ปัญญา

ปัญญา
ปัญญามีความหมายหลายระดับ ปัญญาขั้นสูงคือการเห็นอย่างแจ่มชัดว่า ตัวตนไม่มีอยู่จริง ตัวตนเป็นสิ่งที่ใจปรุงแต่งขึ้นมา เมื่อคนด่า หูได้ยิน แต่ไม่ปรุงตัวกูมารับคำด่าเหล่านั้น จนรู้สึกว่าเขาด่ากู เมื่อโกรธ เห็นความโกรธ แต่ไม่มีตัวกูไปรับความโกรธ ความทุกข์ก็ไม่อาจรบกวนจิตใจได้
มีคนถามหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ซึ่งลือกันว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ เขาถามว่าหลวงปู่มีโกรธไหม ท่านว่า “มี แต่ไม่เอา” คือท่านไม่มีตัวกูที่จะไปรับความโกรธ ถ้าเป็นพวกเรา ก็จะเอาความโกรธทันที คือ มีตัวกูที่หยิบฉวยความโกรธ ตัวกูนั้นอยากฉวยอยากยึดทุกอย่าง 
ธรรมชาติของตัวกู คือไม่รู้จักพอ อยากได้เงิน อยากได้ชื่อเสียง อยากมีอำนาจ ไม่รู้จักจบสิ้น มีร้อยล้านก็อยากได้พันล้าน มีพันล้านก็อยากได้หมื่นล้าน เป็นหัวหน้ากองก็อยากเป็นผู้อำนวยการ อยากเป็นอธิบดี อยากเป็นปลัดกระทรวง แล้วก็ไม่รู้สึกพอสักที อยากเป็นรัฐมนตรี อยากเป็นนายก อยากเป็นนายกสองสมัย อยากเป็นนายกสามสมัย เหล่านี้คือธรรมชาติของตัวกู และไม่ใช่อยากได้เพียงยศ ทรัพย์ ชื่อเสียง อำนาจ แม้กระทั่งความโกรธ เกลียด ตัวกูก็ยังยึดเอาไว้
หลวงปู่ดุลย์ไม่มีตัวกู เพราะท่านมีปัญญาแจ่มชัดจนรู้ว่าตัวกูไม่มีจริง จึงไม่มีตัวกูผู้โกรธ ท่านไม่ยึดเอาความโกรธมาเป็นของท่าน ไม่รับ แต่ถ้าเป็นพวกเรา เราก็รับ เรากวาดทุกอย่างมาเป็นของเราหมดตามวิสัยของตัวกู 
การมีปัญญาที่แลเห็นว่า ตัวกูไม่มีจริง คืออนัตตา เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะทำให้ความทุกข์ไม่มีที่ตั้ง เหมือนกับฝุ่นผงไม่สามารถเกาะกระจกได้ หากไม่มีกระจกให้เกาะ มีแต่ความว่างเปล่า
หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ในสมัยที่ท่านเป็นพระหนุ่ม วันหนึ่งขณะที่ออกบิณฑบาต ท่านเห็นผู้หญิงกับลูกชายรอใส่บาตรจึงเดินไปรับบาตร เมื่อเข้าไปใกล้ เด็กชายวัย ๕ ขวบมองมาที่ท่านแล้วพูดว่า “บ่แม่นพระดอก บ่แม่นพระดอก” 
ท่านรู้สึกโกรธ แต่แล้วท่านก็มีสติ พอเห็นความโกรธของตนก็ได้คิดว่า “เออ จริงของมัน เราไม่ใช่พระหรอก ถ้าเราเป็นพระ เราต้องไม่โกรธซิ” 
เมื่อระลึกได้เช่นนี้ ท่านก็หายโกรธแล้วเดินไปรับบาตรด้วยใจปกติ การที่ท่านระงับความโกรธได้เป็นเพราะท่านฉลาดคิด เรียกว่ามีปัญญา หรือโยนิโสมนสิการ นอกจากจะไม่โกรธเด็กแล้ว ท่านยังเรียกเด็กคนนี้ว่าเป็นอาจารย์ของท่านอีกด้วย
เราจะเห็นว่าการปล่อยวางทำได้หลายวิธี เช่น สติ สมาธิ ปัญญา และไม่ใช่เอามาใช้ในยามที่มีปัญหาหรือตกอยู่ในสถานการณ์ตั้งรับเท่านั้น ไม่ใช่ปล่อยวางเมื่อของหาย สูญเสีย แต่เรายังสามารถปล่อยวางในสถานการณ์ที่เราเป็นฝ่ายรุกก็ได้ เช่น ทำงานด้วยใจปล่อยวาง ปล่อยวางอดีตและอนาคต รวมทั้งปล่อยวางผลงาน เมื่อทำงานใจก็อยู่กับงาน ทำความเพียรให้เต็มที่ 
มีสุภาษิตจีนกล่าวว่า “ความพยายามอยู่ที่มนุษย์ ความสำเร็จอยู่ที่ฟ้า” สุภาษิตนี้สอนให้เราทำความเพียรอย่างเต็มที่ อย่าไปกังวลหรือห่วงความสำเร็จ เพราะนั่นเป็นเรื่องของฟ้า ไม่ได้อยู่ในอำนาจของเรา 
พุทธศาสนาเรียกว่า เหตุปัจจัย ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เพราะมีเหตุปัจจัยมากมาย ซึ่งเราควบคุมไม่ได้ตั้งเยอะแยะ แต่สิ่งหนึ่งที่เราทำได้ก็คือทำความเพียรอย่างเต็มที่ ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ส่วนเรื่องผลสำเร็จนั้น เราควรปล่อยวาง นี้เรียกว่าปล่อยวางผลงาน
พระไพศาล วิสาโล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่