🍀บารมี คือ การสร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมดให้มันเต็มครบถ้วนสมบูรณ์
“…นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทจำไว้ให้ดีว่า คำว่า “บารมี” ก็คือ กำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม ตอนนี้ซิ ชักฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่าเรานี่มันแสนโง่เสียมาก กำลังเต็มตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัทท่านก็ให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐
ทัศว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า
๑ ทานบารมี
๒ ศีลบารมี
๓ เนกขัมมบารมี
๔ ปัญญาบารมี
๕ วิริยะบารมี
๖ ขันติบารมี
๗ สัจจะบารมี
๘ อธิษฐานบารมี
๙ เมตตาบารมี
๑๐ อุเบกขาบารมี
องค์สมเด็จพระชินศรีจึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า สัมพเกษี ถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ให้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมดให้มันเต็มครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่อง คือ
๑.จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
๒.จิตพร้อมในการทรงศีล นี่ซิ.. บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป
๓.จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะแปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวลผมสั้น บวชโกนผม ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้นตัว
๔.จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป
๕.วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมไว้เสมอ
๖.ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
๗.สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่า ไม่จริงสำหรับใจเรา ในด้านการทำความดี
๘.อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
๙.เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเองเสมอด้วยบุคคลอื่น
๑๐.อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้
อุเบกขาบารมีตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า ตรงกับภาษาไทย ที่ใช้กันเป็นปกติว่า ช่างมัน ขันติบารมี นี่ก็เหมือนกันใช้คำว่า ช่างมันตรงตัวดี
นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่ได้สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในเรื่องบารมีเสียก่อน เพื่อให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลายได้ทราบว่า บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้นก็คือ สร้างกำลังใจปลูกฝังใจให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์
ไม่ใช่ว่าเราจะมานั่งคิด เราจะมานอนคิดเราจะมาทรงจิตว่า เอ๊…บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรามันยังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคา อรหันต์ยังไงได้
ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า เราสามารถจะสร้างบารมีได้ด้วยอาศัยกำลังใจ ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้นที่เราจะทำเราให้มันดีหรือไม่ดี
อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า
“มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ”
นี่ความจริงเรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริงๆ มันทำไมถึงลืมก็ไม่ทราบ
เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายหวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านคงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืมว่า บารมีแปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีด้านบารมีไว้
ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงความดีทั้ง ๑๐ ประการครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการมากล่าว ในตอนนี้ก็เพราะว่า ในตอนต้นพูดเรื่องพระโสดาบันไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า แหม…มันยากเกินไปถ้ากำลังใจในการสร้างคนเป็นพระโสดาบันมันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมี ๑๐ ประการให้มันครบถ้วนสมบูรณ์
✨ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ
✨ศีล เราก็ตัดความโกรธ
✨เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ
✨ปัญญา ตัดความโง่
✨วิริยะ ตัดความขี้เกียจ
✨ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน
✨สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก
✨อธิษฐาน ทรงกำลังใจให้สมบูรณ์บริบูรณ์
✨เมตตา สร้างความเยือกเย็นของใจ
✨อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกายเราไม่ปรารถ
เท่านี้แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่าพระโสดาบัน นั้นบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไป สำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท
ทำไมจึงว่าอย่างนั้น ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนสมบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า พระโสดาบันแล้ว ท่านเรียกว่าอะไร ท่านเรียกว่า พระขีณาสพ แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไป หรือเรียกว่า หรือเรียกว่า #พระอรหันต์ เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุดเข้าถึงซึ่ง พระนิพพานได้
เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายวันนี้
ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่าน พุทธบศาสนิกชนทุกท่าน “
✨#ธรรมมะเพื่อพระนิพพานในชาตินี้
🙏🏻 #ธรรมทานหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๘๘
เดือน พฤศจิกายน ๒๕๓๙
( โอวาทคำสอนโดยพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน )หน้า ๖๐-๖๒
หลวงพ่อฤๅษีเทศน์เรื่อง กำลังใจบารมี
