ผมได้พูดถึงความหมายของคำว่าพระสงฆ์มาหลายกระทู้แล้ว เหตุผลก็เพราะคำนี้เป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์) และถูกนำมาใช้กันอย่างผิดๆ เพราะส่วนใหญ่เข้าใจกันว่า พระสงฆ์ กับ พระภิกษุ มีความหมายเหมือนกัน เรียกแทนกันได้ (ใครที่บวชเป็นพระปุ๊บก็ถือว่าเป็นพระสงฆ์ในพระรัตนตรัยโดยอัตโนมัติทันที)
ที่เลวร้ายที่สุดคือพวกอลัชชี (พระภิกษุที่ละเมิดพระวินัยโดยไม่มีความละอาย เรียกว่า อลัชชี) เอาคำว่าพระสงฆ์มาใช้เรียกตนเอง โดยหวังให้คนเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย รวมถึงอาจจะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของสื่อสารมวลชนบางแห่งด้วย ผมจึงจำเป็นต้องออกมาปกป้องด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
กระทู้นี้ผมจะไม่อธิบายอะไรมาก แต่จะใช้ภาพต่อไปนี้เป็นการอธิบายแทน
อาบัติปาราชิกข้อหนึ่งคือ การอวดอุตริมนุสธรรม หมายถึงการอวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน และคุณวิเศษที่ว่านั้นก็คือ การอวดอ้างว่าตนเองบรรลุธรรม (เป็นพระอริยะแล้ว)
ซึ่งหากภิกษุรูปนั้นบรรลุธรรมแล้วจริง เป็นพระอริยะจริงๆ (เป็นพระสงฆ์จริงๆ) การประกาศว่าตนเองเป็นพระสงฆ์ หรือตนเองบรรลุธรรม ไม่ถือว่าอาบัติปาราชิก (เพราะเป็นคุณวิเศษที่มีในตนจริง)
แต่ถึงจะบรรลุธรรมจริงพระพุทธเจ้าก็ยังทรงห้ามไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกอลัชชีเอามาแอบอ้างบ้าง โดยจะปรับเป็นอาบัติทุกกฏ
ส่วนพระภิกษุที่ยังไม่บรรลุธรรม แต่อวดอ้างว่าตนเองว่าตนเองคือพระสงฆ์ จะใช้ตัวย่อหรืออะไรก็ตาม เพราะอยากเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย หากไม่ใช่เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นความไม่รู้จริงๆ เป็นความจงใจหรือตั้งใจให้คนเข้าใจอย่างนั้น สำหรับผมถือว่าอาบัติปาราชิก (แต่ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ยังเป็นเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจมากกว่า ผมจึงต้องออกมาให้ความรู้แบบนี้)
มีประเด็นที่น่าสนใจ นั่นคือคำว่า "พระสงฆ์" ที่มีสมาชิกบางท่านให้ข้อสังเกตว่าคำนี้ไม่ถูกต้อง เพราะคำว่าสงฆ์ ถ้าใช้โดดๆ คำเดียวหมายถึงหมู่หรือชุมชน เมื่อนำมารวมกับคำว่าพระ กลายเป็นคำว่าพระสงฆ์ ก็ควรจะหมายถึงหมู่ของพระไม่ใช่หรือ?
ที่จริงแล้ว คำว่าสงฆ์ แยกออกมาเป็น 2 อย่าง นั่นคือ "สาวกสงฆ์" กับ "ภิกษุสงฆ์" ในบทสวดสังฆคุณใช้คำว่า "สาวกสงฆ์" ดังนั้น หากจะเอาตามความหมายของบาลีเดิมเลย พระรัตนตรัยก็ควรประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม สาวกสงฆ์
แต่ในเมื่อเราใช้คำว่าพระสงฆ์แทนที่คำว่าสาวกสงฆ์ ก็ควรถือว่า 2 คำนี้มีความหมายเดียวกัน
ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยภาพนี้ เป็นการอธิบายคำว่า สาวกสงฆ์ กับ ภิกษุสงฆ์
พระที่อวดอ้างเรียกตนเองว่าเป็นพระสงฆ์ โดยเฉพาะพวกอลัชชี ควรถือว่าปาราชิกหรือไม่?
