ก่อนหน้าที่ปืนพกกึ่งอัตโนมัติจะเข้าสู่ยุคโครงปืนโพลิเมอร์ สมิธฯ มีปืนไกดับเบิล/ซิงเกิล ระบบนกสับอยู่เดิม ใช้รหัสเลขสี่ตัว เช่น โมเดล 5906 ขนาด 9 มม., โมเดล 4506 ขนาด .45 ออโตฯ เป็นต้น วัสดุเป็นสเตนเลสส์ทั้งกระบอก เมื่อเห็นตัวอย่างจาก กล็อก ว่า ตลาดยอมรับปืนโครงโพลิเมอร์ที่ต้นทุนต่ำกว่า ขายง่ายกว่า สมิธฯ จึงเริ่มผลิตปืนในชุด “ซิกม่า” (Sigma Series) เมื่อปี 1994 การทำงานเหมือนปืนกล็อกหลายจุด จนถูกบริษัทกล็อกฟ้อง ต้องจ่ายค่าชดเชยฐานลอกเลียนแบบ จากนั้นยังร่วมมือกับ วอลเธอร์ ในปี 1999 ผลิตรุ่น SW99 สำหรับตลาดสหรัฐฯ ตามแบบวอลเธอร์ P99 ที่ใช้ระบบไกล้ำหน้ากว่าซิกม่า ระดับราคาสูงกว่า แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่หวัง
ในที่สุด สมิธฯ ปรับแบบปืนระบบเข็มพุ่งได้อย่างลงตัว คือเหนือกว่าซิกม่าเดิม โดยไม่ซับซ้อนเท่า SW99 เริ่มออกขายในปี 2005 ใช้ชื่อรุ่นว่า M&P (ย่อจาก Military and Police) ที่เป็นชื่อเดิมของปืนโมเดล 10 ลูกโม่ยอดนิยมที่ผลิตต่อเนื่องนานที่สุด ขายได้มากที่สุดของบริษัท นิยมเรียกกันว่า “เอ็มพี” ไม่มี “แอนด์” ตรงกลาง
สมิธฯ เอ็มพี ใช้โครงโพลิเมอร์เสริมเหล็กไว้ด้านใน เปลี่ยนหลังด้ามเพื่อปรับขนาดได้ให้เหมาะมือผู้ใช้ ซองกระสุนสองแถว ตามแนวลูกดก มีทั้งขนาด 9 มม., .40 และ .45 ความยาวลำกล้องตั้งแต่ระดับ คอมแพ็ค 3.5 กับ 4 นิ้ว, มาตรฐาน 4.25 กับ 4.5 นิ้ว และยาวสุด 5 นิ้ว เรียกว่า “โปรซีรีส์” (Pro Series) จุดที่โรงงานคุยว่าเหนือกว่า กล็อก ต้นตำรับ คือไกที่มีจุดหยุดก่อนลั่น ให้ความรู้สึกว่าไกคม ไม่หยุ่นตลอดทางเหมือนกล็อก มีคันลดเข็ม ถอดทำความสะอาดได้ไม่ต้องเหนี่ยวไกยิงแห้ง และมีรุ่นที่ติดตั้งคันนิรภัยซ้ายขวา สำหรับผู้ที่ต้องการล็อกการทำงานของปืนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
วัสดุส่วนลำกล้องและลำเลื่อนของ เอ็มพี เป็นเหล็กสเตนเลสส์ เคลือบผิวแข็งด้วยกรรมวิธี “เมโลไนท์” (Melonite) สีดำด้าน ความแข็ง 68 ร็อคเวล ซึ่งเป็นความแข็งระดับเหล็กเครื่องมือ หรือใบมีดชั้นดี เช่น M2, 154CM เป็นต้น ช่วยลดการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งาน เมื่อประกอบกับ ข้อดีของระบบการจุดชนวนแบบเข็มพุ่ง คือแนวลำกล้องเตี้ย ใกล้ง่ามมือ ทำให้ปืนไม่สะบัดมาก คุมง่าย ยิงซ้ำได้รวดเร็ว ส่งผลให้ เอ็มพี ทำยอดขายได้ดี เป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของสมิธฯ
