ชื่อรุ่น “เอ็มพี” ของสมิธฯ สำหรับนักนิยมปืนรุ่นเก่ารู้จักกันดีว่าเป็นลูกโม่ .38 หกนัด ยอดนิยมของตำรวจทั่วโลกติดต่อกันหลายสิบปี ก่อนที่จะเข้ายุคของปืนกึ่งอัตโนมัติ ชื่อเต็มของปืนลูกโม่รุ่นนี้ก่อนเปลี่ยนเป็นชื่อรหัส โมเดล 10 คือ Military and Police เขียนตัวย่อ M&P แต่ทั้งฝรั่งทั้งไทยเรียกตามสะดวกว่า “เอ็มพี” ไม่มี “แอนด์” ตรงกลาง



ในขณะที่ตำรวจนิยมปืนลูกโม่ เพราะใช้งานง่าย เหมาะกับภารกิจที่ไม่น่าจะต้องยิงปืนต่อเนื่องใช้กระสุนมากนัก ในทางทหารเลือกใช้ปืนพกแบบกึ่งอัตโนมัติกันมากกว่า กองทัพสหรัฐใช้ขนาด .45 ออโตฯ มาตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 เพิ่งเปลี่ยนเป็น 9 มม. ให้เป็นมาตรฐานเดียวกับกองกำลัง NATO ในปี ค.ศ. 1986 ถือเป็นชัยชนะครั้งสำคัญของปืน “เก้าลูกดก” ที่จะเข้ามาแทนทั้งปืนลูกโม่ .38 และ ออโตฯ .45
ด้านการทำงาน ระบบรีคอยล์ ใช้ลำกล้องกระดกเพื่อขัดกลอนของเบรานิงก์ กลายเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตทุกรายนำไปใช้ จุดเปลี่ยนอยู่ที่การจุดชนวน โดย “กล็อก” ใช้ระบบเข็มพุ่งกระ แทก จุดชนวนแทนระบบนกสับเดิม ประ กอบกับโครงโพลิเมอร์ ต้นทุนผลิตต่ำ แต่ได้ปืนสมรรถนะสูง ยิงแม่น คุมง่าย ส่งผลให้ กล็อก เป็นปืน 9 มม. ที่ขายได้มากที่สุดในโลกนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา
สมิธฯ มีปืน 9 มม. ไกดับเบิล/ซิงเกิล ที่จัดว่าขายได้ดีคือ 5906 ต้านกระแสความนิยมของ กล็อก ไม่ไหว จึงผลิตรุ่น “ซิกม่า” (Sigma) ออกสู่ตลาดในปี ค.ศ. 1994 แต่อาจเป็นเพราะรีบทำ ผลงานจึงไม่ค่อยดีนัก ซ้ำยังถูก กล็อก ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการละเมิดสิทธิบัตร หลังจากคดีความตกลงกันได้เรียบร้อย สมิธฯ ออกปืนกึ่งอัตโนมัติรุ่นใหม่ใช้ชื่อเก่าของปืนลูกโม่คือ M&P ในปี ค.ศ. 2006 (MP9c, เดลินิวส์ 18 ส.ค. 55)
ปืนในชุด เอ็มพี ยุคใหม่ของสมิธฯ ทำออกมาสำหรับกระสุน .22, 9 มม., .40 และ .45 ACP ความยาวลำกล้องสั้นสุด 3 นิ้วในรุ่น Shield ตัวแบนสำหรับพกซ่อนโดยเฉพาะ และยาวสุด 5 นิ้วในรุ่น Pro โดยรุ่นใช้งานทั่วไป มีซับคอมแพ็ค (Sub-compact) ลำกล้อง 3.5 นิ้ว, คอมแพ็ค (Compact) ลำกล้อง 4 นิ้ว และฟูลไซส์ (Full size) ลำกล้อง 4.25 นิ้วสำหรับ 9 มม. กับ .40 ถ้าเป็น .45 ใช้ลำกล้อง 4.5 นิ้ว วัสดุที่ใช้เหมือนกันทั้งตระกูล คือด้ามโพลิเมอร์หุ้มโครงเหล็ก  ลำกล้องและลำเลื่อนเป็นสเตนเลส แต่งผิวดำด้วยกรรมวิธีชุบไนไตรท์ โรงงานเรียกว่า “เมโลไนท์” (Melonite) ความแข็งผิว 68 ร็อคเวล ทั้งสวยทั้งทนดีมาก



