สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากห่างหายกันไปนาน วันนี้เช่นเคย เราก็มีไอเทมสำหรับคนชอบทำอาหารด้วยวิธีง่ายๆ มารีวิวให้ดูกัน เพราะเราก็เป็นหนึ่งในนั้น 5555 นั่นก็คือ ซอสผัดกะเพรา ตราแม่หยก 

นางเป็นซอส กะเพราสำเร็จรูป บรรจุในถุงปริมาณ 300 กรัม โดยจะมาพร้อมกระป๋อง สำหรับใส่ซอสผัดกะเพราหลังจากแกะถุงออก ทั้งตัวซอสกะเพรา ตราแม่หยกจะเน้นใช้ส่วนผสมในการทำกะเพรามาทำซอส อาทิ พริก,กระเทียม,ใบกระเพรา และ ซอสเครื่องปรุ่งต่าง ๆ ในรูปแบบซอสสำเร็จรูปพร้อมผัด หรือทำน้ำซอสราด เดี้ยวเรามาดูวิธีทำกันได้เลยค่ะ

ตัวซอสที่มีมาให้จะมีปริมาณ 300 กรัม ซึ่งพอหลังจากที่เอาซอสออกมาแล้ว ก็ให้ใช้กรรไกร ตัดตามรอยฉีก จากนั้นก็ให้เทลงถ้วยที่มีมาให้ 

แล้วตักใช้ตามปริมาณ ที่เหมาะสมกับอาหารที่ทำได้เลยค่ะ

โดยในส่วนของ สีของน้ำซอสผัดกะเพรา จะมีสีแดงเข้มและมีกลิ่นน้ำผัดกระเพราเลย เพราะด้วย ตัวพริก กระเทียม และส่วนผสมต่างๆที่นำมาบดเข้ากันเป็นอย่างดีทำให้กลิ่นที่ออกมา ให้ความรู้สึกเหมือนกะเพราตามร้านอาหารเลย

โดยเมนูที่เราจะทำในวันนี้จะเป็นกะเพราหมูสับ และ ข้าวผัดกะเพราทะเล โดยอาศัยวัตถุดิบที่มีอยู่แล้ว ในตู้เย็น แล้วเอามาผัดเพิ่มกับ ซอสกะเพรา ตราแม่หยก

โดยส่วนประกอบมีดังต่อไปนี้

1.ข้าวผัดกะเพราทะเล

-ซอสผัดกะเพรา จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ

-ปลาหมึกกล้วย หั่นตามขวาง 2 ตัว

-กุ้งแม่น้ำ หรือกุ้งอุรา 4-5 ตัว

-ใบกะเพราเด็ดแล้ว 1-2 ต้น

2. กระเพราหมูสับราดด้วยใบกะเพรากรอบ

-หมูบด 100 กรัม

-ซอสผัดกะเพรา จำนวน 3 ช้อนโต๊ะ

-ใบกะเพรา 5-10 ใบ

-น้ำมันพืช 3 ถ้วยตวง

เริ่มทำกันเลย

ทำใบกะเพราทอดกรอบกันก่อนเลยค่า

สำหรับใครที่ชอบใบกะเพราะที่กรอบ ๆ เวลาทานคู่กับเนื้อหมูแล้วยังไม่เสียรสชาติของใบกะเพรา ก็แนะนำให้ทอดใบกะเพราทิ้งไว้ก่อนแล้วค่อยนำมาราดบนหมูสับผัดกะเพรา

ก่อนอื่นเปิดเตาด้วยความร้อนปานกลาง พร้อมเทน้ำมันพืชที่เตรียมไว้สำหรับทอดใบกะเพรา

นำใบกะเพราที่เด็ดมาจากต้นแล้ว ลงทอดในน้ำมันที่เตรียมไว้ ทั้งนี้ควรใช้ใบที่เด็ดมาจากกลางลำต้น หรือใบที่มีไม่เล็กจนเกินไป

ทอดจนใบมีลักษณะห่อตัวกรอบ แต่ไม่ต้องถึงขั้นสุกมากเดี๋ยวใบจะไหม้ดูไม่น่าทาน

เมื่อทอดจนกรอบได้ที่แล้ว ก็นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน ทิ้งไว้รอผัดตัวหมูสับ

นำหมูสับที่เตรียมไว้ลงทอดกับตัวน้ำมันที่ตั้งไว้ความร้อนปานกลาง

ผัดจนตัวหมูสับที่ลงในกระทะเปลี่ยนสีจากสีแดงเป็นสีขาว

จากนั้นให้น้ำซอสผัดกะเพราตรา แม่หยก ใส่ลงไปในกระทะ จากนั้นผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็เป็นอันเสร็จ

