หนุ่มตาน้ำข้าวกับผู้บ่าวจอมกวน ตอนที่ 2 อย่าท้า !

หนุ่มตาน้ำข้าวกับผู้บ่าวจอมกวน   (ตำนานชายรักชายบทใหม่แห่งหมู่บ้านโคกอีหวึ่ง)

                       เรต MA15+  ภาษาและพฤติกรรมบางอย่างของตัวละครในเรื่อง

“ที่ผมชอบแกล้ง ชอบกวนประสาท แค่อยากเรียกร้องความสนใจ อยากรู้จัก อยากคุยด้วย ผมผิดมากใช่ไหม?”

ตอนแรก   https://ppantip.com/topic/40967874


กำนันแจ๊ดขับรถกระบะกลับบ้านที่อยู่อีกจังหวัดหนึ่ง โดยมีหญิงแว่นั่งเบาะหน้า อัลแบร์นั่งเบาะหลังตรงสเปซแคป 
ระหว่างทาง เพื่อนสาวทั้งสองได้เล่าที่มาที่ไปของดราม่ามื้อกลางวันที่ผ่านมาให้ฟัง….

คู่รักชายหญิงที่หญิงแว่เกือบแสดงอิทธิฤทธิ์ใส่ เป็นคนบ้านเดียวกัน อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน และเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่สมัยเด็ก
ผู้ชายคนนั้นชื่อ “กัมปนาท” หรือ “เติ่ง” เพื่อนฝูงมักเรียกติดปากว่า “บักหรรมเติ่ง” สุดหล่อประจำตำบลที่บรรดาสาวแท้+สาวเทียมต่างกรี๊ดกร๊าดอยากพลีกายถวายบัวให้ เป็นคนตรง พูดจาขวานผ่าซาก ใจนักเลง กล้าได้กล้าเสีย เกลียดความเยอะมากสิ่งของพวกกะเทยและเกย์สาวหัวโปก

ชะนีแฟนบักเติ่ง ชื่อ “คำออน” หรือ “อึ่ง” เดี๋ยว... หยุดก่อน! อย่าบังอาจไปเรียกนางชื่อนี้เด็ดขาด โดนตบหน้าแหกแล้วจะหาว่าไม่เตือน ต้องเรียก “อิงอร” ชื่อใหม่ที่นางภูมิใจนำเสนอ นางเป็นคนมั่นหน้ามั่นโหนก เสพติดศัลยกรรม แก้จมูกไม่รู้กี่รอบจนจะสูงเทียมตึกเอ็มไพร์สเตท แถมยังวิ่งรอกแก้คางที่แหลมบิดเบี้ยวหลายคลีนิค นางชอบมโนว่า ตัวเองสวยที่สุดในตำบลนี้ ทำตัวไฮโซ เชิ่ด เริ่ด หยิ่ง ดูถูกคนที่ด้อยโอกาสกว่าตัวเอง

บักเติ่งกับชะนีอิงอร ทั้งสองมาจากครอบครัวฐานะดี เรียกว่าระดับเศรษฐีเลยก็ได้ 
ทางบ้านบักเติ่งมีกิจการโรงสีข้าว ร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอำเภอ และตลาดสดในหมู่บ้านให้เหล่าพ่อค้าแม่ขายเช่าแผง
ส่วนชะนีอิงอร บรรพบุรุษของนางเคยเป็นนายฮ้อยควายหลายรุ่น ทางบ้านนางมีฟาร์มเลี้ยงวัวควาย ส่งขายทั่วภาคอีสานและภูมิภาคอื่นๆ 
เรือล่มในหนอง เงินทองมันจะไปไหน

ทั้งสองคนเริ่มคบหาดูใจเป็นแฟนกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมจนกระทั่งทุกวันนี้ แต่ยังไม่เห็นมีวี่แววว่าจะแต่งงานร่วมหอลงโลงกันเลย?  ครอบครัวทั้งสองฝ่ายต่างลุ้นกันตัวโก่งเรื่องงานวิวาห์ ลุ้นยังไงมันก็ยังเป็นได้แค่ความหวังลมๆแล้งๆ

หมู่บ้านโคกอีหวึ่ง ตำบลหนองน้ำฮี บ้านเกิดเมืองนอนของกำนันแจ๊ดกับหญิงแว่ ตั้งอยู่ในอำเภอแห่งหนึ่ง ตัวจังหวัดมีเขตแดนติดกับจังหวัดอุดรธานี
หมู่บ้านโคกอีหวึ่งเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับรางวัล “หมู่บ้านเกษตรพัฒนาตัวอย่าง” รางวัลนี้ได้ในปีที่กำนันแจ๊ดเคยเป็นผู้ใหญ่บ้าน