ที่เลวร้ายที่สุดคือพวกอลัชชี (พระภิกษุที่ละเมิดพระวินัยโดยไม่มีความละอาย เรียกว่า อลัชชี) เอาคำว่าพระสงฆ์มาใช้เรียกตนเอง โดยหวังให้คนเข้าใจผิดว่าตนเองเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย รวมถึงอาจจะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของสื่อสารมวลชนบางแห่งด้วย ผมจึงจำเป็นต้องออกมาปกป้องด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
กระทู้นี้ผมจะไม่อธิบายอะไรมาก แต่จะใช้ภาพต่อไปนี้เป็นการอธิบายแทน
อาบัติปาราชิกข้อหนึ่งคือ การอวดอุตริมนุสธรรม หมายถึงการอวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน และคุณวิเศษที่ว่านั้นก็คือ การอวดอ้างว่าตนเองบรรลุธรรม (เป็นพระอริยะแล้ว)
ซึ่งหากภิกษุรูปนั้นบรรลุธรรมแล้วจริง เป็นพระอริยะจริงๆ (เป็นพระสงฆ์จริงๆ) การประกาศว่าตนเองเป็นพระสงฆ์ หรือตนเองบรรลุธรรม ไม่ถือว่าอาบัติปาราชิก (เพราะเป็นคุณวิเศษที่มีในตนจริง)
แต่ถึงจะบรรลุธรรมจริงพระพุทธเจ้าก็ยังทรงห้ามไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกอลัชชีเอามาแอบอ้างบ้าง โดยจะปรับเป็นอาบัติทุกกฏ
ส่วนพระภิกษุที่ยังไม่บรรลุธรรม แต่อวดอ้างว่าตนเองว่าตนเองคือพระสงฆ์ จะใช้ตัวย่อหรืออะไรก็ตาม เพราะอยากเป็นหนึ่งในพระรัตนตรัย หากไม่ใช่เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นความไม่รู้จริงๆ เป็นความจงใจหรือตั้งใจให้คนเข้าใจอย่างนั้น สำหรับผมถือว่าอาบัติปาราชิก (แต่ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่ยังเป็นเพราะความไม่รู้ไม่เข้าใจมากกว่า ผมจึงต้องออกมาให้ความรู้แบบนี้)
มีประเด็นที่น่าสนใจ นั่นคือคำว่า "พระสงฆ์" ที่มีสมาชิกบางท่านให้ข้อสังเกตว่าคำนี้ไม่ถูกต้อง เพราะคำว่าสงฆ์ ถ้าใช้โดดๆ คำเดียวหมายถึงหมู่หรือชุมชน เมื่อนำมารวมกับคำว่าพระ กลายเป็นคำว่าพระสงฆ์ ก็ควรจะหมายถึงหมู่ของพระไม่ใช่หรือ?
ที่จริงแล้ว คำว่าสงฆ์ แยกออกมาเป็น 2 อย่าง นั่นคือ "สาวกสงฆ์" กับ "ภิกษุสงฆ์" ในบทสวดสังฆคุณใช้คำว่า "สาวกสงฆ์" ดังนั้น หากจะเอาตามความหมายของบาลีเดิมเลย พระรัตนตรัยก็ควรประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม สาวกสงฆ์
แต่ในเมื่อเราใช้คำว่าพระสงฆ์แทนที่คำว่าสาวกสงฆ์ ก็ควรถือว่า 2 คำนี้มีความหมายเดียวกัน
ขอทิ้งท้ายไว้ด้วยภาพนี้ เป็นการอธิบายคำว่า สาวกสงฆ์ กับ ภิกษุสงฆ์