ปืนลูกโม่ลำกล้องสั้นสองนิ้ว ที่คนอเมริกันเรียกรวมว่า snub-nosed revolver หรือ “snubby” บ้านเราเรียก “ปืนสั้นจู๋” เป็นแบบปืนที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมานานหลายสิบปี ข้อดีคือความปลอดภัยสูง ใช้ง่ายตามธรรมชาติของปืนลูกโม่ลำกล้องที่สั้นมากช่วยให้ชักปืนออกจากซองได้รวดเร็ว มักใช้ในลักษณะพกพามิดชิดตามกฎหมายบังคับหรือเป็นปืนสำรองของเจ้าหน้าที่เพิ่มจากปืนกระบอกหลักที่พกซองนอก 


 
 
ในด้านของขนาดกระสุน ที่นิยมกันมากที่สุดสำหรับปืนลูกโม่สองนิ้ว คือ .38 สเปเชียล กระสุนขนาดนี้เริ่มมีใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 1899 ในปืนลูกโม่หกนัดลำกล้องสี่นิ้วของสมิธฯ คือ เอ็มพี (M&P : Military & Police) ต่อมา โคลท์ ทำดีเทคตีฟ สเปเชียล ลำกล้องสองนิ้วให้ใช้กระสุนนี้ในปี ค.ศ. 1927 (เดลินิวส์ 9 พ.ย. 56) ปืนโคลท์โม่เล็กกว่าจากการออกแบบร่องรับตัวล็อกเบี่ยงออกข้าง ได้รับความนิยมเหนือกว่าสมิธฯ เอ็มพี หกนัด ที่ส่วนโม่อวบหนากว่า 
สมิธฯ ปรับแบบปืนลูกโม่ .38 ของเดิม ที่ใช้กระสุนสั้น แรงต่ำกว่า .38 สเปเชียล สร้างโครงปืนรหัส J-Frame ให้รับกระสุน .38 สเปเชียลได้ เปิดตัวเมื่อปี ค.ศ. 1950 ในงานประชุมใหญ่ของตำรวจ ตั้งชื่อรุ่นว่า “ชีฟ สเปเชียล” (Chief Special : ปืน ผบ.) เป็นการตัดไม้ข่มนาม ให้เหนือกว่าโคลท์ ดีเทคตีฟ สเปเชียล (Detective Special : ปืนสายสืบ) ซึ่งโม่ของ ชีฟฯ ห้านัด เมื่อประกอบกับตัวล็อกกลางโครงปืน ร่องรับตัวล็อกจะอยู่ตรงเนื้อเหล็กหนาที่สุด ทำให้โม่แข็งแรงดีมาก ตัวโม่เล็กกว่า เอ็มพี 5 มิลลิเมตร และเล็กกว่าโคลท์ 2 มิลลิเมตร บวกกับระบบไกที่แยกสปริงนกสับกับสปริงไก ให้ความรู้สึกในการเหนี่ยวไกเรียบลื่นดีกว่า ส่งผลให้ ชีฟ สเปเชียล กลายเป็นปืนขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของสมิธฯ โดยต่อมาใช้รหัสรุ่นเป็น โมเดล 36 ตามด้วย โมเดล 37 ชีฟ แอร์เวท (Chief Airweight) โครงอัลลอยด์, โมเดล 38 บอดี้การ์ด (Bodyguard) มีครอบนก, โมเดล 40 เซนเทนเนียล (Centennial) นกใน, โมเดล 42 เซนเทนเนียล แอร์เวท โครงอัลลอยด์ ล้วนเป็นลูกโม่สองนิ้วห้านัดที่ สมิธฯ เริ่มผลิตในช่วงปี ค.ศ.1951-1953 เสริมด้วย โมเดล 60 คือ ชีฟฯ สเตนเลส ในปี ค.ศ. 1965 



