บทที่ 9
https://ppantip.com/topic/41063930/comment10-1
ท้ายบทที่แล้ว
มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง อาจารย์สอนคาราเต้สายดำ และเป็นครูสอนมวยไทย คนนั้นนั่นเอง ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกโรงเสียทีหลังจากยืนกอดอก วางมาดดูการชกพักหนึ่ง สายตาผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อย่างเขาคงแก้ทางมวยไม่ยาก
“ถ้าคุณอยากชนะต้องทำอย่างนี้นะครับ” ว่าพลางเดินตรงเข้ามาใกล้เอามือป้องปากบอกเสียงดัง แข่งกับเสียงรบกวนรอบด้าน
“คุณต้องหันข้างซ้ายมือเข้าหาเธอ เดินหน้าเข้าหาตลอดและที่สำคัญคือ.....”
พูดยังไม่จบ ยังไม่ทันได้บอกไม้ตายทีเด็ด ใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายอาจารย์มวยกะทันหัน เป็นสาวสวยนางหนึ่ง แต่ตอนนี้สีหน้าท่าทางเฉียบขาดอย่างนึกไม่ถึง เธอกระชากแขนคนกำลังจะบอกเคล็ดลับเด็ดให้ถอยหลังออกไปอย่างไม่ออมแรง พร้อมกับเสียงห้วนดุเข้ม
“กลับไปเก้าอี้เดี๋ยวนี้ที่รัก มาทำอะไรอะไรแถวนี้”
เท่านั้นเองอาจารย์มวยผู้น่าเกรงขามยำเกรง คล้ายเปลี่ยนไปเป็นลูกโป่งถูกปล่อยลมกะทันหัน ไหล่หลังยืดตรงของปรมาจารย์มวยเปลี่ยนเป็นงองุ้มราวคันธนูถูกน้าวหรือไข่มดแดง ท่วงทีมาดมั่นเข้มแข็งสลายลับไปกับตา มองหน้าคนบนมุมน้ำเงินแล้วยิ้มแห้ง ๆ สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย
“เอ้อ...เมียผมมาตาม ขอตัวก่อนนะครับ”
ธารากับพี่เลี้ยงพากันอ้าปากค้าง เพราะนึกไม่ถึงว่ายอดคนฝีมือบุคลิกภาพสูงส่งระดับเจ้าสำนักยังมีคนเหนือกว่า เหนือฟ้ายังมีอวกาศ เหนือปรมาจารย์ยังมีภรรยาปรมาจารย์ เพียงปรากฏตัวราวภูตพรายวูบเดียว ปรมาจารย์มวยคนสำคัญก็ถูกกระชากลากตัวหายไปกับฝูงชนโดยปราศจากการต่อสู้ขัดขืนแม้แต่น้อย
“แบบนี้ข้าจะกล้าแต่งงานไหมหนอ สหายเอ๋ย” เอกชัยหันมาบอกกับสหายรักด้วยสีหน้าเจื่อนจืดสนิท ประโยคสำคัญซึ่งเป็นการแก้ทางมวยยังบอกไม่จบกระจ่างเสียด้วยซ้ำ ธาราหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้วิตกกังวลอะไรมากนักเพราะอย่างน้อยก็พอรู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
ชายหนุ่มนั่งจ้องมองภรรยาตัวเองด้วยสายตาและมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
แน่ละ...จะมีผู้ชายในโลกสักกี่คน จะมีโอกาสนั่งมองภรรยาตัวเอง จากมุมหนึ่งไปยังมุมหนึ่งของเวทีมวยแบบนี้
นิจพรอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดไม่มีแขนรัดรูป ทำให้ดูแล้วน่ารักอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เห็นแล้วขัดใจว่าทำไมต้องใส่ชุดเปิดเผยเนื้อนวลขาวขนาดนั้น ภาพนักมวยหญิงผู้มุ่งมั่นดูดีอย่างประหลาด
นี่หรือคู่ชกของเขา ธาราได้แต่ถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเตือนตัวเองว่าอย่าไปยึดติดกับภาพลวงตา บนสังเวียนจะต้องไม่มีคำว่าปรานี ...ไม่โหดไม่ใช่ชาย...ทางเลือกทางออกทางเดียวของวันนี้จะต้องชนะเท่านั้น เพราะถ้าแพ้จะต้องสูญเสียมหาศาลทั้งเงินทองชื่อเสียง ตลอดจนศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ราวอาณาจักรแอตแลนติส ล่มสลายลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเป็นแน่แท้
นักชกหนุ่มเริ่มเกิดแรงบันดาลใจและเจตนารมณ์แน่วแน่ ลุกขึ้นยืนหลับตาสูดลมหายใจแห่งชัยชนะที่กำลังจะพัดเข้าหาในไม่ช้า
ชนะ...เขาต้องชนะเท่านั้น จะต้องเป็น ธารา ราชากำปั้นทุบสังเวียนเวทีแห่งฝัน วันแห่งศักดิ์ศรีหัวใจไม่ยอมสยบ นั่นคือปณิธานมุ่งมั่น จะต้องตัดคำว่า เมตตาปรานี สงสาร ใจอ่อนออมมือ ปรองดอง ประนีประนอม ออกไปให้หมด
ในหัวใจต้องมีแต่คำว่า จัดหนัก ทรมานทรกรรม ประจัญบาน โหดกว่า แรงกว่า ดุกว่า บ้ากว่า เท่านั้น!