จุดเด่นของ เอ็มพี คือแนวลำกล้องที่อยู่ต่ำใกล้ง่ามมือ ช่วยให้ยิงซ้ำได้เร็ว แรงเหนี่ยวไก 6.5 ปอนด์มาตรฐาน เป็นไก “กึ่งดับเบิล” เช่นเดียวกับกล็อก สามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนให้เบาลงเหลือ 4.5 ปอนด์ หรือหนักขึ้นเป็น 10 ปอนด์ (สเปกสำหรับตำรวจสหรัฐ) ก็ได้ ด้ามจับถนัดดีมาก โดยมีหลังด้ามถอดเปลี่ยนได้สามขนาดตามต้องการ ระบบความปลอดภัยครบครัน โดยตัวไกทำเป็นข้อพับป้องกันปืนลั่นจากแรงเฉื่อย และมีตัวล็อกเข็มแทงชนวน จะเปิดทางให้เข็มเมื่อเหนี่ยวไกเข้ามาเกือบสุด มีคันห้ามไกบนโครงปืนที่ทำงานเหมือน 1911 ให้เลือกได้
สำหรับจุดที่สมิธฯ เน้นว่าเหนือกว่ากล็อก คือมีกลไกให้ลดเข็มแทงชนวนเพื่อถอดทำความสะอาดได้ ไม่ต้องเหนี่ยวไกยิงแห้ง ซึ่งหากเผอเรอทิ้งกระสุนค้างในรังเพลิงจะเกิดอุบัติเหตุได้ สมิธฯ เอ็มพี มีคันลดเข็มซ่อนอยู่ในโพรงรับซองกระสุน เมื่อปลดซองกระสุน ดึงลำเลื่อนขัดค้างแล้ว ใช้เครื่องมือที่เสียบอยู่ใต้ด้าม พลิกคันลดเข็มลงมา จากนั้นถอดลำเลื่อนทำความสะอาดเหมือนปืนทั่วไป เมื่อประกอบกลับเสียบซองกระสุนเข้าที่ ตัวซองกระสุนจะดันคันลดเข็มนี้ให้พับเก็บเอง ปืนพร้อมใช้งาน
นายแบบสัปดาห์นี้ เป็น MP45 ลำกล้อง 4 นิ้ว เท่ารุ่นคอมแพ็ค ด้ามยาวเท่ารุ่นมาตรฐานจับได้เต็มมือ ซองกระสุน 10 นัด โดยตัวปืนยังแบนบางเท่ารุ่น 9 มม. มีห้ามไกบนโครงปืนทั้งซ้ายขวา พลิกขึ้นห้ามไก พลิกลงพร้อมยิง ศูนย์แต้มจุดขาวเรืองแสงสามจุด โครงปืนใต้ลำกล้องทำรางรับอุปกรณ์มาตรฐานมาให้พร้อม เหมาะสำหรับเจ้าหน้าที่พกซองซ่อนในขอบกางเกง  เข้าห้ามไกเพิ่มความปลอดภัยได้อีกระดับหนึ่ง.
.....................................................................................
ข้อมูลสรุป Smith M&P45
ขนาดกระสุน .45 ACP ความจุ 10 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 192x140x31 มิลลิเมตร
ลำกล้อง 102 มม. (4 นิ้ว)
น้ำหนัก 870 กรัม
แรงเหนี่ยวไก 3,000 กรัม (6.5 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กสเตนเลส, โครงโพลิเมอร์หุ้มรางเหล็ก
อื่นๆ คันนิรภัยซ้ายขวา
ลักษณะใช้งาน ต่อสู้ระยะปานกลาง, เฝ้าบ้าน, พกซอง
ตัวเลือกอื่น Ruger SR45, Springfield XD



https://www.dailynews.co.th/article/189051/
http://www.xn--12c2c8aba4ac8b8iqah2d.com/2019/12/11-45c.html
......................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช