💡5 สิ่งที่คุณต้องรู้ ถ้าย้ายจากธุรกิจ Offline มาเป็น Online💵
🌟🌟ในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์เงินเดือน นักศึกษาจบใหม่ ไปจนถึงนักธุรกิจใหญ่ ต่างต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เพราะในบางครั้งการทำอะไรเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถรวยได้ โดยเฉพาะร้านค้าแบบ Offline ซึ่งผันตัวมาทำ Online กันมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ไปได้ไม่รอด นั้นเป็นเพราะอะไร ขาดคุณสมบัติไหนไปหรือเปล่า⁉️
👉ปัจจุบันนี้ การขายของออฟไลน์นั้น เริ่มขายยากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุค 5G ที่สามารถซื้อ ขายบนโลกออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะผันตัวมาขายของบนโลกออนไลน์ คุณอาจต้องรู้ 5 สิ่งนี้ก่อนว่า พฤติกรรมลูกค้าออนไลน์นั้นเป็นแบบไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร เพราะถ้าหากคุณสามารถรับได้กับ 5 สิ่งที่ผมพูดเหล่านี้ได้ การขายของบนโลกออนไลน์ ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป…👍👍
✅สิ่งแรก ลูกค้าไม่เห็นคุณตัวเป็น ๆ : ให้คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณไปซื้อของแบบออฟไลน์ ถ้าเห็นแต่ของ แล้วไม่เห็นคนขายเลย จะเป็นอย่างไร❓❓ ซึ่งปกติแล้วถ้าคุณเดินเข้าร้านไปไม่เจอใครแต่อย่างน้อยก็ต้องมีคนสักหนึ่งคนที่อยู่ตรงแคชเชียร์ก็อาจจะอุ่นใจมากขึ้น เพราะจะได้สอบถามและดูสินค้าได้อย่างสบายใจ ทว่า แตกต่างจากการขายของออนไลน์ที่ลูกค้ามีความลังเลและไม่มีความมั่นใจในร้านค้าออนไลน์ ที่สำคัญลูกค้าส่วนใหญ่อาจจะกลัวในเรื่องการโดนโกงอีกด้วย
💡💡วิธีแก้ไข : นำเสนอสินค้าหรือทำการรีวิวโดยตัวคุณเองบ้าง ให้ดูมีความหลากหลายหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นคุณได้ในร้านค้าออนไลน์นั้น ๆ เพื่อที่ลูกค้าจะได้มีความมั่นใจว่าถ้าหากร้านค้าคุณโกงจริง ๆ เขาจะได้มีหลักฐานในการยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีได้
สิ่งที่ 2 ลูกค้าไม่เห็นสินค้าจริง : ทีนี้เมื่อลูกค้าเริ่มมั่นใจในการมีตัวตนของคุณแล้ว ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของสินค้าที่ลูกค้ามักจะตั้งคำถามว่า “สินค้าจะไม่ตรงปกไหม” นั่นเอง
💡💡วิธีแก้ไข : อาจจะต้องทำเหมือนดั่งข้อแรก นั่นก็คือ การทำรีวิวสินค้าให้มีความสวยงามและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ยิ่งถ้าใครมีธุรกิจในรูปแบบบริการคุณก็ต้องทำวิดีโอในระยะที่แพลตฟอร์มกำหนดไว้ให้ลูกค้าได้เห็นว่าคุณมีการบริการที่ดีมากแค่ไหน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ นำรีวิวของลูกค้าที่ซื้อหรือใช้บริการของคุณแล้วนำมาลงไว้เพื่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นตัวตัดสินใจให้ลูกค้ามาใช้บริการกับคุณ
