สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ด้วยความเคารพ จากโทนในการสื่อออกมา ผมเข้าใจว่า คุณค่อนข้างมองว่า เด็กๆยังไงก็จะไม่มีทาง"รู้ทัน" เท่าผู้ใหญ่
แต่คุณได้ย้อนมองตัวเองกลับไปมั้ยครับว่า 20 ปีก่อน ถ้าพ่อแม่ของคุณมาบอกว่า "ลูกไม่รู้อะไรหรอก ลูกต้องฟังพ่อแม่" คุณจะรู้สึกอย่างไร
นั่นคือ บริบทในโลกยุคออฟไลน์
แต่ในวันนี้โลกเข้ามาสู่ยุคข้อมูลอย่างเต็มตัวแล้ว เด็กวัยรุ่นยุคนี้ เติบโตมาพร้อมความสามารถในการค้นหาและคัดกรองข้อมูลที่จะเลือกเชื่อ และมีบรรทัดฐานในการเลือกเชื่อฟังแตกต่างจากยุคคุณมาก ในยุคของคุณ ถูกหล่อหลอมมาให้มองและเชื่อเพราะคนนั้นคือครู พ่อ แม่ หรือคนที่เรารักเคารพ แตกต่างจากเด็กๆรุ่นลูกมากครับ พวกเค้า มองหาความจริงจากสิ่งที่เลือกโดยไม่ได้ผูกเอาไว้ว่าครู หรือ พ่อแม่ ต้องถูกเสมอ
นี่คือปัญหาที่พบในครอบครัวยุคนี้ โดยเฉพาะ ใน pantip ลองอ่านดูดีๆครับ มีปัญหาวัยุร่นจนถึงวัยเริ่มเป็นผู้ใหญ่ กับวิธีคิดแบบนี้เยอะมาก
รวมถึง ปัญหาในที่ทำงาน เมื่อหัวหน้าชั้นจัดการ เจอกับเด็กๆจบมาไม่นาน
เข้าเรื่องนะครับ
ผมว่า อันดับแรก ถ้าคุณไม่เลิกคิดว่า "ลูกไม่ทันคน" หรือ "ลูกหลงไม่รู้เรื่องรู้ราว" แบบนี้ คุณจะทุกข์กับเค้าไปตลอดชีวิตครับ ให้ลูกคุณมีหลานมาให้ คุณก็จะเจอปัญหาว่า ทำไมลูกเลี้ยงหลานไม่เหมือนที่คุณคิด เพราะพื้นฐานคือ คุณไม่เชื่อมั่นในตัวลูกสาวของตัวเอง และพร้อมที่จะให้สิทธิเหนือร่างกายและจิตใจของเค้า หน้าที่ของเราคือ ผู้ที่คอยรองรับในทุกอย่าง เพราะมาถึงวันนี้แล้ว หมดเวลามานั่งลงเสาเข็ม ทำฐานรากแล้วครับ ตอนนี้คุณทำได้ยอ่างมากก็แค่ ฉาบผนังกันรอยร้าว หรือ อุดรอยรั่วบนหลังคา บ้านที่คุณสร้างมาเองเท่านั้น
คุณมีเวลาเพียง 1-2 ทศวรรษ ที่จะเลี้ยงดูสร้างพื้นฐานความคิดของเค้า จริงๆก็มีเวลาแค่ 10 ปีเท่านั้นครับ จากนั้นอีก 10 ปี เค้าจะใช้ฐานรากมาสร้างกำแพง เพดาน หลังคา หน้าต่าง เอาเองด้วยซ้ำ คุณมั่นใจแค่ไหนว่า ฐานรากของบ้านหลังนี้ คุณได้สร้างมาอย่างเต็มที่ มั่นคงแล้วเท่าที่จะทำได้ ถ้าตอบคำถามนี้ได้ ขอให้คุณมองดูบ้านหลังนี้ต่อไป พูด เตือนได้ บอกได้ แต่อย่าสั่ง ห้าม หรือกรอบอะไรอย่างเด็ดขาด
