ภาพปกโดยคุณแอน นลินมณี
พบเห็นสิ่งผิดพลาด ทุกท่านสามารถทักท้วง แนะนำ ได้เต็มที่ ร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อต้นฉบับที่ดี
ข้าน้อยไม่มีอัตตา ไม่ต้องเกรงใจ คร้าบ...เว้ามาโลดดด^^
บทที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/41001786
--------- จะบังเอิญหรือจังหวะให้ก็เหลือเดา เท้าของหญิงสาวฟาดเข้าจุดยุทธศาสตร์ของทรงสิทธิ์ผู้กำลังมึนงงอย่างจัง เสียงกองเชียร์เฮลั่นกลบเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทรมาน ปานหัวใจแหลกสลายของนักชกฝ่ายชาย
บทที่ 3
สโมสรยังเป็นแหล่งพำนักพักใจของธาราหลังเลิกงาน เพราะกลับบ้านก็ไม่ได้ เนื่องจากปัญหาของระยะ สิบเมตรต้องห้าม ที่ระบุในสัญญาฉบับสำคัญ อย่างน้อยก็ต้องรอ จนกว่าจะถึงวันเปิดศึก ‘สังเวียนรัก’ เสียก่อน
ผลของศึกใหญ่มีความเป็นไปสองทางได้คือ ไม่แพ้ก็ชนะ ไม่มีคำว่าเสมอ อิสรภาพมองเห็นอยู่ไม่ไกลในอนาคต เพียงแต่จะต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้น ด้วย “หมัดซ้ายทะลายเมีย” อันร้ายกาจของเขา แม้ว่าในชีวิตไม่เคยสวมนวมชกมวยมาก่อนแต่คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเคยดูรายการชกมวยทางทีวีเป็นประจำไม่น่ายาก ทั้งคู่ต่อสู้คือผู้หญิง เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีว่าเธอเรี่ยวแรงมีมากน้อยแค่ไหน สมัยแต่งงานใหม่ๆ เขาชอบเล่นมวยปล้ำกับเธอและจับกดนับสามจับแพ้ได้เสมอ ยังไงก็หนีคำว่า ผู้หญิง ไปไม่พ้น
เอกชัยก็ยังมานั่งเป็นเพื่อนตามเคย เขายังไม่ได้มีครอบครัว แต่ก็อยู่ในระยะมองหาสาวคนรัก ดังนั้นเพื่อเรียนรู้ปัญหาและชีวิตของการแต่งงาน ทำให้เขาใช้เวลาที่เหลือพยายามเรียนรู้จากธารา ที่อยู่ในช่วงการหาคำตอบสำคัญให้กับอนาคตของตัวเอง
แต่งงาน หรือ จะอยู่เป็นโสด!
สำหรับการแต่งงาน ผู้ชายหลายคนมักพูดทีเล่นทีจริงว่าคือ “เวลาแห่งการสูญสิ้นอิสรภาพ” และก็มีหลายคนบอกว่า “เป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิต” เอกชัยเองพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่จนกระทั่งวันนี้ ก็ยังหาคำตอบที่ถูกต้องไม่ได้
น้องเจี๊ยบ คนสวยของธาราก็มาดูแลโต๊ะตามเคย เพราะมาทีไรก็ไม่ผิดหวังกับค่าทิปพิเศษ ที่บางครั้งมากกว่าเงินค่าจ้างรายวันของเธอเสียอีก ซึ่งจะมองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่า ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกัน ฝ่ายหนึ่งต้องการเงิน ฝ่ายหนึ่งต้องการคนดูแลเอาใจ ในการกินการดื่ม พอใจทั้งสองฝ่ายก็ลงตัวกันได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
“แกดูนี่ ข้ามีคลิปเด็ดให้แกดูสองคลิป เอ้า ดูอันแรกก่อน” เอกชัยยื่นโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนดูหน้าจอ เขามีคลิปสำคัญสองคลิปอยากให้ธาราดู ธาราทำท่าเหมือนไม่ค่อยสนใจ เพราะพอเดาออกว่าคืออะไร
และก็เดาทางถูกจริง ๆ เป็นหน้าเฟซบุ๊กของนิจพรในชุดนักมวยหญิงกำลังยิ้มหน้าระรื่น แต่ที่เดาไม่ถูกคือมีหนุ่มหน้าใสใกล้ชิดกับหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในอ้อมกอด แถมยังมีคำอธิบายใต้ภาพว่า
แฟนพันธุ์แท้ของนิจพร แสดงตัวเพื่อเป็นกำลังใจให้คว่ำสามีตัวเลวตกเวที ตกไปจากสังเวียนชีวิต...