“…นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทจำไว้ให้ดีว่า คำว่า “บารมี” ก็คือ กำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม ตอนนี้ซิ ชักฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่าเรานี่มันแสนโง่เสียมาก กำลังเต็มตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัทท่านก็ให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐
ทัศว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า
๑ ทานบารมี
๒ ศีลบารมี
๓ เนกขัมมบารมี
๔ ปัญญาบารมี
๕ วิริยะบารมี
๖ ขันติบารมี
๗ สัจจะบารมี
๘ อธิษฐานบารมี
๙ เมตตาบารมี
๑๐ อุเบกขาบารมี
องค์สมเด็จพระชินศรีจึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า สัมพเกษี ถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ให้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมดให้มันเต็มครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่อง คือ
๑.จิตของเราพร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ
๒.จิตพร้อมในการทรงศีล นี่ซิ.. บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป
๓.จิตพร้อมในการทรงเนกขัมมะเป็นปกติ เนกขัมมะแปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวลผมสั้น บวชโกนผม ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้นตัว
๔.จิตพร้อมที่จะใช้ปัญญาเป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป
๕.วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมไว้เสมอ
๖.ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์
๗.สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่า ไม่จริงสำหรับใจเรา ในด้านการทำความดี
๘.อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะ
๙.เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตนเองเสมอด้วยบุคคลอื่น
๑๐.อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้
อุเบกขาบารมีตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า ตรงกับภาษาไทย ที่ใช้กันเป็นปกติว่า ช่างมัน ขันติบารมี นี่ก็เหมือนกันใช้คำว่า ช่างมันตรงตัวดี
นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่ได้สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในเรื่องบารมีเสียก่อน เพื่อให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลายได้ทราบว่า บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้นก็คือ สร้างกำลังใจปลูกฝังใจให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์
ไม่ใช่ว่าเราจะมานั่งคิด เราจะมานอนคิดเราจะมาทรงจิตว่า เอ๊…บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรามันยังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคามี อนาคา อรหันต์ยังไงได้
ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า เราสามารถจะสร้างบารมีได้ด้วยอาศัยกำลังใจ ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้นที่เราจะทำเราให้มันดีหรือไม่ดี
อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า
“มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ”
นี่ความจริงเรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริงๆ มันทำไมถึงลืมก็ไม่ทราบ
เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายหวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านคงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืมว่า บารมีแปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีด้านบารมีไว้
ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงความดีทั้ง ๑๐ ประการครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการมากล่าว ในตอนนี้ก็เพราะว่า ในตอนต้นพูดเรื่องพระโสดาบันไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า แหม…มันยากเกินไปถ้ากำลังใจในการสร้างคนเป็นพระโสดาบันมันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมี ๑๐ ประการให้มันครบถ้วนสมบูรณ์
✨ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ
✨ศีล เราก็ตัดความโกรธ
✨เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ
✨ปัญญา ตัดความโง่
✨วิริยะ ตัดความขี้เกียจ
✨ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน
✨สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก
✨อธิษฐาน ทรงกำลังใจให้สมบูรณ์บริบูรณ์
✨เมตตา สร้างความเยือกเย็นของใจ
✨อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกายเราไม่ปรารถ
เท่านี้แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่าพระโสดาบัน นั้นบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไป สำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท
ทำไมจึงว่าอย่างนั้น ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนสมบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินศรีบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า พระโสดาบันแล้ว ท่านเรียกว่าอะไร ท่านเรียกว่า พระขีณาสพ แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไป หรือเรียกว่า หรือเรียกว่า #พระอรหันต์ เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุดเข้าถึงซึ่ง พระนิพพานได้
เอาละบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายวันนี้
ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้ ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่าน พุทธบศาสนิกชนทุกท่าน “
✨#ธรรมมะเพื่อพระนิพพานในชาตินี้
🙏🏻 #ธรรมทานหลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๘๘
เดือน พฤศจิกายน ๒๕๓๙
( โอวาทคำสอนโดยพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน )หน้า ๖๐-๖๒