“โอ...ท่านผู้ชมครับ อยู่ดีๆก็ไม่ว่าดี ธาราหมัดซ้ายทลายเมีย ลุกขึ้นจากเก้าอี้ชูมือซ้ายราวกับจะประกาศชัยชนะ น่าทึ่งจริง ๆ ครับ ท่าทางยกที่สามดุเดือดถึงใจแน่ เรามาคอยดูกันว่าเขาจะแก้ลูกเตะขวา ต่อยขวา ของนักชกสาวเจ้าถิ่นได้อย่างไร น่าสนใจมากครับ แม้ว่าจะถูกต่อยปากแตก แต่เขายังไม่มีท่าทีหวั่นไหวเลยครับ สีหน้าท่าทางองอาจหน้าด้าน ราวกับการออกมุมไปต่อยกับภรรยา เป็นเรื่องยิ่งใหญ่เปี่ยมคุณธรรม มีหน้ามีตาทรงเกียรติราวกับประกอบวีรกรรมกอบกู้โลกเพื่อความดำรงอยู่ของมนุษยชาติทีเดียวเชียวครับ”
“เฮ..”
เสียงกองเชียร์ฝ่ายชายทำให้รู้สึกไม่โดดเดี่ยวอ้างว้าง แม้จะรู้สึกขัด ๆ ในคำบรรยายของโฆษก ด่าข้าหรือเปล่าฟะ... ช่างเถอะ...วันนี้มีงานสำคัญ เขาไม่ใช่ต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ยังเป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสามี
เสียงระฆังดังขึ้นแล้ว ชายหนุ่มเดินออกจากมุมด้วยจิตใจห้าวหาญ เห็นคู่ต่อสู้วิ่งตรงเข้ามาราวกับเป็นภาพช้า เปิดช่องว่างในการโจมตีหลายจุด ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ยัยนิดเอ้ย...นี่มันชีวิตจริง ขอโทษนะที่รัก... ผมจำเป็นจะต้องชนะคุณเพื่อมนุษยชาติ
จบเท่านี้ละที่รัก คุณมาได้เท่านี้
กำปั้นซ้ายชกตวัดขึ้นแบบหมัดฮุก ต่อยทะลุการ์ดตั้งรับเข้าไปแบบสุดกำลังไม่ยั้งมือ
หมัดเดียวรวบรัดชัดเจนแม่นยำหนักหน่วง ร่างของนิจพรลอยกระเด็นราวปุยนุ่น ปลิวข้ามเชือกกั้นเวที ตกหายไปในฝูงชนที่กำลังกรีดร้องกันระงม
ชนะแล้ว...
รสชาติของชัยขนะหวานมันอะไรเช่นนี้
หอมหวาน อิ่มเอม ชัยชนะอันแสนหวาน
“เอ๊ย!...ไอ้ธา เป็นอะไรไปวะ อยู่ดี ๆ ก็ทะลึ่งลุกขึ้นยืนยิ้มเหมือนคนบ้า”
เสียงของเอกชัยทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกได้สติ ตื่นจากการฝันหวานไปไกลแสนไกล เขายิ้มแห้ง ๆ กับความฝันบรรเจิดของตัวเอง ถ้าเป็นอย่างที่คิดได้ก็ดี แต่นี่ภรรยาคนดียังนั่งอยู่มุมตรงกันข้าม รอเวลา ไม่ได้ถูกชกลอยละลิ่วปลิวลมเลยสักนิด เสียงระฆังยังไม่ได้ดังขึ้น
“ฟ้องข้อหาคุกคามทางเพศ ละเมิดสิทธิมนุษยชนภรรยาขั้นพื้นฐานดีไหมนิด” เจนจิราถามเพื่อนขณะรอเสียงระฆัง สองยกผ่านไป ยังไม่เหนื่อยมากเท่าไร ไม้ตายที่ลุงกำจรฝึกสอนให้ก็ยังใช้ไม่หมด นิจพรยังคงจ้องมองตู่ต่อสู้ด้วยสายตาขุ่นเคือง แต่ยังมีสติคิดหน้าคิดหลังตอบ
“คงมีใครเขายอมรับฟ้องอยู่ล่ะเจน ยังไงเราก็ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน”
“เจนรู้ แต่ทำแบบนั้นใช้ได้ที่ไหน หนอย... มาหอมแก้มคนอื่นดื้อ ๆ ไม่มีเหตุผล มันน่านัก...มีที่ไหนนักมวยหอมแก้มกันกลางเวที คอยดูนะ มีจังหวะเมื่อไรเจนจะเล่นงานให้หมอบเลย”
ฟังเพื่อนระบายแค้นในใจแล้วนักชกสาวก็ได้แต่หัวเราะ อดนึกถึงความหลังเมื่อครั้งวันวานยังหวานอยู่ ธาราจัดเป็นตัวรุ่มร่ามไม่สำรวมคนหนึ่ง มีอย่างที่ไหน หลังจากไปมาหาสู่ คบหาเป็นแฟนกันได้ไม่นาน ธาราถึงกับกล้าเอ่ยปากขอจับมือและหอมแก้มเธอเป็นครั้งแรกในวันคุกเข่าขอแต่งงาน หน้าไม่อายเอาเสียเลยผู้ชายคนนี้ เรื่องทำอะไรห่าม ๆ ไม่มีใครเกิน ขนาดให้เดินท่าเป็ด รอบร้านอาหาร ยังกล้าทำ