ประโยคที่ขึ้นต้นว่า "พ่อคิดว่า..." และคำพูดเชิงบวกน่าจะดีที่สุดครับ ถ้าคุณเห็นว่าลูกเขยหรือแฟนลูกสาวไร้อนาคต ก็ใช้คำว่า "พ่อคิดว่า เค้าน่าจะลองหางานทำที่มั่นคงก่อนจะมาเริ่มคิดมีครอบครัวนะ" หรือถ้าเจอว่ามีความเจ้าชู้ "พ่อคิดว่า เค้ายังไม่โตพอที่จะหักห้ามใจ เพื่อหยุดหัวใจไว้ที่เราคนเดียว" แล้วคุณแนะนำ หยิบยื่นโอกาสสิครับ โดยให้ลูกสาวได้เห็นสิ่งนั้น จากนั้น ความจริงจะแสดงออกมาเอง แล้วก็จะเป็นหน้าที่ของเธอ ที่จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป ไม่ใช่ สิทธิและหน้าที่ของคุณผู้เป็นพ่อในการบอกว่าให้ทำอย่างไรต่อไปครับ
ในฐานะของพ่อที่มีลูกสาวอายุเพิ่งแค่ 13 ปี
ผมสอนโดยให้เธอลำดับความสำคัญในเรื่องเป้าหมายตัวเอง การเรียน และความฝันเป็นอันดับแรก จากนั้นเน้นที่จริยธรรม และแม้ว่าจะเป็นเพียงพ่อเลี้ยงเดี่ยวอยู่กันสองคนในบ้านแต่ผมพยายามทำตัวเป็นเพื่อนกับเธอให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่นมา (มีโควิดมาพอดี มีเวลาใกล้กันแทบตลอดเวลา) คอยทำตัวเข้าไปในสังคมเพื่อนของเธอ เล่นเกมส์ ดูหนัง การ์ตูน อ่าน ฟังเพลง และคุยทุกอย่างภาษาเดียวกับเธอและเพื่อนของเธอ
เธอเป็นเด็กค่อนข้างจะแก่นๆครับ มีแต่เพื่อนผู้ชาย เตะบอลกัน เล่นเกมส์ นัดเล่นเกมส์กันทางออนไลน์ เผ็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มก็ว่าได้ พอเริ่มวัยรุ่น เด็กผู้ชายก็เริ่มทะลึ่งตึงตังเป็นปกติ โดยที่ผมไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก เธอก็รู้ดีว่า ผู้ชายมีแบบไหนบ้าง เธอมักจะมาถามเรื่องต่างๆเสมอ ทำไมแบบนี้ แบบนั้น แม้แต่ หนัง 18+ ที่เพื่อนคุยกันผมก็จับมาชวนเธอมานั่งดูด้วยกันเลยและพูดคุยกัน
รวมถึง มักจะพาเธอไปสังสรรค์กับเพื่อนๆตลอด โดยในกลุ่มเพื่อน ก็มีทั้ง บ้านครอบครัว บ้านที่หย่าร้าง ชายโสด หญิงโสด ชายไม่โสดแต่ทำตัวโสด
บทสนทนาที่ลุง ป้า อา คุย ผมไม่ปิดหูเธอ และสามารถให้นั่งฟังได้ทั้งหมด ใครไปลงอ่างมา ใครไปจีบใครได้ใครมา
ที่สำคัญ พื้นฐานในการเลี้ยงดูของผม คือ ลูกมีสิทธิในการคิดเท่าพ่อแม่ อะไรก็ตามที่มีเหตุผลรองรับ เราสามารถคุยกันได้ทั้งหมด พ่อไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ และ ลูกมีสิทธิที่จะชอบและอยากทำโดยไม่ต้องมีเหตุผล ทั้งนี้ ผลที่ตามมาจะต้องเรียนรู้รับมันมาเอง
