ลานีญา ปีนี้มาแน่ เรามีมาตรการอะไรหรือยัง?

ลานีญา คืออะไร?
ลานีญา (La Niña) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน โดยมีลักษณะเด่นคือ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณตอนกลางและตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกต่ำกว่าปกติ ซึ่งตรงกันข้ามกับปรากฏการณ์เอลนีโญ


ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา

ลานีญา เกิดขึ้นได้อย่างไร?
ลมค้าพัดแรง: ลมค้า (trade winds) ที่พัดจากตะวันออกไปตะวันตกในมหาสมุทรแปซิฟิกจะมีความแรงมากกว่าปกติ ทำให้น้ำอุ่นถูกพัดไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียมากขึ้น
น้ำเย็นขึ้นมาแทนที่: เมื่อน้ำอุ่นถูกพัดออกไป น้ำเย็นจากใต้ทะเลลึกจะไหลขึ้นมาแทนที่บริเวณผิวน้ำ ทำให้อุณหภูมิผิวน้ำลดลง

ผลกระทบของลานีญา
ปรากฏการณ์ลานีญาส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ซึ่งมักจะเกิดฝนตกชุกกว่าปกติในช่วงที่เกิดลานีญา ในขณะที่บริเวณชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้จะเกิดภาวะแห้งแล้ง

ผลกระทบของลานีญาต่อประเทศไทย ในด้านที่น่าสนใจ
ปรากฏการณ์ลานีญานั้นส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของประเทศไทยอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในด้านปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิ ซึ่งจะนำมาซึ่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ ของประเทศมากมาย


ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา

ด้านปริมาณน้ำฝน
ฝนตกชุกกว่าปกติ: โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ปริมาณน้ำฝนจะมากกว่าปกติ ซึ่งอาจนำมาซึ่งผลดีและผลเสียผลดี: ช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้ง เพิ่มปริมาณน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ
ผลเสีย: อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัย
การกระจายตัวของฝนไม่สม่ำเสมอ: แม้ว่าโดยรวมแล้วจะมีฝนตกชุก แต่การกระจายตัวของฝนอาจไม่สม่ำเสมอ บางพื้นที่อาจได้รับฝนมากเกินไป ในขณะที่บางพื้นที่อาจยังคงประสบปัญหาภัยแล้ง

ด้านอุณหภูมิ
อุณหภูมิต่ำกว่าปกติ: โดยเฉลี่ยแล้ว อุณหภูมิของประเทศไทยจะต่ำกว่าปกติเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้รู้สึกเย็นสบายมากขึ้น
ความผันผวนของอุณหภูมิ: อุณหภูมิอาจมีความผันผวนมากกว่าปกติ โดยมีทั้งช่วงที่ร้อนจัดและเย็นจัดสลับกันไป

ผลกระทบต่อภาคส่วนต่างๆ
ภาคการเกษตร:พืชผลเสียหาย: พืชผลทางการเกษตรบางชนิดอาจได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม หรือโรคพืชที่เกิดจากสภาพอากาศชื้น
ผลผลิตเพิ่มขึ้น: พืชบางชนิดที่ต้องการน้ำมาก เช่น ข้าว อาจให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น
ภาคพลังงาน:ปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น: ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำสำหรับการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ
ภาคสาธารณสุข:โรคระบาด: สภาพอากาศที่ชื้นอาจทำให้เกิดโรคระบาดบางชนิด เช่น ไข้เลือดออก
ภาคการท่องเที่ยว:นักท่องเที่ยวน้อยลง: สภาพอากาศที่ไม่แน่นอน อาจทำให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลื่อนการเดินทาง

สัญญาณบ่งบอกว่าจะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา
ปรากฏการณ์ลานีญามีผลกระทบต่อสภาพอากาศทั่วโลกอย่างมาก การสังเกตสัญญาณบ่งบอกล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น


ที่มา กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

สัญญาณบ่งบอกหลักๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการพิจารณาว่าจะเกิดปรากฏการณ์ลานีญา ได้แก่:
1. อุณหภูมิผิวน้ำทะเล
ลดลงอย่างผิดปกติ: อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในบริเวณตอนกลางและตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนลดลงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเป็นเวลานาน
การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบกระแสน้ำ: การเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิก เช่น การอ่อนตัวของกระแสน้ำอุ่นเอลนีโญ
2. ความดันอากาศ
ความแตกต่างของความดันอากาศสูง: ความแตกต่างของความดันอากาศสูงระหว่างบริเวณตะวันออกและตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิกเพิ่มขึ้น
การเปลี่ยนแปลงของลมค้า: ลมค้าพัดแรงขึ้นและพัดพาน้ำอุ่นไปยังบริเวณตะวันตกมากขึ้น
3. ปริมาณฝน
ฝนตกน้อยกว่าปกติ: บริเวณชายฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกมักจะเกิดภาวะแห้งแล้ง
ฝนตกชุกกว่าปกติ: บริเวณอินโดนีเซียและออสเตรเลียมีฝนตกชุก
4. แบบจำลองคอมพิวเตอร์
การพยากรณ์ล่วงหน้า: นักวิทยาศาสตร์ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อพยากรณ์การเกิดปรากฏการณ์ลานีญาได้ล่วงหน้าหลายเดือน
5. ดัชนี Nino3.4
ค่าเป็นลบ: ดัชนี Nino3.4 เป็นค่าที่ใช้วัดอุณหภูมิผิวน้ำทะเลเฉลี่ยในบริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อค่าดัชนีนี้เป็นลบ แสดงว่ามีแนวโน้มเกิดปรากฏการณ์ลานีญา


https://www.climate.gov/media/8585



ตัวอย่างเหตุการณ์ในอดีต

น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทยปี 2554
น้ำท่วมใหญ่ในปี พ.ศ. 2554 ถือเป็นหนึ่งในวิกฤตการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นวงกว้าง ปรากฏการณ์ลานีญาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดฝนตกหนักและต่อเนื่อง จนนำไปสู่เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์นี้


ผลกระทบที่เกิดขึ้น
ความเสียหายทางเศรษฐกิจ: น้ำท่วมครั้งนี้ก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมหาศาล ทั้งในภาคอุตสาหกรรม การเกษตร และบริการ
ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐาน: ถนน สะพาน อาคาร และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ปัญหาสุขอนามัย: น้ำท่วมทำให้เกิดปัญหาสุขอนามัย เช่น โรคระบาด และการขาดแคลนน้ำสะอาด
ผลกระทบต่อจิตใจ: ประชาชนที่ประสบภัยต้องเผชิญกับความสูญเสียและความเครียดทางจิตใจ

บทเรียนที่ได้จากเหตุการณ์
เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 เป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้เห็นถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติ การบริหารจัดการน้ำ และการวางแผนการพัฒนาเมืองที่คำนึงถึงความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติ

การป้องกันและบรรเทาภัยในอนาคต
ระบบเตือนภัยล่วงหน้า: พัฒนาระบบเตือนภัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมตัวรับมือล่วงหน้า
การบริหารจัดการน้ำ: ปรับปรุงระบบบริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งในด้านการกักเก็บน้ำและการระบายน้ำ
การสร้างเขื่อนและคันกั้นน้ำ: สร้างเขื่อนและคันกั้นน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม
การปลูกป่า: การปลูกป่าช่วยลดความรุนแรงของน้ำท่วมและดินสไลด์
 


ปีนี้ น่าจะมาแน่ บ้านเราพร้อมรับน้ำท่วมแบบ 54 หรือยัง?

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่