จากรุ่นลูกดกซองกระสุนสองแถว สมิธฯ เพิ่มรุ่น “เอ็มพี ชีลด์” (M&P Shield) ในปี 2012 เน้นความแบนบาง เพื่อการพกซ่อน ตัวปืนหนาเพียง 24 มิลลิเมตร เทียบกับรุ่นปกติ 31 มิลลิเมตร ลำกล้องสั้น 79 มิลลิเมตร (3.1 นิ้ว) สั้นกว่าตัวสั้นที่สุดของรุ่นลูกดกคือ 83 มิลลิเมตร (3.25 นิ้ว) ห้ามไกบนโครงปืนทำมาเฉพาะด้านซ้าย กดลงพร้อมยิง ผลักขึ้นเข้าห้ามไก แรงเหนี่ยวไกจากโรงงาน 6.5 ปอนด์ โดยเป็นไกรุ่นใหม่ พัฒนาจากของเดิมให้ช่วงคืนไกสั้น เหนี่ยวซ้ำได้เร็ว มีเสียงคลิกและรู้สึกได้เมื่อคลายนิ้วหลังเหนี่ยวไก ภายในมีระบบล็อกเข็มแทงชนวน ต้องเหนี่ยวไกมาเกือบสุดจึงปลดล็อก และตัวไกมีข้อพับป้องกันปืนลั่นจากแรงเฉื่อย เช่น ทำหล่นกระทบพื้น ระบบความปลอดภัยจัดว่าครบครัน
อีกจุดที่เพิ่มความปลอดภัย คือคันลดเข็มแทงชนวน ใช้เมื่อถอดทำความสะอาด เมื่อปลดซองกระสุน ตรวจรังเพลิงแล้ว ดึงลำเลื่อนสุด ขัดค้างไว้ ใช้ไขควงเล็กพลิกคันลดเข็มแทงชนวนลงมาทางท้ายรังเพลิง พลิกคันล็อกด้านหน้า เลื่อนชุดลำเลื่อนออกได้ เมื่อประกอบกลับเพียงเสียบซองกระสุนเข้าสุด ก็จะดันตัวลดเข็มให้พลิกกลับเข้าที่เอง
โดยรวม สมิธฯ เอ็มพี ชีลด์ เป็นปืนระดับ 9 มม. ที่แบนบาง พกซ่อนได้มิดชิด ฝีมือผลิตเรียบร้อย ด้ามจับถนัด ยิงง่าย คุมแรงรีคอยล์ได้ดี ศูนย์แต้มจุดขาวสามจุด ช่วยให้เล็งได้ในที่แสงน้อย วัสดุโพลิเมอร์กับสเตนเลสส์ ดูแลรักษาง่าย เคลือบผิวแข็ง ลื่น ต้านสนิมดีมาก ระบบความปลอดภัยครบ ซองกระสุนตัวสั้นพกได้แนบเนียน แต่อาจจับได้ไม่เต็มมือนัก มีซองกระสุนยาวเสริมด้ามให้เลือกใช้ได้ สิ่งที่ขาดไปเมื่อเทียบกับรุ่นลูกดกคือห้ามไกด้านขวา และรางสำหรับติดตั้งอุปกรณ์หน้าโกร่งไก
******************
ข้อมูลสรุป Smith M&P Shield
ขนาดกระสุน 9 มม. พาราฯ (9x19 mm.) ความจุ 7 หรือ 8 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 155x117x24 มิลลิเมตร
ลำกล้อง 79 มม. (3.1 นิ้ว)
น้ำหนัก 540 กรัม
