'หมอหม่อง' ติงผู้ว่าฯเชียงใหม่ ชี้สถานการณ์โควิดเลวร้ายมาก ใกล้เหมือน กทม. แต่จังหวัดขอไม่ให้พูด
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6700641
‘หมอหม่อง’ ติงผู้ว่าฯเชียงใหม่ ชี้สถานการณ์โควิดเลวร้ายมาก สภาพใกล้เหมือน กทม.แตกเต็มที แต่จังหวัดขอไม่ให้พูด “เตียงเต็ม เตียงไม่พอ” จี้แสดงบทบาท-แก้ไขวิกฤต
วันที่ 28 ต.ค.64 นพ.
รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความตั้งคำถามผ่านทางเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit แสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.เชียงใหม่ ความว่า
ความ…ของ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ (เติมคำในช่องว่างเองละกันนะครับ)
สถานการณ์โควิดของเชียงใหม่มาถึงจุดที่เลวร้ายมาก มีจำนวนผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 300 ถึง 500 คนต่อวัน ปริมาณผู้ป่วย ล้น รพ. ผู้ป่วยหนัก ล้น ICU ต้องเปิด home isolation community isolation temple isolation กันยกใหญ่ สภาพใกล้ตอน กทม แตกเต็มทีแล้ว แต่ทางการจังหวัดขอไม่ให้พูดออกไปว่า “เตียงเต็ม เตียงไม่พอ”
ทั้งๆที่ความจริงมัน เกินศักยภาพที่ระบบสาธารณสุขของจังหวัดจะรองรับได้ไปแล้ว หมอ พยาบาล บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ากันจนแทบไม่ไหว
ตั้งแต่ผู้ว่าฯ คนนี้ เข้ามา จำนวน case ก็พุ่งขึ้นสูง แซงนำทุกจังหวัดในภาคเหนือ โดยที่ไม่มีมาตราการในการควบคุมโรคเพิ่มเติมแต่อย่างใด มุ่งหน้าจะเปิดเมืองอย่างเดียว
จริงอยู่ว่า การลากยาวของสถานการณ์โควิด ทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในการควบคุมโรค ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคได้แบบสมดุลมากขึ้น เพราะปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการทำมาหากินของผู้คน ก็แสนสาหัสเหลือเกิน แต่การเปิดเมืองน่าจะต้องดำเนินควบคู่ไปกับมาตรการในการระมัดระวังการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพ ด้วยความไม่ประมาทและการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันยังได้เพียงราวครึ่งหนึ่งของประชากรเป้าหมาย
หากเทียบกับการระบาด wave ก่อนหน้านี้ รอบนี้ หนักกว่าทุกครั้งมาก แต่ดูเหมือนผู้คนจำนวนไม่น้อย
เริ่มชินชา ปล่อยวาง หละหลวม
ที่ผ่านมา ตัวแทนฝ่ายการแพทย์ สาธารณสุข ได้พยายามปรึกษาหารือ ผู้ว่าฯ เพื่อเร่งหามาตรการในการรับมือและควบคุมโรค แต่ดูเหมือนกลับไม่ได้รับการตอบรับที่เป็นรูปธรรมจากฝ่ายมหาดไทย
ไม่มีการเพิ่มมาตราการควบคุมโรค ไม่เห็นความพยายามของจังหวัด ในการช่วยต่อรองกับส่วนกลางขอวัคซีนมาเพิ่มเร่งด่วน
ผมไม่รู้จักผู้ว่าฯ และวิจารณ์ด้วยมุมมองของประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่รู้รายละเอียดมากนักว่า วันๆ ผู้ว่า ทำอะไรบ้าง นอกจากเซ็นหนังสือ ท่านเหนื่อยแค่ไหน หลับดีหรือเปล่า ได้นอนวันละกี่ ชม กินข้าวยังอร่อยไหม แต่นี่คือภาพของการทำงานของจังหวัดที่ประชาชนรับรู้
ดูเหมือนว่า ตำแหน่งผู้ว่า นี้ ไม่ต้องมี accountability ต่อสังคมมากมายนัก เมื่อไหร่ เราจะได้เลือกตั้งผู้ว่า เอง เมื่อใดเราจะได้คนที่ความสามารถ มีใจ มุ่งมั่นทำงานแก้ปัญหา ไม่ใช่เพียงย้ายมารอวันเกษียณอย่างที่ผ่านมา
แต่ก็ยังไม่สายเกินไปนะครับ ในเวลาที่เหลืออายุราชการ หากท่านเปลี่ยนแปลงท่าที แสดงบทบาทผู้นำในแก้ไขวิกฤต ใส่ใจลงไป ในแก้ปัญหาอย่างจริงจัง รับฟัง ตอบสนองข้อเสนอแนะ สนับสนุนทีมสาธารณสุข สร้างบรรยากาศของความร่วมมือของประชาชน และทุกภาคส่วน อาจทำให้ผู้คนเปลี่ยนใจ จดจำท่านในแง่ดีตลอดไป
ท่านเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นลูกจ้างของประชาชน (ไม่ใช่นายของเรา) คงต้องทนรับฟัง คำวิจารณ์ จากประชาชนหน่อยนะครับ
https://www.facebook.com/rungsrit.kanjanavanit/posts/10209405780297869