บ้าพอ ๆ กัน กับเรานั่นละ..คิดพลางแอบยิ้มในใจ ก่อนบอกกับเพื่อนรักอย่างมั่นใจ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวยกนี้นิดจัดการเอง”
“แน่ใจนะ อย่าใจอ่อนล่ะ”
“ไม่มีหรอก เจนก็รู้ นี่ว่า ยังไงนิดก็แพ้ไม่ได้”
ใช่แล้ว... เธอจะแพ้ไม่ได้ เพราะถ้าแพ้ก็หมายถึงการสูญเสียทุกอย่าง เงินเดิมพันก็ลงไปก็เป็นเงินแทบทั้งหมดที่สะสมเอาไว้ทั้งชีวิต ถึงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครคนอื่นความจริงก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เหมือนกับว่าชีวิตมาถึงจุดล้าเต็มทีแล้ว จนอยากจะวางมือวางหัวใจลงบนความว่างเปล่าพักกายพักใจสักระยะ แต่อดนึกถึงการกระทำจาบจ้วงของธาราเมื่อครู่นี้ไม่ได้ ขนาดจะเลิกรากันแท้ๆ ยังไม่หายบ้า และหมัดเด็ดที่ต่อยออกไปก็เป็นแบบสุดแรงจริง ๆ เพราะความตกใจ เห็นคนโดนชกนั่งเลือดไหลก็อดสงสารไม่ได้
เพราะจะว่าไปห้าปีที่แต่งงานกันมา อย่างไรเขาก็คอยดูแลใส่ใจเธออย่างดีอยู่เสมอ ไม่เคยมีเล็กมีน้อย แต่พอเห็นเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ชูมืออย่างจะประกาศชัยชนะ ความสงสารภายในใจพลันวิ่งเตลิดหนีหาย ความแค้นวิ่งมาเสนอหน้าแทนที่
“พี่ ๆ พี่ตานีไม่ถือป้ายบอกยกหรือคะ”
เสียงใส ๆ ดังแทรกมาจากด้านหลังแข่งเสียงฝูงชน สองสาวเพื่อนรักหันไปมองพร้อมกัน เห็นสาวหน้าหวานคนหนึ่งกำลังส่งเก้าอี้พับเหล็กขึ้นเวทีมาให้ จำได้ถนัดชัดตาว่าเป็นสาวเจี้ยบนั่นเอง ข้างๆยังมี น้องอุ๊ น้องเมย์ และน้องกบจากร้านอาหารสโมสร มากันแบบยกทีม ทำให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจทันที เพราะเห็นอยู่ว่าแรก ๆ เชียร์อยู่มุมของธารา
“ไม่ต้องสงสัยอะไรเลยค่ะ” เจี้ยบรีบบอกเมื่อเห็นแววตาหวาดระแวงของสองสาวบนเวที
“พวกหนูมาทำตามหน้าที่เรียบร้อยไปแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวพวกหนูเลือกมาเชียร์พี่นิดค่ะ ว่าแต่รีบไปยกป้ายบอกยกก่อนถอะค่ะ แฟนมวยร้องขอกันใหญ่แล้ว”
เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน เจนจิรารีบคว้าเก้าอี้เหล็กติดมือ ลุกขึ้นเดินกรีดกรายชูเก้าอี้ต่างป้ายบอกยกทันที เธอเป็นคนมีพรสวรรค์มาก ทำอะไรก็น่ารักน่ามองน่าชมไปหมด คนดูส่งเสียงฮือฮาอย่างชอบใจกับลีลาริงเกิร์ลเฉพาะกิจ ผู้มีลีลาไม่แพ้ริงเกิร์ลมืออาชีพเลยสักนิด และที่ไม่มีริงเกิร์ลคนไหนทำได้ คือเมื่อเดินเฉียดผ่านมุมนักชกฝ่ายชายอย่างจงใจ เจนจิราเงื้อเก้าอี้ในมือสุดล้า ทำท่าจะตีใส่ทั้งเอกชัยและธารา ทำเอาทั้งสองตกใจพากันกระโดดลงมาจากมุมแทบไม่ทัน ท่ามกลางเสียงเฮลั่น เป็นที่พออกพอใจของทุกฝ่าย
จากนั้นเธอก็เดินเยื้องกายกลับมามุมสาวสวยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นบรรดา สาวสโมสรพากันกระโดดโลดเต้นเชียร์อยู่ข้างล่างอย่างไม่เกรงใจใคร เพราะความเป็นลูกผู้หญิงด้วยกัน
แก้ง...!
