สังเวียนรัก สังเวียนร้าง 9 ... (ยกที่ 1, 2 และยกที่ 3)

กระทู้สนทนา
.

บทที่ 8
https://ppantip.com/topic/41051767

ผีตานีผีตานีผีตานีผีตานี

“นิด บอกไว้ก่อนนะ คุณจะจำวันนี้ไปชั่วชีวิต”
“ขอให้แน่เถอะ” พูดจบหญิงสาวก็ผลักอกคู่ปรับคนสำคัญอย่างแรง ธาราไม่ทันระวังตัวเซไปด้านหลังหลายก้าวเรียกเสียงเฮ...อย่างชอบใจทั้งสนาม

.........



             ชายหนุ่มหายงง แยกเขี้ยวเงื้อหมัดพุ่งเข้ามาทำท่าจะชก แต่กรรมการรีบปราดเข้ามาห้ามเสียก่อน

             “นี่ ๆ ๆ อย่าเพิ่งชกกันสิครับ กรรมการยังไม่ทันสั่งให้ชกเลย  คุณธาราอย่าลืมกติกาไม่งั้นคุณโดนปรับแพ้นะครับ ระวังด้วย นิดหนูอย่าชกก่อนลุง เอ้ย กรรมการจะบอกให้ชก”

             “นิดไม่ได้ชกนะคะ  นิดผลักเขาต่างหาก อยากทำหน้ากวนทำไมกัน นิสัยไม่ดี”

             “ผมไม่ได้ทำหน้ากวนสักหนอย นิดเขาหาเรื่องผม” ธาราเอานวมชี้หน้าฟ้องบ้าง

             “อย่ามาพูดบ้า ๆ นะ ฉันหาเรื่องอะไรคุณ” นิจพรลอยหน้าลอยตาเถียง

             “เอาละ ๆ เอาเป็นว่า ห้ามใครทำอะไรกันก่อนเด็ดขาด งั้นโดนปรับ”  กรรมการจำเป็นต้องรีบเข้ามาขวางศึก
นักมวยจำเป็นทั้งสองพยักหน้ารับคำอย่างเสียไม่ได้
 
             ระฆังยกที่หนึ่งดังขึ้น 

             ฝ่ายหญิงตั้งการ์ดแบบนักมวยมืออาฃีพ ธารายกมือซ้ายขึ้นระหว่างอกแบบตามสบาย ไม่ได้เคร่งเครียดอะไรมากมาย เพราะถือว่าเป็นผู้ชายความทนทานพละกำลังเหนือกว่าทุกอย่าง กำลังใจมาเต็มร้อย แม้จะมีอาการระบมเจ็บตัวจากการชกกับทรงสิทธิ์แต่คิดว่าไม่ใช่ปัญหา ก็แค่ผู้หญิง เป่าลมทีเดียวก็คงกระเด็น

             ลุงกำจรมองหน้านักมวยทั้งสองคนเพื่อความแน่ใจ ก่อนสับมือลงกลางอากาศเป็นสัญญาณ

              “ชก!”

             เพี้ยะ..!

             เรียกว่ายังไม่ทันสิ้นเสียงบอกให้ชก กำปั้นขวาในนวมหุ้มเล็ก ๆ ของนิจพรก็อัดเข้าโหนกแก้มซ้ายของธาราอย่างจังแบบหมัดขโมยต่อย ชนิดไม่ให้ทันตั้งตัว  ความจริงการฉวยโอกาสต่อยครั้งนี้ เป้าหมายอยู่ตาซ้ายกะปิดตะเกียง เพราะเห็นรอยช้ำยังไม่หาย แต่เพราะความไม่ใช่มืออาชีพจึงห่างเป้าหมายไปเล็กน้อย 

             คนถูกต่อยแบบไม่ทันตั้งตัวทำหน้างงเพราะคิดไม่ถึง ปกติเมื่อกรรมการสั่งให้ชก ธรรมเนียมของนักมวยมืออาชีพมักจะแตะปลายนวมกันก่อน

             “คุณทำผิดมรรยาทการชก” ธาราถอยออกมา ยกนวมซ้ายชี้หน้า รู้สึกว่าหมัดของภรรยาทำเอาเจ็บเหมือนกัน