พท. ม่วนซื่น ประชุมใหญ่พรรคช่วงเช้าโชว์วิสัยทัศน์ ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย’ จับตาเซอร์ไพรส์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3013535
‘เพื่อไทย’ ม่วนซื่น ประชุมใหญ่พรรคช่วงเช้าโชว์วิสัยทัศน์ ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย’ จัดเดินแบบชูผ้าครามสกล
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ , การเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาของพรรค และการเสวนาหัวข้อ
“พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีกรรมการบริหาร ส.ส. แกนนำ สมาชิกพรรค และกองเชียร์พรรคพท. ใส่เสื้อสีแดงทยอยเดินทางมาร่วมตั้งแต่ช่วงเช้ามากกว่า 600 คน ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยผู้ที่จะเข้าร่วมการประชุมข้างในได้จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อด้วยระบบ ATK ก่อน นอกจากนี้ ได้มีการจัดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของพรรคพท. พร้อมมีการเน้นย้ำข้อความแคมเปญใหม่ของพรรค
“พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน”
ขณะที่ก่อนการประชุม นาย
สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคพท. ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกเพียงสั้นๆว่า วันนี้เตรียมตัวเพื่อมาเซอร์ไพรส์ และขอให้จับตาในที่ประชุมที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ การขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย
ด้านนาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท. กล่าวถึงคุณสมบัติ ของคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายประเสริฐกล่าวว่าต้องเป็นคนที่สามารถเชื่อมรอยต่อระหว่างคนหลายรุ่นได้ มีวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนพรรคไปสู่เป้าหมาย
เมื่อถามว่าหากวันนี้ นพ.หมอ
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคตามกระแสข่าว จะสามารถนำพรรคเพื่อไทยบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่นั้น นาย
ประเสริฐเชื่อว่าไม่ว่าคนที่ได้รับการโหวตในวันนี้เป็นใครก็ถือเป็นฉันทามติ ทุกคนพร้อมขับเคลื่อนพรรคไปด้วยกัน เชื่อว่าคนที่ได้รับเลือกพร้อมทำงานหมด วันนี้จะเป็นวันที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของเพื่อไทย และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในอนาคตเพราะมีการพูดคุยกันแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าวันนี้จะยังไม่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของพนนตพท. ซึ่งตอนนี้มีประมาณ 3 รายชื่อ แต่การเปิดตัวต้องผ่านคณะกรรมการบริหารของพรรคก่อน ช่วงนี้จึงอาจเร็วเกินไป เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งจะเปิดรายชื่อทันที
นาย
ประเสริฐ กล่าวอีกว่า สำหรับการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคครั้งนี้ รวมทั้งการธีมการประชุม
“พรุ่งนี้เพื่อไทย” มีนัยทางการเมืองสื่อถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อสู้ศึกการเมืองในครั้งหน้าหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่าพรรคเพื่อไทยต้องการสื่อถึงอนาคตและอยากสะท้อนว่าประเทศยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกหลายอย่าง เป็นวันที่พรุ่งนี้คนไทยจะมีความหวัง ส่วนกรณีที่มีหลายพรรคการเมืองพุ่งเป้าพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของพรรคพท.นั้น ตนมั่นใจว่าพรรคพท.จะรักษา และครองใจคนอีสานได้ เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเห็นชัดว่าคนอีสานยังเลือกพรรคพท. และนโยบายที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็เกี่ยวกับคนอีสานด้วย
จากนั้น เวลา 09.30 น. เริ่มต้นเปิดงานด้วยการกล่าวถึงนโยบายด้านต่างๆของพรรค โดยนพ.
สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้อำนวยการพรรคพท. กล่าวย้ำถึงนโยบาย
“พรุ่งนี้ด้านสาธารณสุขไทย” ตามมาด้วย การกล่าวนโยบายด้านเศรษฐกิจ
“พรุ่งนี้ เพื่อเศรษฐกิจไทย” โดยนาย
เผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการและผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคพท. นาย
จักรพงษ์ แสงมณี นายทะบียนและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคพท. นาย
จักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และนาย
กฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย ต่อด้วย
“พรุ่งนี้เพื่อเกษตรกรไทย” โดยนาย
วิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธานส.ส.พรรคพท. และ
“พรุ่งนี้เพื่อเศรษฐกิจฐานรากไทย” โดยน.ส.
สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร จากนั้นเป็นการเดินแบบชุดผ้าครามสกล โดยส.ส.หญิงพรรคพท. ซึ่งระหว่างการเดินแบบนั้น น.ส.
จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้ชู 3 นิ้วบนเวทีด้วย
เอกชนวอน 'รัฐ-รถบรรทุก' หาทางออกก่อนหยุดวิ่ง 1 พ.ย. กระทบปชช. ผู้ผลิต ผู้ส่งออก
https://www.matichon.co.th/economy/news_3013428
ส.อ.ท.วอนรัฐ-รถบรรทุกหาทางออกก่อนหยุดวิ่ง 1พ.ย. กระทบปชช. ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ก.พลังงานคงมติกบง.ดูแลดีเซลไม่เกิน30บ./ลิตร
นาย
สุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศหยุดวิ่งรถบรรทุก 20% หรือประมาณ 7-8 หมื่นคัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ประมาณ 7 วัน ว่า ต้องพิจารณาว่า รถบรรทุกที่หยุดวิ่งเป็นรถประเภทไหน ถ้าเป็นรถขนส่งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค รถกลุ่มสินค้าเกี่ยวข้องนำเข้าส่งออก จะส่งผลกระทบต่อสินค้าแน่นอน ขณะนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว ภาคการส่งออกกำลังขยายตัว เริ่มเปิดประเทศ สินค้าต่างๆ จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น ต้องใช้การขนส่งมากขึ้น อยากให้ภาครัฐ และกลุ่มสหพันธ์ฯ หารือกันเพื่อหาทางออกระยะสั้นที่เหมาะสมร่วมกัน เพราะปัญหาราคาน้ำมันสูง เป็นช่วงระยะสั้นๆ ไม่อยากให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ว่าราคาน้ำมันลิตรละ 25 บาทมีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะมีปัจจัยในการพิจารณาหลายอย่าง เป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน ที่ต้องพิจารณาความเหมาะสมต่อไป
นาย
สมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามข้อเสนอของกลุ่มสหพันธ์การขนส่งฯแล้ว จะมีการหารือในระดับนโยบายกันต่อไป โดยมาตรการการช่วยเหลือปัจจุบันยังเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ให้กลับไปใช้กลุ่มดีเซล 3 ชนิด คือ น้ำมันดีเซล บี 7 , บี 10 และบี 20 มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 และใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพราคากลุ่มดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร หากไม่เพียงพอ จะกู้เงินมาเพิ่มเติม และสุดท้ายหากไม่เพียงพออีกจะประสานกระทรวงการคลังเพื่อปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตต่อไป
JJNY : 'หมอหม่อง'ติงผู้ว่าฯเชียงใหม่│พท.ม่วนซื่นประชุมใหญ่พรรค│เอกชนวอน'รัฐ-รถบรรทุก'หาทางออก│เตือนภัย38จว.ระวังฟ้าคะนอง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6700641