ระฆังเริ่มยกดังขึ้น เอกชัยผลักหลังเพื่อนรักให้ขึ้นไปบนเวทีอย่างรีบร้อน
“ยกให้ดีนะเพื่อน ข้าวางเงินเดิมพันข้างแกห้าหมื่นเชียวนา แพ้ไม่ได้ เข้าใจ๋..”
แล้วแกมาเกี่ยวอะไรด้วย...ธาราอยากจะถามสวนออกไปแต่ไม่มีเวลา เพราะเห็นภรรยาคู่รักคู่แค้นออกจากมุมมายืนรอกลางเวทีแล้ว ท่ามกลางเสียงร้องเชียร์กึกก้อง การถูกมัดแขนขวาข้างถนัดทำให้อะไรอึดอัดขัดข้องไปหมด
เดินหน้า...ยกนี้จะต้องเดินหน้าเท่านั้น! เดินหน้าฆ่าลูกเดียว ชายหนุ่มเดินไปเผชิญหน้ากับภรรยาอย่างอาจหาญกลางเวที จ้องตากันราวคู่อาฆาต แต่พอมองไปมุมตรงกันข้ามเห็นเจนจิรายืนถือเก้าอี้พับ ทำเอาชะงักอย่างไม่ไว้วางใจ รู้นิสัยว่าสาวคนนี้บ้าดีเดือดพอสมควร
“คุณลุงกำจรครับ พี่เลี้ยงของนิดท่าทางจะหาโอกาสเอาเก้าอี้ตีผมแน่เลย” ชายหนุ่มหันไปฟ้องกรรมการเสียงลั่น แต่คนตอบแทนกรรมการแบบไม่เสียเวลาคิด เป็นนักยกสาวสวยคนสำคัญนั่นเอง
“แล้วเจนตีหรือยัง แหม...ยังกับเด็กขี้ฟ้อง ทีคุณล่ะทำอะไรน่าเกลียดกับฉัน ไม่เห็นต้องร้องแรกแหกกระเชอฟ้องใครเลย”
“ทำน่าเกลียดอะไร คนรักกันจูบแก้มกันกันผิดตรงไหน” ธาราต่อปากต่อคำทำหน้าล้อเลียน
“ผิดตรงมาทำอะไรบ้า ๆ บนเวทีนี่ละคนบ้า” พูดจบนิจพรก็ยกมือผลักอกอีกฝ่ายเต็มแรง ธาราไม่ทันระวังตัวเสียหลักเซถลาไปด้านหลังอย่างหมดรูปมวย กรรมการกำจรรีบปราดมาขวางไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวสิ พวกเธอ กรรมการยังไม่ทันสั่งชกเลยนะ ห้ามลงมือลงไม้กันก่อน ว้า แย่จัง”
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย นิดผลักผมก่อนนะครับ” ธาราพยายามเรียกร้องความชอบธรรม
“ก็มาว่าเพื่อนฉันได้ยังไง”
“เอาละพอ ๆ ทั้งคู่ เอ้า ชก!” ลุงกรรมจรรีบตัดบทสับมือบอกสัญญาณเริ่มต้นการชกทันที ก่อนจะปวดหัวไปมากกว่านี้
พอสิ้นสัญญาณบอกชก ธาราเป็นฝ่ายลงมือก่อนหลังจากพลาดท่าหลงทางมาพอสมควร ถึงจะใช้แขนข้างเดียวและจำกัดเป้าหมาย แต่อาศัยว่าแขนยาวกว่า ไม่ต้องออกแรงต่อย
เพียงหันข้างซ้ายให้ ยื่นมือเหยียดตรงออกไปยังบริเวณลำตัวของคู่ต่อสู้ ก็ทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามปั่นป่วนได้แล้ว
(มีต่อ)
สังเวียนรัก สังเวียนร้าง 10... (ยกสุดท้าย) จบ
บทที่ 9
https://ppantip.com/topic/41063930/comment10-1
ท้ายบทที่แล้ว
มีเสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง อาจารย์สอนคาราเต้สายดำ และเป็นครูสอนมวยไทย คนนั้นนั่นเอง ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ออกโรงเสียทีหลังจากยืนกอดอก วางมาดดูการชกพักหนึ่ง สายตาผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้อย่างเขาคงแก้ทางมวยไม่ยาก
“ถ้าคุณอยากชนะต้องทำอย่างนี้นะครับ” ว่าพลางเดินตรงเข้ามาใกล้เอามือป้องปากบอกเสียงดัง แข่งกับเสียงรบกวนรอบด้าน
“คุณต้องหันข้างซ้ายมือเข้าหาเธอ เดินหน้าเข้าหาตลอดและที่สำคัญคือ.....”