ดังนั้นทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆเช่นทำอาหารกัน ไปจนเรื่องอ่านหนังสือเรียน แบ่งเวลา บริหารจัดการชีวิต ผมให้เธอมีสิทธิคิดทำมาตลอดชีวิตน้อยๆของเธอ ผลที่ได้รับในตอนนี้คือ เธอจะเป็นวัยรุ่นที่ค่อนข้างแปลก และชอบมาถามความเห็นผู้ใหญ่เสมอครับ
ในวงสังสรรค์ของผู้ใหญ่ เธอสามารถถาม ให้ความเห็นกับรุ่นอา รุ่นลุง ได้ บางครั้งเพื่อนผมก็บอกว่า มันจะดีรึวะให้บอกตรงๆเลยรึ?? ผมก็บอกว่า เรื่องพวกนี้ ยังไงก็เจอในชีวิต เรียนรู้ได้ยินจากเรา ดีกว่าให้ดตไปแล้วไปหาทางรู้เอาเอง ดังนั้น เธอจึงมีคุณอาขี้เหงาติดอ่างคอยเล่าเรื่องความหื่นของชาย และลุงเจ้าเสน่ห์ที่ทุกวันนี้ยังจีบนักศึกษาพาขับรถวิ่งไปกินตับที่โรงแรมหรูในหัวหิน กับสามีรสเจ็บที่แอบหนีเมียไปหานักร้องคาราโอเกะ รวมถึงมุมดีๆของผู้ชายที่แอบซ่อนอยู่ในตัวทุกคน
ล่าสุดเพื่อนๆผมถามเธอว่า ทำไมหนูชอบมาฟังผู้ใหญ่คุยไม่เบื่อบ้างหรือ บางทีก็คุยเรื่องบอล ดนตรี การเมือง?? เธอตอบไปว่า "สนุกดีค่ะ ได้ฟังเรื่องเยอะ บางทีปาป๊าเล่าก็ไม่เห็นภาพให้ลุงเล่าให้ฟังเรื่องต่างๆ ฟังจากหลลายคนแตกต่างกันมากกว่า"
ช่วงหลังมานี้ เวลาจะไปเฮฮาปาร์ตี้ เธอจะขอไปด้วยเสมอ แม้ว่าจะง่วงและขอไปนอนตั้งแต่เที่ยงคืน แต่ก็จะนั่งติดโต๊ะเลย (เมื่อก่อนจะไปเล่นเกมส์ วิ่งเล่นกับลูกๆเพื่อนวัยใกล้กัน)
ผมก็ไม่รู้อนาคตหรอกครับว่า จะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าตอนนี้ สร้างฐานรากมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วครับ ถ้าวันนึงเธอจะไปมีแฟน คุยโทรศัพท์ดึกๆ ผมก็คงทำได้แค่ควบคุมไม่ให้มันกินเวลาและเสียหน้าที่ปกติเกินไป ถ้าจะไปมีเพศสัมพันธ์กับหนุ่มที่ไหน ตอนนี้ก็สอนได้แค่เรื่องของ กาารคุมกำเนิด และความเสี่ยงต่างๆ (เธอบอกว่า หน้าที่หลักและความฝันคือเรียนให้ได้สูงที่สุด อยากได้ทุนไปเมืองนอก อยากเรียนและลองออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง กลับมาทำงาน หาแฟนดีๆแต่งงานแล้วจะรีบมาหาแฟนให้ปาป๊า) และถ้าสุดท้าย เธอไปเลือกผู้ชายห่วยๆมา โดนซ้อม หรือเจ้าชู้...