ยอดกดไลก์พุ่งถล่มทลายภายในข้ามวัน ตามด้วยข้อความให้กำลังใจมากมาย และในจำนวนเกินครึ่ง มีการแถมคำด่าฝากมาถึงผู้เป็นสามี ตั้งแต่ด่าแบบสุภาพเรียบร้อย ด่าแบบน่ารัก ด่าแบบอ่อนหวาน ด่าแบบตรงไปตรงมา ด่าแบบคลาสสิก จนถึงด่าแบบเผ็ดร้อนดุเดือดเลือดพล่าน ล้วนแต่มอบความหวังดีฝากสามีเจ้าของเฟซบุ๊ก ทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มปะทุขึ้นมาทันที
ถูกด่าไม่เท่าไร แต่ภาพบาดตาบาดใจนี่สิ !
ทำอะไรไม่ไว้หน้ากันเลย!
“แบบนี้ไม่ต้องสงสารกันแล้ว คุณตายแน่ยัยนิด” มือกำโทรศัพท์แน่น คำรามเสียงกร้าว นัยน์ตาขุ่นเคืองดุดัน จนเจ้าของโทรศัพท์ใจหายวาบ รีบแย่งกลับจากมือโดยเร็ว ทำให้ธาราไม่ได้ดูคลิปสำคัญที่เหลือ
“ใจเย็นไอ้ธา ก็แค่แฟนคลับของนิดเท่านั้น ไม่มีอะไร”
“เย็นได้ไง กอดคอกันออกหน้าจอขนาดนี้ อย่าลืมว่านิดยังเป็นเมียข้าอยู่นะโว้ย ทำแบบนี้เหมาะสมที่ไหน ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย ทำอะไรประเจิดประเจ้อ มันน่านักเชียว”
“แกหึงอยู่ใช่ไหมเพื่อน” เอกชัยมองหน้าเพื่อนแล้วหัวเราะอย่างรู้ทัน ทำให้คู่สนทนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เป็นการระงับอารมณ์ก่อนบอกด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“หึงบ้าอะไร คนอย่างธาราไม่เคยรู้จักคำว่าหึง เขียนคำว่าหวง ไม่ออก...ใจกว้างจริงแท้แน่นอน ข้าเป็นห่วงชื่อเสียงของข้าต่างหาก ยังไงเธอก็ใช้นามสกุลวงค์เมฆาอรกานต์ การหย่ายังไม่เกิดขึ้น ทำแบบนี้มันเสียหายหลายแสน ..ยัยส้มตำปูทะเล ยัยคะน้าปลาเค็ม ยัยผัดไทยลืมใส่เส้น ยัยนมเปรี้ยวค้างปี ยัยบ้าเอ้ย”
“ใครบ้าคะ” เสียงหวานใสและรอยยิ้มเจ้าของเสียง ทำให้ธาราสะดุ้งหันไปมองข้างกาย น้องเจี้ยบคนงามนั่นเอง เธอปฏิบัติหน้าที่ไม่มีบกพร่อง ตามแบบฉบับของสาวเสิร์ฟที่ดี แก้วเหล้าแก้วเบียร์ของลูกค้าจึงไม่เคยว่าง เพราะเธอคอยเดินดูแล ชงเหล้าให้ตลอด นั่นคือเสน่ห์ของสาวเสิร์ฟ
“ผมบ้าครับ” ธารารีบปรับอารมณ์ทันทีตามสถานการณ์ แบบเหลือเชื่อ ไม่ว่าใครเห็น ก็คงอยากวิ่งเข้าหาด้วยความอยากเตะ เขาก็ไม่ต่างจากลูกค้าชายคนอื่นหลายคน แม้จะรู้ว่าพนักงานสาว ๆ ส่วนใหญ่ของสโมสรมีแฟน มีครอบครัวกันแล้วแทบทั้งนั้น แต่บรรดาลูกค้าชีกอก็ยังอดใจแซวทีเล่นทีจริงไม่ได้ เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบเอื้ออาทร
“พอเห็นหน้าเจี้ยบผมก็เป็นบ้าทันที บ้ารักน่ะครับ นี่ถ้าเจี้ยบไม่เดินมาหาอีกสามวินาที ผมต้องขาดใจตายแน่ เพราะพิษรักแรงหลงกำเริบ โอย..หวุดหวิดเหลือเกิน เจี้ยบช่วยชีวิตผมไว้แท้ๆ”
“อ้วก....”
