เราไปรับงานตกแต่งออฟฟิศ บริษัทขายที่นอน (เชื่อว่าหลายๆคนรู้จัก)
เจอปัญหาลูกค้าไม่ทำตามข้อตกลงในใบเสนอราคา พอเราไม่ยอม เค้าขู่ว่าจะโพสต์ลงเน็ต
ขอเล่ายาวนิดนึงนะคะ
ตอนแรกที่ตกลงราคากัน จัดซื้อเค้ากดราคาต่ำมากๆ แล้วให้เหตุผลว่าเจ้านายเค้าอยู่ในวงการเฟอร์นิเจอร์ รู้ต้นทุนของพวกนี้ เหอๆๆ
ตอนนั้นเอะใจนิดนึงว่า แล้วทำไมไม่สั่งเอง แต่ด้วยความประสบการณ์น้อย ไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน ก็รับงานนี้ไปค่ะ
และอีกเรื่องที่เราพลาดก็คือไม่ได้อธิบายเรื่องวัสดุให้ละเอียด เพราะคิดไปเองว่าก็อยู่วงการนี้ คงจะรู้ราคาวัสดุบ้างแล้ว
ข้อตกลงคือแบ่งจ่าย 4งวด
1 มัดจำ
2 ก่อนส่งของ3วัน
3 หลังส่งของ
4 จบงาน
เรายอมรับว่าปัญหาอาจจะเกิดจากที่เรายอมส่งของให้ลูกค้าบางส่วนก่อน เค้าเร่งเราด้วยเหตุผลว่าเปิดออฟฟิศหลังโควิด
(ปรกติจะส่งรอบเดียวค่ะ เพราะส่งหลายรอบ ค่ารถก็เพิ่มขึ้น)
ตอนส่งของเลขาเขาเป็นคนรับของค่ะ
เริ่มจากโต๊ะข้างโซฟา เลขาเอาทุกตัวมาวางเรียงกัน แล้วบอกว่าขอบพ่นสีทอง เฉดไม่เท่ากัน
ซึ่งจริงๆแทบจะมองตาเปล่าไม่ออกด้วยซ้ำ เพราะเป็นขอบเส้นขนาด 0.5ซม.เท่านั้น
พูดได้ว่าไม่เห็นความแตกต่างเลย แล้วคือเวลาวางก็ไม่ได้เรียงติดกันแบบนี้
เราก็คุยกับเค้าว่า เวลาวางคนละมุมคือมองไม่ออกเลย สรุปเค้าขอยกเลิกออเดอร์ค่ะ
ยังไม่จบค่ะ
เก้าอี้หุ้มเบาะหนัง บางตัวมีรอยน่าจะเกิดจากตอนขนส่งค่ะ อันนี้เราพลาดเองจริงๆ
ตอนเช็คเลขาเค้าก็เช็คทุกจุด แล้วแจ้งกลับมาว่าจะให้แก้งานตรงไหนบ้าง เราก็แก้ตามที่เลขาคอมเม้นท์มาค่ะ
แก้เสร็จเรียบร้อย เลขาบอกมีรอยต่อตรงนี้ไม่เหมือนในรูป คือแบบในรูปก็มีรอยต่อนะ แต่มันอาจจะไม่ชัดเพราะแสง แล้วคือถ้าบอกให้จบแต่แรกเราก็ยอมทำให้ค่ะ
เลขาบอกว่าตอนแรกไม่มี เรามีรูปถ่ายคอนเฟิร์มว่ามีตั้งแต่แรก จริงๆเค้าเช็คละเอียดขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่เค้าไม่เห็น รอยอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ
แต่นี่เพิ่งมาบอก คือแก้งานซ้ำซ้อนมันมีค่าใช้จ่ายหลายๆอย่างที่เพิ่มขึ้น
เราเลยบอกไปว่า ตอนแรกลูกค้าเห็นสินค้าแล้ว เช็คแล้ว เราก็แก้ตามที่บอก ยกเลิกไม่ได้ค่ะ สุดท้ายเค้าไปฟ้องเจ้านายไฮโซว่าสินค้าไม่เหมือนในรูป (แต่คือเลขาก็เห็นของจริงแล้วหนิคะ)
ข้อผิดพลาดอีกเรื่องคือ