‘หมอหม่อง’ ติงผู้ว่าฯเชียงใหม่ ชี้สถานการณ์โควิดเลวร้ายมาก สภาพใกล้เหมือน กทม.แตกเต็มที แต่จังหวัดขอไม่ให้พูด “เตียงเต็ม เตียงไม่พอ” จี้แสดงบทบาท-แก้ไขวิกฤต
วันที่ 28 ต.ค.64 นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความตั้งคำถามผ่านทางเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit แสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ใน จ.เชียงใหม่ ความว่า
ความ…ของ ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ (เติมคำในช่องว่างเองละกันนะครับ)
สถานการณ์โควิดของเชียงใหม่มาถึงจุดที่เลวร้ายมาก มีจำนวนผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 300 ถึง 500 คนต่อวัน ปริมาณผู้ป่วย ล้น รพ. ผู้ป่วยหนัก ล้น ICU ต้องเปิด home isolation community isolation temple isolation กันยกใหญ่ สภาพใกล้ตอน กทม แตกเต็มทีแล้ว แต่ทางการจังหวัดขอไม่ให้พูดออกไปว่า “เตียงเต็ม เตียงไม่พอ”
ทั้งๆที่ความจริงมัน เกินศักยภาพที่ระบบสาธารณสุขของจังหวัดจะรองรับได้ไปแล้ว หมอ พยาบาล บุคลากรที่เกี่ยวข้อง เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ากันจนแทบไม่ไหว
ตั้งแต่ผู้ว่าฯ คนนี้ เข้ามา จำนวน case ก็พุ่งขึ้นสูง แซงนำทุกจังหวัดในภาคเหนือ โดยที่ไม่มีมาตราการในการควบคุมโรคเพิ่มเติมแต่อย่างใด มุ่งหน้าจะเปิดเมืองอย่างเดียว
จริงอยู่ว่า การลากยาวของสถานการณ์โควิด ทำให้เราต้องปรับกลยุทธ์ในการควบคุมโรค ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคได้แบบสมดุลมากขึ้น เพราะปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการทำมาหากินของผู้คน ก็แสนสาหัสเหลือเกิน แต่การเปิดเมืองน่าจะต้องดำเนินควบคู่ไปกับมาตรการในการระมัดระวังการแพร่ระบาดที่มีประสิทธิภาพ ด้วยความไม่ประมาทและการเร่งฉีดวัคซีนให้ประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันยังได้เพียงราวครึ่งหนึ่งของประชากรเป้าหมาย
หากเทียบกับการระบาด wave ก่อนหน้านี้ รอบนี้ หนักกว่าทุกครั้งมาก แต่ดูเหมือนผู้คนจำนวนไม่น้อย
เริ่มชินชา ปล่อยวาง หละหลวม
ที่ผ่านมา ตัวแทนฝ่ายการแพทย์ สาธารณสุข ได้พยายามปรึกษาหารือ ผู้ว่าฯ เพื่อเร่งหามาตรการในการรับมือและควบคุมโรค แต่ดูเหมือนกลับไม่ได้รับการตอบรับที่เป็นรูปธรรมจากฝ่ายมหาดไทย
ไม่มีการเพิ่มมาตราการควบคุมโรค ไม่เห็นความพยายามของจังหวัด ในการช่วยต่อรองกับส่วนกลางขอวัคซีนมาเพิ่มเร่งด่วน
ผมไม่รู้จักผู้ว่าฯ และวิจารณ์ด้วยมุมมองของประชาชนคนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่รู้รายละเอียดมากนักว่า วันๆ ผู้ว่า ทำอะไรบ้าง นอกจากเซ็นหนังสือ ท่านเหนื่อยแค่ไหน หลับดีหรือเปล่า ได้นอนวันละกี่ ชม กินข้าวยังอร่อยไหม แต่นี่คือภาพของการทำงานของจังหวัดที่ประชาชนรับรู้
ดูเหมือนว่า ตำแหน่งผู้ว่า นี้ ไม่ต้องมี accountability ต่อสังคมมากมายนัก เมื่อไหร่ เราจะได้เลือกตั้งผู้ว่า เอง เมื่อใดเราจะได้คนที่ความสามารถ มีใจ มุ่งมั่นทำงานแก้ปัญหา ไม่ใช่เพียงย้ายมารอวันเกษียณอย่างที่ผ่านมา
แต่ก็ยังไม่สายเกินไปนะครับ ในเวลาที่เหลืออายุราชการ หากท่านเปลี่ยนแปลงท่าที แสดงบทบาทผู้นำในแก้ไขวิกฤต ใส่ใจลงไป ในแก้ปัญหาอย่างจริงจัง รับฟัง ตอบสนองข้อเสนอแนะ สนับสนุนทีมสาธารณสุข สร้างบรรยากาศของความร่วมมือของประชาชน และทุกภาคส่วน อาจทำให้ผู้คนเปลี่ยนใจ จดจำท่านในแง่ดีตลอดไป
ท่านเป็นบุคคลสาธารณะ เป็นลูกจ้างของประชาชน (ไม่ใช่นายของเรา) คงต้องทนรับฟัง คำวิจารณ์ จากประชาชนหน่อยนะครับ
https://www.facebook.com/rungsrit.kanjanavanit/posts/10209405780297869
