หนุ่มตาน้ำข้าวกับผู้บ่าวจอมกวน ตอนที่ 4 รับคำท้า

หนุ่มตาน้ำข้าวกับผู้บ่าวจอมกวน   (ตำนานชายรักชายบทใหม่แห่งหมู่บ้านโคกอีหวึ่ง)

                       เรต MA15+  ภาษาและพฤติกรรมบางอย่างของตัวละครในเรื่อง

“ที่ผมชอบแกล้ง ชอบกวนประสาท แค่อยากเรียกร้องความสนใจ อยากรู้จัก อยากคุยด้วย ผมผิดมากใช่ไหม?”


 “ไปไงมาไง? วันนี้ไม่สอนหนังสือหรอ?” อัลแบร์กำลังนั่งเล่นอยู่ใต้ถุนบ้านคนเดียว เขาเห็นครูปอนด์ขับรถกระบะเข้ามาจอดริมรั้วหน้าบ้าน

“วันนี้วันเสาร์ครับ” 

“โทษที เราสโลว์ไลฟ์ จนลืมวันลืมคืน ไม่รู้วันไหนเป็นวันไหน”

“แสดงว่าไม่ได้อ่านไลน์ผมแน่ๆ ทำไมบ้านเงียบจัง ทุกคนไปไหนกันหมด?” ครูปอนด์กวาดสายมองรอบบริเวณบ้าน

“ขอโทษที โทรศัพท์เราแบตหมด ชาร์จทิ้งไว้ในห้องจนลืม เจสซี่ไปประชุม เจ๋อไปโรงเรียนหรือไปไหนไม่รู้? ป้าแจ่มทอผ้าอยู่สหกรณ์” 

“วันนี้อัลแบร์ว่างไหมครับ? ผมจะพาไปเที่ยว ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด ถือซะว่าโดนทำโทษที่ไม่ตอบไลน์ผม” ครูปอนด์อ้อนวอนแกมบังคับนิดๆ

“พูดถึงทำโทษ วิญญาณครูเข้าสิงเชียวนะ” อัลแบร์ยิ้มรับไมตรี

ครูปอนด์ทำหน้าที่เป็นทั้งสารถีและไกด์ท้องถิ่น เขาพาอัลแบร์เที่ยวข้ามจังหวัด มายังจุดชมวิวบนเนินเขา ซึ่งสามารถเห็นวิวแม่น้ำโขงทั้งสองฝั่ง 

“วิวสวยโคตรๆ เหมือนในหนังรักโรแมนติก” อัลแบร์รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความอลังค์การของวิวทิวทัศน์

“หาคนมาแสดงหนังรักได้หรือยัง?” ครูปอนด์พยายามหยอด เขาชวนอัลแบร์ถ่ายรูปเซลฟี่ด้วยกัน แล้วโพสลงในโซเชียลฯทันที

“เราไม่ชอบหนังรัก มันเลี่ยน เราชอบหนังสยองขวัญมากกว่า” อัลแบร์พูดทีเล่นทีจริง

“อ้าว… ผมกะบิ้วอารมณ์ให้เหมือนในหนังรักซะหน่อย พอรู้ว่าอัลแบร์ชอบหนังสยองขวัญ ไปต่อไม่ถูกเลย” ครูปอนด์ทำหน้าตาออดอ้อน

“เราว่าหนังสยองขวัญมันตื่นเต้นเร้าใจมากกว่า ยิ่งตอนลุ้นนี่แทบจะไม่อยากลุกไปไหนเลย” อัลแบร์ทำไม้ทำมือประกอบ

“รู้ใช่ไหมว่า ผมคิดยังไงกับอัลแบร์ วันแรกที่พบกัน ผมก็รู้สึกชอบอัลแบร์แล้ว” ครูปอนด์เอื้อมมือมาจับมือของฝ่ายตรงข้ามไว้แน่น

อัลแบร์พยายามยิ้มสู้ “เรารู้ตั้งแต่แรกว่าปอนด์คิดยังไงกับเรา ปอนด์เป็นคนดี หน้าตาก็หล่อและจิตใจก็ดีงาม ถ้าเจอกันเร็วกว่านี้ และเราทั้งสองอยู่ประเทศเดียวกัน อำเภอเดียวกัน เราจะรีบตอบรับทันที ไม่อยากให้คนดีๆอย่างปอนด์หลุดมือไป”

“อ้าว... อัลแบร์มีใครแล้วหรอ?” ครูปอนด์ทำหน้าตาตื่น

“เปล่า… เราไม่ได้มีใคร โสดสนิท สาเหตุที่ทำให้ต้องเดินทางมาที่นี่ เพราะปัญหาเรื่องรักๆใคร่ๆ ตอนนี้แผลใจเรายังไม่หายดี ยังเข็ดขยาดกับความรัก ไม่พร้อมที่จะมีใคร ปอนด์เข้าใจที่เราพูดนะ” อัลแบร์สบตาฝ่ายตรงข้าม เขาพยายามพูดแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น

ครูปอนด์พยักหน้า “เราขอโทษ ที่เร่งรัดอัลแบร์เร็วเกินไป ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร เราเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของอัลแบร์”

อัลแบร์สวมกอดครูปอนด์ “ขอบใจปอนด์ที่เข้าใจเรา เรายังไม่พร้อมที่จะเอาหัวใจไปผูกมัดใคร และไม่อยากให้ความหวังใคร สู้เป็นเพื่อนกัน เป็นห่วงเป็นใยกัน มีความรู้สึกดีๆให้กัน ความสัมพันธ์แบบนี้มันยาวนานกว่านะ” 
.......................................................................

กำนันแจ๊ดกับหญิงแว่เดินสำรวจรอบบริเวณศูนย์ค้าปลีก-ส่ง (คล้ายๆไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดย่อม ที่รวมร้านค้าปลีกย่อยและซุปเปอร์มาร์เก็ตเข้าไว้ด้วยกัน) เพื่อค้นหากะเทยหรือเกย์สาวแตก ที่มีหน้าตาและผิวพรรณดีเข้าร่วมประกวด “เทพธิดาข้าวปุ้น” ซึ่งเป็นเวทีประกวดสาวงามประเภทสอง ในงานกาชาดประจำปีของตัวจังหวัด

อำเภอเล็กๆแห่งนี้ ศูนย์ค้าปลีก-ส่ง เปรียบเสมือนแหล่งศูนย์รวมของวัยรุ่นและผู้คนเกือบทั้งอำเภอ นอกจากจะเข้ามาจับจ่ายซื้อของ รับประทานอาหาร นั่งดื่มกาแฟ ยังสามารถเข้ามาเดินตากแอร์แก้ร้อนได้อีกด้วย ถ้าอยากพบเจอใครในอำเภอนี้ เข้ามาที่นี่รับรองมีเปอร์เซ็นต์ได้พบเจอโดยบังเอิญสูงกว่าที่อื่นๆ
ทั้งสองเข้าไปในร้านชานมไข่มุก หลังจากสั่งเครื่องดื่มเสร็จเรียบร้อย ขณะกำลังมองหาโต๊ะนั่ง ได้มีสาวประเภทสองนางหนึ่ง เครื่องหน้าสวยหวานชนิดที่ผู้หญิงแท้ๆยังอาย ผิวพรรณขาวใส รูปร่างสะโอดสะอง เอวขอด กำลังเดินออกมาจากโต๊ะของสุวัจนี 

“หลูโตนซุมสูกะเทยรากหญ้าแท้น่อ ย่างซอกหากะเทยน้อย เบิ๊ดมื้อยังบอพ้อ สวยๆไฮโซอย่างกู ผู้ใด๋ก็อยากเข้ามาเป็นเด็กในสังกัด เทพธิดาข้าวปุ้นปีนี้ เด็กสังกัดกูมงลงโลด”     (กูสมเพชอีพวกกะเทยรากหญ้าจริง เดินตระเวนหากะเทยน้อย เดินทั้งวันก็ยังหาไม่ได้ สวยๆไฮโซอย่างกู ใครก็อยากเข้ามาเป็นเด็กในสังกัด เทพธิดาข้าวปุ้นปีนี้ เด็กสังกัดกูมงลงชัวร์) 

สุวัจนีพูดข่มขวัญ

“ปากเมริงคือลมตดแท้น่อ อีกะเทยรูตัน กูสิจำคำเว้าเมริงม่องนี้ ถ่าเบิ่งวันงานว่าเด็กสังกัดสิชนะบ่? ราคาคุยแท้” หญิงแว่อารมณ์ขึ้น

“กล้าพนันกับกูบ่? อีกะเทยหน้าบาน ปากดีหลายแท้” 

สุวัจนีปรี๊ดแตกทันทีเมื่อได้ยินคำว่า “กะเทยรูตัน” นางมีความหลังฝังใจกับคำนี้มาก ถ้าได้ยินใครใช้คำนี้เรียกหรือด่า เป็นต้องมีตบกันไปข้างหนึ่ง
เรื่องมีอยู่ว่า ไม่กี่ปีที่แล้ว นางไปผ่าตัดแปลงเพศกับคลีนิคศัลยกรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ค่อยได้มาตรฐาน ยึดเอาราคาถูกเป็นเกณฑ์ อีกทั้งหมอที่ทำเคสให้ ยังขาดประสบการณ์ ไม่มีความชำนาญมากพอ เลยทำให้ท่อปัสสาวะที่ต่อมายังปากมดลูกเทียมอุดตัน ไม่สามารถเปิดขยายกว้าง และไม่สามารถขับของเหลวออกมาได้ ต้องต่อสายยางช่วย จนในที่สุดนางยอมแบกสังขารไปให้โรงพยาบาลอีกแห่งแก้ไขให้ 

“เออ.. จัดไป”  หญิงแว่ตอบรับ

“ตกลงแล้วแน่ ห้ามคืนคำ ถ้าเด็กกูชนะหรือเข้ารอบได้ตำแหน่งสูงกว่า ซุมสูต้องกราบตีนกูกลางตลาดสด ถ้าเด็กซุมสูชนะหรือเข้ารอบได้ตำแหน่งสูงกว่า กูยอมกราบตีนซุมสูกลางตลาดสด”  สุวัจนีทบทวนข้อเสนอ

“โอเคค่ะ” 

“อีผีบ้า เมริงไปรับปากตกลงกับมันเฮ็ดหยัง? ซุ่มเฮ่ายังบอพ้อผู้ใด๋ กูเป่นต่าน๊าย”    (อีผีบ้า เมริงไปรับปากตกลงกับมันทำไม? พวกเรายังหาใครไม่ได้เลย กูละเบื่อหน่ายจริง) 

กำนันแจ๊ดเอามือบีบขมับ งานเข้าอีกแล้ว
.................................................................................

เช้าวันนี้ ณ ตลาดสดเทศบาล นอกจากเดินเที่ยวชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของชาวบ้านละแวกนั้น อัลแบร์ยังแวะซื้อขนมและของกินเล่น 

“ได้อะไรติดไม้ติดมือบ้างเอ่ย?” อัลแบร์บังเอิญเจอครูยาที่กำลังจ่ายตลาดอยู่ 

“หมูปิ้งกับน้ำพริกตาแดง เดี๋ยวจะไปซื้อขนมเลี้ยงเด็กๆ ช่วงสายมีสอนซ่อมเสริมที่บ้าน โรงเรียนหยุดบ่อยเกิน กลัวเด็กๆตามบทเรียนไม่ทัน” 

“เป็นครูด้วยจิตวิญญาณจริงๆ น่ายกย่องนับถือ นักเรียนที่จะมาเรียนมีกี่คนครับ?”

“ถ้ามาครบกันทุกคนก็ 32คน ต้องเผื่อพวกเด็กเกเรโดดเรียนหรือเด็กบางคนที่ติดภาระกิจส่วนตัวมาไม่ได้”

“หากไม่รังเกียจและไม่เป็นการละลาบละล้วงเกินไป เราอยากซื้อขนมเลี้ยงเด็กๆด้วยคน ได้ไหม? อยากให้กำลังใจเด็กๆที่อุตส่าห์ตั้งใจมาเรียน วันหยุดแท้ๆแทนที่จะได้พักผ่อนสมองหรือเล่นซนอยู่บ้าน กลับต้องมาเรียนเพิ่มเติม ที่เมืองนอกไม่ทางได้เห็นอย่างนี้เด็ดขาด”

“ยินดีครับ ถ้าอัลแบร์ว่างก็มาร่วมแจมด้วยซิ เด็กๆต้องสนใจและกระตือรือล้นที่จะคุยกับเจ้าของภาษาตัวจริง คงช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาเพิ่มขึ้น” 

อัลแบร์ตอบรับคำเชิญ
.......................................................................

หลังจากสอนซ่อมเสริมเสร็จ ครูยานั่งคุยกับอัลแบร์ที่ม้านั่งใต้ถุนบ้านพัก

“ครูยาทั้งหล่อทั้งเก่งแบบนี้ ใครได้ไปเป็นแฟนคงโชคดียิ่งกว่าถูกหวยรางวัลที่1”

“ยังหาผู้โชคดีคนนั้นไม่เจอเลย มีแต่ไปแอบรักเขาข้างเดียว ห่อเหี่ยวหัวใจ” ครูยาทำหน้าเบื่อหน่าย