เสียงแสดงความหมั่นไส้ของเอกชัยดังขึ้นทันที รับไม่ได้กับลีลาเจ้าชู้ด้วยสำนวนแสนเฉิ่มเชยของเพื่อน
“เพื่อนของผมแพ้ท้องแทนเมีย ไม่มีอะไรครับ แต่งงาน เมียหึงมาก ดุด้วย มีปัญหาทางการเงิน ฐานะทางบ้านยากจน เป็นโรคติดต่อร้ายแรง อย่าไปคุยกับมันเลยครับ คุยกับผมดีที่สุด ” ธาราไหลไปตามน้ำทันที เผาและกันท่าเพื่อนไปในตัว เพราะถือคติว่า ‘ในวงการจีบสาวไม่มีคำว่าเพื่อน’ แต่เหมือนนึกอะไรได้ ธารามองหน้าสาวเสิร์ฟคนคุ้นเคย ถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง
“นี่เจี้ยบ ถามสักนิดนะ สมมุติว่ามีผู้ชายมาท้าต่อยมวย โดยฝ่ายชายใช้แค่มือข้างเดียว ฝ่ายหญิงชกแบบชกฟรีสไตล์ได้ทุกรูปแบบ จะกล้าสู้ไหมครับ ถ้าจำเป็น”
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะคะ ขนาดแฟนเจี้ยบไม่ได้ถูกมัดมือ เจี้ยบยังตบเตะคว่ำคามือคาเท้ามาแล้วค่ะ” เจี๊ยบคุยอย่างภาคภูมิใจ แต่คนฟังแทบสำลักเหล้าที่กำลังยกดื่ม
“จริงหรือเปล่าครับ” ถามเพื่อความแน่ใจ
“จริงสิคะ เจี๊ยบสมัยก่อนเป็นคาราเต้สายดำเชียวนะคะ ทำเป็นเล่นไป”
ฟังคำตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด ทำให้คนถามทำคอย่นด้วยความสยองจิต ความเป็นไปได้มีมากด้วย เพราะเจี้ยบรูปร่างสูงยาวเข่าดีเข้าตำรา การทำงานในร้านอาหารต้องเดินไปเดินมาแทบตลอดเวลา แทบไม่มีโอกาสนั่งถ้าลูกค้าเยอะ มีส่วนช่วยสร้างเสริมความแข็งแรงว่องไว จากกฎข้อหนึ่งของทางสโมสรมีว่า ห้ามพนักงานนั่งคุยกับลูกค้า ทำให้ช่วงเรียวขาของบรรดาสาวเสิร์ฟสโมสร ดูหนักแน่นมั่นคงแข็งแรงกันทุกคน จากการที่เดินไปเดินมาทั้งวัน ลูกค้าคนไหนอยากมีโอกาสคุยกับสาวเสิร์ฟให้มาก ก็ต้องรีบดื่มเหล้าในแก้วให้พร่องโดยเร็ว เพื่อเปิดจังหวะให้น้อง ๆ เดินมาหา ทำให้สามารถฉวยโอกาสพูดคุยมากขึ้น ไม่เป็นที่ติฉินนินทาของโต๊ะอื่น
“อ่า...แล้วแฟนเจี้ยบไม่สู้หรือครับ” ธารายังคงติดใจ
“โอ้ย...เขาไม่กล้าสู้หรอกค่ะ เมามายังไงเขาก็เป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ทำร้ายไม่สู้ค่ะ”
“ทำไมเขาไม่สู้ครับ”
“เจี้ยบคิดว่าเขาแมนพอ ต่อยเตะยังไงเขาก็ไม่สู้ เจี๊ยบว่านะ ผู้ชายคนไหนไปเตะต่อยกับผู้หญิงได้ นั่นหน้าตัวภรรยาชัด ๆ เลย”
คราวนี้ธาราสำลักเหล้าพรวดจริง ๆ เพราะอยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องคุยจนเหมือนถูกด่าฟรี เอกชัยเห็นแล้วหัวร่องอหาย แต่เจี๊ยบดูเหมือนยังไม่รู้เรื่องการขึ้นชกของธารา เธอจึงร่ายยาวต่อไป
“สังคมทุกวันนี้แย่นะคะ เห็นแต่ข่าวผู้ชายทำร้ายผู้หญิงจนกลายเป็นแฟชั่นลัทธิเลียนแบบ ไอ้เลวพวกนี้มันน่าจะจับไปตอนไปฆ่า ไปสับ ๆ ๆ ๆ ...ให้สูญพันธุ์ไปเลย หน้าตัวภรรยามาก คุณว่าไหมคะ”
“เอ้อ ครับ...” เขารับลูกแบบตกบันไดพลอยโจน เอกชัยหัวเราะอย่างชอบใจเป็นการย้ำหัวตะปู ทำให้ธารารู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังเป็นศัตรูกับเขา ขนาดสาวเสิร์ฟผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ยังเล่าเรื่องของสามีชนิดฟังแล้วขนหัวลุก ธารารู้สึกเหมือนถูกด่าฟรีอย่างชอบธรรม เจ็บปวดใจแสบสุดแสน แต่ก้าวมาถึงขั้นนี้ อย่างไรเขาก็ไม่คิดจะถอย
“ว่าแต่คุณธา มีอะไรหรือคะ”
“เปล่าครับ” คนกลายเป็น 'หน้าตัวภรรยา' ไปแบบไม่ตั้งใจ ส่ายหน้าไม่คิดชีวิต รู้สึกตัวหดเล็กลงเท่าก้อนน้ำแข็งในแก้วเหล้า เพื่อนรักก็ยังหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ให้กับชะตากรรมของคนหน้าไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป
“เจ้าธามันจะขึ้นเวทีมวยชกกับเมียมันน่ะครับ” เอกชัยได้นาทีทอง ‘เอาคืน’ อย่างถูกจังหวะ หลังจากถูกเล่นงานก่อน เจี้ยบกำลังจะเดินไปดูแลโต๊ะอื่น ต้องหันมามองหน้านักมวยจำเป็นอย่างไม่เข้าใจ เธอขมวดคิ้วจ้องหน้าถาม
“จริงหรือคะคุณธา”
“เอ้อ... คือว่า...”