สมิธฯ โมเดล 637-2 แต่งพิเศษจากศูนย์เพิ่มสมรรถนะ (Performance Center) พื้นฐานเป็นวิวัฒนาการจาก โมเดล 37 เติมเลข 6 ข้างหน้า หมายถึงวัสดุสเตนเลสที่ใช้ทำลำกล้องและโม่ จากของเดิมเป็นเหล็กรมดำ และ -2 ต่อท้าย คือแป้นคัดปลอกกระสุนทำจากแผ่นสี่เหลี่ยม แทนของเดิมแผ่นกลม เพิ่มกุญแจล็อกตามกฎหมายบังคับ ส่วนที่ศูนย์ฯ แต่ง คือตัดหางนกสับเพื่อไม่ให้มีส่วนเกี่ยวเสื้อผ้า บังคับให้ใช้งานแบบไกดับเบิลล้วน ขัดผิวเงากับด้านตัดกันอย่างสวยงาม ใส่ด้ามแบบมีแป้นสำหรับจับขอบกางเกง พกซ่อนได้ไม่ต้องใช้ซอง ทั้งหมดเป็นการออก แบบของ Rich Wyatt เจ้าของรายการโทรทัศน์ Gunsmoke ทางโรงงานจึงคร่ำทองชื่อรายการนี้ไว้ที่ด้านขวาของลำกล้อง และชื่อรุ่น Wyatt Deep Cover สลักด้วยเลเซอร์ไว้ที่ด้านซ้ายของโครงปืน 

การทำงาน เป็นลูกโม่เปิดโม่ออกข้าง จุห้านัด ใช้กระสุน .38 สเปเชียลแรงสูง (+P) ได้ แป้นเปิดโม่ผลักไปด้านหน้า ยิงแบบไกดับเบิลทุกนัดคือไม่ต้องง้างนกก่อน โม่หมุนทวนเข็มนาฬิกา เมื่อเหนี่ยวไกช่องโม่ด้านขวาจะหมุนมาตรงลำกล้อง แรงเหนี่ยวไก 10 ปอนด์ เบากว่าลูกโม่โครงเล็กทั่วไปประมาณ 2-3 ปอนด์ หน้าไกขัดเงาไม่กัดนิ้ว ศูนย์หลังเป็นร่องบนสันโครงปืน ศูนย์หน้าแบบลาดมาด้านหลัง แกะลายตัดแสงสะท้อน ประกับด้ามด้านขวาที่ทำปีกไว้เกาะขอบกางเกงไม่เป็นปัญหาในการจับยิง ใช้มือขวานิ้วชี้อยู่ใต้ส่วนนี้ และเมื่อใช้มือซ้ายสามารถวางนิ้วโป้งไว้ที่ปีกด้ามได้ 



บทสรุปสำหรับ สมิธฯ 637 แต่งพิเศษกระบอกนี้ เป็นลูกโม่พกซ่อน เหมาะสำหรับพกด้านในขอบกางเกง อาศัยด้ามพิเศษไม่ต้องใช้ซองพก ตัดหางนกเพื่อให้ชักปืนได้คล่องไม่เกาะเกี่ยวเสื้อผ้า ไกดับเบิลล้วน แต่งเรียบลื่นดีมากจากโรงงาน น้ำหนักตัวมากกว่าปืนโครงโพลิ เมอร์ของรูเกอร์เพียง 20 กรัม และสวยกว่ากันมาก. 

ข้อมูลสรุป Smith M.637 Wyatt Deep Cover 

ขนาดกระสุน .38 สเปเชียล +P โม่จุ 5 นัด 

มิติตัวปืน ยาวxสูงxหนา : 160x115x32 มิลลิเมตร 

ลำกล้องยาว 47 มม. (1.9 นิ้ว) 

น้ำหนัก 395 กรัม 

แรงเหนี่ยวไก ดับเบิลล้วน 4,500 กรัม (10 ปอนด์) 

วัสดุ โครงอัลลอยด์, ลำกล้องกับโม่เหล็กสเตนเลส 

อื่น ๆ ด้ามแบบเหน็บในขอบกางเกง ไม่ต้องใช้ซอง 

ลักษณะใช้งาน พกซ่อน, ต่อสู้ระยะใกล้ 

ตัวเลือกอื่น Ruger LCR ; Smith M.638, M.642 ; Taurus M.850 

..................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช