หนุ่มตาน้ำข้าวกับผู้บ่าวจอมกวน ตอนที่ 5 บอกความในใจ

กระทู้สนทนา
หนุ่มตาน้ำข้าวกับผู้บ่าวจอมกวน   (ตำนานชายรักชายบทใหม่แห่งหมู่บ้านโคกอีหวึ่ง)

 เรต 18+  ภาษาและพฤติกรรมบางอย่างของตัวละครในเรื่อง

“ที่ผมชอบแกล้ง ชอบกวนประสาท แค่อยากเรียกร้องความสนใจ อยากรู้จัก อยากคุยด้วย ผมผิดมากใช่ไหม?”


อัลแบร์ก้มหน้าก้มหน้าล้างมือในอ่างอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง การแซะเอาข้าวเหนียวแห้งออกจากอุ้งมือ สำหรับคนต่างบ้านต่างเมืองอย่างเขา มันใช้เวลาค่อนข้างนานมากกว่าคนท้องถิ่น

“บ๊องชู๊ส์! กอมอง ตาเล่ วู๊? (สวัสดีครับ คุณสบายดีไหม?) เจอกันโดยบังเอิญอีกแล้ว ผมโคตรดีใจสุดๆ” บักเติ่งแอบย่องเข้าทางด้านหลัง 

เขายืนหันปากและจมูกใกล้กับลำคอของอัลแบร์ ทำให้ลมหายใจอุ่นๆที่ออกจากรูจมูกทั้งสองข้าง รดใส่ก้านคอฝ่ายตรงข้าม ทำเอาฝ่ายตรงข้ามเกือบเคลิ้มทีเดียว

“ไปแอบท่องจำภาษาฝรั่งเศสมาจากไหนอีก? มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง นึกว่าผีหลอก ขอบใจสำหรับช็อกโกแลตบาร์วันนั้น” อัลแบร์พูดด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย
“ต้องหัดพูดเอาไว้บ้าง เผื่ออนาคตได้แฟนเป็นคนฝรั่งเศส บักสีดา ข้อยมักเจ้าหลายเด้อ ฮู้บ่” 

“ไปไกลๆเลยไป ไหนเคยตกลงกันแล้ว ถ้าเรายิงปืนชนะ นายจะเลิกก่อกวน เลิกตามราวีเรา ยังจำได้ไหม? สัญญาไม่เป็นสัญญา ความเป็นลูกผู้ชายไปไหนหมด? แมนๆหน่อยครับ” อัลแบร์เริ่มทบทวนข้อตกลง

“ลูกผู้ชายอย่างผม คำไหนคำนั้น ผมเคยผิดสัญญาที่ไหน ให้ขอโทษกำนันแจ๊ดกับอีแว่ กลางตลาดสด ผมก็ทำให้แล้ว เลิกก่อกวนเลิกแกล้ง ผมก็ไม่ทำอีกแล้ว เมื่อกี้แค่ทักทายตามประสาคนรู้จักกัน”

“หรอ… ” อัลแบร์รีบเดินออกจากห้องน้ำ

“ที่ผมชอบแกล้ง ชอบกวนประสาท แค่อยากเรียกร้องความสนใจ อยากรู้จัก อยากคุยด้วย ผมผิดมากใช่ไหม?” บักเติ่งเดินตามมาข้างหลัง

อัลแบร์ได้ยินประโยคนี้ ถึงกับหยุดการเคลื่อนไหว หัวใจเต้นระรัวจนแทบสูบฉีดโลหิตไม่เป็นจังหวะ เขาไปต่อไม่ถูกแล้วจริงๆ

บักเติ่งเห็นความหวั่นไหวของฝ่ายตรงข้าม เขาไม่รอช้า รีบจู่โจมสายฟ้าแล่บชนิดไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามได้ตั้งรับ

“เราสองคนจะคุยกันดีๆไม่ได้เลยหรอ? ผมอยากคุย อยากรู้จักอัลแบร์ให้มากกว่านี้ ไม่รู้ซิ ได้คุยได้เห็นหน้า ผมก็มีความสุขแล้ว” บักเติ่งเริ่มเผยความในใจทีละนิด

“พูดเพ้อเจ้อ เหลวไหล ถ้าเมียนายมาได้ยินเข้าจะว่ายังไง? นางไม่ร้องกรี๊ดดังไปทั้งอำเภอเลยหรอ? มีเมียเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว ไม่ควรพูดออเซาะฉอเลาะแบบนี้กับใครอีก คนที่จะเสียใจมากสุดคือเมียนาย นึกถึงใจนางบ้าง” อัลแบร์อารมณ์ขึ้น

“ผมกับอิงอร สถานะภาพยังไม่ชัดเจน ไม่รู้ซิ มันคาราคาซังมานาน เลิกกันไม่รู้กี่รอบ จนชินชา สุดท้ายผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็บังคับให้มาคืนดีกันอีกกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เธออยากแต่งงาน แต่ผมยังไม่พร้อม อยากมีชีวิตอิสระนานๆ ไม่อยากหาภาระใส่ตัวเอง” บักเติ่งเล่าอย่างตรงไปตรงมา 