“เรื่องจริงแท้แน่นอนครับ เจ้าธารามันจะขึ้นชกกับเมีย โห... เงินเดิมพันเป็นล้านเชียวนะครับ” คนฉวยโอกาสตอบแทนก็ยังคงเป็น ‘เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด’ เพราะเห็นท่าทางยุ่งยากลำบากใจของคนถูกถาม เลยอธิบายแทน ฟังดูเหมือนหวังดีมีน้ำใจมาช่วยตอบ แต่มองอีกด้านเหมือนช่วยตอกย้ำซ้ำเติมมากกว่า
“ถ้างั้นขอให้คุณธาโดนน็อกสลบลงเวทีนะคะ” เสียงอ่อนหวานอวยพรเชิงลบให้ด้วยอาการมองค้อนอยู่ในที
ธาราได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ พูดไม่ออก มองเห็นคะแนนตัวเองลดลงต่ำยิ่งกว่าราคาหุ้นตกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ขนาดเพื่อนยังไม่ไว้หน้า แต่จะไปโทษก็ไม่ได้ เพราะเขานั่นละ เป็นคนประกาศก้องในวงเหล้าเสมอว่า “ไม่มีคำว่าเพื่อนในวงการจีบสาว”
“แกไปบอกเจี๊ยบทำไมวะ ไอ้เอก” พอสาวเจี๊ยบเดินไปโต๊ะอื่น ธาราหันมาต่อว่าเพื่อนรักทันที
“อ้าว...ก็แกเล่นข้าก่อนนี่ หนอย หาว่าข้าเป็นโรค ยากจน มีเมียแพ้ท้อง อย่าลืมสิ แกเป็นคนพูดเองว่า ไม่มีคำว่าเพื่อนในการจีบสาว”
ธารามองหน้าเพื่อนอย่างแค้นเคือง แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ “เออ ทีใครทีมันก็แล้วกัน”
“นี่แกไม่คิดช่วยข้าเลยหรือไงวะ เรื่องการชกน่ะ ไม่เห็นมีน้ำใจช่วยเพื่อนเลย” ธาราหันไปเอาเรื่องกับเพื่อน ก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นซดดับอารมณ์ร้อน อีกฝ่ายหัวเราะแล้วบอกอย่างใจเย็น
“ช่วยนะช่วยแน่นอน ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้แกในวันชกไงละ อย่าลืมสิว่าสมัยเรียนหนังสือ ข้ามันนักมวยโรงเรียนนะโว้ย ว่าแต่แกเถอะ มีเวลาก็ซ้อมออกหมัดตรง หมัดฮุคซ้าย หมัดสวิงซ้าย เอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน อย่าลืมว่าแกชกได้ด้วยมือซ้ายข้างเดียว แถมชกได้เฉพาะหน้าอก สะเอว ท้อง สีข้างเท่านั้น กอดรัดฟัดเหวี่ยงก็ไม่ได้ เผลอๆ นิดอาจกระโดดงับคอหอยก็เป็นได้ อย่าประมาท เพราะเธอไม่มีข้อห้ามอะไรเลย นอกจากห้ามใช้เครื่องทุ่นแรงเท่านั้น”
“บ้าน่า ยัยนิดไม่ใช่หมา จะได้กระโดดกัดคอคน”
(มีต่อ)
สังเวียนรัก สังเวียนร้าง...3 (น้องเจี๊ยบ)
ภาพปกโดยคุณแอน นลินมณี
พบเห็นสิ่งผิดพลาด ทุกท่านสามารถทักท้วง แนะนำ ได้เต็มที่ ร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อต้นฉบับที่ดี
ข้าน้อยไม่มีอัตตา ไม่ต้องเกรงใจ คร้าบ...เว้ามาโลดดด^^
บทที่แล้ว
https://ppantip.com/topic/41001786
--------- จะบังเอิญหรือจังหวะให้ก็เหลือเดา เท้าของหญิงสาวฟาดเข้าจุดยุทธศาสตร์ของทรงสิทธิ์ผู้กำลังมึนงงอย่างจัง เสียงกองเชียร์เฮลั่นกลบเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวทรมาน ปานหัวใจแหลกสลายของนักชกฝ่ายชาย