พูดยังไม่จบ ยังไม่ทันได้บอกไม้ตายทีเด็ด ใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายอาจารย์มวยกะทันหัน เป็นสาวสวยนางหนึ่ง แต่ตอนนี้สีหน้าท่าทางเฉียบขาดอย่างนึกไม่ถึง เธอกระชากแขนคนกำลังจะบอกเคล็ดลับเด็ดให้ถอยหลังออกไปอย่างไม่ออมแรง พร้อมกับเสียงห้วนดุเข้ม
“กลับไปเก้าอี้เดี๋ยวนี้ที่รัก มาทำอะไรอะไรแถวนี้”
เท่านั้นเองอาจารย์มวยผู้น่าเกรงขามยำเกรง คล้ายเปลี่ยนไปเป็นลูกโป่งถูกปล่อยลมกะทันหัน ไหล่หลังยืดตรงของปรมาจารย์มวยเปลี่ยนเป็นงองุ้มราวคันธนูถูกน้าวหรือไข่มดแดง ท่วงทีมาดมั่นเข้มแข็งสลายลับไปกับตา มองหน้าคนบนมุมน้ำเงินแล้วยิ้มแห้ง ๆ สั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย
“เอ้อ...เมียผมมาตาม ขอตัวก่อนนะครับ”
ธารากับพี่เลี้ยงพากันอ้าปากค้าง เพราะนึกไม่ถึงว่ายอดคนฝีมือบุคลิกภาพสูงส่งระดับเจ้าสำนักยังมีคนเหนือกว่า เหนือฟ้ายังมีอวกาศ เหนือปรมาจารย์ยังมีภรรยาปรมาจารย์ เพียงปรากฏตัวราวภูตพรายวูบเดียว ปรมาจารย์มวยคนสำคัญก็ถูกกระชากลากตัวหายไปกับฝูงชนโดยปราศจากการต่อสู้ขัดขืนแม้แต่น้อย
“แบบนี้ข้าจะกล้าแต่งงานไหมหนอ สหายเอ๋ย” เอกชัยหันมาบอกกับสหายรักด้วยสีหน้าเจื่อนจืดสนิท ประโยคสำคัญซึ่งเป็นการแก้ทางมวยยังบอกไม่จบกระจ่างเสียด้วยซ้ำ ธาราหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้วิตกกังวลอะไรมากนักเพราะอย่างน้อยก็พอรู้ว่าจะทำอะไรต่อไป
ชายหนุ่มนั่งจ้องมองภรรยาตัวเองด้วยสายตาและมุมมองที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
แน่ละ...จะมีผู้ชายในโลกสักกี่คน จะมีโอกาสนั่งมองภรรยาตัวเอง จากมุมหนึ่งไปยังมุมหนึ่งของเวทีมวยแบบนี้
นิจพรอยู่ในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดไม่มีแขนรัดรูป ทำให้ดูแล้วน่ารักอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน เห็นแล้วขัดใจว่าทำไมต้องใส่ชุดเปิดเผยเนื้อนวลขาวขนาดนั้น ภาพนักมวยหญิงผู้มุ่งมั่นดูดีอย่างประหลาด
นี่หรือคู่ชกของเขา ธาราได้แต่ถามตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเตือนตัวเองว่าอย่าไปยึดติดกับภาพลวงตา บนสังเวียนจะต้องไม่มีคำว่าปรานี ...ไม่โหดไม่ใช่ชาย...ทางเลือกทางออกทางเดียวของวันนี้จะต้องชนะเท่านั้น เพราะถ้าแพ้จะต้องสูญเสียมหาศาลทั้งเงินทองชื่อเสียง ตลอดจนศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย ราวอาณาจักรแอตแลนติส ล่มสลายลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกเป็นแน่แท้
นักชกหนุ่มเริ่มเกิดแรงบันดาลใจและเจตนารมณ์แน่วแน่ ลุกขึ้นยืนหลับตาสูดลมหายใจแห่งชัยชนะที่กำลังจะพัดเข้าหาในไม่ช้า
ชนะ...เขาต้องชนะเท่านั้น จะต้องเป็น ธารา ราชากำปั้นทุบสังเวียนเวทีแห่งฝัน วันแห่งศักดิ์ศรีหัวใจไม่ยอมสยบ นั่นคือปณิธานมุ่งมั่น จะต้องตัดคำว่า เมตตาปรานี สงสาร ใจอ่อนออมมือ ปรองดอง ประนีประนอม ออกไปให้หมด
ในหัวใจต้องมีแต่คำว่า จัดหนัก ทรมานทรกรรม ประจัญบาน โหดกว่า แรงกว่า ดุกว่า บ้ากว่า เท่านั้น!