             “ผิดมรรยาท แต่ไม่ผิดกติกาถือว่าใช้ได้” หญิงสาวว่าแล้วสะบัดข้อเท้าเตะขวาสูง สัญชาตญาณทำให้ชายหนุ่มยกมือซ้ายขึ้นสูง คราวนี้เท้าขวาของนิจพรเตะเข้าข้อพับเข่าช้ายติด ๆ กันสามฉาด เรียกเสียงเฮจากแฟนมวยได้ทันที

             เตะหนักไม่เลวแฮะ....ธาราคิดในใจ โดนแค่นี้ไม่เท่าไร แต่ถ้าโดนมากๆ แบบสะสมก็ไม่แน่เหมือนกัน  เขายกหมัดขึ้นขู่ ทำให้อีกฝ่ายถอยหลังออกไปยกการ์ดรัดกุมอย่างไม่ประมาท

              “ชกแบบไม่ทันตั้งตัวมีอย่างที่ไหน ไม่ยอมแตะนวม บ้าหรือเปล่าคุณ” ธารายังติดใจเรื่องถูกชกก่อน จ้องหน้าเอาเรื่อง

             “โกงบ้าอะไร กรรมการบอกให้ชก ฉันก็ชก จะมาโวยวายอะไรอีก”

             นั่นละ...อาการเถียงข้าง ๆ คู ๆ ที่ไม่เขาชอบเอาเสียเลย ผิดแล้วยังไม่ยอมรับผิดอีกชายหนุ่มมองหน้ากรรมการเหมือนจะขอความเห็น แต่ลุงกำจรทำหน้าเฉยไม่ทุกข์ร้อน  แน่ละ...พวกเขาเป็นลุงเป็นหลาน ยังไงก็ต้องเข้าข้างกันไม่มากก็น้อย

             แบบนี้ต้องโหดไม่ยั้ง

             ธาราเป็นฝ่ายขยับเข้าหาบ้าง แต่ยังหาจังหวะออกอาวุธไม่ได้เพราะต้องต่อยเข้าลำตัวของอีกฝ่ายอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งนิจพรรู้ข้อได้เปรียบเสียเปรียบดี จึงยกการ์ดปิดลำตัว ลอยหน้าลอยตายั่วกวนประสาทแล้วคอยเตะขวา รบกวนทำลายจังหวะอยู่ตลอดเวลา เตะแล้วก็ถอย...เตะแล้วก็ถอย ..อยู่อย่างนั้น  สมกับการฝึกชกมวยมาหลายวัน เตะทีเสียงกองเชียร์ก็เฮที

             หมัดพิฆาตเมียเหวี่ยงออกไปสามสี่ครั้ง  แต่คู่ต่อสู้ชิงถอยหลังวนออกไปได้ เจนจิราในชุดนางตานีนำเชียร์ที่มุมเสียงลั่นและร้องเตือนสติอยู่ไม่ได้ขาด เพราะความห่วงเพื่อน  หลายครั้งที่เธอถือโอกาสขว้างก้อนน้ำแข็งใส่อีกฝ่าย รบกวนสมาธิ

             “การ์ดอย่าตก การ์ดอย่าตก...”  เสียงเจนจิราร้องเตือนเพื่อนสาว ขณะหาจังหวะขว้างก้อนน้ำแข็ง

             ธารารู้ว่าอยู่ห่างไม่ได้ ถึงจะเป็นการเตะของผู้หญิง แต่ก็มีทั้งเตะแบบมวยไทย เตะแบบคาราเต้ผสมผสานเดาทางได้ลำบาก  เจอเข้าบ่อย ๆ ขาก็มีโอกาสเดี้ยงได้เหมือนกัน จะต้องประชิดตัวให้ได้ แต่การใช้แขนข้างที่ไม่ถนัดต่อสู้มันช่างเกะกะน่ารำคาญไม่ได้ดังใจเอาเสียเลย

             จังหวะหนึ่งด้วยความพยายามเข้าไปใกล้ตัว แต่เข้าไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้เพราะนิจพรยกการ์ดปิดช่องว่าง แล้วถือโอกาสใช้มือของเธอกอดรัดแขนซ้ายของผู้เป็นสามีให้ติดตัวไว้อย่างแน่นหนา จากนั้นก็บรรเลงเพลงเข่าทันที

             ตี...ตี...ตี!!