บทที่ 3
สโมสรยังเป็นแหล่งพำนักพักใจของธาราหลังเลิกงาน เพราะกลับบ้านก็ไม่ได้ เนื่องจากปัญหาของระยะ สิบเมตรต้องห้าม ที่ระบุในสัญญาฉบับสำคัญ อย่างน้อยก็ต้องรอ จนกว่าจะถึงวันเปิดศึก ‘สังเวียนรัก’ เสียก่อน
ผลของศึกใหญ่มีความเป็นไปสองทางได้คือ ไม่แพ้ก็ชนะ ไม่มีคำว่าเสมอ อิสรภาพมองเห็นอยู่ไม่ไกลในอนาคต เพียงแต่จะต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้น ด้วย “หมัดซ้ายทะลายเมีย” อันร้ายกาจของเขา แม้ว่าในชีวิตไม่เคยสวมนวมชกมวยมาก่อนแต่คิดว่าไม่มีปัญหา เพราะเคยดูรายการชกมวยทางทีวีเป็นประจำไม่น่ายาก ทั้งคู่ต่อสู้คือผู้หญิง เป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีว่าเธอเรี่ยวแรงมีมากน้อยแค่ไหน สมัยแต่งงานใหม่ๆ เขาชอบเล่นมวยปล้ำกับเธอและจับกดนับสามจับแพ้ได้เสมอ ยังไงก็หนีคำว่า ผู้หญิง ไปไม่พ้น
เอกชัยก็ยังมานั่งเป็นเพื่อนตามเคย เขายังไม่ได้มีครอบครัว แต่ก็อยู่ในระยะมองหาสาวคนรัก ดังนั้นเพื่อเรียนรู้ปัญหาและชีวิตของการแต่งงาน ทำให้เขาใช้เวลาที่เหลือพยายามเรียนรู้จากธารา ที่อยู่ในช่วงการหาคำตอบสำคัญให้กับอนาคตของตัวเอง
แต่งงาน หรือ จะอยู่เป็นโสด!
สำหรับการแต่งงาน ผู้ชายหลายคนมักพูดทีเล่นทีจริงว่าคือ “เวลาแห่งการสูญสิ้นอิสรภาพ” และก็มีหลายคนบอกว่า “เป็นการเริ่มต้นใหม่ของชีวิต” เอกชัยเองพยายามหาคำตอบให้กับตัวเองอยู่จนกระทั่งวันนี้ ก็ยังหาคำตอบที่ถูกต้องไม่ได้
น้องเจี๊ยบ คนสวยของธาราก็มาดูแลโต๊ะตามเคย เพราะมาทีไรก็ไม่ผิดหวังกับค่าทิปพิเศษ ที่บางครั้งมากกว่าเงินค่าจ้างรายวันของเธอเสียอีก ซึ่งจะมองอีกมุมหนึ่งก็ถือว่า ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกัน ฝ่ายหนึ่งต้องการเงิน ฝ่ายหนึ่งต้องการคนดูแลเอาใจ ในการกินการดื่ม พอใจทั้งสองฝ่ายก็ลงตัวกันได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
“แกดูนี่ ข้ามีคลิปเด็ดให้แกดูสองคลิป เอ้า ดูอันแรกก่อน” เอกชัยยื่นโทรศัพท์มือถือให้เพื่อนดูหน้าจอ เขามีคลิปสำคัญสองคลิปอยากให้ธาราดู ธาราทำท่าเหมือนไม่ค่อยสนใจ เพราะพอเดาออกว่าคืออะไร
และก็เดาทางถูกจริง ๆ เป็นหน้าเฟซบุ๊กของนิจพรในชุดนักมวยหญิงกำลังยิ้มหน้าระรื่น แต่ที่เดาไม่ถูกคือมีหนุ่มหน้าใสใกล้ชิดกับหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง แทบจะเรียกได้ว่าอยู่ในอ้อมกอด แถมยังมีคำอธิบายใต้ภาพว่า
แฟนพันธุ์แท้ของนิจพร แสดงตัวเพื่อเป็นกำลังใจให้คว่ำสามีตัวเลวตกเวที ตกไปจากสังเวียนชีวิต...