“โอ...ท่านผู้ชมครับ อยู่ดีๆก็ไม่ว่าดี ธาราหมัดซ้ายทลายเมีย ลุกขึ้นจากเก้าอี้ชูมือซ้ายราวกับจะประกาศชัยชนะ น่าทึ่งจริง ๆ ครับ ท่าทางยกที่สามดุเดือดถึงใจแน่ เรามาคอยดูกันว่าเขาจะแก้ลูกเตะขวา ต่อยขวา ของนักชกสาวเจ้าถิ่นได้อย่างไร น่าสนใจมากครับ แม้ว่าจะถูกต่อยปากแตก แต่เขายังไม่มีท่าทีหวั่นไหวเลยครับ สีหน้าท่าทางองอาจหน้าด้าน ราวกับการออกมุมไปต่อยกับภรรยา เป็นเรื่องยิ่งใหญ่เปี่ยมคุณธรรม มีหน้ามีตาทรงเกียรติราวกับประกอบวีรกรรมกอบกู้โลกเพื่อความดำรงอยู่ของมนุษยชาติทีเดียวเชียวครับ”
“เฮ..”
เสียงกองเชียร์ฝ่ายชายทำให้รู้สึกไม่โดดเดี่ยวอ้างว้าง แม้จะรู้สึกขัด ๆ ในคำบรรยายของโฆษก ด่าข้าหรือเปล่าฟะ... ช่างเถอะ...วันนี้มีงานสำคัญ เขาไม่ใช่ต่อสู้เพื่อตัวเอง แต่ยังเป็นตัวแทนของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสามี
เสียงระฆังดังขึ้นแล้ว ชายหนุ่มเดินออกจากมุมด้วยจิตใจห้าวหาญ เห็นคู่ต่อสู้วิ่งตรงเข้ามาราวกับเป็นภาพช้า เปิดช่องว่างในการโจมตีหลายจุด ผู้หญิงก็คือผู้หญิง ยัยนิดเอ้ย...นี่มันชีวิตจริง ขอโทษนะที่รัก... ผมจำเป็นจะต้องชนะคุณเพื่อมนุษยชาติ
จบเท่านี้ละที่รัก คุณมาได้เท่านี้
กำปั้นซ้ายชกตวัดขึ้นแบบหมัดฮุก ต่อยทะลุการ์ดตั้งรับเข้าไปแบบสุดกำลังไม่ยั้งมือ
หมัดเดียวรวบรัดชัดเจนแม่นยำหนักหน่วง ร่างของนิจพรลอยกระเด็นราวปุยนุ่น ปลิวข้ามเชือกกั้นเวที ตกหายไปในฝูงชนที่กำลังกรีดร้องกันระงม
ชนะแล้ว...
รสชาติของชัยขนะหวานมันอะไรเช่นนี้
หอมหวาน อิ่มเอม ชัยชนะอันแสนหวาน
“เอ๊ย!...ไอ้ธา เป็นอะไรไปวะ อยู่ดี ๆ ก็ทะลึ่งลุกขึ้นยืนยิ้มเหมือนคนบ้า”
เสียงของเอกชัยทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกได้สติ ตื่นจากการฝันหวานไปไกลแสนไกล เขายิ้มแห้ง ๆ กับความฝันบรรเจิดของตัวเอง ถ้าเป็นอย่างที่คิดได้ก็ดี แต่นี่ภรรยาคนดียังนั่งอยู่มุมตรงกันข้าม รอเวลา ไม่ได้ถูกชกลอยละลิ่วปลิวลมเลยสักนิด เสียงระฆังยังไม่ได้ดังขึ้น
“ฟ้องข้อหาคุกคามทางเพศ ละเมิดสิทธิมนุษยชนภรรยาขั้นพื้นฐานดีไหมนิด” เจนจิราถามเพื่อนขณะรอเสียงระฆัง สองยกผ่านไป ยังไม่เหนื่อยมากเท่าไร ไม้ตายที่ลุงกำจรฝึกสอนให้ก็ยังใช้ไม่หมด นิจพรยังคงจ้องมองตู่ต่อสู้ด้วยสายตาขุ่นเคือง แต่ยังมีสติคิดหน้าคิดหลังตอบ
“คงมีใครเขายอมรับฟ้องอยู่ล่ะเจน ยังไงเราก็ยังไม่ได้หย่าขาดจากกัน”
“เจนรู้ แต่ทำแบบนั้นใช้ได้ที่ไหน หนอย... มาหอมแก้มคนอื่นดื้อ ๆ ไม่มีเหตุผล มันน่านัก...มีที่ไหนนักมวยหอมแก้มกันกลางเวที คอยดูนะ มีจังหวะเมื่อไรเจนจะเล่นงานให้หมอบเลย”
ฟังเพื่อนระบายแค้นในใจแล้วนักชกสาวก็ได้แต่หัวเราะ อดนึกถึงความหลังเมื่อครั้งวันวานยังหวานอยู่ ธาราจัดเป็นตัวรุ่มร่ามไม่สำรวมคนหนึ่ง มีอย่างที่ไหน หลังจากไปมาหาสู่ คบหาเป็นแฟนกันได้ไม่นาน ธาราถึงกับกล้าเอ่ยปากขอจับมือและหอมแก้มเธอเป็นครั้งแรกในวันคุกเข่าขอแต่งงาน หน้าไม่อายเอาเสียเลยผู้ชายคนนี้ เรื่องทำอะไรห่าม ๆ ไม่มีใครเกิน ขนาดให้เดินท่าเป็ด รอบร้านอาหาร ยังกล้าทำ
