เลิกกับแฟนเพราะเราพูดถึงครอบครัวแฟน

พ่อแม่แฟนเรามีร้านขนมปังที่ทำขายส่งและไปฝากเขาขายทำอยู่ที่บ้านตัวเอง แต่พ่อแม่แฟนจะย้ายไปดูแลพ่อแม่ที่ตจว.ตอนแรกแฟนเราไม่สนใจจะทำต่อ จนกระทั่งแฟนมาคบกับเรา เราเรียนจบทำอาหารมาโดยตรง ของคาวขนมทำได้หมด แฟนเลยคุยกับเราว่ามาทำกันต่อมั้ย พ่อแม่เขาจะยกให้ เราก็คิดอยู่นานแต่ก็ตอบตกลงไปแต่แหยเราไม่มีรถยนเลยต้องใช้รถยนของเราส่งขนมแทนรถบ้านแฟนเพราะรถบ้านแฟนพ่อแม่เขาจะเอาไปตจว.ด้วย ซึ่งบ้านแฟนมีรถอยู่คันเดียวแต่ผ่านมาไม่กี่อาทิตย์บ้านเราโทรมาชวนให้เรากลับไปช่วยพี่สาวและให้เงินเดือน 2 หมื่น แฟนพ่อแม่แฟนบอกให้เราไปเก็บเงิน ตอนแรกเราไม่อยากมา เราไม่อยากอยู่ห่างเขาเราร้องไห้ แต่แฟนกับบ้านแฟนอยากให้มา มาเก็บเงินและกลับไปช่วยที่บ้าน เราก็โอเคเลยกลับมา และปัญหาตอนนี้อยู่ตรงไม่มีรถส่งขนมเพราะเราก็ต้องเอารถตัวเองกลับมาใช้ พ่อแม่เขาก็จะเอารถกลับตวจด้วย ซึ่งทำให้ไม่มีรถส่งขนม แฟนเลยคุยกับเราว่าจะออกรถ ให้เราช่วยดาว แล้วเดี๋ยวเขาจะผ่อนเองจนกว่าเราจะกลับไปค่อยช่วยผ่อน เราก็ไม่ค่อยโอเคเพราะเราก็มีรถอยู่แล้วและไม่อยากต้องเสียเงินแต่ด้วยความจำเป็นเราเลยตอบตกลงไป แฟนเราก็ได้ทำการยื่นกู้รถกับธนาคาร แต่ด้วยความที่เพิ่งเรียนจบมา 1 ปี ยังไม่มีงานที่ได้เงินเดือนมั่นคงทำให้กู้รถไม่ผ่าน แฟนราเลยถามเราว่าใช้ชื่อแม่เราได้มั้ย แต่เราบอกไม่ได้ เราสงสัยว่าทำไมไม่ใช้ชื่อพ่อเขา แต่เราก็ไม่ถามเพราะพูดถึงครอบครัวเขาไมาได้เลยจะทะเลาะทุกครั้งเราเลยเงียบ แฟนก็เลยกลับไปคุยกับที่บ้าน บ้านแฟนก็จะให้ซื้อรถมือสองมาใช้ก่อน เราบอกถ้าซื้อรถมือสองเราไม่โอเค เราไม่ชอบถ้าเราต้องเสียเงินเราก็อยากเสียเงินให้กับรถดีๆไปเลยแต่ถ้าถามว่าพร้อมมั้ย บอกเลยว่าไม่เพราะเราเพิ่งเรียนจบมาได้ไม่กี่เดือน แฟนเราเงินเก็บก็มีไม่มากเพราะเพิ่งจบมา เราอยากเก็บเงินไว้ก่อนยังไม่อยากลงทุนอะไร แฟนก้ได้ไปคุยกับที่บ้าน ก็ได้ตกลงกันมาว่า ที่บ้านจะอยู่ต่อก่อน เผื่อที่จะใช้รถของพ่อแฟนส่งขนมจนกว่าเราจะกลับไปแล้วพ่อแม่เขาถึงจะไปเพราะจะได้ใช้รถเราส่งขนมเราก็โอเค ผ่านมาไม่กี่อาทิตย์เราทะเลาะกัน เราหลุดปากบอกไปว่า "เค้าไม่ได้ว่าบ้านเธอนะ แต่เค้าคิดว่าพ่อแม่เธอควรพร้อมจะซัพพอตเธอได้มากกว่านี้ ทุกบ้านพ่อแม่ก็ต้องซื้อรถให้ลูกสักคันเอาไว้ใช้บ้าง ส่วนรถที่เราจะซื้อร่วมกันก็เป็นคนที่ 3 ก็ได้ " แฟนเราโมโหมาก โกรธเกลียดเราจนบอกเลิก เพราะไปว่าพ่อแม่เค้า ด้วยความที่เราไม่ทันคิดเพราะเรายังไม่อยากซื้อรถยังไม่พร้อมเลยพูดไปแบบนี้ จนเขาได้บอกเลิกเรา เราขอโทษไปหลายครั้งแต่เขาก็ไม่ให้อภัย สุดท้ายเราเลิกกันจริงๆ เราคบกันมาได้ 3 ปีกว่า เราอายุ 23 เท่ากัน เรารู้ว่าเราผิดแต่ถึงขั้นต้องเลิกกันจริงๆหรอ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
คุณควรตำหนิแฟนตัวเองนะคะ
ไม่ใช่ไปตำหนิพ่อแม่เขา
ไม่ใช่หน้าที่ของพ่อแม่ที่จะต้องซื้อรถให้ลูกค่ะ
แฟนคุณอยากได้ความสบาย ก็ควรดิ้นรนหาเอง

