เราอายุ23ปีค่ะ เรามีลูกตอนนี้อายุ3ขวบแล้ว ตอนนี้ลูกอยู่กับฝั่งแฟนเราค่ะ เราเพิ่งออกมาหางานทำตอนนี้ได้ทำได้9เดือนแล้วค่ะหลังจากที่เลี้ยงลูกเอง ฝั่งทางบ้านแฟนมีความคิดเห็นว่าเขาอาสาจะเลี้ยงลูกเราให้ให้เรามาหางานทำเราเลยเลือกทำอยู่ในเมืองใกล้ๆลูกๆ แฟนเราทำงานอีกจังหวัดหนึ่งไม่ได้อยู่ด้วยกันเราเลือกจะอยู่ใกล้ลูกเพราะเราคิดถึงลูก เลยเช่าห้องอยู่คนเดียวตอนแรกทำใจไม่ได้เลยค่ะร้องไห้คิดถึงลูกทุกวันไม่มีจิตใจทำงานเลย แต่เหตุการณ์มาพีคอีกเรารับรู้ว่าแฟนเรานอกใจเรารู้มาตั้งแต่ต้นปีใหม่เพราะสามีฝั่งผู้หญิงทักมาบอกเราสามีฝั่งผู้หญิงรอให้เราลงมาจัดการกับแฟนเราและผู้หญิงคนใหม่ แต่ด้วยสถานการณ์โควิดทำให้ทุกวันนี้เรายังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับแฟนเลยค่ะและเขาคงยังไม่รู้ว่าเรารู้เเล้วว่าเขามีคนอื่น จน ณ ปัจจุบันนี้เขาสองคนย้ายมาอยู่ด้วยกันแล้วค่ะเราไม่คิดว่าเขาจะทำถึงขนาดเช่าบ้านอยู่ด้วยกันเราสองคนไม่ได้จดทะเบียนสมรสกันค่ะ เราไม่รู้ว่าฝั่งญาติแฟนรู้เรื่องไหมเพราะเรายังไม่บอก อันที่จริงพอรู้แบบนี้ไม่มีความคิดที่จะคบกับแฟนต่อเลย ก่อนหน้านี้ทำใจได้นิดนึงแล้วค่ะตลอดที่คบกันมา5ปีจนเราท้องเขานอกใจเรามาตลอดแม้กระทั่งเราคลอดเขายังคุยคนอื่น เขาเป็นทั้งแฟนที่แย่และพ่อที่ไม่ดีเลยค่ะสำหรับความคิดเรา แต่ฝั่งญาติแฟนโอเคกับเราอยู่นะคะถึงกับไม่ดีมากมาย เราเลี้ยงลูกฝั่งบ้านแฟนมาตลอดเลยค่ะเราไม่มีบ้าน ตอนเด็กอยู่บ้านพ่อแต่พอพ่อเสียเราก็ไม่ได้อยู่เลยแม่เราก็ไปมีสามีใหม่
เรามีพี่น้องแต่ต่างคนต่างดิ้นรนสู้ชีวิตไปคนละทางกันแล้วเมื่อก่อนเราเลี้ยงลูกกับแม่แฟนเป็นบ้านเช่าอยู่อีกตัวจังหวัดหนึ่งจนลูกเราได้ประมาณ2-3ขวบทุกคนเห็นดีงามว่าจะพาไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อลูกเราจะได้เข้าโรงเรียนแล้วน้าแฟนอาสาจะดูให้ ให้เราไปทำงานใกล้ๆวันหยุดลงมาลูกก็ได้เราก็ตอบตกลงเห็นดีงานด้วยพอเรากับลูกได้มาอยู่บ้านแฟนที่ต่างจังหวัด น้าแฟนกับปฏิบัติกับเราอย่างคนละคนเลยค่ะเราตั้งใจจะให้ลูกเราเข้าศูนย์เด็กเล็กก่อนถึงจะได้ไปหางานทำอย่างน้อยอยากมีความทรงจำได้ไปส่งลูกเรียนวันแรก