กระจกบานใหญ่สั่งเกินมา 1 บาน ตอนแรกจะขอคืน
เราบอกกระจกตัดเป็นทรงโค้งตามลูกค้าสั่ง แล้วเป็นขนาดใหญ่พิเศษแบบนี้เราเอาไปลงโปรเจคอื่นยากค่ะ
เรามีรูปยืนยันว่าในแปลนใส่กระจกมา 2บาน
งานนี้น่าสงสารที่สุดคือจัดซื้อ เค้าบอกว่าแปลนมาจากเลขา ซึ่งเลขาก็ปัดความผิดตรงนี้ และเจ้านายเค้าก็ไม่ยอมฟังอะไรเลย
สุดท้ายเราก็บอกไปว่า อันนี้เราช่วยจะเอากลับมา เดี๋ยวตัดเป็นบานเล็กขายละกัน (กำไรหายไปอี๊กกกก)
บริษัทร้อยล้าน กับ พนักงานทั่วไปเงินเดือนก็ไม่เท่าไหร่ แล้วต้องมารับผิดชอบของ2-3หมื่น คือหน้าเลือดมาก
สุดท้ายจะให้เราส่งของก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลังค่ะ
ด้วยเหตุผลว่า เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เค้าไม่เบี้ยวแน่นอน หึๆๆ (จะบอกว่าใหญ่กว่านี้เคยเจอเบี้ยวมาแล้วค่ะ)
บอกว่าของเรามีปัญหาเยอะ ซึ่งตรงนี้เรายอมรับ แต่บางส่วนก็ยอมให้ยกเลิกและแก้ไขให้แล้ว บางจุดที่เล็กมากๆๆๆ และ บางชิ้นที่ผิดพลาดจากเค้าเอง เราก็ยังยอมเคลียร์ให้แล้ว
สรุปบอสใหญ่ลงมาคุยหน้างานเองค่ะ
เหวี่ยงเต็มที่ บอกว่ายังไงก็ไม่ยอมจ่ายก่อนส่งของแน่นอน แล้วพูดเรื่องที่ของเราไม่เหมือนในรูป ของเราห่วย
(ทั้งๆที่เลขาตัวเองเห็นของจริงแล้ว แก้งานตามสั่งแล้ว) และเรื่องตำหนิเล็กๆที่ต้องเพ่ง หรือ เอาไฟฉายส่อง (ซึ่งเราก็ยอมให้คืนค่ะ)
เราบอกนางว่า ตามใบเสนอราคาระบุเรื่องจ่ายเงินแล้วนะคะ แล้วเลขาเห็นของจริงแล้วด้วย ไม่แจ้งเรื่องจุดแก้งานให้ครบ นางบอกไม่รู้แหละ ของคุณไม่เหมือนในรูปมันแย่มากๆ
จบง่ายๆเถอะ ส่งของก่อนค่อยเคลียร์เรื่องเงิน ไม่งั้นจะไปเขียนโพสต์รีวิว
ซึ่งเรารู้สึกแย่มากๆกับคำพูดนาง ขู่ย้ำๆว่าจะไปโพสต์นั่นโพสต์นี่
คือคุณเป็นไฮโซแล้วมีอภิสิทธิ์มากๆเลยเนอะ จะไม่ทำตามข้อตกลงก็ได้ มีปัญหาก็แค่ไปโพสต์ด่า ยังไงทุกคนก็ต้องเชื่อคุณงี้หรอ?
ลูกค้าดาราและไฮโซหลายคนที่เจอมา ยังไม่เคยเจอใครใช้คำพูดแบบนี้เลยค่ะ
หรือเราควรจะส่งของให้จบๆเรื่องไปคะ? ถ้าเกิดไม่จ่ายเงินค่อยมาดราม่าอีกรอบ TT__TT
PS. แอบเม้าส์กับจัดซื้อว่าถ้าอยากได้ของเกรดขนาดนั้น ทำไมไม่สั่งพวกแบรนด์ Hi-end ตามห้างไปเลย งานสั่งทำ ยังไงก็ไม่เหมือนเป๊ะๆหรอก
เค้าบอกถ้าสั่งแบบนั้นงบคงบานปลายไปหลายสิบล้านสิ ได้ยินแล้วคือ...จ่ายหลักแสน อยากได้งานหลักล้าน ค่ะ......