             เสียงเชียร์กระหี่มเป็นจังหวะตามการตีเข่า หน้าขาของธาราเป็นเป้าหมายสำคัญ ไม่น่าเชื่อว่าเข่าของผู้หญิงจะเล่นงานได้เจ็บปวดขนาดนั้น คนถูกตีหันรีหันขวาง พยายามสลัดออกก็ไม่หลุดเพราะนิจพรก้มหน้าก้มตารัดมือไว้แน่นหมุนตัวไปรอบ ๆ ตั้งหน้าตั้งตาตีเข่าไม่คิดชีวิต ถ้าสองมือของธาราเป็นอิสระยังพอว่า มีช่องทางออกแรงสลัดออกได้ไม่ยาก แต่นี่กลายเป็นกระสอบทรายดี ๆ นี่เอง

             เท่านั้นยังไม่พอ นิจพรยังอ้าปากกัดต้นแขนซ้ายของธารา จนทำให้ชายหนุ่มร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด  และกัดแบบไม่ปล่อยเสียด้วย เขาตัดสินใจรวบรวมกำลังทั้งหมดพุ่งร่างเข้าปะทะเชือก อาศัยแรงสะท้อนเหวี่ยงให้ทั้งคู่มาล้มกลางเวที

             นั่นละ จึงหลุดออกมาได้

             นิจพรลุกขึ้นก่อน ถอยหลังออกไปหายใจหอบแรง ชายหนุ่มยังไม่ยอมลุก แต่ถือโอกาสพ้องกรรมการที่กำลังเข้ามาเริ่มนับ

             “นิดเขากัดผมครับ”

             “เอ้อ...ฟรีสไตล์ ไม่ถือว่าผิดกฏนะครับ”  เจ้าของค่ายมวยดังว่า พลางสับมือนับต่อไป โดยมีเสียงร้องคนดูนับตามเป็นจังหวะไปด้วย สี่...ห้า...หก...

             นั่นเองทำให้ธารารีบลุกขึ้นทันที คราวนี้เจ็บหมือนเนื้อต้นแขนเหมือนจะหลุดตามฟันของมนุษย์จอมกัดไปด้วย รู้สึกว่าขาตัวเองเริ่มระบมลุกขึ้นยืนยาก จากการเตะและเข่าซ้ำซ้อนของผู้เป็นภรรยา

             “แต่แบบนี้ไม่ถูกต้องนะครับ” เขาโวยวายไม่เลิก “ถ้านิดไล่กัดผมตลอดเวลา ผมก็แย่สิครับ”

           “โอ ท่านผู้ชมครับ เห็นไหมครับว่า มวยคู่นี้ดุเดือดเผ็ดมันที่สุดในรอบแสนปี  สังเกตได้เลยว่ามุมหนุ่มหล่อเริ่มมีปัญหาแล้วครับ เขาโดนทั้งเข่าทั้งเท้าทั้งกัดเข้าไปนับไม่ถ้วน คงเจ็บหนัก ทำท่าทางเหมือนจะประท้วง คงไม่อยากถูกกัดนั่นเอง กรรมการว่าไงครับกรรมการ”

             เสียงโฆษกเจื้อยแจ้วแบบโอเวอร์ เพื่อความมันในอารมณ์ราวกับกำลังอยู่ในสมรภูมิของสงครามโลก

             “อ้าว...กรรมการหันไปปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิที่อยู่ข้างเวทีแล้วครับ ตกลงว่าไง นั่นกรรมการทำสัญญาณมือบอกว่า ต่อไปนี้ห้ามกัดครับห้ามกัด คราวนี้โอกาสน่าจะกลับมาให้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายได้ตีตื้นขึ้นมาบ้างแล้วครับ”

