สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
เราทำงานโรงบาลที่อังกฤษ หมอด่าคนไข้แบบนี้โดนสอบสวนแน่ แล้วไม่มีทางที่
โรงบาลจะไล่คนไข้กลับบ้าน อย่างมากไม่ด่วนก้อนั่งรอไป 5-6 ชั่วโมง ว่างแล้วค่อยตรวจ
ทำงานมามากกว่าสิบปี ไม่เคยเจอหมอไล่ใครกลับบ้าน ที่นี่อย่าคิดว่าฝรั่งจะรอให้ใกล้ตาย
ค่อยมาโรงบาล บางคนปวดท้อง ไปไล่เค้ากลับบ้าน เกิดเป็นไรมาหมอตกงานแน่นี่หมายถึงที่อยู่นะ
หมอคนนี้ไม่มีสติสัมปชัญญะ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ควรจะประเมินการกระทำของตัวเอง
สิ่งที่รัดบาลควรทำมากตอนนี้คือ ลงโฆษณาให้คนไทยตระหนักว่า ห้องฉุกเฉินสำหรับคนอาการหนัก
เป็นการช่วยให้คนไทยค่อยๆเปลี่ยทัศนคติจากเป็นนิดหน่อยก้อไปห้องฉุกเฉิน
โรงบาลจะไล่คนไข้กลับบ้าน อย่างมากไม่ด่วนก้อนั่งรอไป 5-6 ชั่วโมง ว่างแล้วค่อยตรวจ
ทำงานมามากกว่าสิบปี ไม่เคยเจอหมอไล่ใครกลับบ้าน ที่นี่อย่าคิดว่าฝรั่งจะรอให้ใกล้ตาย
ค่อยมาโรงบาล บางคนปวดท้อง ไปไล่เค้ากลับบ้าน เกิดเป็นไรมาหมอตกงานแน่นี่หมายถึงที่อยู่นะ
หมอคนนี้ไม่มีสติสัมปชัญญะ ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ควรจะประเมินการกระทำของตัวเอง
สิ่งที่รัดบาลควรทำมากตอนนี้คือ ลงโฆษณาให้คนไทยตระหนักว่า ห้องฉุกเฉินสำหรับคนอาการหนัก
เป็นการช่วยให้คนไทยค่อยๆเปลี่ยทัศนคติจากเป็นนิดหน่อยก้อไปห้องฉุกเฉิน
ความคิดเห็นที่ 4
แยกออกเป็นสองกรณีค่ะ การถ่ายคลิป
ออกมาแบบนี้แบบนี้ รพ.ฟ้องและมีสิทธ์
ให้ถอนการแพร่ภาพทันที คนไข้และ
ญาติไม่มีสิทธ์ที่จะทำแบบนี้ในประเทศ
ที่ตัวเองทำงานอยู่ กฏหมายรุนแรงและ
เอาจริงอยู่
ส่วนกรณีหมอด่าและไล่กลับบ้าน โดย
ไม่มีการตรวจ ผิดกฏค่ะ ตรวจแล้วอาการ
ไม่เร่งด่วนมีสิทธ์ ไล่กลับบ้าน ไล่กลับไป
ตรวจกับผู้เชี่ยวชาญ หรือส่งต่อให้ไปตรวจ
กับแพทย์ประจำบ้านได้
แต่แผนกฉุกเฉินมีสิทธ์ให้คนไข้รอตรวจ
ตามความเร่งด่วน ให้รอนาน4-5ชม. หรือ
นานกว่าเป็นสิทธ์ตามการรักษาความเร่ง
ด่วน ซึ่งคนไข้ฉุกเฉินต้องยอมรับ
ออกมาแบบนี้แบบนี้ รพ.ฟ้องและมีสิทธ์
ให้ถอนการแพร่ภาพทันที คนไข้และ
ญาติไม่มีสิทธ์ที่จะทำแบบนี้ในประเทศ
ที่ตัวเองทำงานอยู่ กฏหมายรุนแรงและ
เอาจริงอยู่
ส่วนกรณีหมอด่าและไล่กลับบ้าน โดย
ไม่มีการตรวจ ผิดกฏค่ะ ตรวจแล้วอาการ
ไม่เร่งด่วนมีสิทธ์ ไล่กลับบ้าน ไล่กลับไป