โทษตัวเราเองครับ ที่สร้างฐานมาให้เธอได้แบบนี้
ผมก็จะทำหน้าที่คอยบอกไปในเรื่องที่น่ากังวลใจแต่ให้เธอเลือกเองว่าจะไปทางไหน ถ้าร้องไห้มา พ่อจะไม่ไปไหน จะอยู่ให้หนูมากอดนี่แหละ
ทำได้แค่นี้ครับ ผมว่าชีวิตมันต้องเป็นต่อไปของมัน มีผิด มีพลาด มีทุกข์และสุข วันพรุ่งนี้ผมอาจจะโดนรถชนตายไปเลย เธอต้องอยยู่คนเดียวต่อไป แต่อย่างน้อย เราก็ได้พยายามทำทุกๆวันที่ผ่านมาให้ดีที่สุดแล้ว
ปล ผมมักจะชอบชวนกันคุยเรื่องตัวละครในการ์ตูน หนัง และแลกเปลี่ยนกันเรื่องมิติของตัวละครนั้น พัฒนาการ และปัจจัย รวมถึง หนังสือต่างๆที่สนับสนุนให้อ่าน เน้นไปที่การมองคน สนใจเรื่องรอบข้าง อย่าง พ่อมดอ็อซ อ่านแล้วมานั่งวิเคราะห์มิติตัวละครกัน หรือเจ้าชายน้อย ก็มานั่งคุยกันและนั่งดูการตีความวรรณกรรม ถึงขนาดสามก๊ก เธออ่านแบบการ์ตูนจบตั้งแต่ ป.1 และอ่านฉบับผู้ใหญ่จบ พร้อมมานั่งดูหนังกันตอนจบประถม
แต่คุณได้ย้อนมองตัวเองกลับไปมั้ยครับว่า 20 ปีก่อน ถ้าพ่อแม่ของคุณมาบอกว่า "ลูกไม่รู้อะไรหรอก ลูกต้องฟังพ่อแม่" คุณจะรู้สึกอย่างไร
นั่นคือ บริบทในโลกยุคออฟไลน์
แต่ในวันนี้โลกเข้ามาสู่ยุคข้อมูลอย่างเต็มตัวแล้ว เด็กวัยรุ่นยุคนี้ เติบโตมาพร้อมความสามารถในการค้นหาและคัดกรองข้อมูลที่จะเลือกเชื่อ และมีบรรทัดฐานในการเลือกเชื่อฟังแตกต่างจากยุคคุณมาก ในยุคของคุณ ถูกหล่อหลอมมาให้มองและเชื่อเพราะคนนั้นคือครู พ่อ แม่ หรือคนที่เรารักเคารพ แตกต่างจากเด็กๆรุ่นลูกมากครับ พวกเค้า มองหาความจริงจากสิ่งที่เลือกโดยไม่ได้ผูกเอาไว้ว่าครู หรือ พ่อแม่ ต้องถูกเสมอ
นี่คือปัญหาที่พบในครอบครัวยุคนี้ โดยเฉพาะ ใน pantip ลองอ่านดูดีๆครับ มีปัญหาวัยุร่นจนถึงวัยเริ่มเป็นผู้ใหญ่ กับวิธีคิดแบบนี้เยอะมาก
รวมถึง ปัญหาในที่ทำงาน เมื่อหัวหน้าชั้นจัดการ เจอกับเด็กๆจบมาไม่นาน
เข้าเรื่องนะครับ
ผมว่า อันดับแรก ถ้าคุณไม่เลิกคิดว่า "ลูกไม่ทันคน" หรือ "ลูกหลงไม่รู้เรื่องรู้ราว" แบบนี้ คุณจะทุกข์กับเค้าไปตลอดชีวิตครับ ให้ลูกคุณมีหลานมาให้ คุณก็จะเจอปัญหาว่า ทำไมลูกเลี้ยงหลานไม่เหมือนที่คุณคิด เพราะพื้นฐานคือ คุณไม่เชื่อมั่นในตัวลูกสาวของตัวเอง และพร้อมที่จะให้สิทธิเหนือร่างกายและจิตใจของเค้า หน้าที่ของเราคือ ผู้ที่คอยรองรับในทุกอย่าง เพราะมาถึงวันนี้แล้ว หมดเวลามานั่งลงเสาเข็ม ทำฐานรากแล้วครับ ตอนนี้คุณทำได้ยอ่างมากก็แค่ ฉาบผนังกันรอยร้าว หรือ อุดรอยรั่วบนหลังคา บ้านที่คุณสร้างมาเองเท่านั้น