พท. ม่วนซื่น ประชุมใหญ่พรรคช่วงเช้าโชว์วิสัยทัศน์ ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย’ จับตาเซอร์ไพรส์
https://www.matichon.co.th/politics/news_3013535
‘เพื่อไทย’ ม่วนซื่น ประชุมใหญ่พรรคช่วงเช้าโชว์วิสัยทัศน์ ‘พรุ่งนี้เพื่อไทย’ จัดเดินแบบชูผ้าครามสกล
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 ตุลาคม ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2564 โดยมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ , การเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาของพรรค และการเสวนาหัวข้อ “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคัก มีกรรมการบริหาร ส.ส. แกนนำ สมาชิกพรรค และกองเชียร์พรรคพท. ใส่เสื้อสีแดงทยอยเดินทางมาร่วมตั้งแต่ช่วงเช้ามากกว่า 600 คน ท่ามกลางมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยผู้ที่จะเข้าร่วมการประชุมข้างในได้จะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อด้วยระบบ ATK ก่อน นอกจากนี้ ได้มีการจัดนิทรรศการประวัติความเป็นมาของพรรคพท. พร้อมมีการเน้นย้ำข้อความแคมเปญใหม่ของพรรค “พรุ่งนี้เพื่อไทย เพื่อชีวิตใหม่ของประชาชน”
ขณะที่ก่อนการประชุม นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคพท. ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกเพียงสั้นๆว่า วันนี้เตรียมตัวเพื่อมาเซอร์ไพรส์ และขอให้จับตาในที่ประชุมที่จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ การขับเคลื่อนของพรรคเพื่อไทย
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท. กล่าวถึงคุณสมบัติ ของคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคนั้น นายประเสริฐกล่าวว่าต้องเป็นคนที่สามารถเชื่อมรอยต่อระหว่างคนหลายรุ่นได้ มีวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนพรรคไปสู่เป้าหมาย
เมื่อถามว่าหากวันนี้ นพ.หมอชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคตามกระแสข่าว จะสามารถนำพรรคเพื่อไทยบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่นั้น นายประเสริฐเชื่อว่าไม่ว่าคนที่ได้รับการโหวตในวันนี้เป็นใครก็ถือเป็นฉันทามติ ทุกคนพร้อมขับเคลื่อนพรรคไปด้วยกัน เชื่อว่าคนที่ได้รับเลือกพร้อมทำงานหมด วันนี้จะเป็นวันที่ได้เห็นความแข็งแกร่งของเพื่อไทย และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาในอนาคตเพราะมีการพูดคุยกันแล้ว ทั้งนี้ ยืนยันว่าวันนี้จะยังไม่มีการเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯของพนนตพท. ซึ่งตอนนี้มีประมาณ 3 รายชื่อ แต่การเปิดตัวต้องผ่านคณะกรรมการบริหารของพรรคก่อน ช่วงนี้จึงอาจเร็วเกินไป เมื่อถึงเวลาเลือกตั้งจะเปิดรายชื่อทันที
นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า สำหรับการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคครั้งนี้ รวมทั้งการธีมการประชุม “พรุ่งนี้เพื่อไทย” มีนัยทางการเมืองสื่อถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อสู้ศึกการเมืองในครั้งหน้าหรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่าพรรคเพื่อไทยต้องการสื่อถึงอนาคตและอยากสะท้อนว่าประเทศยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกหลายอย่าง เป็นวันที่พรุ่งนี้คนไทยจะมีความหวัง ส่วนกรณีที่มีหลายพรรคการเมืองพุ่งเป้าพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของพรรคพท.นั้น ตนมั่นใจว่าพรรคพท.จะรักษา และครองใจคนอีสานได้ เพราะการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเห็นชัดว่าคนอีสานยังเลือกพรรคพท. และนโยบายที่จะกล่าวถึงในวันนี้ก็เกี่ยวกับคนอีสานด้วย