บ้าพอ ๆ กัน กับเรานั่นละ..คิดพลางแอบยิ้มในใจ ก่อนบอกกับเพื่อนรักอย่างมั่นใจ
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวยกนี้นิดจัดการเอง”
“แน่ใจนะ อย่าใจอ่อนล่ะ”
“ไม่มีหรอก เจนก็รู้ นี่ว่า ยังไงนิดก็แพ้ไม่ได้”
ใช่แล้ว... เธอจะแพ้ไม่ได้ เพราะถ้าแพ้ก็หมายถึงการสูญเสียทุกอย่าง เงินเดิมพันก็ลงไปก็เป็นเงินแทบทั้งหมดที่สะสมเอาไว้ทั้งชีวิต ถึงจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครคนอื่นความจริงก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เหมือนกับว่าชีวิตมาถึงจุดล้าเต็มทีแล้ว จนอยากจะวางมือวางหัวใจลงบนความว่างเปล่าพักกายพักใจสักระยะ แต่อดนึกถึงการกระทำจาบจ้วงของธาราเมื่อครู่นี้ไม่ได้ ขนาดจะเลิกรากันแท้ๆ ยังไม่หายบ้า และหมัดเด็ดที่ต่อยออกไปก็เป็นแบบสุดแรงจริง ๆ เพราะความตกใจ เห็นคนโดนชกนั่งเลือดไหลก็อดสงสารไม่ได้
เพราะจะว่าไปห้าปีที่แต่งงานกันมา อย่างไรเขาก็คอยดูแลใส่ใจเธออย่างดีอยู่เสมอ ไม่เคยมีเล็กมีน้อย แต่พอเห็นเขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ชูมืออย่างจะประกาศชัยชนะ ความสงสารภายในใจพลันวิ่งเตลิดหนีหาย ความแค้นวิ่งมาเสนอหน้าแทนที่
“พี่ ๆ พี่ตานีไม่ถือป้ายบอกยกหรือคะ”
เสียงใส ๆ ดังแทรกมาจากด้านหลังแข่งเสียงฝูงชน สองสาวเพื่อนรักหันไปมองพร้อมกัน เห็นสาวหน้าหวานคนหนึ่งกำลังส่งเก้าอี้พับเหล็กขึ้นเวทีมาให้ จำได้ถนัดชัดตาว่าเป็นสาวเจี้ยบนั่นเอง ข้างๆยังมี น้องอุ๊ น้องเมย์ และน้องกบจากร้านอาหารสโมสร มากันแบบยกทีม ทำให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจทันที เพราะเห็นอยู่ว่าแรก ๆ เชียร์อยู่มุมของธารา
“ไม่ต้องสงสัยอะไรเลยค่ะ” เจี้ยบรีบบอกเมื่อเห็นแววตาหวาดระแวงของสองสาวบนเวที
“พวกหนูมาทำตามหน้าที่เรียบร้อยไปแล้ว ตอนนี้เป็นเวลาส่วนตัวพวกหนูเลือกมาเชียร์พี่นิดค่ะ ว่าแต่รีบไปยกป้ายบอกยกก่อนถอะค่ะ แฟนมวยร้องขอกันใหญ่แล้ว”
เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน เจนจิรารีบคว้าเก้าอี้เหล็กติดมือ ลุกขึ้นเดินกรีดกรายชูเก้าอี้ต่างป้ายบอกยกทันที เธอเป็นคนมีพรสวรรค์มาก ทำอะไรก็น่ารักน่ามองน่าชมไปหมด คนดูส่งเสียงฮือฮาอย่างชอบใจกับลีลาริงเกิร์ลเฉพาะกิจ ผู้มีลีลาไม่แพ้ริงเกิร์ลมืออาชีพเลยสักนิด และที่ไม่มีริงเกิร์ลคนไหนทำได้ คือเมื่อเดินเฉียดผ่านมุมนักชกฝ่ายชายอย่างจงใจ เจนจิราเงื้อเก้าอี้ในมือสุดล้า ทำท่าจะตีใส่ทั้งเอกชัยและธารา ทำเอาทั้งสองตกใจพากันกระโดดลงมาจากมุมแทบไม่ทัน ท่ามกลางเสียงเฮลั่น เป็นที่พออกพอใจของทุกฝ่าย
จากนั้นเธอก็เดินเยื้องกายกลับมามุมสาวสวยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นบรรดา สาวสโมสรพากันกระโดดโลดเต้นเชียร์อยู่ข้างล่างอย่างไม่เกรงใจใคร เพราะความเป็นลูกผู้หญิงด้วยกัน
แก้ง...!