“แอบรักเขา แต่ไม่บอกให้เขารับรู้ มันยิ่งห่อเหี่ยวหัวใจมากกว่าเดิม ถ้าครูยาบอกเขา อย่างน้อยก็ได้ปลดล็อคความรู้สึกตัวเอง ผลจะออกมาเป็นยังไงก็ช่างมัน อย่างน้อยก็ได้ทำสุดความสามารถแล้ว บางทีคนนั้นอาจคิดแบบเดียวกัน เพียงแต่เขาไม่กล้าบอกหรือกลัวโดนปฏิเสธให้ช้ำใจก็ได้ ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเริ่มก่อน บางทีฝ่ายตรงข้ามอาจจะตอบสนองสิ่งเดียวกันกลับมา ลองดูนะ เราเอาใจช่วย”  อัลแบร์แนะแนวทาง

“อัลแบร์พูดถูก ขอรวบรวมความกล้าก่อน”

“อยากเห็นหน้าคนๆนั้นแล้วซิ ใครเอ่ย? บอกหน่อยได้ไหม? อยากรู้” อัลแบร์แกล้งแหย่ฝ่ายตรงข้าม เขาพยายามเปิดประเด็นในสิ่งที่กำลังสงสัย

ครูยาหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก

“ใช่.. คนนั้นหรือเปล่าน๊า? สายตาคนเรามันโกหกได้ยาก” อัลแบร์เริ่มเจาะประเด็น

“ไปรู้ไปเห็นอะไร? บอกมาเดี๋ยวนี้เลย” ครูยาสายตาเลิ่กลั่ก

“ทำไมต้องเขินด้วย? เรื่องนี้รู้กันแค่สองคน เราไม่บอกใครเด็ดขาด สัญญาก่อนว่าจะไม่โกรธไม่เกลียดเรา ถ้าเดาผิดหรือเข้าใจอะไรผิด?” อัลแบร์เน้นย้ำเพื่อความแน่ใจ

“สัญญาด้วยเกียรติของลูกเสือ”

“ปอนด์?”

“รู้ได้ไง?” 

“ตอนเจอกันครั้งแรก สายตาครูยามองเราไม่เป็นมิตรเอามากๆ เดาได้ไม่ยากว่า ครูยาต้องแอบชอบปอนด์ ครูยาสบายใจได้ เรากับปอนด์เป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้น ไม่มีอะไรลึกซึ้งเกินเลย” 

“ผมทำตัวแย่จัง มาคิดดูแล้วรู้สึกรังเกียจพฤติกรรมตัวเองมาก  ผมอยากขอโทษอัลแบร์เวลานี้คงไม่สายเนอะ”

ครูยาพูดยังไม่ทันจบ เสียงข้อความไลน์ในโทรศัพท์มือถือของอัลแบร์ก็ดังขึ้นมา

“เดี๋ยวครูยาไปกินข้าวกลางวันด้วยกันนะ ห้ามปฏิเสธเด็ดขาด ไม่งั้นเราไม่ยอมยกโทษให้” 

“ไปกันแค่สองคน?” ครูยาเริ่มซัก

“เดี๋ยวก็รู้เอง” 

“เจ้าเล่ห์เพทุบายจริง” 
........................................................................

ครูปอนด์ขับรถมารับทั้งสองคนไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ห่างออกไปจากตัวอำเภอเกือบ 10กิโลเมตร ร้านนี้เป็นหนึ่งในบรรดาร้านชื่อดังท้องถิ่นที่ห้ามพลาด อาหารทุกอย่างรับประกันความแซ่บอีหลี จุดขายหลักของร้านคือ ไอเดียที่แปลกแหวกแนว

ที่นั่งเป็นแพไม้ไผ่มุงหญ้าคา คล้ายเพิงลอยอยู่กลางบึงใหญ่ บนแพสามารถนั่งได้ประมาณ4-6 คน ทางเดินเข้าออกของแต่ละแพเชื่อมติดกันเป็นแผงไม้ไผ่ลอยขนาบผิวน้ำ
มีพนักงานคอยพายเรือรับออเดอร์ ส่งอาหาร เครื่องดื่ม และเก็บสำรับ

“เราขอตัวไปล้างมือก่อน ดูซิข้าวเหนียวติดมือแถมยังแห้งคามือ คงแกะออกลำบาก ยังไงก็คุยกันไปก่อนนะ ล้างมือเสร็จ เราคงแว๊บไปเดินเล่นถ่ายรูปแถวนี้ตามประสา”

อัลแบร์แยกตัวออกมา เขาเปิดโอกาสให้ครูปอนด์กับครูยาได้มีเวลาเอื้อนเอ่ยความในใจที่มีให้กัน เขายักคิ้วส่งสัญญาณให้ครูยาปลดล็อคความรู้สึกของตนเอง
..................................................................................

ตอนแรก   https://ppantip.com/topic/40967874
ตอนที่ 2   https://ppantip.com/topic/40973995
ตอนที่ 3   https://ppantip.com/topic/40979169
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่