เพื่อนๆพี่ในวงการให้คำแนะนำได้นะคะ เราจะได้นำไปแก้ไข ปรับปรุงตัวเองด้วยค่ะ
คนดังหรือไฮโซ ทำไมต้องขู่ว่าจะรีวิวแย่ๆ หรือโพสต์แย่ๆด้วยคะ
เจอปัญหาลูกค้าไม่ทำตามข้อตกลงในใบเสนอราคา พอเราไม่ยอม เค้าขู่ว่าจะโพสต์ลงเน็ต
ขอเล่ายาวนิดนึงนะคะ
ตอนแรกที่ตกลงราคากัน จัดซื้อเค้ากดราคาต่ำมากๆ แล้วให้เหตุผลว่าเจ้านายเค้าอยู่ในวงการเฟอร์นิเจอร์ รู้ต้นทุนของพวกนี้ เหอๆๆ
ตอนนั้นเอะใจนิดนึงว่า แล้วทำไมไม่สั่งเอง แต่ด้วยความประสบการณ์น้อย ไม่ได้คิดให้ถี่ถ้วน ก็รับงานนี้ไปค่ะ
และอีกเรื่องที่เราพลาดก็คือไม่ได้อธิบายเรื่องวัสดุให้ละเอียด เพราะคิดไปเองว่าก็อยู่วงการนี้ คงจะรู้ราคาวัสดุบ้างแล้ว
ข้อตกลงคือแบ่งจ่าย 4งวด
1 มัดจำ
2 ก่อนส่งของ3วัน
3 หลังส่งของ
4 จบงาน
เรายอมรับว่าปัญหาอาจจะเกิดจากที่เรายอมส่งของให้ลูกค้าบางส่วนก่อน เค้าเร่งเราด้วยเหตุผลว่าเปิดออฟฟิศหลังโควิด
(ปรกติจะส่งรอบเดียวค่ะ เพราะส่งหลายรอบ ค่ารถก็เพิ่มขึ้น)
ตอนส่งของเลขาเขาเป็นคนรับของค่ะ
เริ่มจากโต๊ะข้างโซฟา เลขาเอาทุกตัวมาวางเรียงกัน แล้วบอกว่าขอบพ่นสีทอง เฉดไม่เท่ากัน
ซึ่งจริงๆแทบจะมองตาเปล่าไม่ออกด้วยซ้ำ เพราะเป็นขอบเส้นขนาด 0.5ซม.เท่านั้น
พูดได้ว่าไม่เห็นความแตกต่างเลย แล้วคือเวลาวางก็ไม่ได้เรียงติดกันแบบนี้
เราก็คุยกับเค้าว่า เวลาวางคนละมุมคือมองไม่ออกเลย สรุปเค้าขอยกเลิกออเดอร์ค่ะ
ยังไม่จบค่ะ
เก้าอี้หุ้มเบาะหนัง บางตัวมีรอยน่าจะเกิดจากตอนขนส่งค่ะ อันนี้เราพลาดเองจริงๆ
ตอนเช็คเลขาเค้าก็เช็คทุกจุด แล้วแจ้งกลับมาว่าจะให้แก้งานตรงไหนบ้าง เราก็แก้ตามที่เลขาคอมเม้นท์มาค่ะ
แก้เสร็จเรียบร้อย เลขาบอกมีรอยต่อตรงนี้ไม่เหมือนในรูป คือแบบในรูปก็มีรอยต่อนะ แต่มันอาจจะไม่ชัดเพราะแสง แล้วคือถ้าบอกให้จบแต่แรกเราก็ยอมทำให้ค่ะ
เลขาบอกว่าตอนแรกไม่มี เรามีรูปถ่ายคอนเฟิร์มว่ามีตั้งแต่แรก จริงๆเค้าเช็คละเอียดขนาดนี้เป็นไปไม่ได้ที่เค้าไม่เห็น รอยอยู่ด้านหน้าเลยค่ะ
แต่นี่เพิ่งมาบอก คือแก้งานซ้ำซ้อนมันมีค่าใช้จ่ายหลายๆอย่างที่เพิ่มขึ้น
เราเลยบอกไปว่า ตอนแรกลูกค้าเห็นสินค้าแล้ว เช็คแล้ว เราก็แก้ตามที่บอก ยกเลิกไม่ได้ค่ะ สุดท้ายเค้าไปฟ้องเจ้านายไฮโซว่าสินค้าไม่เหมือนในรูป (แต่คือเลขาก็เห็นของจริงแล้วหนิคะ)
ข้อผิดพลาดอีกเรื่องคือ
กระจกบานใหญ่สั่งเกินมา 1 บาน ตอนแรกจะขอคืน