แต่เขากลับพยายามให้เรารีบไปหางานทำเร็วเงินที่แฟนส่งมาลูกเราให้แฟนโอนใส่บัญชีน้าแฟนหมดเลยนะคะเราไม่เอาถือว่าให้เป็นค่ากับข้าว เราเริ่มน้อยใจอึดอัดเสียใจก็ตอนที่ได้ยินน้าแฟนเอาเราไปนินทาลับหลังเราได้ยินบอกตรงๆเรารู้สึกเสียใจมาก หน้าที่งานบ้านเราพยายามช่วยทุกอย่าง ณ ตอนนั้นเราก็เริ่มมีความคิดอคติกับฝั่งญาติแฟนขึ้นมาเลย แม้กระทั่งเรานั่งอยู่ใกล้ๆวันนั้นน้าแฟนทำก๋วยเตี๋ยวกินเราก็นั่งใกล้ๆไม่ไกลจากน้าแฟนแต่แกก็ไม่ถามเราให้ป้าแฟนมาถามเราต่อ ว่าเราจะกินก๋วยเตี๋ยวไหมถ้าไม่กินจะปิดแก๊ส ตอนนั้นเรายิ่งไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมไม่ถามเรา แอบเสียใจตรงขึ้นคำว่า “อี”ด้วยแหละ
กับตอนนั้นเราเอาลูกเข้าเต้านอน แล้วน้าแฟนกินข้าวป้าแฟนเลยเรียกๆเรามากินข้าวนะ เราก็ได้ยินน้าแฟนพูดว่า กินทำไมไม่เห็นมีประโยนช์
เราได้ยินเราร้องไห้ทั้งอึดอัดจนเพิ่มความอคติกับฝั่งญาติแฟนเลย จนเราอึดอัดจึงต้องรีบหางานทำแต่พอทำงานได้ก็ต้องเครียดเพราะคิดถึงลูกมาก 5-6วันเราถึงจะคลอหาลูกครั้งค่ะเพราะด้วยความที่เราเกรงใจน้าแฟนไปหมดพอเขารู้ว่าเราไม่ได้อยู่กับแฟน เขากับปฎิบัติกับเราเหมือนไม่พอใจเราเลย 7เดือนแล้วค่ะที่เราไม่ได้ไปหาลูกเพราะโควิดทั้งที่อยู่ไม่ไกลกันแท้ๆ ทั้งเครียด ทั้งคิดถึงลูก ตอนนี้สถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนลงแล้วเราก็ถามว่าสามารถลงไปหมู่บ้านได้ไหมเพราะเห็นคนในหมู่บ้านเข้ามาในเมืองได้เราเลยถามแต่กับให้แม่แฟนไลน์มาบอกเรา เราก็ไม่รู้นะคะว่าเราทำอะไรผิด แม่แฟนก็ตัวเต็งนินทาเราเลยค่ะ
หรือเป็นเพราะนิสัยขี้นินทาของตระกูลเขา แม้กระทั่งพี่น้องกันเขาก็นินทากันเลย อยู่กับคนนี้นินทาหา อีกคน อยู่กับอีกคนนินทาถึงอีกคนหนึ่ง เราอาจจะไม่ชินระบบนี้มั้งคะ
จนตอนนี้เรามีความคิดจะเอาลูกเรามาเลี้ยงเองมาอยู่ห้องเช่าแล้วเราจะหาขายของตามตลาดนัดตอนนี้เรามีความคิดแบบนี้จริงๆนะคะ เราอยากเลี้ยงลูกเอง แต่มันก็มีความคิดแว๊บหนึ่งมาอีกคือในความคิดคนอื่นเขาจะว่าเราพาลูกมาลำบาก อนาคตของลูกเราจะเป็นยังไง อยู่กับฝั่งแฟนดีแล้ว ค่อยไปหาลูกเอา แต่ตอนนี้เราไม่อยากจะไปเหยียบทางฝั่งบ้านแฟนอีกเลยค่ะด้วยความที่เราอึกอัดมากๆ สำหรับแฟนกับเราคงกลับมาอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วเพราะเขาคงรักผู้หญิงคนใหม่ไปแล้ว ที่ไม่ยอมบอกเลิกเราคงเพราะสงสารเรา