แรงเหนี่ยวไก 3,000 กรัม (6.5 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กสเตนเลสส์เคลือบผิวดำ, โครงโพลิเมอร์หุ้มรางเหล็ก
อื่นๆ คันนิรภัยด้านซ้าย, ปุ่มปลดซองกระสุนกลับข้างได้
ลักษณะใช้งาน พกซ่อน, เฝ้าบ้าน, ต่อสู้ระยะใกล้ถึงปานกลาง
ตัวเลือกอื่น Kahr CW, Walther PPS, Ruger LC9
https://d.dailynews.co.th/article/231158/
******************
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 1230 9 มม. แถวเดี่ยว สมิธฯ เอ็มพี ชีลด์
ในที่สุด สมิธฯ ปรับแบบปืนระบบเข็มพุ่งได้อย่างลงตัว คือเหนือกว่าซิกม่าเดิม โดยไม่ซับซ้อนเท่า SW99 เริ่มออกขายในปี 2005 ใช้ชื่อรุ่นว่า M&P (ย่อจาก Military and Police) ที่เป็นชื่อเดิมของปืนโมเดล 10 ลูกโม่ยอดนิยมที่ผลิตต่อเนื่องนานที่สุด ขายได้มากที่สุดของบริษัท นิยมเรียกกันว่า “เอ็มพี” ไม่มี “แอนด์” ตรงกลาง
สมิธฯ เอ็มพี ใช้โครงโพลิเมอร์เสริมเหล็กไว้ด้านใน เปลี่ยนหลังด้ามเพื่อปรับขนาดได้ให้เหมาะมือผู้ใช้ ซองกระสุนสองแถว ตามแนวลูกดก มีทั้งขนาด 9 มม., .40 และ .45 ความยาวลำกล้องตั้งแต่ระดับ คอมแพ็ค 3.5 กับ 4 นิ้ว, มาตรฐาน 4.25 กับ 4.5 นิ้ว และยาวสุด 5 นิ้ว เรียกว่า “โปรซีรีส์” (Pro Series) จุดที่โรงงานคุยว่าเหนือกว่า กล็อก ต้นตำรับ คือไกที่มีจุดหยุดก่อนลั่น ให้ความรู้สึกว่าไกคม ไม่หยุ่นตลอดทางเหมือนกล็อก มีคันลดเข็ม ถอดทำความสะอาดได้ไม่ต้องเหนี่ยวไกยิงแห้ง และมีรุ่นที่ติดตั้งคันนิรภัยซ้ายขวา สำหรับผู้ที่ต้องการล็อกการทำงานของปืนอีกชั้นหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
วัสดุส่วนลำกล้องและลำเลื่อนของ เอ็มพี เป็นเหล็กสเตนเลสส์ เคลือบผิวแข็งด้วยกรรมวิธี “เมโลไนท์” (Melonite) สีดำด้าน ความแข็ง 68 ร็อคเวล ซึ่งเป็นความแข็งระดับเหล็กเครื่องมือ หรือใบมีดชั้นดี เช่น M2, 154CM เป็นต้น ช่วยลดการสึกหรอ ยืดอายุการใช้งาน เมื่อประกอบกับ ข้อดีของระบบการจุดชนวนแบบเข็มพุ่ง คือแนวลำกล้องเตี้ย ใกล้ง่ามมือ ทำให้ปืนไม่สะบัดมาก คุมง่าย ยิงซ้ำได้รวดเร็ว ส่งผลให้ เอ็มพี ทำยอดขายได้ดี เป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงของสมิธฯ
จากรุ่นลูกดกซองกระสุนสองแถว สมิธฯ เพิ่มรุ่น “เอ็มพี ชีลด์” (M&P Shield) ในปี 2012 เน้นความแบนบาง เพื่อการพกซ่อน ตัวปืนหนาเพียง 24 มิลลิเมตร เทียบกับรุ่นปกติ 31 มิลลิเมตร ลำกล้องสั้น 79 มิลลิเมตร (3.1 นิ้ว) สั้นกว่าตัวสั้นที่สุดของรุ่นลูกดกคือ 83 มิลลิเมตร (3.25 นิ้ว) ห้ามไกบนโครงปืนทำมาเฉพาะด้านซ้าย กดลงพร้อมยิง ผลักขึ้นเข้าห้ามไก แรงเหนี่ยวไกจากโรงงาน 6.5 ปอนด์ โดยเป็นไกรุ่นใหม่ พัฒนาจากของเดิมให้ช่วงคืนไกสั้น เหนี่ยวซ้ำได้เร็ว มีเสียงคลิกและรู้สึกได้เมื่อคลายนิ้วหลังเหนี่ยวไก ภายในมีระบบล็อกเข็มแทงชนวน ต้องเหนี่ยวไกมาเกือบสุดจึงปลดล็อก และตัวไกมีข้อพับป้องกันปืนลั่นจากแรงเฉื่อย เช่น ทำหล่นกระทบพื้น ระบบความปลอดภัยจัดว่าครบครัน
อีกจุดที่เพิ่มความปลอดภัย คือคันลดเข็มแทงชนวน ใช้เมื่อถอดทำความสะอาด เมื่อปลดซองกระสุน ตรวจรังเพลิงแล้ว ดึงลำเลื่อนสุด ขัดค้างไว้ ใช้ไขควงเล็กพลิกคันลดเข็มแทงชนวนลงมาทางท้ายรังเพลิง พลิกคันล็อกด้านหน้า เลื่อนชุดลำเลื่อนออกได้ เมื่อประกอบกลับเพียงเสียบซองกระสุนเข้าสุด ก็จะดันตัวลดเข็มให้พลิกกลับเข้าที่เอง
โดยรวม สมิธฯ เอ็มพี ชีลด์ เป็นปืนระดับ 9 มม. ที่แบนบาง พกซ่อนได้มิดชิด ฝีมือผลิตเรียบร้อย ด้ามจับถนัด ยิงง่าย คุมแรงรีคอยล์ได้ดี ศูนย์แต้มจุดขาวสามจุด ช่วยให้เล็งได้ในที่แสงน้อย วัสดุโพลิเมอร์กับสเตนเลสส์ ดูแลรักษาง่าย เคลือบผิวแข็ง ลื่น ต้านสนิมดีมาก ระบบความปลอดภัยครบ ซองกระสุนตัวสั้นพกได้แนบเนียน แต่อาจจับได้ไม่เต็มมือนัก มีซองกระสุนยาวเสริมด้ามให้เลือกใช้ได้ สิ่งที่ขาดไปเมื่อเทียบกับรุ่นลูกดกคือห้ามไกด้านขวา และรางสำหรับติดตั้งอุปกรณ์หน้าโกร่งไก
******************
ข้อมูลสรุป Smith M&P Shield
ขนาดกระสุน 9 มม. พาราฯ (9x19 mm.) ความจุ 7 หรือ 8 นัด
มิติ ยาวxสูงxหนา : 155x117x24 มิลลิเมตร
ลำกล้อง 79 มม. (3.1 นิ้ว)
น้ำหนัก 540 กรัม
แรงเหนี่ยวไก 3,000 กรัม (6.5 ปอนด์)
วัสดุ เหล็กสเตนเลสส์เคลือบผิวดำ, โครงโพลิเมอร์หุ้มรางเหล็ก
อื่นๆ คันนิรภัยด้านซ้าย, ปุ่มปลดซองกระสุนกลับข้างได้
ลักษณะใช้งาน พกซ่อน, เฝ้าบ้าน, ต่อสู้ระยะใกล้ถึงปานกลาง
ตัวเลือกอื่น Kahr CW, Walther PPS, Ruger LC9
https://d.dailynews.co.th/article/231158/
******************
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช