนเช้าเย็น และ มีน้ำค้างเกาะตามใบหญ้า แต่มันอากาศดีที่สุดเลย เจ็ดโมงเช้าลุงโล่ก็พาคนงานมาถึง จากนั้นก็หาข้าวเช้าให้คนงานกินก่อนลงทำงาน
“มื้อหนิครูคือมาเกี่ยวข้าวน้อ บ่อแดดบ่อย่านดำบ่อ” ยายเขียดคนงานที่ยายจ้างมาเกี่ยวข้าวแซวเธอ ๆ ยิ้มให้กับยาย “ครูต้วยกะมานำบาดหนิ แล้วมื้อเดียวล่ะเฮาแม่ใหญ่” ยายเขียดหันไปพูดแซวน้องบีมปนยิ้ม น้องบีมหัวเราะเถียงยายเขียดใหญ่เลยว่าไม่ใช่ครูต้วยสักหน่อย
“บอสมาซือ ๆ หนิแหล่ว บอสมีแนวอยากได้ตั้วยายเขียด อี่แม่ว่าไปเกี่ยวข้าวซอยยายแล้วอี่แม่สิซื้อให้” บอสตอบไปตามความจริง ตอนนี้คนงานมากันครบแล้วร่วมสิบกว่าคนได้ ยายจ้างคนงานเยอะกะให้เสร็จภายในวันเดียว หรือ ไม่ก็ภายในวันอาทิตย์นั่นเอง
“อยากได้อี่หยังจังมาเกี่ยวข้าวว่ะ อี่น้อย ๆ หนิสิเอาอีหยังนำเขาฮั่นจังมาเกี่ยวนำเขา เกี่ยวมันเก่ง ๆ เด้อ เกี่ยวแซงหน้ายายบู่ไปเลย” เมื่อทุกคนเห็นน้องบีมแต่งตัวลงมาเกี่ยวข้าวด้วย ต่างพูดแซวด้วยความเอ็นดู “สองใหญ่อยู่เฮือนบ่อคือบ่อมาเกี่ยวข้าวซอยยาย
“แมน! พี่ปาวกับพี่แป้งอยู่เฮือน บอสขออี่แม่ซื้อกางเกงตั้วใหญ่บู่ ส่วนอี่บีมมันสิเอาหยังบุ อ้ายบอมกับอ้ายบอลเอาเสื้อแขนยาวมั้ง” บอสตอบ บรรยากาศที่นาตอนเช้าเย็นมาก อากาศดีแม้แดดจะเริ่มออกมาบ้างแล้วก็ตาม ทว่ายังมีลมพัดโบกอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้ไม่ร้อนมาก
“น้องบีมเอาเกิบกับเสื้อแขนยาวตั้วใหญ่บู่” น้องบีมตอบพร้อมปั้นข้าวเหนียวข้าวปากเคี้ยว ป้อนโดยยายอีกทีหนึ่ง
“ใหญ่เป็นสาวแล้วก็ให้ยายป้อนข้าวเด้เดี๋ยวหนิ” ป้าลีแซวหลานสาวคนเล็ก น้องบีมหัวเราะแก้เขิน
“เสื้อแขนยาวโตละห้าร้อยโตละพันนั่นบ่อ น้องแขแอ่วซื้ออยู่ แม่มันบ่อให้ซื้อ เป็นหยังมาพากันใส่แพงแถะ โตล่ะร้อยสองร้อยกะใส่โลดเป็นหยัง” ยายบู่พูด บอสก็ได้แต่ยิ้ม ยายบู่ไม่เข้าใจหรอก
“ลูกบักวิทย์เด้อฝาแฝดมันน่ะ ใส่เสื้อผ้ามีตะโตแพง ๆ ใส่ของมียี่ห้อ โตละห้าร้อยโตละพัน บักวิทย์จ่มอยู่ ตะเมียมันตามใจลูกว่าทอใดกะซื้อให้เมิด ” แม่นิดพูดถึงสองฝาแฝด นี่ลุงวิทย์ลุงของฉันนะ อย่าลืมว่าพ่อฉันเป็นน้องชายของลุงวิทย์ นี่นินทาระยะเผาขนกันเลยหรือ เธอแอบกลอกตามองบนกับสิ่งที่ได้ยิน และ ค่อนขอดในใจ นั่งฟังผู้ใหญ่คุย
“ตะเขามีเงินล่ะว้า ลูกเขาขอใส่โตละทอใดเขากะซื้อให้ จังมูเฮาบ่อกล้าซื้อให้ลูกใส่แล้ว แพงโพดเว้ยบ่อแมนข้าราชการ” อืมม์ นินทากันต่อหน้าต่อตาแบบนี้ก็ได้เหรอ ยังไม่หยุดพูดกันอีก บอสทำได้เพียงนึกในใจเท่านั้น อยากใส่ใครจะทำไม มีเงินอยากซื้อของยี่ห้อใส่แค่ตัวเดียวจะทำไม ใครมีเงินอยากซื้อตัวละหนึ่งร้อยบาทสิบตัวก็ซื่อไปสิ แอบเหวี่ยงคนงานของยายในใจระหว่างทานข้าวมื้อเช้ากัน
“ลูกเขยเรากะลูกอี่มวนนั่นเด้ มาเฝ้ากันซุมื้อ แมนบ่อนาง” แม่แบหันมาถาม
“แมน! อ้ายเม้าส์” เธอตอบแบบไม่ยินดียินร้ายด้วย จากนั้นคนงานก็เปลี่ยนเรื่องคุย พูดไปเรื่อยเปื่อยตามประสา
เจ็ดโมงเช้ายายกับตาพาคนงานนั่งทานข้าวบนเถียงนา มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงมาเกี่ยวข้าวรับจ้างยายในวันนี้ บนเถียงนานั่งกันไม่พอต้องแบ่งมานั่งลานดินข้างล่างด้วย ปูเสื่อนั่งกินข้าว โม้กันไปเรื่อย ที่ฟัง ๆ ดูเห็นจะเป็นเรื่องนินทาชาวบ้านเป็นส่วนใหญ่
แผนการทำงานในวันนี้ ยายจะพาคนงานเริ่มเกี่ยวมาจากฝั่งติดลำห้วยก่อน เกี่ยวขึ้นมาหาเถียงนา กะไว้ให้เสร็จภายในวันนี้นั่นแหละ ถ้าไม่เสร็จก็ไม่ให้เกินพรุ่งนี้วันอาทิตย์ ค่าแรงวันละสี่ร้อยบาท เพราะจ้างก่อนใคร ๆ เพราะเริ่มเกี่ยวข้าวก่อนใคร ๆ จึงได้ค่าแรงที่ถูก
ถ้าช่วงเดือนธันวาคมคนเกี่ยวข้าวเยอะ คนเริ่มทยอยลงเกี่ยวข้าวกันมาก ทำให้คนงานขาดแคลน จำต้องเพิ่มค่าแรงเกทับกันเพื่อแย่งคนงาน ค่าแรงเกี่ยวข้าวก็จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ สูงสุดถึงวันละหกเจ็ดร้อยก็มี สูงกว่านี้ก็เปลี่ยนเป็นการรับเหมาแทน
บางคนสู้ค่าแรงที่สูงไม่ได้จำต้องทนเกี่ยวกันเองก็มี ยายเกี่ยวในช่วงต้นฤดูกาล จึงยังได้ค่าแรงที่ถูกอยู่ วันละสี่ร้อยบาทแถมยังเลี้ยงข้าวอีกด้วย พอทานข้าวเสร็จ บอสกับน้องบีมเตรียมพร้อมมาก สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว หมวกมีปีก ถุงมือถุงเท้าอย่างพร้อมที่สุด เคียวคนละด้าม เดินลงไปปลายนากับยายและคนงานคนอื่น ๆ
“บอสกับบีมมาลงไฮนำยาย อย่าไปเคืองเพิ่นเฮ็ดเวียก” ยายเรียกเธอกับน้องบีม “บอมกับบอลนำ มาลงไฮนำยายคือกัน” ถึงจะเป็นเจ้าของนา ถึงจะเป็นนายจ้างก็ต้องทำไปพร้อม ๆ กับคนงาน เมื่อมาถึงปลายนา ยายก็พาคนงานเริ่มลงมือเกี่ยวข้าวในทันที
ทุกคนลงแขกเกี่ยวข้าวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย เพราะมีหลายคนจึงทุ่นแรงไปเยอะ แต่ละตานาเกี่ยวแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว เสียงหัวเราะเสียงพูดคุยของคนงานทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงา
บอสก้ม ๆ เงย ๆ สองสามครั้งก็เสร็จไปแล้วหนึ่งตานา เนื่องจากมียาย ป้าลี แม่หลอด และ คนอื่น ๆ เกี่ยวช่วย คนงานไม่ถือสาพวกเธอสี่คนพี่น้องที่ทำช้า เพราะแค่มาช่วยเสริมกำลังของตนเองเท่านั้น ตรงไหนมีข้าวล้มบอสก็ไม่เกี่ยว ปล่อยให้ผู้ใหญ่ทำกันไป
“มื้อลอยกระทงมื้อใดบอสปีหนิ” แม่หลอดถาม เกี่ยวข้าวไปด้วย ชวนเธอพูดคุยไปด้วย นาใกล้ ๆ กันก็มีคนลงเกี่ยวข้าวแล้วเช่นกัน