จากนั้น เวลา 09.30 น. เริ่มต้นเปิดงานด้วยการกล่าวถึงนโยบายด้านต่างๆของพรรค โดยนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ผู้อำนวยการพรรคพท. กล่าวย้ำถึงนโยบาย “พรุ่งนี้ด้านสาธารณสุขไทย” ตามมาด้วย การกล่าวนโยบายด้านเศรษฐกิจ “พรุ่งนี้ เพื่อเศรษฐกิจไทย” โดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รองเลขาธิการและผู้อำนวยการศูนย์นโยบายพรรคพท. นายจักรพงษ์ แสงมณี นายทะบียนและคณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคพท. นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ และนายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย ต่อด้วย “พรุ่งนี้เพื่อเกษตรกรไทย” โดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา และประธานส.ส.พรรคพท. และ “พรุ่งนี้เพื่อเศรษฐกิจฐานรากไทย” โดยน.ส.สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร จากนั้นเป็นการเดินแบบชุดผ้าครามสกล โดยส.ส.หญิงพรรคพท. ซึ่งระหว่างการเดินแบบนั้น น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด ได้ชู 3 นิ้วบนเวทีด้วย
เอกชนวอน 'รัฐ-รถบรรทุก' หาทางออกก่อนหยุดวิ่ง 1 พ.ย. กระทบปชช. ผู้ผลิต ผู้ส่งออก
https://www.matichon.co.th/economy/news_3013428
ส.อ.ท.วอนรัฐ-รถบรรทุกหาทางออกก่อนหยุดวิ่ง 1พ.ย. กระทบปชช. ผู้ผลิต ผู้ส่งออก ก.พลังงานคงมติกบง.ดูแลดีเซลไม่เกิน30บ./ลิตร
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศหยุดวิ่งรถบรรทุก 20% หรือประมาณ 7-8 หมื่นคัน ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ประมาณ 7 วัน ว่า ต้องพิจารณาว่า รถบรรทุกที่หยุดวิ่งเป็นรถประเภทไหน ถ้าเป็นรถขนส่งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค รถกลุ่มสินค้าเกี่ยวข้องนำเข้าส่งออก จะส่งผลกระทบต่อสินค้าแน่นอน ขณะนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว ภาคการส่งออกกำลังขยายตัว เริ่มเปิดประเทศ สินค้าต่างๆ จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น ต้องใช้การขนส่งมากขึ้น อยากให้ภาครัฐ และกลุ่มสหพันธ์ฯ หารือกันเพื่อหาทางออกระยะสั้นที่เหมาะสมร่วมกัน เพราะปัญหาราคาน้ำมันสูง เป็นช่วงระยะสั้นๆ ไม่อยากให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ส่วนตัวไม่สามารถตอบได้ว่าราคาน้ำมันลิตรละ 25 บาทมีความเหมาะสมหรือไม่ เพราะมีปัจจัยในการพิจารณาหลายอย่าง เป็นหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน ที่ต้องพิจารณาความเหมาะสมต่อไป
นายสมภพ พัฒนอริยางกูล โฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงพลังงาน ได้ติดตามข้อเสนอของกลุ่มสหพันธ์การขนส่งฯแล้ว จะมีการหารือในระดับนโยบายกันต่อไป โดยมาตรการการช่วยเหลือปัจจุบันยังเป็นไปตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่ให้กลับไปใช้กลุ่มดีเซล 3 ชนิด คือ น้ำมันดีเซล บี 7 , บี 10 และบี 20 มีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2564 และใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพราคากลุ่มดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร หากไม่เพียงพอ จะกู้เงินมาเพิ่มเติม และสุดท้ายหากไม่เพียงพออีกจะประสานกระทรวงการคลังเพื่อปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิตต่อไป