คิดยังไงกับการเปลี่ยนนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุจาก ถ้วนหน้า เป็น ให้เฉพาะผู้สูงอายุที่ยากจนครับ

ข้อมูลสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติคาดการณ์ว่า ปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ เป็นประเทศที่ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จะมีกว่า 13 ล้านคน หรือร้อยละ 20
 
13 ล้านX ุ เฉลี่ย 650 บาท/เดือน/ X12 เดือน   = ปีละแสนล้าน

เดือนละ 600-800 บาท สำหรับผู้สูงอายุที่มีเงินถุงเงินถัง หรือวางแผนการเงินมาแต่แรก ก็แค่เศษเงิน ถ้าตัดงบตรงนี้ไปเหลือแต่ผู้สูงอายุที่ยากจนจริงๆ ก็สามารถนำงบที่เหลือไปทำอย่างอื่นได้ และไม่เป็นภาระงบประมาณมากไป ไม่เห็นต้องโวยวาย
 
จะบอกว่าสิทธิของฉัน ฉํนมีสิทธิต้องได้ถ้วนหน้าทุกคนก็นะ เอ่อ ทุกๆนโยบายไม่จำเป็นต้องได้สิทธิทุกคนนะ บางทีก็มีเสี่ยงโชค จับฉลาก แข่งขันมือเร็ว แข่งเน็ตเร็ว ลงทะเบียน ฯลฯ คนไทยน่าจะผ่านมาหมดทุกรูปแบบแล้ว จนน่าจะเข้าใจอัตโนมัติได้แล้วว่า  ทุกนโยบายไม่จำเป็นต้องได้ทุกคน
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ส่วนตัวคิดว่าควรให้ทุกคนเพราะเป็นสวัสดิการรัฐ อย่างน้อยก็เป็นกำลังใจให้คนเสียภาษีมาทั้งชีวิต
ความคิดเห็นที่ 13
-ดิฉันยังรับเบี้ยผู้สูงอายุอยู่ทุกเดือน และก็คิดว่านี่คือ ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เดิมเท่าที่รับทราบมา ก่อนจะได้เบี้ยผู้สูงอายุ ทางเขตต้องไปสัมภาษณ์ ถึง
บ้าน ดูสภาพความเป็นอยู่ ใครเป็นผู้อุปการะ ...และก็เคยคิดว่า มาถึงบ้านเรา
ดูแล้ว คงไมได้รับสิทธินี้  
-วันไปลงทะบียน รับสิทธิ เจอป้าแก่ๆ คุยกัน มาลงทะเบียน 2 ปีแล้ว ยังไม่
ถึงคิว เขตบอกงบประมาณหมด แต่ก็เห็นคนข้างๆบ้าน เป็นญาติกับจนท.
สบายกว่าาเรา ก็ได้รับสิทธินี้ไปแล้ว
-ก็เลยคิดว่า  ให้กันถ้วนหน้าน่ะดีแล้ว เงินจำนวนนี้ ไม่เคยนำไปใช้จ่าย เก็บ
ไว้บริจาค ทำบุญอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเราก็พอมีพอกินอยู่แล้ว
-ไม่ไปใช้สิทธิ  ก็อาจจะมีคนมาสวมสิทธิได้สาวแว่น
ความคิดเห็นที่ 17
ตอบในมุมคนที่เสียภาษี
ควรได้เท่ากันหมดฮะ ไม่ต้องไปสนใจว่าจะรวยหรือจน

อยากจะบอกว่านโยบายหลายเรื่องที่ผานมาทางภาครัฐ ไม่ว่าจะยุคไหนก็ตาม
ก็เน้นช่วยไปทางคนด้านล่างอยู่แล้วล่ะฮะ  

ถึงเวลาคนกลุ่มที่มีรายได้สูง เค้าก็จะเลือกเอาเองแหละว่าจะรับหรือไม่รับ
แต่ไม่ควรไปจำกัด เพราะนั่นก็คือเงินภาษีที่เค้าจ่ายไปเหมือนกันนะฮะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่