เราตั้งใจจะพาลูกไปโดยไม่บอกฝั่งบ้านแฟนเลย ตอนนี้มีแพลนจะหาบ้านเช่าใหม่ที่ใกล้โรงเรียนใกล้ตลาดเพื่อที่เราจะขายของได้สะดวก
หรือเราควรจะให้ลูกเราอยู่ฝั่งบ้านแฟนส่งตังค์ให้ลูก พร้อมค่อยเอามาอยู่กับเราแต่จนถึงตอนนั้นเรากลัวลูกเราลืมเรา ไม่อยากอยู่กับเราเเล้ว หรือฝั่งบ้านแฟนไม่ยอม
แม้กระทั่งตอนนี้เราก็เครียดมากเลยค่ะ เราเครียดมากจริงๆ เครียดจนอยากฆ่าตัวตายเลย เคยคิดด้วยซ้ำอาจเป็นเพราะเครียดมากจนสมองสั่งให้ตายๆไปเลย แต่พยายามไม่คิดไม่รู้ว่าความคิดอยากจะตายโผล่มาตอนไหนทั้งที่เรากลัวตายมาก
กับอีกเหตุผลหนึ่งเปิดคุยกับแฟนและครอบครัวฝั่งแฟนว่าจะเอาไงดี แต่ถึงยังงั้นเขาก็คงจะเข้าข้างหลานเขาแน่นอน เพราะแฟนเราเป็นคนอารมณ์ร้อนคงรู้ๆนิสัยลูกหลานตัวเองอยู่แม้กระทั่งแม่ตัวเองยังขึ้นกูได้
ตลอดเวลาที่เราท้องยันคลอดเราต้องได้แบกตระกร้าซักผ้าเองทั้งที่ท้องใหญ่ๆ บอกให้แฟนช่วยเขาก็บอกรอก่อนสุดท้ายเราเองที่ต้องทำ เราออกโรงพยาบาลมาต้องได้ซักผ้าเองยกผ้าหนักๆเอง ทั้งที่คลอดมาใหม่ๆบอกให้ช่วยยกผ้าหน่อยก็นอนเล่นเกมส์ตลอด บอกให้มาช่วยไกวเปลลูกช่วยหน่อยเราอยากอาบน้ำก็ไม่ช่วย สรุปเราไม่คิดว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีเลยนะคะ เรารู้นะคะว่าฝั่งบ้านแฟนก็คงรักและเอ็นดูลูกเรามากๆ ถ้าเราบอกว่าจะเอาลูกไปเลี้ยงเองเขาคงไม่ยอมแน่ๆ
บางครั้งเราก็คิดนะคะว่าเราอายุแค่23 เองยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องทำ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายเดือนเราพยายามคิดไตร่ตรองถึงอนาคตของเราและลูกแล้วนะคะ แต่เรากลับพบว่าลูกคือความสุขของเราซะมากว่าสิ่งไหนอีก
ทุกคนคิดว่าเราคิดถูกไหมที่จะพาลูกออกมาอยู่บ้านเช่าด้วยกันสองคน อนาคตแม่และน้องสาวอาจจะอยู่กับเราก็ได้
แล้วทุกคนเป็นเราจะตัดสินใจยังไงดีค่ะ
เราควรทำไงดี เครียดอยากอยู่กับลูก