ตรวจกับผู้เชี่ยวชาญ หรือส่งต่อให้ไปตรวจ
กับแพทย์ประจำบ้านได้
แต่แผนกฉุกเฉินมีสิทธ์ให้คนไข้รอตรวจ
ตามความเร่งด่วน ให้รอนาน4-5ชม. หรือ
นานกว่าเป็นสิทธ์ตามการรักษาความเร่ง
ด่วน ซึ่งคนไข้ฉุกเฉินต้องยอมรับ
ความคิดเห็นที่ 20
คนที่เข้าข้างหมอแล้วบอกดูคลิปแล้วน่ะ
คิดใหม่ดีๆ
วัด vital signs ก็ยังไม่ได้ทำ
ตรวจก็ยังไม่ได้ตรวจ
ด่าไล่เขาปาวๆ
เอาแค่มารยาทพื้นฐานความเป็นมนุษย์ก่อน เป็นแพทย์ ต้องมีจิตเมตตาเป็นที่ตั้ง
ต่อให้ไม่ด่วน ไม่ฉุกเฉินจริง ก็ดูให้ไปเถอะ คิดว่าเป็นญาติ เป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมโลกมาขอความช่วยเหลือ คนไม่ทุกข์ดึกดื่นเขาไม่มาหรอก เสร็จแล้วก็พูดอธิบายดีๆ หรือจะสินก็ได้ว่าครั้งหน้าคราวหลังอยากให้มาในเวลา เห็นใจหมอหน่อยนะภาระงานหนักอะไรก็ว่าไป
ไอ่ส่วนที่เราไม่รู้ทางฝั่งแพทย์เช่นโดนอัดโหมเวรมาจนภาระงานหนักรับไม่ไหว อารมณ์เลยขึ้นตลอด อันนั้นมันก็ไม่ใช่ความผิดประชาชน ไปร้องไปแก้ระบบเอาภายใน อย่ามาลงกับคนไข้
คิดใหม่ดีๆ
วัด vital signs ก็ยังไม่ได้ทำ
ตรวจก็ยังไม่ได้ตรวจ
ด่าไล่เขาปาวๆ
เอาแค่มารยาทพื้นฐานความเป็นมนุษย์ก่อน เป็นแพทย์ ต้องมีจิตเมตตาเป็นที่ตั้ง
ต่อให้ไม่ด่วน ไม่ฉุกเฉินจริง ก็ดูให้ไปเถอะ คิดว่าเป็นญาติ เป็นเพื่อนบ้าน เพื่อนร่วมโลกมาขอความช่วยเหลือ คนไม่ทุกข์ดึกดื่นเขาไม่มาหรอก เสร็จแล้วก็พูดอธิบายดีๆ หรือจะสินก็ได้ว่าครั้งหน้าคราวหลังอยากให้มาในเวลา เห็นใจหมอหน่อยนะภาระงานหนักอะไรก็ว่าไป
ไอ่ส่วนที่เราไม่รู้ทางฝั่งแพทย์เช่นโดนอัดโหมเวรมาจนภาระงานหนักรับไม่ไหว อารมณ์เลยขึ้นตลอด อันนั้นมันก็ไม่ใช่ความผิดประชาชน ไปร้องไปแก้ระบบเอาภายใน อย่ามาลงกับคนไข้
ความคิดเห็นที่ 5
ผมเคยตั้งกระทู้ เรื่องประมาณนี้
สมาชิกหลายๆท่าน ที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ
ยืนยันแน่นอนครับ ว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แค่เป็นไข้ 37.5 องศา ไปแผนกฉุกเฉินตอนที่ 2 ตี 3
ก็ได้พบหมอ และได้รับการรักษา ครับ
ถึงแม้อาการ "ไม่ด่วน ไม่ฉุกเฉิน" แผนกฉุกเฉินก็ยินดีรับมาดูแลอาการ และรักษาในทันใด ครับ
พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่แพทย์ เจ้าหน้าที่พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ในประเทศไทยนั้น