✅สิ่งที่ 3 ลูกค้าเช็คราคาง่ายกว่าเดิม : ถ้าเป็นในยุคสมัยก่อนคุณยังมีแค่ร้านค้าออฟไลน์ หากลูกค้าอยากรู้ราคาร้านอื่น ๆ ที่มีธุรกิจคล้ายกับคุณ เขาก็ต้องเดินทางหรือไปสืบเองว่าแต่ละที่มีราคาเท่าไหร่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่สำหรับร้านค้าออนไลน์นั้น การเช็คราคาสินค้าจากร้านคู่แข่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่ายเพียงแค่พวกเขาไปค้นหาใน Google ก็สามารถเทียบราคาได้แล้ว หรือถ้าเป็นสินค้าตรง ๆ เลย คนส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วิธีเปรียบเทียบหลาย ๆ แพลตฟอร์มโดยเฉพาะร้านขายของออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee นั่นเอง
💡💡วิธีแก้ไข : การนำเสนอสินค้าและบริการที่แตกต่าง อาทิเช่น การทำแพ็กเกจที่แตกต่าง หรือถ้าหากคุณมีการขายสินค้าแบบแฟชั่นก็อาจจะมีนางแบบช่วยรีวิวหรือใส่สินค้าในร้านค้าของคุณ เพื่อเป็นการอัพเกรดสินค้าของคุณไปในตัว
✅สิ่งที่ 4 ลูกค้าหายง่ายกว่าเดิม : ให้คุณสังเกตเวลาที่คุณเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า คุณจะเห็นว่าพนักงานตามร้านค้าต่าง ๆ จะสามารถพูดโน้มน้าวให้ลูกค้าที่เดินเข้าร้านซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายกว่า การซื้อสินค้าแบบออนไลน์ เพราคุณจะไม่รู้เลยว่าลูกค้าเข้ามาส่องดูร้านค้าออนไลน์คุณมากน้อยแค่ไหนถ้าเขาไม่มาทักหรือสอบถามคุณทางแชท หรือว่าอาจจะทักคุณแล้วลูกค้าก็สามารถหายไปได้เช่นเดียวกัน
💡💡วิธีแก้ไข : ทักกลับหลาย ๆ ครั้ง หรือส่งโปรโมชั่นไปเรื่อย ๆ ให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของเร้านค้าคุณ แต่ถ้าลูกค้าแค่เข้ามาดูแล้วเราไม่สามารถติดต่อได้คุณก็ต้องปล่อยไป เพราะการขายของออนไลน์ลูกค้าสามารถเข้ามาดูได้ง่ายทั่วประเทศ ก็ถือว่า ทดแทนกันไปกับส่วนที่หาย นั่นเอง
✅สิ่งที่ 5 ลูกค้าเกรงใจน้อยกว่าเดิม : โอกาสที่ลูกค้าจะตำหนิ หรือ ต่อว่า ก็จะง่ายขึ้น เมื่อสินค้าคุณมีปัญหาระหว่างการขนส่ง ลูกค้าก็อาจจะรีวิวให้คุณไม่ดีได้ง่ายขึ้นตามอารมณ์ของลูกค้า นั้นเป็นเพราะว่าผู้ขายและผู้ซื้อไม่ได้พบปะกันอยู่แล้ว
💡💡วิธีแก้ไข : ให้คุณอดทน เพราะไม่มีร้านค้าหรือบริการใดที่จะถูกคนชื่นชมเสมอไป มันก็ต้องมีเรื่องที่ผิดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตรงข้ามกลับร้านค้าที่มีแต่คนชมหรือรีวิวไปในทางที่ดีทุกอัน สิ่งนี้แหละครับที่ผมคิดว่า “เป็นเรื่องที่น่าแปลก” เพราะสำหรับผมผมคิดว่าถึงแม้ร้านค้าจะมีการบริการหรือสินค้าออกมาดีแค่ไหนถ้ามันไม่ตรงกับความต้องการของคนซื้อ มันก็เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับตัวลูกค้าได้
💡💡ดังนั้น ผู้ประกอบการหรือพนักงานประจำที่สนใจอยากจะขยายธุรกิจจาก Offline มาเป็น Online สิ่งที่คุณต้องรู้ไว้ก่อนเลย นั่นก็คือ พฤติกรรมของลูกค้าออนไลน์ ทั้ง 5 ข้อนี้ก่อน ซึ่งถ้าคุณสามารถปรับจุดสำคัญทั้งหมดนี้ได้ คุณก็จะสามารถอยู่และปรับตัวในธุรกิจขายของออนไลน์ได้เร็วและนาน เหมือนสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ประกอบการอีกด้วย
👉ถึงแม้ว่าในบางหัวข้อคนส่วนใหญ่อาจจะรู้มาบ้างแล้ว แต่ในการแก้ไขปัญหาบางทีคุณอาจจะต้องเจอหรือมีประสบการณ์ในการพูดคุยกับลูกค้าบ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าปัญหาที่เขาเจอ หรือสินค้าที่ลูกค้าอยากได้ เราสามารถปรับปรุงหรือพัฒนาได้มากน้อยแค่ไหนแต่อย่างน้อยทุกคำติชมเราควรคิดว่ามันสามารถต่อยอดธุรกิจคุณให้ดีได้ หรือคุณคิดว่าอย่างไร สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ 😊😊