เรามีพี่น้องแต่ต่างคนต่างดิ้นรนสู้ชีวิตไปคนละทางกันแล้วเมื่อก่อนเราเลี้ยงลูกกับแม่แฟนเป็นบ้านเช่าอยู่อีกตัวจังหวัดหนึ่งจนลูกเราได้ประมาณ2-3ขวบทุกคนเห็นดีงามว่าจะพาไปอยู่ต่างจังหวัดเพื่อลูกเราจะได้เข้าโรงเรียนแล้วน้าแฟนอาสาจะดูให้ ให้เราไปทำงานใกล้ๆวันหยุดลงมาลูกก็ได้เราก็ตอบตกลงเห็นดีงานด้วยพอเรากับลูกได้มาอยู่บ้านแฟนที่ต่างจังหวัด น้าแฟนกับปฏิบัติกับเราอย่างคนละคนเลยค่ะเราตั้งใจจะให้ลูกเราเข้าศูนย์เด็กเล็กก่อนถึงจะได้ไปหางานทำอย่างน้อยอยากมีความทรงจำได้ไปส่งลูกเรียนวันแรก
แต่เขากลับพยายามให้เรารีบไปหางานทำเร็วเงินที่แฟนส่งมาลูกเราให้แฟนโอนใส่บัญชีน้าแฟนหมดเลยนะคะเราไม่เอาถือว่าให้เป็นค่ากับข้าว เราเริ่มน้อยใจอึดอัดเสียใจก็ตอนที่ได้ยินน้าแฟนเอาเราไปนินทาลับหลังเราได้ยินบอกตรงๆเรารู้สึกเสียใจมาก หน้าที่งานบ้านเราพยายามช่วยทุกอย่าง ณ ตอนนั้นเราก็เริ่มมีความคิดอคติกับฝั่งญาติแฟนขึ้นมาเลย แม้กระทั่งเรานั่งอยู่ใกล้ๆวันนั้นน้าแฟนทำก๋วยเตี๋ยวกินเราก็นั่งใกล้ๆไม่ไกลจากน้าแฟนแต่แกก็ไม่ถามเราให้ป้าแฟนมาถามเราต่อ ว่าเราจะกินก๋วยเตี๋ยวไหมถ้าไม่กินจะปิดแก๊ส ตอนนั้นเรายิ่งไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมไม่ถามเรา แอบเสียใจตรงขึ้นคำว่า “อี”ด้วยแหละ
กับตอนนั้นเราเอาลูกเข้าเต้านอน แล้วน้าแฟนกินข้าวป้าแฟนเลยเรียกๆเรามากินข้าวนะ เราก็ได้ยินน้าแฟนพูดว่า กินทำไมไม่เห็นมีประโยนช์
เราได้ยินเราร้องไห้ทั้งอึดอัดจนเพิ่มความอคติกับฝั่งญาติแฟนเลย จนเราอึดอัดจึงต้องรีบหางานทำแต่พอทำงานได้ก็ต้องเครียดเพราะคิดถึงลูกมาก 5-6วันเราถึงจะคลอหาลูกครั้งค่ะเพราะด้วยความที่เราเกรงใจน้าแฟนไปหมดพอเขารู้ว่าเราไม่ได้อยู่กับแฟน เขากับปฎิบัติกับเราเหมือนไม่พอใจเราเลย 7เดือนแล้วค่ะที่เราไม่ได้ไปหาลูกเพราะโควิดทั้งที่อยู่ไม่ไกลกันแท้ๆ ทั้งเครียด ทั้งคิดถึงลูก ตอนนี้สถานการณ์โควิดเริ่มผ่อนลงแล้วเราก็ถามว่าสามารถลงไปหมู่บ้านได้ไหมเพราะเห็นคนในหมู่บ้านเข้ามาในเมืองได้เราเลยถามแต่กับให้แม่แฟนไลน์มาบอกเรา เราก็ไม่รู้นะคะว่าเราทำอะไรผิด แม่แฟนก็ตัวเต็งนินทาเราเลยค่ะ
หรือเป็นเพราะนิสัยขี้นินทาของตระกูลเขา แม้กระทั่งพี่น้องกันเขาก็นินทากันเลย อยู่กับคนนี้นินทาหา อีกคน อยู่กับอีกคนนินทาถึงอีกคนหนึ่ง เราอาจจะไม่ชินระบบนี้มั้งคะ