ค่อนข้างแตกต่างจาก เจ้าหน้าที่ในประเทศที่พัฒนาแล้วครับ
ผมเคย เดา เอาไว้ว่า
ในประเทศไทยนั้น เด็กที่เรียนหนังสือเก่งมากๆ จะถูกโน้มน้าว ชักจูง เชิญชวน หรือ บางครอบครัวก็ ขอร้อง หรือ อาจจะมีบ้างที่ผลักดัน
ให้เด็กไทยที่เรียนเก่งมากๆเหล่านั้น ไปเข้าเรียนเป็นแพทย์
คือ เด็กจำนวนหนึ่ง ก็เรียนโดยที่ไม่ได้มี "ใจรัก" อยากจะทำอาชีพนี้
(ย้ำว่า จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด)
ในส่วนที่เรียนสาย พยาบาล ก็ทำนองเดียวกันว่า จะได้รับการชักจูง โน้มน้าว ฯลฯ ให้เรียนพยาบาล
หลายๆครอบครัวก็ให้เหตุผลกับลูกหลานว่า "เรียนจบมา มีงานทำแน่นอน ไม่ต้องกลัวต้องตกงาน"
ก็จะคล้ายๆกันคือ เด็กจำนวนหนึ่ง ก็เข้าเรียนจนจบและทำงาน โดยที่ไม่ได้มี "ใจรัก" ในการทำงานอาชีพนี้
ในขณะที่ ในประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น
เด็กที่จะสอบเข้าเพื่อเรียนไปเป็นแพทย์นั้น เขาเลือกเรียนด้วยความอยากเรียน มากกว่าที่บุคคลรอบตัวเลือกให้เขาเรียน
ไม่ว่าจะเรียนแพทย์ เรียนพยาบาล เด็กจะเลือกเรียน เพราะอยากเรียน
และ
นี่ก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ประเทศพัฒนาแล้ว อาชีพแพทย์ และ พยาบาล ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการ
เพราะ เด็กที่เลือกเรียน มีจำนวนไม่พอกับความต้องการในประเทศครับ
ผมเคยดู Stand up Comedy คนเอเซียในสหรัฐฯ ในแคนาดา ในอังกฤษ
ก็เอาเรื่องนี้มาล้อเลียนครับ ว่า
พ่อแม่ชาวเอเชีย ถ้ามีลูกเรียนเก่ง ก็จะผลักดันให้ลูกเรียนหมอกันหมดครับ
สมาชิกหลายๆท่าน ที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ
ยืนยันแน่นอนครับ ว่า ในประเทศที่พัฒนาแล้ว แค่เป็นไข้ 37.5 องศา ไปแผนกฉุกเฉินตอนที่ 2 ตี 3
ก็ได้พบหมอ และได้รับการรักษา ครับ
ถึงแม้อาการ "ไม่ด่วน ไม่ฉุกเฉิน" แผนกฉุกเฉินก็ยินดีรับมาดูแลอาการ และรักษาในทันใด ครับ
พฤติกรรมของเจ้าหน้าที่แพทย์ เจ้าหน้าที่พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ในประเทศไทยนั้น
ค่อนข้างแตกต่างจาก เจ้าหน้าที่ในประเทศที่พัฒนาแล้วครับ
ผมเคย เดา เอาไว้ว่า
ในประเทศไทยนั้น เด็กที่เรียนหนังสือเก่งมากๆ จะถูกโน้มน้าว ชักจูง เชิญชวน หรือ บางครอบครัวก็ ขอร้อง หรือ อาจจะมีบ้างที่ผลักดัน
ให้เด็กไทยที่เรียนเก่งมากๆเหล่านั้น ไปเข้าเรียนเป็นแพทย์