=========
วรัทภพ รชตนามวงษ์
💡5 สิ่งที่คุณต้องรู้ ถ้าย้ายจากธุรกิจ Offline มาเป็น Online💵
🌟🌟ในยุคนี้ไม่ว่าจะเป็น มนุษย์เงินเดือน นักศึกษาจบใหม่ ไปจนถึงนักธุรกิจใหญ่ ต่างต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เพราะในบางครั้งการทำอะไรเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถรวยได้ โดยเฉพาะร้านค้าแบบ Offline ซึ่งผันตัวมาทำ Online กันมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ไปได้ไม่รอด นั้นเป็นเพราะอะไร ขาดคุณสมบัติไหนไปหรือเปล่า⁉️
👉ปัจจุบันนี้ การขายของออฟไลน์นั้น เริ่มขายยากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุค 5G ที่สามารถซื้อ ขายบนโลกออนไลน์ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะผันตัวมาขายของบนโลกออนไลน์ คุณอาจต้องรู้ 5 สิ่งนี้ก่อนว่า พฤติกรรมลูกค้าออนไลน์นั้นเป็นแบบไหน แล้วจะแก้ไขอย่างไร เพราะถ้าหากคุณสามารถรับได้กับ 5 สิ่งที่ผมพูดเหล่านี้ได้ การขายของบนโลกออนไลน์ ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณอีกต่อไป…👍👍
✅สิ่งแรก ลูกค้าไม่เห็นคุณตัวเป็น ๆ : ให้คุณลองคิดดูว่าถ้าคุณไปซื้อของแบบออฟไลน์ ถ้าเห็นแต่ของ แล้วไม่เห็นคนขายเลย จะเป็นอย่างไร❓❓ ซึ่งปกติแล้วถ้าคุณเดินเข้าร้านไปไม่เจอใครแต่อย่างน้อยก็ต้องมีคนสักหนึ่งคนที่อยู่ตรงแคชเชียร์ก็อาจจะอุ่นใจมากขึ้น เพราะจะได้สอบถามและดูสินค้าได้อย่างสบายใจ ทว่า แตกต่างจากการขายของออนไลน์ที่ลูกค้ามีความลังเลและไม่มีความมั่นใจในร้านค้าออนไลน์ ที่สำคัญลูกค้าส่วนใหญ่อาจจะกลัวในเรื่องการโดนโกงอีกด้วย
💡💡วิธีแก้ไข : นำเสนอสินค้าหรือทำการรีวิวโดยตัวคุณเองบ้าง ให้ดูมีความหลากหลายหรืออะไรก็ตามที่ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นคุณได้ในร้านค้าออนไลน์นั้น ๆ เพื่อที่ลูกค้าจะได้มีความมั่นใจว่าถ้าหากร้านค้าคุณโกงจริง ๆ เขาจะได้มีหลักฐานในการยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีได้
สิ่งที่ 2 ลูกค้าไม่เห็นสินค้าจริง : ทีนี้เมื่อลูกค้าเริ่มมั่นใจในการมีตัวตนของคุณแล้ว ต่อไปก็จะเป็นเรื่องของสินค้าที่ลูกค้ามักจะตั้งคำถามว่า “สินค้าจะไม่ตรงปกไหม” นั่นเอง
💡💡วิธีแก้ไข : อาจจะต้องทำเหมือนดั่งข้อแรก นั่นก็คือ การทำรีวิวสินค้าให้มีความสวยงามและดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ยิ่งถ้าใครมีธุรกิจในรูปแบบบริการคุณก็ต้องทำวิดีโอในระยะที่แพลตฟอร์มกำหนดไว้ให้ลูกค้าได้เห็นว่าคุณมีการบริการที่ดีมากแค่ไหน และสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ นำรีวิวของลูกค้าที่ซื้อหรือใช้บริการของคุณแล้วนำมาลงไว้เพื่อความน่าเชื่อถือ ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นตัวตัดสินใจให้ลูกค้ามาใช้บริการกับคุณ