คุณมีเวลาเพียง 1-2 ทศวรรษ ที่จะเลี้ยงดูสร้างพื้นฐานความคิดของเค้า จริงๆก็มีเวลาแค่ 10 ปีเท่านั้นครับ จากนั้นอีก 10 ปี เค้าจะใช้ฐานรากมาสร้างกำแพง เพดาน หลังคา หน้าต่าง เอาเองด้วยซ้ำ คุณมั่นใจแค่ไหนว่า ฐานรากของบ้านหลังนี้ คุณได้สร้างมาอย่างเต็มที่ มั่นคงแล้วเท่าที่จะทำได้ ถ้าตอบคำถามนี้ได้ ขอให้คุณมองดูบ้านหลังนี้ต่อไป พูด เตือนได้ บอกได้ แต่อย่าสั่ง ห้าม หรือกรอบอะไรอย่างเด็ดขาด
ประโยคที่ขึ้นต้นว่า "พ่อคิดว่า..." และคำพูดเชิงบวกน่าจะดีที่สุดครับ ถ้าคุณเห็นว่าลูกเขยหรือแฟนลูกสาวไร้อนาคต ก็ใช้คำว่า "พ่อคิดว่า เค้าน่าจะลองหางานทำที่มั่นคงก่อนจะมาเริ่มคิดมีครอบครัวนะ" หรือถ้าเจอว่ามีความเจ้าชู้ "พ่อคิดว่า เค้ายังไม่โตพอที่จะหักห้ามใจ เพื่อหยุดหัวใจไว้ที่เราคนเดียว" แล้วคุณแนะนำ หยิบยื่นโอกาสสิครับ โดยให้ลูกสาวได้เห็นสิ่งนั้น จากนั้น ความจริงจะแสดงออกมาเอง แล้วก็จะเป็นหน้าที่ของเธอ ที่จะตัดสินใจอย่างไรต่อไป ไม่ใช่ สิทธิและหน้าที่ของคุณผู้เป็นพ่อในการบอกว่าให้ทำอย่างไรต่อไปครับ
ในฐานะของพ่อที่มีลูกสาวอายุเพิ่งแค่ 13 ปี
ผมสอนโดยให้เธอลำดับความสำคัญในเรื่องเป้าหมายตัวเอง การเรียน และความฝันเป็นอันดับแรก จากนั้นเน้นที่จริยธรรม และแม้ว่าจะเป็นเพียงพ่อเลี้ยงเดี่ยวอยู่กันสองคนในบ้านแต่ผมพยายามทำตัวเป็นเพื่อนกับเธอให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่เริ่มเป็นวัยรุ่นมา (มีโควิดมาพอดี มีเวลาใกล้กันแทบตลอดเวลา) คอยทำตัวเข้าไปในสังคมเพื่อนของเธอ เล่นเกมส์ ดูหนัง การ์ตูน อ่าน ฟังเพลง และคุยทุกอย่างภาษาเดียวกับเธอและเพื่อนของเธอ
เธอเป็นเด็กค่อนข้างจะแก่นๆครับ มีแต่เพื่อนผู้ชาย เตะบอลกัน เล่นเกมส์ นัดเล่นเกมส์กันทางออนไลน์ เผ็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มก็ว่าได้ พอเริ่มวัยรุ่น เด็กผู้ชายก็เริ่มทะลึ่งตึงตังเป็นปกติ โดยที่ผมไม่ต้องอธิบายอะไรมากนัก เธอก็รู้ดีว่า ผู้ชายมีแบบไหนบ้าง เธอมักจะมาถามเรื่องต่างๆเสมอ ทำไมแบบนี้ แบบนั้น แม้แต่ หนัง 18+ ที่เพื่อนคุยกันผมก็จับมาชวนเธอมานั่งดูด้วยกันเลยและพูดคุยกัน
รวมถึง มักจะพาเธอไปสังสรรค์กับเพื่อนๆตลอด โดยในกลุ่มเพื่อน ก็มีทั้ง บ้านครอบครัว บ้านที่หย่าร้าง ชายโสด หญิงโสด ชายไม่โสดแต่ทำตัวโสด
บทสนทนาที่ลุง ป้า อา คุย ผมไม่ปิดหูเธอ และสามารถให้นั่งฟังได้ทั้งหมด ใครไปลงอ่างมา ใครไปจีบใครได้ใครมา