จนตอนนี้เรามีความคิดจะเอาลูกเรามาเลี้ยงเองมาอยู่ห้องเช่าแล้วเราจะหาขายของตามตลาดนัดตอนนี้เรามีความคิดแบบนี้จริงๆนะคะ เราอยากเลี้ยงลูกเอง แต่มันก็มีความคิดแว๊บหนึ่งมาอีกคือในความคิดคนอื่นเขาจะว่าเราพาลูกมาลำบาก อนาคตของลูกเราจะเป็นยังไง อยู่กับฝั่งแฟนดีแล้ว ค่อยไปหาลูกเอา แต่ตอนนี้เราไม่อยากจะไปเหยียบทางฝั่งบ้านแฟนอีกเลยค่ะด้วยความที่เราอึกอัดมากๆ สำหรับแฟนกับเราคงกลับมาอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วเพราะเขาคงรักผู้หญิงคนใหม่ไปแล้ว ที่ไม่ยอมบอกเลิกเราคงเพราะสงสารเรา
เราตั้งใจจะพาลูกไปโดยไม่บอกฝั่งบ้านแฟนเลย ตอนนี้มีแพลนจะหาบ้านเช่าใหม่ที่ใกล้โรงเรียนใกล้ตลาดเพื่อที่เราจะขายของได้สะดวก
หรือเราควรจะให้ลูกเราอยู่ฝั่งบ้านแฟนส่งตังค์ให้ลูก พร้อมค่อยเอามาอยู่กับเราแต่จนถึงตอนนั้นเรากลัวลูกเราลืมเรา ไม่อยากอยู่กับเราเเล้ว หรือฝั่งบ้านแฟนไม่ยอม
แม้กระทั่งตอนนี้เราก็เครียดมากเลยค่ะ เราเครียดมากจริงๆ เครียดจนอยากฆ่าตัวตายเลย เคยคิดด้วยซ้ำอาจเป็นเพราะเครียดมากจนสมองสั่งให้ตายๆไปเลย แต่พยายามไม่คิดไม่รู้ว่าความคิดอยากจะตายโผล่มาตอนไหนทั้งที่เรากลัวตายมาก
กับอีกเหตุผลหนึ่งเปิดคุยกับแฟนและครอบครัวฝั่งแฟนว่าจะเอาไงดี แต่ถึงยังงั้นเขาก็คงจะเข้าข้างหลานเขาแน่นอน เพราะแฟนเราเป็นคนอารมณ์ร้อนคงรู้ๆนิสัยลูกหลานตัวเองอยู่แม้กระทั่งแม่ตัวเองยังขึ้นกูได้
ตลอดเวลาที่เราท้องยันคลอดเราต้องได้แบกตระกร้าซักผ้าเองทั้งที่ท้องใหญ่ๆ บอกให้แฟนช่วยเขาก็บอกรอก่อนสุดท้ายเราเองที่ต้องทำ เราออกโรงพยาบาลมาต้องได้ซักผ้าเองยกผ้าหนักๆเอง ทั้งที่คลอดมาใหม่ๆบอกให้ช่วยยกผ้าหน่อยก็นอนเล่นเกมส์ตลอด บอกให้มาช่วยไกวเปลลูกช่วยหน่อยเราอยากอาบน้ำก็ไม่ช่วย สรุปเราไม่คิดว่าเขาจะเป็นพ่อที่ดีเลยนะคะ เรารู้นะคะว่าฝั่งบ้านแฟนก็คงรักและเอ็นดูลูกเรามากๆ ถ้าเราบอกว่าจะเอาลูกไปเลี้ยงเองเขาคงไม่ยอมแน่ๆ
บางครั้งเราก็คิดนะคะว่าเราอายุแค่23 เองยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องทำ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายเดือนเราพยายามคิดไตร่ตรองถึงอนาคตของเราและลูกแล้วนะคะ แต่เรากลับพบว่าลูกคือความสุขของเราซะมากว่าสิ่งไหนอีก
ทุกคนคิดว่าเราคิดถูกไหมที่จะพาลูกออกมาอยู่บ้านเช่าด้วยกันสองคน อนาคตแม่และน้องสาวอาจจะอยู่กับเราก็ได้
แล้วทุกคนเป็นเราจะตัดสินใจยังไงดีค่ะ