ยอดกดไลก์พุ่งถล่มทลายภายในข้ามวัน ตามด้วยข้อความให้กำลังใจมากมาย และในจำนวนเกินครึ่ง มีการแถมคำด่าฝากมาถึงผู้เป็นสามี ตั้งแต่ด่าแบบสุภาพเรียบร้อย ด่าแบบน่ารัก ด่าแบบอ่อนหวาน ด่าแบบตรงไปตรงมา ด่าแบบคลาสสิก จนถึงด่าแบบเผ็ดร้อนดุเดือดเลือดพล่าน ล้วนแต่มอบความหวังดีฝากสามีเจ้าของเฟซบุ๊ก ทำให้อารมณ์ของชายหนุ่มปะทุขึ้นมาทันที
ถูกด่าไม่เท่าไร แต่ภาพบาดตาบาดใจนี่สิ !
ทำอะไรไม่ไว้หน้ากันเลย!
“แบบนี้ไม่ต้องสงสารกันแล้ว คุณตายแน่ยัยนิด” มือกำโทรศัพท์แน่น คำรามเสียงกร้าว นัยน์ตาขุ่นเคืองดุดัน จนเจ้าของโทรศัพท์ใจหายวาบ รีบแย่งกลับจากมือโดยเร็ว ทำให้ธาราไม่ได้ดูคลิปสำคัญที่เหลือ
“ใจเย็นไอ้ธา ก็แค่แฟนคลับของนิดเท่านั้น ไม่มีอะไร”
“เย็นได้ไง กอดคอกันออกหน้าจอขนาดนี้ อย่าลืมว่านิดยังเป็นเมียข้าอยู่นะโว้ย ทำแบบนี้เหมาะสมที่ไหน ผู้หญิงอะไรหน้าไม่อาย ทำอะไรประเจิดประเจ้อ มันน่านักเชียว”
“แกหึงอยู่ใช่ไหมเพื่อน” เอกชัยมองหน้าเพื่อนแล้วหัวเราะอย่างรู้ทัน ทำให้คู่สนทนายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มรวดเดียวหมด เป็นการระงับอารมณ์ก่อนบอกด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“หึงบ้าอะไร คนอย่างธาราไม่เคยรู้จักคำว่าหึง เขียนคำว่าหวง ไม่ออก...ใจกว้างจริงแท้แน่นอน ข้าเป็นห่วงชื่อเสียงของข้าต่างหาก ยังไงเธอก็ใช้นามสกุลวงค์เมฆาอรกานต์ การหย่ายังไม่เกิดขึ้น ทำแบบนี้มันเสียหายหลายแสน ..ยัยส้มตำปูทะเล ยัยคะน้าปลาเค็ม ยัยผัดไทยลืมใส่เส้น ยัยนมเปรี้ยวค้างปี ยัยบ้าเอ้ย”
“ใครบ้าคะ” เสียงหวานใสและรอยยิ้มเจ้าของเสียง ทำให้ธาราสะดุ้งหันไปมองข้างกาย น้องเจี้ยบคนงามนั่นเอง เธอปฏิบัติหน้าที่ไม่มีบกพร่อง ตามแบบฉบับของสาวเสิร์ฟที่ดี แก้วเหล้าแก้วเบียร์ของลูกค้าจึงไม่เคยว่าง เพราะเธอคอยเดินดูแล ชงเหล้าให้ตลอด นั่นคือเสน่ห์ของสาวเสิร์ฟ
“ผมบ้าครับ” ธารารีบปรับอารมณ์ทันทีตามสถานการณ์ แบบเหลือเชื่อ ไม่ว่าใครเห็น ก็คงอยากวิ่งเข้าหาด้วยความอยากเตะ เขาก็ไม่ต่างจากลูกค้าชายคนอื่นหลายคน แม้จะรู้ว่าพนักงานสาว ๆ ส่วนใหญ่ของสโมสรมีแฟน มีครอบครัวกันแล้วแทบทั้งนั้น แต่บรรดาลูกค้าชีกอก็ยังอดใจแซวทีเล่นทีจริงไม่ได้ เป็นความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบเอื้ออาทร
“พอเห็นหน้าเจี้ยบผมก็เป็นบ้าทันที บ้ารักน่ะครับ นี่ถ้าเจี้ยบไม่เดินมาหาอีกสามวินาที ผมต้องขาดใจตายแน่ เพราะพิษรักแรงหลงกำเริบ โอย..หวุดหวิดเหลือเกิน เจี้ยบช่วยชีวิตผมไว้แท้ๆ”
“อ้วก....”
เสียงแสดงความหมั่นไส้ของเอกชัยดังขึ้นทันที รับไม่ได้กับลีลาเจ้าชู้ด้วยสำนวนแสนเฉิ่มเชยของเพื่อน
“เพื่อนของผมแพ้ท้องแทนเมีย ไม่มีอะไรครับ แต่งงาน เมียหึงมาก ดุด้วย มีปัญหาทางการเงิน ฐานะทางบ้านยากจน เป็นโรคติดต่อร้ายแรง อย่าไปคุยกับมันเลยครับ คุยกับผมดีที่สุด ” ธาราไหลไปตามน้ำทันที เผาและกันท่าเพื่อนไปในตัว เพราะถือคติว่า ‘ในวงการจีบสาวไม่มีคำว่าเพื่อน’ แต่เหมือนนึกอะไรได้ ธารามองหน้าสาวเสิร์ฟคนคุ้นเคย ถามด้วยน้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง
“นี่เจี้ยบ ถามสักนิดนะ สมมุติว่ามีผู้ชายมาท้าต่อยมวย โดยฝ่ายชายใช้แค่มือข้างเดียว ฝ่ายหญิงชกแบบชกฟรีสไตล์ได้ทุกรูปแบบ จะกล้าสู้ไหมครับ ถ้าจำเป็น”
“ทำไมจะไม่กล้าล่ะคะ ขนาดแฟนเจี้ยบไม่ได้ถูกมัดมือ เจี้ยบยังตบเตะคว่ำคามือคาเท้ามาแล้วค่ะ” เจี๊ยบคุยอย่างภาคภูมิใจ แต่คนฟังแทบสำลักเหล้าที่กำลังยกดื่ม
“จริงหรือเปล่าครับ” ถามเพื่อความแน่ใจ
“จริงสิคะ เจี๊ยบสมัยก่อนเป็นคาราเต้สายดำเชียวนะคะ ทำเป็นเล่นไป”
ฟังคำตอบแบบไม่ต้องเสียเวลาคิด ทำให้คนถามทำคอย่นด้วยความสยองจิต ความเป็นไปได้มีมากด้วย เพราะเจี้ยบรูปร่างสูงยาวเข่าดีเข้าตำรา การทำงานในร้านอาหารต้องเดินไปเดินมาแทบตลอดเวลา แทบไม่มีโอกาสนั่งถ้าลูกค้าเยอะ มีส่วนช่วยสร้างเสริมความแข็งแรงว่องไว จากกฎข้อหนึ่งของทางสโมสรมีว่า ห้ามพนักงานนั่งคุยกับลูกค้า ทำให้ช่วงเรียวขาของบรรดาสาวเสิร์ฟสโมสร ดูหนักแน่นมั่นคงแข็งแรงกันทุกคน จากการที่เดินไปเดินมาทั้งวัน ลูกค้าคนไหนอยากมีโอกาสคุยกับสาวเสิร์ฟให้มาก ก็ต้องรีบดื่มเหล้าในแก้วให้พร่องโดยเร็ว เพื่อเปิดจังหวะให้น้อง ๆ เดินมาหา ทำให้สามารถฉวยโอกาสพูดคุยมากขึ้น ไม่เป็นที่ติฉินนินทาของโต๊ะอื่น
“อ่า...แล้วแฟนเจี้ยบไม่สู้หรือครับ” ธารายังคงติดใจ
“โอ้ย...เขาไม่กล้าสู้หรอกค่ะ เมามายังไงเขาก็เป็นลูกผู้ชายพอ ไม่ทำร้ายไม่สู้ค่ะ”
“ทำไมเขาไม่สู้ครับ”
“เจี้ยบคิดว่าเขาแมนพอ ต่อยเตะยังไงเขาก็ไม่สู้ เจี๊ยบว่านะ ผู้ชายคนไหนไปเตะต่อยกับผู้หญิงได้ นั่นหน้าตัวภรรยาชัด ๆ เลย”
คราวนี้ธาราสำลักเหล้าพรวดจริง ๆ เพราะอยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องคุยจนเหมือนถูกด่าฟรี เอกชัยเห็นแล้วหัวร่องอหาย แต่เจี๊ยบดูเหมือนยังไม่รู้เรื่องการขึ้นชกของธารา เธอจึงร่ายยาวต่อไป
“สังคมทุกวันนี้แย่นะคะ เห็นแต่ข่าวผู้ชายทำร้ายผู้หญิงจนกลายเป็นแฟชั่นลัทธิเลียนแบบ ไอ้เลวพวกนี้มันน่าจะจับไปตอนไปฆ่า ไปสับ ๆ ๆ ๆ ...ให้สูญพันธุ์ไปเลย หน้าตัวภรรยามาก คุณว่าไหมคะ”
“เอ้อ ครับ...” เขารับลูกแบบตกบันไดพลอยโจน เอกชัยหัวเราะอย่างชอบใจเป็นการย้ำหัวตะปู ทำให้ธารารู้สึกว่าโลกทั้งใบกำลังเป็นศัตรูกับเขา ขนาดสาวเสิร์ฟผู้ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ยังเล่าเรื่องของสามีชนิดฟังแล้วขนหัวลุก ธารารู้สึกเหมือนถูกด่าฟรีอย่างชอบธรรม เจ็บปวดใจแสบสุดแสน แต่ก้าวมาถึงขั้นนี้ อย่างไรเขาก็ไม่คิดจะถอย
“ว่าแต่คุณธา มีอะไรหรือคะ”
“เปล่าครับ” คนกลายเป็น 'หน้าตัวภรรยา' ไปแบบไม่ตั้งใจ ส่ายหน้าไม่คิดชีวิต รู้สึกตัวหดเล็กลงเท่าก้อนน้ำแข็งในแก้วเหล้า เพื่อนรักก็ยังหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ ให้กับชะตากรรมของคนหน้าไม่เหมือนมนุษย์ทั่วไป
“เจ้าธามันจะขึ้นเวทีมวยชกกับเมียมันน่ะครับ” เอกชัยได้นาทีทอง ‘เอาคืน’ อย่างถูกจังหวะ หลังจากถูกเล่นงานก่อน เจี้ยบกำลังจะเดินไปดูแลโต๊ะอื่น ต้องหันมามองหน้านักมวยจำเป็นอย่างไม่เข้าใจ เธอขมวดคิ้วจ้องหน้าถาม
“จริงหรือคะคุณธา”
“เอ้อ... คือว่า...”