นี่จะออกรถ จะใช้ขื่อคุณออก?
งงว่าทำไมไม่ใช้ขื่อตัวเขาเองล่ะคะ
พอชื่อคุณไม่ผ่าน ยังจะถามว่าใช้ขื่อแม่คุณได้ไหม
อันนี้เราก็งงว่าเขาทำไมกล้าขอ
พ่อแม่ตัวเองก็มี ทำไมไม่ใช้ชื่อพ่อแม่ตัวเอง
จะมาโยนให้แม่คุณซะงั้น

เขาสามารถเอ่ยปากรบกวนคนอื่นได้ในเรื่องไม่ควรโดยไม่กระดากใจ
เหมือนคิดไม่ได้ว่าอะไรควรไม่ควร
ผู้ชายคนนี้คิดเห็นแก่ตัว จะเอาแต่ได้
เลิกไปก็ดีแล้วค่ะ


ส่วนคุณ
ไม่กล้าคุยกับแฟนว่าทำไมไม่ใช่ชื่อพ่อแม่ตัวเอง เพราะกลัวแฟนโกรธ
แต่กลับกล้าตำหนิว่าพ่อแม่เขาไม่มีปัญญาซัพพอร์ตลูก
อันนี้เราก็งงนะคะ

ต้นเหตุมาจากแฟนคุณ คุณก็ควรจะตำหนิแฟน
แต่คุณดันไปตำหนิพ่อแม่เขาแทน
คุณรักแฟน แต่มีอคติต่อพ่อแม่เขาค่ะ
ในใจคุณเอนเอียงเข้าข้างแฟน
ทั้งที่คนไม่มีปัญญาจะซื้อรถเองคือแฟนคุณ

คุณรำคาญคิดว่ารถแฟนมันเกี่ยวอะไรกับคุณและแม่คุณ
แต่คุณไม่กล้าว่าแฟน เลยไปว่าพ่อแม่เขาแทน
คุณว่าคุณทำถูกไหมล่ะ?


สรุป
เลิกกันไปก็ดีกับทั้งสองฝ่ายแล้วค่ะ
แยกกันไปเติบโตนะคะ
ความคิดเห็นที่ 16
อึ้งตรงที่ว่า ทุกบ้านพ่อแม่ก็ต้องซื้อรถให้ลูกสักคันเอาไว้ใช้บ้าง ทุกบ้านเลยหรอคะ แต่ละครอบครัวมันไม่เหมือนกันคุณ รถเรา เราซื้อเองผ่อนเองนะคะ ไม่เคยให้พ่อแม่ต้องหาให้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่