             บนเวทีมุมสาวสวยยังคงส่งเสียงประท้วงอย่างไม่ยินยอม

             “อะไรกันคะ ลุงจร ไหนบอกฟรีสไตล์ มาเปลี่ยนกติกากลางคันแบบนี้ได้ไงคะ”

              “อย่าเรียกลุงสิ ต้องเรียกกรรมการ”  ลุงกำจรเอามือปาดเหงื่อ รู้สึกว่าศึกครั้งนี้หนักหนาสาหัสกว่าที่คิด  “กรรมการกลางข้างเวทีเขาตกลงกันแบบนั้น ลุง เอ้ย...กรรมการบนเวทีไม่เกี่ยว”

             “หัดฟังกรรมการบ้างสิ”   ธาราใช้ปลายนวมผลักอกของภรรยาผู้ไม่ทันระวังตัว แต่เป็นการผลักที่ไม่รุนแรงนักเพราะกรรมการยังไม่สับมือบอกให้ชก นิจพรตาเขียวปัดแต่แล้วเปลี่ยนใจหันหลังทำท่าจะเดินหนี สามีได้โอกาสผวาตามกะเล่นทีเผลอ แต่นิจพรหันกลับมาเตะแบบคาราเต้เข้าหน้าท้องอย่างจัง 

             ธาราไม่ทันระวัง ตัวงอเป็นกุ้งเผาด้วยความจุกเสียด โอกาสเป็นของนักชกสาว ขณะที่ฝ่ายตรงกันข้ามงอตัวลงเธอกระโดดสลับเท้าใช้หลักวิชาคาราเต้ฟาดส้นเท้าลงท้ายทอยของสามีอย่างจังจนหัวทิ่มลงไปเอาแก้มแนบพื้นเวทีแบบหมดท่า คนดูเฮกันทั้งสนาม

             กรรมการปราดเข้ามานับทันที เสียงกองเชียร์เฮเป็นจังหวะตามการสับมือ แต่พอนับถึงห้า ธาราก็กัดฟันทำท่าจะลุกขึ้นมา

             นักชกสาวทำท่าจะเข้าไปซ้ำ แต่กรรมการตาไวหันมากางมือกั้นไว้ขวางเสียก่อน

             “ต้องนับให้เสร็จก่อนก่อน ห้ามซ้ำ”

             “นี่มันฟรีสไตล์นะคะคุณลุง”

             “ฟรีสไตล์ก็ห้ามซ้ำ” ว่าพลางกางแขนกั้นต่อไป แต่นิจพรอาศัยความไวรอดใต้แขนกรรมการ วิ่งไปเอาหมัดไล่ทุบหัวของคู่ต่อสู้จนหัวซุกหัวซุน กรรมการก็พยายามเข้าห้ามเป็นที่ชุลมุน คนดูส่งเสียงเชียร์ถล่มทลาย

             พอดีเสียงระฆังดังขึ้นเสียก่อน

             เสียงระฆังยกหมดยกแรก ท่ามกลางเสียงปรบมือชอบใจทั้งสนาม นักชกทั้งสองฝ่ายถอยกลับเข้ามุม ด้านนิจพรมีหนุ่มหน้ามนคนหล่อเป็นพี่เลี้ยง
 
             ฝั่งธารามีเอกชัย น้องกบและน้องเจี้ยบเป็นพี่เลี้ยง สองสาวเรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างดีด้วยลีลาการนวดเฟ้นถูก ๆ ผิด ๆ แต่สวยงามชวนมองเกินความจำเป็น จนมีหนุ่มและไม่หนุ่มมาขอถ่ายรูปบริเวณมุมเต็มไปหมด สร้างสีสันสนุกสนานขึ้นไปอีก

              “เป็นไงบ้าง ไหวเปล่า โดนเตะโดนเข่าซ้ำๆ ไม่ดีเท่าไรนะเจ้าธา”  เอกชัยร้องถามอยู่ด้านหลัง ปล่อยหน้าที่การให้น้ำเป็นของสองสาว