✅สิ่งที่ 3 ลูกค้าเช็คราคาง่ายกว่าเดิม : ถ้าเป็นในยุคสมัยก่อนคุณยังมีแค่ร้านค้าออฟไลน์ หากลูกค้าอยากรู้ราคาร้านอื่น ๆ ที่มีธุรกิจคล้ายกับคุณ เขาก็ต้องเดินทางหรือไปสืบเองว่าแต่ละที่มีราคาเท่าไหร่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก แต่สำหรับร้านค้าออนไลน์นั้น การเช็คราคาสินค้าจากร้านคู่แข่งดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่ายเพียงแค่พวกเขาไปค้นหาใน Google ก็สามารถเทียบราคาได้แล้ว หรือถ้าเป็นสินค้าตรง ๆ เลย คนส่วนใหญ่ก็มักจะใช้วิธีเปรียบเทียบหลาย ๆ แพลตฟอร์มโดยเฉพาะร้านขายของออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee นั่นเอง
💡💡วิธีแก้ไข : การนำเสนอสินค้าและบริการที่แตกต่าง อาทิเช่น การทำแพ็กเกจที่แตกต่าง หรือถ้าหากคุณมีการขายสินค้าแบบแฟชั่นก็อาจจะมีนางแบบช่วยรีวิวหรือใส่สินค้าในร้านค้าของคุณ เพื่อเป็นการอัพเกรดสินค้าของคุณไปในตัว
✅สิ่งที่ 4 ลูกค้าหายง่ายกว่าเดิม : ให้คุณสังเกตเวลาที่คุณเดินเล่นตามห้างสรรพสินค้า คุณจะเห็นว่าพนักงานตามร้านค้าต่าง ๆ จะสามารถพูดโน้มน้าวให้ลูกค้าที่เดินเข้าร้านซื้อสินค้าและบริการได้ง่ายกว่า การซื้อสินค้าแบบออนไลน์ เพราคุณจะไม่รู้เลยว่าลูกค้าเข้ามาส่องดูร้านค้าออนไลน์คุณมากน้อยแค่ไหนถ้าเขาไม่มาทักหรือสอบถามคุณทางแชท หรือว่าอาจจะทักคุณแล้วลูกค้าก็สามารถหายไปได้เช่นเดียวกัน
💡💡วิธีแก้ไข : ทักกลับหลาย ๆ ครั้ง หรือส่งโปรโมชั่นไปเรื่อย ๆ ให้ลูกค้าได้รับรู้ถึงการมีตัวตนของเร้านค้าคุณ แต่ถ้าลูกค้าแค่เข้ามาดูแล้วเราไม่สามารถติดต่อได้คุณก็ต้องปล่อยไป เพราะการขายของออนไลน์ลูกค้าสามารถเข้ามาดูได้ง่ายทั่วประเทศ ก็ถือว่า ทดแทนกันไปกับส่วนที่หาย นั่นเอง
✅สิ่งที่ 5 ลูกค้าเกรงใจน้อยกว่าเดิม : โอกาสที่ลูกค้าจะตำหนิ หรือ ต่อว่า ก็จะง่ายขึ้น เมื่อสินค้าคุณมีปัญหาระหว่างการขนส่ง ลูกค้าก็อาจจะรีวิวให้คุณไม่ดีได้ง่ายขึ้นตามอารมณ์ของลูกค้า นั้นเป็นเพราะว่าผู้ขายและผู้ซื้อไม่ได้พบปะกันอยู่แล้ว
💡💡วิธีแก้ไข : ให้คุณอดทน เพราะไม่มีร้านค้าหรือบริการใดที่จะถูกคนชื่นชมเสมอไป มันก็ต้องมีเรื่องที่ผิดพลาดกันได้เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งตรงข้ามกลับร้านค้าที่มีแต่คนชมหรือรีวิวไปในทางที่ดีทุกอัน สิ่งนี้แหละครับที่ผมคิดว่า “เป็นเรื่องที่น่าแปลก” เพราะสำหรับผมผมคิดว่าถึงแม้ร้านค้าจะมีการบริการหรือสินค้าออกมาดีแค่ไหนถ้ามันไม่ตรงกับความต้องการของคนซื้อ มันก็เป็นเรื่องไม่ดีสำหรับตัวลูกค้าได้
💡💡ดังนั้น ผู้ประกอบการหรือพนักงานประจำที่สนใจอยากจะขยายธุรกิจจาก Offline มาเป็น Online สิ่งที่คุณต้องรู้ไว้ก่อนเลย นั่นก็คือ พฤติกรรมของลูกค้าออนไลน์ ทั้ง 5 ข้อนี้ก่อน ซึ่งถ้าคุณสามารถปรับจุดสำคัญทั้งหมดนี้ได้ คุณก็จะสามารถอยู่และปรับตัวในธุรกิจขายของออนไลน์ได้เร็วและนาน เหมือนสร้างภูมิคุ้มกันให้ผู้ประกอบการอีกด้วย
👉ถึงแม้ว่าในบางหัวข้อคนส่วนใหญ่อาจจะรู้มาบ้างแล้ว แต่ในการแก้ไขปัญหาบางทีคุณอาจจะต้องเจอหรือมีประสบการณ์ในการพูดคุยกับลูกค้าบ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าปัญหาที่เขาเจอ หรือสินค้าที่ลูกค้าอยากได้ เราสามารถปรับปรุงหรือพัฒนาได้มากน้อยแค่ไหนแต่อย่างน้อยทุกคำติชมเราควรคิดว่ามันสามารถต่อยอดธุรกิจคุณให้ดีได้ หรือคุณคิดว่าอย่างไร สามารถคอมเมนต์มาได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ 😊😊
=========
วรัทภพ รชตนามวงษ์