ที่สำคัญ พื้นฐานในการเลี้ยงดูของผม คือ ลูกมีสิทธิในการคิดเท่าพ่อแม่ อะไรก็ตามที่มีเหตุผลรองรับ เราสามารถคุยกันได้ทั้งหมด พ่อไม่จำเป็นต้องถูกเสมอ และ ลูกมีสิทธิที่จะชอบและอยากทำโดยไม่ต้องมีเหตุผล ทั้งนี้ ผลที่ตามมาจะต้องเรียนรู้รับมันมาเอง
ดังนั้นทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องเล็กๆเช่นทำอาหารกัน ไปจนเรื่องอ่านหนังสือเรียน แบ่งเวลา บริหารจัดการชีวิต ผมให้เธอมีสิทธิคิดทำมาตลอดชีวิตน้อยๆของเธอ ผลที่ได้รับในตอนนี้คือ เธอจะเป็นวัยรุ่นที่ค่อนข้างแปลก และชอบมาถามความเห็นผู้ใหญ่เสมอครับ
ในวงสังสรรค์ของผู้ใหญ่ เธอสามารถถาม ให้ความเห็นกับรุ่นอา รุ่นลุง ได้ บางครั้งเพื่อนผมก็บอกว่า มันจะดีรึวะให้บอกตรงๆเลยรึ?? ผมก็บอกว่า เรื่องพวกนี้ ยังไงก็เจอในชีวิต เรียนรู้ได้ยินจากเรา ดีกว่าให้ดตไปแล้วไปหาทางรู้เอาเอง ดังนั้น เธอจึงมีคุณอาขี้เหงาติดอ่างคอยเล่าเรื่องความหื่นของชาย และลุงเจ้าเสน่ห์ที่ทุกวันนี้ยังจีบนักศึกษาพาขับรถวิ่งไปกินตับที่โรงแรมหรูในหัวหิน กับสามีรสเจ็บที่แอบหนีเมียไปหานักร้องคาราโอเกะ รวมถึงมุมดีๆของผู้ชายที่แอบซ่อนอยู่ในตัวทุกคน
ล่าสุดเพื่อนๆผมถามเธอว่า ทำไมหนูชอบมาฟังผู้ใหญ่คุยไม่เบื่อบ้างหรือ บางทีก็คุยเรื่องบอล ดนตรี การเมือง?? เธอตอบไปว่า "สนุกดีค่ะ ได้ฟังเรื่องเยอะ บางทีปาป๊าเล่าก็ไม่เห็นภาพให้ลุงเล่าให้ฟังเรื่องต่างๆ ฟังจากหลลายคนแตกต่างกันมากกว่า"
ช่วงหลังมานี้ เวลาจะไปเฮฮาปาร์ตี้ เธอจะขอไปด้วยเสมอ แม้ว่าจะง่วงและขอไปนอนตั้งแต่เที่ยงคืน แต่ก็จะนั่งติดโต๊ะเลย (เมื่อก่อนจะไปเล่นเกมส์ วิ่งเล่นกับลูกๆเพื่อนวัยใกล้กัน)
ผมก็ไม่รู้อนาคตหรอกครับว่า จะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าตอนนี้ สร้างฐานรากมาดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วครับ ถ้าวันนึงเธอจะไปมีแฟน คุยโทรศัพท์ดึกๆ ผมก็คงทำได้แค่ควบคุมไม่ให้มันกินเวลาและเสียหน้าที่ปกติเกินไป ถ้าจะไปมีเพศสัมพันธ์กับหนุ่มที่ไหน ตอนนี้ก็สอนได้แค่เรื่องของ กาารคุมกำเนิด และความเสี่ยงต่างๆ (เธอบอกว่า หน้าที่หลักและความฝันคือเรียนให้ได้สูงที่สุด อยากได้ทุนไปเมืองนอก อยากเรียนและลองออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเอง กลับมาทำงาน หาแฟนดีๆแต่งงานแล้วจะรีบมาหาแฟนให้ปาป๊า) และถ้าสุดท้าย เธอไปเลือกผู้ชายห่วยๆมา โดนซ้อม หรือเจ้าชู้...
