สารานุกรมปืนตอนที่ 531 เจ็ดนัดเหล็กดำ สมิธฯ PC 586-7 L-Comp

ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็น 586 สั่งพิเศษจากศูนย์แต่ง PC ใช้ลำกล้อง 3 นิ้ว ชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการคือ PC 586-7 L-Comp โดยรหัส -7 ใช้สำหรับรุ่นที่ใส่โม่ Magnum Plus จุ 7 นัด



สมิธแอนด์เวสสัน ออกแบบกระสุนขนาด .357 แม็กนั่ม ในปี 1935 เพื่อสนองความต้องการของตำรวจ ที่เริ่มเอนเอียงไปทางปืนกึ่งอัตโนมัติ .38 ซูเปอร์ ของโคลท์ ที่ออกขายในปี 1929 และคุยว่าสามารถยิงทะลุตัวถังรถได้ เหนือกว่า .38 สเปเชียลที่ตำรวจใช้กันแพร่หลายอยู่เดิม เปรียบเทียบเมื่อใช้หัวกระสุนหนัก 125 เกรนเท่ากัน .38 สเปเชียลทำความเร็วได้ 900 ฟุต/วินาที ในขณะที่ .38 ซูเปอร์ กับ .357 แม็กนั่ม ทำได้ 1,400 กับ 1,450 ฟุต/วินาที ตามลำดับ

ตัวปืนสำหรับกระสุนแม็กนั่มขนาดใหม่นั้น สมิธฯ เลือกลูกโม่โครงใหญ่ N-Frame ตั้งชื่อรุ่นว่า “Magmum” ตรง ๆ ต่อมาจึงใช้รหัสเป็น โมเดล 27 และมีรุ่นประหยัดคือโมเดล 28 ผิวดำด้านออกขายคู่กัน ตัวปืนใหญ่และหนัก ยิงนุ่มนวลดี แต่ก็เป็นภาระของตำรวจในการพกพาติดเอวทั้งวัน และด้ามยังใหญ่กว่าปืนโครงกลาง K-Frame ที่ใช้กันอยู่เดิม สมิธฯ จึงเพิ่ม โมเดล 19 คอมแบ็ตแม็กนั่ม ในปี 1955 ใช้โครงเท่า โมเดล 15 คอมแบ็ตมาสเตอร์พีส ที่เป็นขนาด .38 สเปเชียล ทุกอย่างทำท่าจะไปได้ดี แต่ในปีเดียวกันนั้น โคลท์ ทุ่มสุดฝีมือทำ ไพธ่อน (Python) เจ้างูเหลือม ออกมาสำหรับกระสุน
.357 เช่นกัน โดยขนาดตัวปืนอยู่ตรงกลางระหว่างโครง N กับ K ของสมิธฯ กลายเป็นตัวเลือกที่ลงตัวทั้งขนาดและน้ำหนัก คือพกสะดวกกว่าโครง N และยิงนิ่มกว่าโครง K



หลังจากทนฟังคำชมปืนคู่แข่งอยู่ 20กว่าปี สมิธฯ จึงออกแบบปืนมาชนกับ ไพธ่อน โดยตรง ใช้โครงขนาดใหม่ที่ตั้งชื่อว่า L-Frame ตัวโม่หนา 40 มม. (N = 43, K = 37) หนากว่าไพธ่อนไม่ถึง 0.5 มม. ที่สำคัญคือ โครงด้ามเท่า K-Frame ที่คุ้นเคย และเพิ่มน้ำหนักด้วยสันปืนหลังถนนกับฝักหุ้มก้านคัดปลอกยาวตลอดใต้ลำกล้อง ยิงได้นิ่มนวลไม่ด้อยกว่าเจ้างูเหลือมของโคลท์ สมิธฯ ออกปืนโครง L นี้พร้อมกัน 4 รุ่นในปี 1981 คือ โมเดล 581, 586, 681 และ 686 เลขรหัสตัวหน้า 5 คือเหล็กรมดำ, 6 คือสเตนเลส และเลขท้าย 1 ศูนย์ตาย, 6 ศูนย์ปรับได้แบบยิงเป้า จากตัวเลือกเหล่านี้ สมิธฯ 686 กลายเป็นตัวที่ขายดีที่สุด ผลิตต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ในขณะที่ 581, 586 เลิกผลิตในปี 1999 พร้อมกับที่โคลท์ เลิกทำไพธ่อนในสายการผลิตปกติ แต่ยังรับสั่งทำจำนวนจำกัดจนถึงปี 2005



เพื่อรักษาระดับต้นทุนไม่ให้สูงเกินไป สมิธ ตัดสินใจเลิกผลิตปืนลูกโม่รมดำในสายการผลิตปกติ เน้นขายปืนสเตนเลสเป็นหลัก แต่เลือกทำเฉพาะบางรุ่นในกลุ่ม “คลาสสิก” โดยมีรุ่น 586 ติดกลุ่มกลับมาผลิตใหม่ในปี 2012 มีให้เลือกทั้งลำกล้อง 4 นิ้ว และ 6 นิ้ว

ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็น 586 สั่งพิเศษจากศูนย์แต่ง PC ใช้ลำกล้อง 3 นิ้ว เจาะพอร์ตเพื่อลดแรงสะบัด ชื่อรุ่นอย่างเป็นทางการคือ PC 586-7 L-Comp โดยรหัส -7 ใช้สำหรับรุ่นที่ใส่โม่ Magnum Plus จุ 7 นัด โดยมีรุ่น PC 19 K-Comp โครง K เป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่เน้นพกพา และไม่ต้องการความจุกระสุนเพิ่ม น้ำหนักตัวปืนเบากว่า L-Comp ประมาณ 100 กรัม

ลูกโม่สมิธฯ จาก ศูนย์ PC ทุกกระบอก จะได้รับการขัดแต่งอย่างดีทั้งภายนอกภายใน ซึ่งสำหรับ 586 L-Comp กระบอกนี้ นอกจากความเรียบร้อยสวยงาม และกลไกที่เหนือกว่าปืนตลาดแล้ว ยังใช้โม่ที่คว้านสำหรับรับตับกระสุน แบบกลมเต็มวง (full moon clip) ช่วยให้บรรจุและคัดปลอกได้รวดเร็วพร้อมกันเจ็ดนัด และติดศูนย์หน้าเรืองแสงมาให้จากโรงงาน ใช้เป็นปืนหลักสำหรับเจ้าหน้าที่, ใช้แข่งระบบ IDPA หรือเป็นปืนเฝ้าบ้านได้อย่างดี เป็นปืนรมดำจุเจ็ดนัดรุ่นแรกและรุ่นเดียวของสมิธฯ.



https://www.dailynews.co.th/article/644137

....................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช



สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่