             “สบายมาก ข้าว่าเตะมาก ๆ เดี๋ยวนิดก็หมดแรงเจ็บขาไปเองหรอก” นักชกมุมหนุ่มหล่อบอกอย่างมั่นใจ ทั้งที่เจ็บหนึบในหัวสมองเพราะโดนฟาดท้ายทอยอย่างจัง การทรงตัวยังไม่ค่อยดีนัก ไม่คิดว่าภรรยาตัวเองจะมีไม้เด็ดขนาดนี้ 

             “อย่าประมาทดีกว่า ของแบบนี้มันไม่แน่นะโว้ย ถึงเป็นแข้งผู้หญิงก็เถอะ”

             “แล้วจะให้ทำไง” ธาราเริ่มใจคอไม่ดีเหมือนกัน “ยัยนิดเล่นเตะแล้วถอยหนี ตามไม่ทันเลย ไวยังกับลิง”

             “ลองหาทางจับขาแล้วทุ่มลงกับพื้น ไม่ผิดกติกาเพราะไม่ใช่การชก แล้วแกก็ล้มกระแทกลงไป รับรองคุณนิดลุกไม่ขึ้น”

             “เธอเตะต่ำ จับขาไม่ง่ายเลยนะเพื่อน”

             “ใครว่าจับขาคุณนิดยาก  แกดูโน่น”

             คำพูดแปลก ๆ ตอนท้ายของเอกชัยทำให้ชายหนุ่มหันไปมองมุมตรงกันข้ามแล้วต้องเบิกตาโพลง

             หนอย...มันมากเกินไปแล้ว!
 
             มุมสาวสวย นิจพรนั่งเก้าอี้พักยกโดยมีหนุ่มหน้าหล่อกำลังนวดเฟ้นแข้งขาของเธออยู่อย่างตั้งอกตั้งใจ และเกินงามเกินความจำเป็น ก่อนจะมีใครจะคาดคิด ธาราลืมเจ็บลุกพรวดพราดจากเก้าอี้ราวติดสปริง กระเด้งเชือกเพื่อเสริมแรง พุ่งร่างไปยังมุมสาวสวย กระโดดตัวลอยถีบเข้าเต็มกกหูของพี่เลี้ยงหน้าหล่ออย่างจัง 

             พี่เลี้ยงหน้าละอ่อนหัวทิ่มตกลงไปจากเวทีทันทีเพราะไม่ทันระวังตัว ท่ามกลางความตกใจของคนดู แต่หลายคนส่งเสียงเฮลั่นอย่างชอบใจ

             “โอ...เกิดอะไรขึ้นครับท่านผู้ชม นักชกมุมหนุ่มหล่อไม่รู้คิดอะไร กระโดดถีบพี่เลี้ยงอีกฝ่ายกระเด็นตกเวทีไปแล้วครับท่าน ผิดกติกาไหมครับ ผมว่าไม่น่าผิดเพราะอยู่ระหว่างพักยกนะครับ”

             “จะมากไปแล้วนะแก ต่อหน้าต่อตา”  ธาราชี้นวมลงไปข้างล่างที่หนุ่มหน้าอ่อนร่วงลงไปนับดาวอยู่กับพื้นข้างเวที ท่ามกลางกองเชียร์ของฝ่ายหญิง

             “แน่จริงลุกขึ้นมาต่อยกันแบบเวทีเลย“ ธาราสีหน้าดุดัน กวักนวมท้าเหยงๆ 

             เจนจิราโยนเก้าอี้พับขึ้นมาให้เพื่อนรักอย่างคนรู้งาน นิจพรได้สติ ลุกขึ้นใช้นวมจับเก้าอี้พับขาเหล็กเงื้อ ตีเป้ง ๆ... เข้าศีรษะของผู้บุกรุกมุมอย่างแรงสองครั้งติดต่อกัน ยังกับศึกมวยปล้ำ  ธาราไม่ทันตั้งตัว ร้องเสียงหลงถอยหลังเซไปมาตามแรงฟาด ไม่คิดว่าจะเจอเก้าอี้พับ  ก่อนลุงกำจรจะแย่งเก้าอี้ออกจากมือได้ แล้วดันหลังให้หลานสาวเข้ามุมอย่างทุลักทุเล เพราะเห็นเจนจิราโยนเก้าอี้ตัวใหม่มาให้

       
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่