กำนันแจ๊ดอยู่กับแม่และน้องชาย บ้านพวกเขาเป็นเรือนไทยอีสานกึ่งสมบูรณ์ ทรงจั่วแฝด มุงกระเบื้องโบราณ ฝาไม้กระดาน บางห้องที่ต่อเติมใช้ไม้เทียม ฝ้าเพดานแผ่นยิปซั่มจากการซ่อมบำรุง ชานหน้าบ้านกว้างยาว หลังบ้านต่อเติมห้องน้ำและห้องครัวใหม่ เพื่อความสะดวกสบาย ยกพื้นใต้สูง
บริเวณรอบรั้วขอบกำแพงบ้านมีไม้ยืนต้นหลากหลายพันธุ์ทั้งกินผลได้และไม่ได้ เป็นแนวล้อมด้านใน หลังบ้านฝั่งทิศตะวันใต้เป็นเล้าไก่มีทั้งไก่ไข่และไก่ชน ฝั่งทิศเหนือเป็นแปลงปลูกผักสวนครัวนานาชนิด
ส่วนหน้าบ้านปลูกดอกไม้หลายชนิดโดยเฉพาะดอกไม้ไทยในวรรณคดี

“ป้าแจ่มจิต” แม่ของกำนันแจ๊ด วัย50กลางๆ เป็นคนใจดี หน้าตามีเค้าโครงความสวยสมัยสาวๆหลงเหลืออยู่ แววตาสัมผัสได้ถึงความมีเมตตาปราณี ไว้ผมยาวเกือบกลางหลัง บางครั้งก็เกล้าผมมวย ชอบแต่งตัวสไตล์พื้นเมืองประยุกต์ นุ่งผ้าซิ่น ใช้เวลาทั้งวันกับสิ่งที่ตัวเองรักคือ นั่งทอผ้าที่หูกใต้ถุนเรือน

“เจ๋อ” น้องชายกำนันแจ๊ดวัย 22ปี เพิ่งเรียนจบและสามารถสอบบรรจุได้เป็นครูที่โรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ เจ๋อเป็นคนไม่ค่อยพูดค่อยจา เงียบขรึม ขี้อายหน่อยๆ วันทั้งวันขลุกอยู่กับต้นไม้ใบหญ้า และไก่ชน

กำนันแจ๊ดพาอัลแบร์มายังห้องพัก ซึ่งเป็นห้องเล็กๆอยู่ก่อนถึงเฉลียงหลังบ้านฝั่งทิศเหนือ ห้องนี้ปรกติใช้รับรองแขกที่มาเยือน 
รั้วฝั่งทิศเหนือติดกับบ้านตึกหลังใหญ่ราวคฤหาสน์ บ้านตึกที่ว่านี้คือ บ้านของบักเติ่ง 
ถ้าเปิดหน้าต่างห้องนอน สามารถเห็นบริเวณหลังบ้านของฝั่งตรงข้ามชัดเจน
...................................................................

ชาวบ้านในหมู่บ้านรู้จักกันหมดทุกคน ดังนั้นเวลามีแขกไปใครมา ทุกคนก็จะรู้เห็นกันหมด โดยเฉพาะตลาดสด เป็นศูนย์รวมข่าวสารซุบซิบนินทา ถ้าอยากรู้อยากเผือกเรื่องของใคร มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง 

ด้วยความที่หน้าตาออกไปทางฝรั่ง เลยทำให้อัลแบร์เป็นจุดเด่นจุดสนใจของชาวบ้านละแวกนั้นอย่างยิ่ง

เย็นวันนี้อัลแบร์วิ่งออกกำลังรอบหมู่บ้าน...

“อัลแบร์.. มาวิ่งออกกำลังกายหรอ?” หญิงแว่กวักมือเรียก นางกำลังปาร์ตี้ส้มตำถาดกับบรรดาญาติพี่น้องอยู่ใต้ถุนเรือน

“ซัดข้าวเหนียวทุกมื้อ พุงเริ่มออก ต้องรีบเบิร์นไขมันซักหน่อย นี่บ้านเธอหรอ? เดินผ่านทุกวันเพิ่งรู้นะเนี่ย กินข้าวเย็นเร็วจัง”

“บ้านลุงเรา บ้านเราอยู่อีกซอยถัดไป วันนี้วันเกิดญาติเลยฉลองกัน แค่ออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยเฉยๆ เดี๋ยวเมนคอร์สจัดเต็มกว่านี้อีก ถ้าไม่รีบร้อน เข้ามานั่งคุยกันข้างในก่อน เห็นเจ้าภาพเขาโบกมือทักทายมาโน่น” 