ในขั้นตอนนี้ หากใครต้องการใส่ ใบกะเพราเพิ่ม ก็สามารถใส่ได้ แต่ที่จริงแล้ว ตัวซอสเองได้มีการนำใบกะเพราเป็นส่วนผสมอยู่แล้ว ขึ้นอยู่แต่ ความชอบของแต่ละคนได้เลยว่าอยากเพิ่มอะไรลงไปอีก

เมื่อเนื้อหมูที่ผัดกับซอสเป็นเนื้อเดียวแล้ว ก็ให้ตักใส่จานได้เลย 

กลิ่นหอมมากกก แล้วก็ไม่มีน้ำหรือซอสเยอะจนเกินไป ใครที่ชอบกินแบบแห้ง ๆ แนะนำให้ใช้สูตรนี้ก็ได้ บอกเลยว่า แซ่บเวอร์

มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนู ก็คือข้าวผัดกระเพราทะเล ซึ่งอันนี้ก็ทำไม่ยากเช่นกันแต่ก็จะมีเพิ่มส่วนผสมที่หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นปลาหมึกกล้วย กุ้ง ข้าวสวย แล้วก็ใบกะเพรา

ขั้นตอนแรกให้นำปลาหมึกที่หั่นไว้แล้วนำไปผัด บนกระทะที่ร้อนแล้ว จากนั้นให้ใส่กุ้งที่เตรียมไว้ลงไปต่อ ทั้งนี้ ให้ผัดด้วยไฟปานกลางไม่ต้องแรงมากเดี้ยวจะไหม้ซะก่อน

หลังจากนั้นให้นำข้าวสวยที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระทะ

ใส่น้ำซอส ผัดกะเพา ตราแม่หยก ลงไป ในกระทะแล้วผัดให้ซอส คลุกเคล้าไปกับ ข้าวสวย และ เนื้อสัตว์ที่ลงไปในกระทะก่อนหน้านี้ เมื่อคลุกเคล้าจนได้ที่แล้วให้ใส่ใบกระเพราที่เด็ดและล้างน้ำแล้วลงไปในกระทะ 

เมื่อเนื้อ กุ้งและเนื้อปลาหมึกสุกได้ที่แล้ว พร้อมทั้งตัวข้าวมีความเข้ากับ น้ำซอส ที่ใส่ลงไปเรียบร้อยแล้ว ให้ตักใส่จานพร้อมเสริฟได้เลย

เสร็จเรียบร้อยแล้ว กับข้าวผัดกะเพราทะเล ในฉบับของเราเองบอกเลยว่าทั้งรสชาติและกลิ่นมีความหอม แล้วก็อร่อยลงตัวสุด ๆ

ต้องบอกเลยว่าตัวซอสผัดกะเพรา ค่อนข้างตอบโจทย์ สำหรับคนที่ชอบทานกะเพราแต่ว่าทำไม่เป็น หาวัตถุดิบยาก หรือจะเป็นพวกร้านอาหารถ้ามีตัวซอสนี้ ก็น่าจะช่วยเบาแรงได้เยอะ เพราะนอกจากจะสามารถเก็บรักษาง่าย ใช้ได้หลายครั้ง เพราะ หนึ่งถุงมีปริมาณ 300 กรัม แล้วก็ไม่ต้องไปหาส่วนผสมอื่นมาใส่เพิ่มให้ยุ่งยาก เพราะ ตัวน้ำซอส ได้รวมส่วนผสมที่จำเป็นสำหรับกะเพรามาไว้ให้ครบแล้ว แต่ทั้งนี้หากใครจะต้องการใส่ ส่วนประกอบเพิ่มเติม พวกเนื้อสัตว์ หรือจะเป็นใบกะเพราก็สามารถใส่เพิ่มตามใจชอบได้เลย

ทั้งนี้ใครที่อยากลองทำตามก็สามารถทำได้เลย ไม่ห่วงสูตรกัน ส่วนสำหรับ ซอสผัดกะเพรา ตราแม่หยกแล้ว บอกไว้เลยว่าควรมีติดครัวไว้

ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ สำหรับครั้งหน้าเราจะมีอะไรมาดีๆ แชร์ให้ดูกันอีกเดี๋ยวคอยติดตามด้วยนะคะ สำหรับครั้งนี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