“เรื่องจริงแท้แน่นอนครับ เจ้าธารามันจะขึ้นชกกับเมีย โห... เงินเดิมพันเป็นล้านเชียวนะครับ” คนฉวยโอกาสตอบแทนก็ยังคงเป็น ‘เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด’ เพราะเห็นท่าทางยุ่งยากลำบากใจของคนถูกถาม เลยอธิบายแทน ฟังดูเหมือนหวังดีมีน้ำใจมาช่วยตอบ แต่มองอีกด้านเหมือนช่วยตอกย้ำซ้ำเติมมากกว่า
“ถ้างั้นขอให้คุณธาโดนน็อกสลบลงเวทีนะคะ” เสียงอ่อนหวานอวยพรเชิงลบให้ด้วยอาการมองค้อนอยู่ในที
ธาราได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ พูดไม่ออก มองเห็นคะแนนตัวเองลดลงต่ำยิ่งกว่าราคาหุ้นตกเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ขนาดเพื่อนยังไม่ไว้หน้า แต่จะไปโทษก็ไม่ได้ เพราะเขานั่นละ เป็นคนประกาศก้องในวงเหล้าเสมอว่า “ไม่มีคำว่าเพื่อนในวงการจีบสาว”
“แกไปบอกเจี๊ยบทำไมวะ ไอ้เอก” พอสาวเจี๊ยบเดินไปโต๊ะอื่น ธาราหันมาต่อว่าเพื่อนรักทันที
“อ้าว...ก็แกเล่นข้าก่อนนี่ หนอย หาว่าข้าเป็นโรค ยากจน มีเมียแพ้ท้อง อย่าลืมสิ แกเป็นคนพูดเองว่า ไม่มีคำว่าเพื่อนในการจีบสาว”
ธารามองหน้าเพื่อนอย่างแค้นเคือง แต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ “เออ ทีใครทีมันก็แล้วกัน”
“นี่แกไม่คิดช่วยข้าเลยหรือไงวะ เรื่องการชกน่ะ ไม่เห็นมีน้ำใจช่วยเพื่อนเลย” ธาราหันไปเอาเรื่องกับเพื่อน ก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นซดดับอารมณ์ร้อน อีกฝ่ายหัวเราะแล้วบอกอย่างใจเย็น
“ช่วยนะช่วยแน่นอน ช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้แกในวันชกไงละ อย่าลืมสิว่าสมัยเรียนหนังสือ ข้ามันนักมวยโรงเรียนนะโว้ย ว่าแต่แกเถอะ มีเวลาก็ซ้อมออกหมัดตรง หมัดฮุคซ้าย หมัดสวิงซ้าย เอาไว้ให้ดีก็แล้วกัน อย่าลืมว่าแกชกได้ด้วยมือซ้ายข้างเดียว แถมชกได้เฉพาะหน้าอก สะเอว ท้อง สีข้างเท่านั้น กอดรัดฟัดเหวี่ยงก็ไม่ได้ เผลอๆ นิดอาจกระโดดงับคอหอยก็เป็นได้ อย่าประมาท เพราะเธอไม่มีข้อห้ามอะไรเลย นอกจากห้ามใช้เครื่องทุ่นแรงเท่านั้น”
“บ้าน่า ยัยนิดไม่ใช่หมา จะได้กระโดดกัดคอคน”
(มีต่อ)