เราบอกกระจกตัดเป็นทรงโค้งตามลูกค้าสั่ง แล้วเป็นขนาดใหญ่พิเศษแบบนี้เราเอาไปลงโปรเจคอื่นยากค่ะ
เรามีรูปยืนยันว่าในแปลนใส่กระจกมา 2บาน
งานนี้น่าสงสารที่สุดคือจัดซื้อ เค้าบอกว่าแปลนมาจากเลขา ซึ่งเลขาก็ปัดความผิดตรงนี้ และเจ้านายเค้าก็ไม่ยอมฟังอะไรเลย
สุดท้ายเราก็บอกไปว่า อันนี้เราช่วยจะเอากลับมา เดี๋ยวตัดเป็นบานเล็กขายละกัน (กำไรหายไปอี๊กกกก)
บริษัทร้อยล้าน กับ พนักงานทั่วไปเงินเดือนก็ไม่เท่าไหร่ แล้วต้องมารับผิดชอบของ2-3หมื่น คือหน้าเลือดมาก
สุดท้ายจะให้เราส่งของก่อน แล้วค่อยจ่ายทีหลังค่ะ
ด้วยเหตุผลว่า เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา เค้าไม่เบี้ยวแน่นอน หึๆๆ (จะบอกว่าใหญ่กว่านี้เคยเจอเบี้ยวมาแล้วค่ะ)
บอกว่าของเรามีปัญหาเยอะ ซึ่งตรงนี้เรายอมรับ แต่บางส่วนก็ยอมให้ยกเลิกและแก้ไขให้แล้ว บางจุดที่เล็กมากๆๆๆ และ บางชิ้นที่ผิดพลาดจากเค้าเอง เราก็ยังยอมเคลียร์ให้แล้ว
สรุปบอสใหญ่ลงมาคุยหน้างานเองค่ะ
เหวี่ยงเต็มที่ บอกว่ายังไงก็ไม่ยอมจ่ายก่อนส่งของแน่นอน แล้วพูดเรื่องที่ของเราไม่เหมือนในรูป ของเราห่วย
(ทั้งๆที่เลขาตัวเองเห็นของจริงแล้ว แก้งานตามสั่งแล้ว) และเรื่องตำหนิเล็กๆที่ต้องเพ่ง หรือ เอาไฟฉายส่อง (ซึ่งเราก็ยอมให้คืนค่ะ)
เราบอกนางว่า ตามใบเสนอราคาระบุเรื่องจ่ายเงินแล้วนะคะ แล้วเลขาเห็นของจริงแล้วด้วย ไม่แจ้งเรื่องจุดแก้งานให้ครบ นางบอกไม่รู้แหละ ของคุณไม่เหมือนในรูปมันแย่มากๆ
จบง่ายๆเถอะ ส่งของก่อนค่อยเคลียร์เรื่องเงิน ไม่งั้นจะไปเขียนโพสต์รีวิว
ซึ่งเรารู้สึกแย่มากๆกับคำพูดนาง ขู่ย้ำๆว่าจะไปโพสต์นั่นโพสต์นี่
คือคุณเป็นไฮโซแล้วมีอภิสิทธิ์มากๆเลยเนอะ จะไม่ทำตามข้อตกลงก็ได้ มีปัญหาก็แค่ไปโพสต์ด่า ยังไงทุกคนก็ต้องเชื่อคุณงี้หรอ?
ลูกค้าดาราและไฮโซหลายคนที่เจอมา ยังไม่เคยเจอใครใช้คำพูดแบบนี้เลยค่ะ
หรือเราควรจะส่งของให้จบๆเรื่องไปคะ? ถ้าเกิดไม่จ่ายเงินค่อยมาดราม่าอีกรอบ TT__TT
PS. แอบเม้าส์กับจัดซื้อว่าถ้าอยากได้ของเกรดขนาดนั้น ทำไมไม่สั่งพวกแบรนด์ Hi-end ตามห้างไปเลย งานสั่งทำ ยังไงก็ไม่เหมือนเป๊ะๆหรอก
เค้าบอกถ้าสั่งแบบนั้นงบคงบานปลายไปหลายสิบล้านสิ ได้ยินแล้วคือ...จ่ายหลักแสน อยากได้งานหลักล้าน ค่ะ......
เพื่อนๆพี่ในวงการให้คำแนะนำได้นะคะ เราจะได้นำไปแก้ไข ปรับปรุงตัวเองด้วยค่ะ