จากกราฟปริมาณน้ำฝนของสำนักการระบายน้ำจากเดือนเมษายนถึงตุลาคมที่ผ่านมา
https://dds.bangkok.go.th/rain_graph.php

จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่าแม้ปริมาณฝนรวมของปีนี้ (1,835.55 มิลลิเมตร) จะสูงกว่าปีที่แล้วและสูงกว่าค่าเฉลี่ยคาบ 30 ปีแต่ลักษณะการตกของฝนปีนี้แปลกมาก 
เริ่มจากปริมาณฝนในเดือนเมษาสูงผิดปกติ สูงกว่าค่าเฉลี่ย 30 ปีและปีที่แล้ว (2563)
ส่วนเดือน พ.ค เท่าที่ผมจำได้ อากาศร้อนมาก ฝนแทบไม่มี แต่ในกราฟนี้มีฝนพอๆ กับเดือนเมษาเลย แอบแปลกใจว่าเป็นไปได้อย่างไร เพราะใครก็บอกว่าปีนี้ เดือนพ.ค ร้อนที่สุด เพราะฝนไปตกเมษาแทนซะ กำลังคิดไปว่ามันตกตอนไหนหว่า

พอถึงเดือนมิถุนายน อันนี้แหละ พอกรมอุตฯ ประกาศเข้าฤดูฝนปั๊ป ฝนหายปุ๊บ ฝนน้อยผิดปกติ ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยและปีที่แล้ว 
และคิดว่าน่าจะน้อยที่สุดในรอบหลายปี (ของเดือน มิ.ย) เลย

พอเข้าช่วงฤดูฝนจริงๆ ถ้าวัดจาก 4 เดือน (ก.ค ถึง ต.ค) ตามปกติ ก.ย จะเป็นเดือนที่ฝนชุกที่สุด รองลงมาคือ ต.ค แต่ปีนี้กลับกลายเป็นว่าฝนชุกที่สุด อยู่ในเดือน ส.ค รองลงมาคือ ก.ค (สูงกว่าค่าเฉลี่ยและปีที่แล้ว) 
ส่วนเดือน ก.ย ต่ำกว่าทั้งค่าเฉลี่ยและปีที่แล้ว
และเดือน ต.ค ที่เพิ่งผ่านไป ปริมาณฝนสูงกว่าค่าเฉลี่ยแค่ 3 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นเช่นนี้เพราะได้ฝนเมื่อวันเสาร์ที่ 30 + อาทิตย์ 31 ต.ค ที่ผ่านมาช่วยไว้ ไม่งั้นคงจะต่ำกว่าและสรุปคือ ต่ำกว่าปีที่แล้วอีกด้วย  

ถ้าปริมาณฝนนี้เก็บจากทุกเขตใน กทม. แล้วผลเป็นเช่นนี้ แต่ถ้าไปดูแต่ละเขตน่าจะเห็นได้อีกว่า การกระจายของฝนดูไม่สมดุล บางเขตก็ตกเยอะ หลายเขตตกน้อย บางช่วงก็แทบไม่มีฝนหลายวันเลย (ยังกะฝนทิ้งช่วงแต่มีหลายช่วงหน่อย) แถมอากาศร้อนในหน้าฝนก็บ่อยกว่าแต่ก่อนจริงๆ คุณว่ามั้ยครับ

ส่วนจังหวัดอื่นๆ เป็นไงบ้างครับ คาดว่าหลายจังหวัดฝนน่าจะเยอะมากๆ เพราะน้ำท่วมกัน แต่ก็มีบางพื้นที่ฝนน้อยจนแล้งด้วยเช่นกัน ความสมดุลมันลดน้อยลงจริงๆ