โทษตัวเราเองครับ ที่สร้างฐานมาให้เธอได้แบบนี้
ผมก็จะทำหน้าที่คอยบอกไปในเรื่องที่น่ากังวลใจแต่ให้เธอเลือกเองว่าจะไปทางไหน ถ้าร้องไห้มา พ่อจะไม่ไปไหน จะอยู่ให้หนูมากอดนี่แหละ
ทำได้แค่นี้ครับ ผมว่าชีวิตมันต้องเป็นต่อไปของมัน มีผิด มีพลาด มีทุกข์และสุข วันพรุ่งนี้ผมอาจจะโดนรถชนตายไปเลย เธอต้องอยยู่คนเดียวต่อไป แต่อย่างน้อย เราก็ได้พยายามทำทุกๆวันที่ผ่านมาให้ดีที่สุดแล้ว
ปล ผมมักจะชอบชวนกันคุยเรื่องตัวละครในการ์ตูน หนัง และแลกเปลี่ยนกันเรื่องมิติของตัวละครนั้น พัฒนาการ และปัจจัย รวมถึง หนังสือต่างๆที่สนับสนุนให้อ่าน เน้นไปที่การมองคน สนใจเรื่องรอบข้าง อย่าง พ่อมดอ็อซ อ่านแล้วมานั่งวิเคราะห์มิติตัวละครกัน หรือเจ้าชายน้อย ก็มานั่งคุยกันและนั่งดูการตีความวรรณกรรม ถึงขนาดสามก๊ก เธออ่านแบบการ์ตูนจบตั้งแต่ ป.1 และอ่านฉบับผู้ใหญ่จบ พร้อมมานั่งดูหนังกันตอนจบประถม
แสดงความคิดเห็น
ถามคนเป็นพ่อเป็นแม่คุณจะทำยังไงที่รู้เช่นเห็นชาติว่าแฟนลูกสาวเราไม่ดีไม่มีอนาคตหรือไม่ควรไปคบแต่ลูกดันหลงผู้ชาย?
เพื่อนหลายคนที่มีลูกสาวหน้าตาดีมักบ่นหรือปรับทุกข์เรื่องแฟนหนุ่มของลูกสาวหรือลูกเขยตัวเองให้ฟังระหว่างที่เรานั่งดื่มเบียร์เย็นๆดูวิวแม่น้ำหลังบ้านกัน ส่วนคนที่ลูกสาวยังเล็กอยู่ก็บอกว่าตอนนี้มีความสุขมากที่ลูกติดพ่อแต่กังวลและทุกข์ล่วงหน้าถึงอนาคตในวันที่ลูกสาวโตและมันต้องมีเรื่องความรักหนุ่มสาวเข้ามาให้คุณพ่อปวดหัวถึงขั้นแกพูดกับผมว่าลูกสาวไม่ต้องมีแฟนมีสามีก็ได้ขอให้ได้อยู่ด้วยกันเพื่อนผมจะเลี้ยงลูกสาวให้เงิน และดูแลทุกอย่างไม่ให้ขาดไปจนแกตายเลยก็ได้แกพูดไปหัวเราะไป
ถามคนที่มีลูกสาวครับว่าคุณจะเตือนจะห้ามเค้าไหมหรือวางตัวอย่างไรถ้าลูกดันไปหลงรักไปเป็นแฟนหรือมีสามีที่เราดูก็รู้ว่าไม่เวิร์คประมาณว่า ผช มันเจ้าชู้ เห็นแก่ตัวเอาเปรียบลูกเรา ลงไม้ลงมือ หรือไม่เอาถ่านไม่มีอนาคตแต่ลูกเราดันจะเอาคนนี้ให้ได้
ทุกข์ใจมากไหมครับกับเคสแบบนี้?