คือ เด็กจำนวนหนึ่ง ก็เรียนโดยที่ไม่ได้มี "ใจรัก" อยากจะทำอาชีพนี้
(ย้ำว่า จำนวนหนึ่ง ไม่ใช่ทั้งหมด)
ในส่วนที่เรียนสาย พยาบาล ก็ทำนองเดียวกันว่า จะได้รับการชักจูง โน้มน้าว ฯลฯ ให้เรียนพยาบาล
หลายๆครอบครัวก็ให้เหตุผลกับลูกหลานว่า "เรียนจบมา มีงานทำแน่นอน ไม่ต้องกลัวต้องตกงาน"
ก็จะคล้ายๆกันคือ เด็กจำนวนหนึ่ง ก็เข้าเรียนจนจบและทำงาน โดยที่ไม่ได้มี "ใจรัก" ในการทำงานอาชีพนี้
ในขณะที่ ในประเทศที่พัฒนาแล้วนั้น
เด็กที่จะสอบเข้าเพื่อเรียนไปเป็นแพทย์นั้น เขาเลือกเรียนด้วยความอยากเรียน มากกว่าที่บุคคลรอบตัวเลือกให้เขาเรียน
ไม่ว่าจะเรียนแพทย์ เรียนพยาบาล เด็กจะเลือกเรียน เพราะอยากเรียน
และ
นี่ก็น่าจะเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ประเทศพัฒนาแล้ว อาชีพแพทย์ และ พยาบาล ขาดแคลนและเป็นที่ต้องการ
เพราะ เด็กที่เลือกเรียน มีจำนวนไม่พอกับความต้องการในประเทศครับ
ผมเคยดู Stand up Comedy คนเอเซียในสหรัฐฯ ในแคนาดา ในอังกฤษ
ก็เอาเรื่องนี้มาล้อเลียนครับ ว่า
พ่อแม่ชาวเอเชีย ถ้ามีลูกเรียนเก่ง ก็จะผลักดันให้ลูกเรียนหมอกันหมดครับ
แสดงความคิดเห็น
คนไทย ยังไม่เข้าใจ ความหมายของห้อง "ฉุกเฉิน-อุบัติเหตุ" เหมือนต่างประเทศ จริงหรือไม่ ???
หมอได้บอกว่า
"มันไม่ด่วนไง ด่วนคือ หายใจเร็ว เกือบตาย เจ็บอก จะคลอดลูก"
จากนั้นก็ชี้ให้อ่านป้ายหน้าห้อง "ฉุกเฉิน-อุบัติเหตุ"
"เมืองนอกก็ไม่ทำแบบนี้ ทุกที่ที่รักษาฟรีเขาไล่กลับบ้านหมด
มีแต่เมืองไทยนี่แหละที่ตรวจให้"
"ต้องใกล้ตายถึงมาได้"
https://hilight.kapook.com/view/217943
ห้องฉุกเฉินคืออะไร
ห้องฉุกเฉิน แผนกฉุกเฉิน หรือ ER ที่ให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินตั้งแต่ข้อเท้าแพลง
โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง ห้องฉุกเฉินจะมีสถานที่ แพทย์
และผู้ชำนาญการที่พร้อมรับมือกับผู้ป่วยฉุกเฉินในทุกสถานการณ์
ศูนย์อุบัติเหตุคืออะไร
ศูนย์อุบัติเหตุเป็นส่วนหนึ่งของห้องฉุกเฉิน มีหน้าที่ให้การดูแลรักษาผู้บาดเจ็บวิกฤติ
ศัลยแพทย์เฉพาะทางและเครื่องมือที่ทันสมัยเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บาดเจ็บรอดชีวิต
ศูนย์อุบัติเหตุเป็นสถานที่ที่รับมือกับผู้บาดเจ็บที่มีภาวะวิกฤติเป็นอันตรายถึงชีวิต