หญิงแว่พาอัลแบร์เข้ามาร่วมวง พร้อมแนะนำให้รู้จักบรรดาญาติพี่น้องทั้งหมด จนมาถึงคิวชายหนุ่มเจ้าของวันเกิด

“เจ้าของวันเกิด ลูกพี่ลูกน้องเรา ชื่อ ปอนด์” 

“Happy Birthday นะครับ”

“ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้รู้จัก อัลแบร์ ชื่อเท่ห์จัง ดื่มอะไรดีครับ? เหล้าหรือเบียร์?” ปอนด์ส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้ม

“ขอน้ำเปล่าครับ เพิ่งวิ่งออกกำลังกาย จะดื่มแอลกอฮอล์ก็ดูแปลกๆ” อัลแบร์ตอบรับไมตรี

ปอนด์ หรือชื่อจริง “ศรศักดิ์” อ่อนกว่าหญิงแว่ 1ปี เขาเป็นครูสอนอยู่โรงเรียนประถมในหมู่บ้าน หน้าตาของเขาจัดว่าหล่อเหลาคมเข้มตามมาตรฐานท้องถิ่น ผิวสีแทนเนียนสวย รูปร่างสมส่วน ความสูง170+ 

อัลแบร์คุยกับทุกคนอย่างสนุกสนาน ส่วนเจ้าของวันเกิดอย่างครูปอนด์ ดูเหมือนจะให้ความสนใจกับแขกลูกครึ่งมากเป็นพิเศษ โดยเขาแอบชำเลืองมองหลายรอบ

“คืนพรุ่งนี้มีงานบุญออกพรรษาที่วัด ร้านขายของเยอะแยะ ชิงช้าสวรรค์ รำวง ปิงโก สารพัดอย่าง เด็ดสุดมีวงหมอลำชื่อดังมาเล่นด้วย อีแม่กำนันบอกเธอแล้วใช่ไหม?” หญิงแว่เอ่ยขึ้นกลางวงสนทนา

“เจสซี่เพิ่งบอกเมื่อเช้านี้เอง คล้ายกับถนนคนเดินใช่ไหม? ดูท่าคงสนุกดีเนอะ” 

หญิงแว่แอบยักคิ้วหลิ่วตาเป็นเชิงสัญลักษณ์ให้ลูกพี่ลูกน้องตน
............................................................................................

กำนันแจ๊ดใช้เวลาแต่งองค์ทรงเครื่องหลายชั่วโมง เรื่องความสวยความงาม คนอย่างเธอยอมทุ่มทุนสร้างอย่างอลังค์การดาวล้านดวง เสื้อผ้า หน้า ผม ต้องเป๊ะเวอร์ เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด

อัลแบร์นั่งรอเพื่อนอยู่ที่ชานบ้าน เขาแต่งตัวสไตล์กึ่งพื้นเมือง เสื้อผ้าทอสีน้ำเงินเข้ม คอกลมแขนสั้น กางเกงยีนส์สีดำ

“อีแม่กำนันอยู่ไหน?” หญิงแว่เดินขึ้นมาบนเรือนพร้อมกับครูปอนด์ 

สไตล์การแต่งตัวของหญิงแว่ บ่งบอกจุดประสงค์อย่างชัดเจนคือ แต่งไปล่อเสือล่อตะเข้ ตามหน้าฮ้านหมอลำ 
ส่วนครูปอนด์แต่งตัวง่ายๆสบายๆ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ

“อยู่ในห้อง แต่งตัวยังไม่เสร็จ รอมาเป็นชั่วโมงแล้ว” อัลแบร์บ่น

“เดี๋ยวไปเรียกนางให้เอง” หญิงแว่รีบเดินไปยังห้องเพื่อนสาว

“อัลแบร์แต่งตัวแบบนี้น่ารักดี ผมชอบ” ครูปอนด์อมยิ้ม

“น่าลักเอาไปทิ้งใช่ไหม?” อัลแบร์พูดติดตลก

“น่าลักเอาไปปู้ยี้ปู้ยำมากกว่า” ครูปอนด์พูดปากสั่นด้วยความเขินอาย

“จะไหวหรอ? กลัวจะเผ่นหนีซะก่อน เราไม่ใช่เด็กเลี้ยงง่าย ต้องใช้ความอดทน เอาใจใส่สูงกว่าปรกติ” อัลแบร์เล่นมุข

ระยะทางจากบ้านมายังบริเวณงานไม่ถึงกิโลเมตร สามารถเดินเท้าได้สบายๆ กำนันแจ๊ดกับหญิงแว่เดินนำหน้าอย่างมีแผนการ ปล่อยให้อัลแบร์กับครูปอนด์เดินคู่กัน