ระฆังเริ่มยกดังขึ้น เอกชัยผลักหลังเพื่อนรักให้ขึ้นไปบนเวทีอย่างรีบร้อน
“ยกให้ดีนะเพื่อน ข้าวางเงินเดิมพันข้างแกห้าหมื่นเชียวนา แพ้ไม่ได้ เข้าใจ๋..”
แล้วแกมาเกี่ยวอะไรด้วย...ธาราอยากจะถามสวนออกไปแต่ไม่มีเวลา เพราะเห็นภรรยาคู่รักคู่แค้นออกจากมุมมายืนรอกลางเวทีแล้ว ท่ามกลางเสียงร้องเชียร์กึกก้อง การถูกมัดแขนขวาข้างถนัดทำให้อะไรอึดอัดขัดข้องไปหมด
เดินหน้า...ยกนี้จะต้องเดินหน้าเท่านั้น! เดินหน้าฆ่าลูกเดียว ชายหนุ่มเดินไปเผชิญหน้ากับภรรยาอย่างอาจหาญกลางเวที จ้องตากันราวคู่อาฆาต แต่พอมองไปมุมตรงกันข้ามเห็นเจนจิรายืนถือเก้าอี้พับ ทำเอาชะงักอย่างไม่ไว้วางใจ รู้นิสัยว่าสาวคนนี้บ้าดีเดือดพอสมควร
“คุณลุงกำจรครับ พี่เลี้ยงของนิดท่าทางจะหาโอกาสเอาเก้าอี้ตีผมแน่เลย” ชายหนุ่มหันไปฟ้องกรรมการเสียงลั่น แต่คนตอบแทนกรรมการแบบไม่เสียเวลาคิด เป็นนักยกสาวสวยคนสำคัญนั่นเอง
“แล้วเจนตีหรือยัง แหม...ยังกับเด็กขี้ฟ้อง ทีคุณล่ะทำอะไรน่าเกลียดกับฉัน ไม่เห็นต้องร้องแรกแหกกระเชอฟ้องใครเลย”
“ทำน่าเกลียดอะไร คนรักกันจูบแก้มกันกันผิดตรงไหน” ธาราต่อปากต่อคำทำหน้าล้อเลียน
“ผิดตรงมาทำอะไรบ้า ๆ บนเวทีนี่ละคนบ้า” พูดจบนิจพรก็ยกมือผลักอกอีกฝ่ายเต็มแรง ธาราไม่ทันระวังตัวเสียหลักเซถลาไปด้านหลังอย่างหมดรูปมวย กรรมการกำจรรีบปราดมาขวางไว้เสียก่อน
“เดี๋ยวสิ พวกเธอ กรรมการยังไม่ทันสั่งชกเลยนะ ห้ามลงมือลงไม้กันก่อน ว้า แย่จัง”
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรเลย นิดผลักผมก่อนนะครับ” ธาราพยายามเรียกร้องความชอบธรรม
“ก็มาว่าเพื่อนฉันได้ยังไง”
“เอาละพอ ๆ ทั้งคู่ เอ้า ชก!” ลุงกรรมจรรีบตัดบทสับมือบอกสัญญาณเริ่มต้นการชกทันที ก่อนจะปวดหัวไปมากกว่านี้
พอสิ้นสัญญาณบอกชก ธาราเป็นฝ่ายลงมือก่อนหลังจากพลาดท่าหลงทางมาพอสมควร ถึงจะใช้แขนข้างเดียวและจำกัดเป้าหมาย แต่อาศัยว่าแขนยาวกว่า ไม่ต้องออกแรงต่อย
เพียงหันข้างซ้ายให้ ยื่นมือเหยียดตรงออกไปยังบริเวณลำตัวของคู่ต่อสู้ ก็ทำให้ฝ่ายตรงกันข้ามปั่นป่วนได้แล้ว
(มีต่อ)