“ฮ่วย! เป๋นต่าน๊ายแท่ พ้อบักผีปอบห่าเมริง กูอยากฮาก น้ำหอมยี่ห้อไส? ขิวอีหลี” (กูละเซ็งชิบ เจอยิ้มแมร่ง อยากจะอ๊วก น้ำหอมยี่ห้อไหน? กลิ่นเหม็นบัดซบชิบเป๋ง) 

หญิงแว่กระแทกแดรกดันเป็นภาษาท้องถิ่น เมื่อเห็นหน้าคู่อริกำลังเดินออกนอกรั้วบ้าน

“เซาเว้า(หุบปาก) อีกะเทยควาย เดี๋ยวกูเตะหรรมแตก นมแตกคาตีน” บักเติ่งโต้ตอบ

“หนูกลั๊ว.. กลัว.. จังเลยค่ะ คุณพี่หรรมเติ่งขา.. ช่วยกระแทกจิ๊มิวิทยาศาสตร์ของหนูแรงๆให้มิดสุดลำหน่อย หนูคันอีหลี” หญิงแว่เล่นหน้าเล่นตา

“เส้าๆ(หยุดๆ) อีห่า.. เสียฤกษ์เสียยามหมด เดี๋ยวก็ไม่ได้กินผู้บ่าวหน้าฮ้านหมอลำ” กำนันแจ๊ดรีบห้ามปราบเพื่อนสาวก่อนจะมีเรื่องวิวาทลามมากกว่านี้

“กุดอ๊าฟเตอร์นูน เวลคัมทูบ้านโคกอีหวึ่ง ไอ แอม แฮปปี้ ทู มีด ยู อะเกน มีสสะเตอร์ อันแบ” บักเติ่งหันมาหยอกล้อหนุ่มลูกครึ่ง

เขาพูดยังไม่จบ ทุกคนต่างหัวเราะท้องคัดท้องแข็งจนน้ำหูน้ำตาเล็ด

“ภาษาอังกฤษซั่วจั่งซี่ ก็อยากเว่า กู๊ดอ๊าฟเตอร์นูน เปิ่นใช้เอิ้นตอนกลางวัน ยามแลงเปิ่นเอิ้น กู๊ดอีฟวะนิ่ง ขนาดกูติดศูนย์ภาษาอังกฤษ กูยังฮู้ ชื่อเพิ่นก็เอิ้นบ่ถืก เพิ่นชื่อ อัลแบร์ เอิ้น อันแบ นั่นชื่อเกาหลี บักปึกยกกำลังสอง” (ภาษาอังกฤษชั่วช้าสามาน ยังสะเออะอยากพูด กู๊ดอ๊าฟเตอร์นูน เขาใช้เรียกตอนกลางวัน ตอนเย็นเขาเรียก กู๊ดอีฟวะนิ่ง ขนาดกูติดศูนย์ภาษาอังกฤษ กูยังรู้ ชื่อเขาก็ยังเรียกผิด เขาชื่อ อัลแบร์ เรียกซะ อันแบ นั่นชื่อเกาหลี ไอ้โง่ยกกำลังสอง)

หญิงแว่ได้ทีเอาคืน 

“อ้าว... ครูปอนด์ก็มากับเขาด้วย โอ๊ะ.. โอ๋.. มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งกัน อย่าบอกนะว่า.. เป็น... คู่วายสายเหลืองคู่ใหม่แห่งบ้านโคกอีหวึ่ง” บักเติ่งมองทั้งสองด้วยสายตามีเลศนัย

เรื่องไร้สาระแบบนี้ อัลแบร์ไม่อยากเสียเวลาโต้ตอบคู่กรณี เขาพยักหน้าบอกครูปอนด์ให้เดินต่อไป

“ผมขอเดินไปด้วยคนนะครับ คุณอัลแบร์ หวังว่าคงไม่รังเกียจ” บักเติ่งเริ่มปฏิบัติการกวนประสาท เขาเดินตามติดแนบชิดข้างอัลแบร์ตลอดทาง

“พูดด้วยก็ไม่ยอมพูดด้วย หยิ่งจังเนอะ ลืมไป.. เขาเดินกับแฟนเขา ต้องอยากคุยกันเป็นธรรมดา ไม่ใครพูดด้วย พูดคนเดียวก็ได้ว่ะ” 

อัลแบร์พยายามข่มใจนับหนึ่งถึงสิบไว้ เขาไม่อยากเสวนากับคนนิสัยเสีย นอกจากจะทำให้จิตใจขุ่นมัวจากความโกรธแล้ว ยังนำพลังลบเข้ามาใส่ตัวด้วย

เสียงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น บักเติ่งกดรับสาย แล้วรีบเดินจ้ำอ้าว

“สงสัยผีปอบตัวเมียโทรตามผัว” หญิงแว่พูดประชด
............................................................................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่