“ถ้านายคุยดีๆตั้งแต่แรก พูดจาเพราะๆหวานๆ ไม่ดูถูกคน ไม่เกลียดพวกเกย์ กะเทย เราคงไม่มีอคติแง่ลบกับนาย”

“ผมขอโทษกับคำพูดและพฤติกรรมอันน่ารังเกียจที่เคยได้พูด ได้กระทำ ใจจริงผมไม่ได้รังเกียจเพศที่สาม แต่.. ผมแค่รำคาญและรับไม่ได้กับความเยอะสิ่งของพวกกะเทยและเกย์สาวแตก ที่ชอบแหกปากกรี๊ดกร๊าดเรียกร้องความสนใจ โดยเฉพาะอีแว่ แรดเหลือทน แรดไม่บันยะบันยัง ถ้าเป็นคนดีมีคุณภาพ ไม่แรดอย่างกำนันแจ๊ด อันนั้นผมยกย่องชื่นชม ตอนสมัครผู้ใหญ่บ้าน ผมเลือกแจ๊ด พอลงสมัครกำนัน ผมก็ยังเลือกเขาอีก” บักเติ่งเคลียร์ตัวเอง

“ถ้านายผิดแล้วรู้จักปรับปรุงตัว เราก็โอเค แต่.. เรายังไม่ไว้ใจนาย100% ช่วงนี้ยังอยู่ในระยะประเมินผล” อัลแบร์ให้โอกาสฝ่ายตรงข้าม

“แค่นี้ผมก็พอดีใจแล้ว ขอถามอะไรหน่อยดิ?”

“ว่ามา”

“ทำไมยิงปืนแม่นจัง? สงสัยและอยากรู้มาก คืนนั้นทำเอาตะลึงจนตาค้าง”

อัลแบร์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เขาเปิดโชว์รูปสมัยแข่งยิงปืนและได้เหรียญทอง

“ข้าน้อยมีตา หามีแววไม่ ขอคาราวะ ฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์” 

“พอๆ ไม่ต้องลีลาเยอะ เราแค่ฟลุคมากกว่า”

“มือถือแบตหมด ขอยืมหน่อยดิ จะโทรหาที่บ้าน” 

อัลแบร์ยื่นโทรศัพท์มือให้ บักเติ่งเดินหลบไปโทรศัพท์ตรงมุมรั้ว

“อย่าลืมกดแอดไลน์ด้วย ผมส่งรีเควสไปแล้ว” บักเติ่งส่งโทรศัพท์มือถือคืน

“รับทราบครับ คุณบักหรรมเติ่ง”

“ฮ่วย! เรียก เติ่ง เฉยๆก็พอแล้ว รู้ว่านายชอบหรรม แต่ห้ามใช้คำนี้เรียกผมเด็ดขาด มันเขิน   หรรม นอกจากแปลว่า อวัยวะเพศชาย ยังเป็นคำสรรพนามใช้เรียกเด็กผู้ชายในภาษาอีสาน” 

อัลแบร์แอบยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ จนรอยยิ้มล้นทะลักออกมาอยู่นอกแววตา ทุกครั้งที่เจอผู้ชายคนนี้ ต่อให้ทะเลาะกันหรือไม่ชอบขี้หน้าก็ตาม ลึกๆในใจ เขารู้สึกหวั่นไหวจนเกินต้านทานตลอด 

“นายออกมาคุยกับเรานานขนาดนี้ เมียนายไม่บ่นแย่หรอ? ดีไม่ดีเดินออกมาเห็นเราสองคนกำลังคุยกัน ยิ่งไม่เข้าใจผิดกันไปใหญ่”

“เขาไปเที่ยวกรุงเทพกับเพื่อนเขา และเลยไปช้อปปิ้งที่สิงคโปร กว่าจะกลับคงสิ้นเดือนโน่น ผมพาสมาชิกบิ๊กไบค์จากจังหวัดอื่นมากินข้าว กำลังคุยกันเรื่องออกทริปใหม่วันศุกร์หน้า กะขี่มอไซค์เรียบน้ำโขงลงไปจนสุดอุบล อ้อมศรีสะเกษต่อไปบุรีรัมย์ และย้อนกลับขึ้นมา”

“ฟังแล้ว อยากไปออกทริปบ้างจัง คงสนุกตื่นเต้นน่าดู เราชอบกิจกรรมออฟโรด”

“จะอยู่ที่นี่นานไหม?”

“ 3เดือน ถ้านับจากวันนี้ก็เหลืออีก 2เดือนกว่าๆ อยู่จนเบื่อหน้ากันเลย”

“ใครเบื่อก็ช่าง แต่ผมไม่เบื่อ ศุกร์หน้าไปออกทริปด้วยกันไหม? ผมยินดีให้นั่งซ้อนท้าย หมวกกันน็อคและชุดมีให้พร้อม กลุ่มที่ไป เขาก็เอาแฟนหรือเพื่อนนั่งซ้อนท้ายไปด้วย เป็นเรื่องปรกติ”

“สนใจมากๆ แต่เกรงใจนาย กลัวนายขี่บิ๊กไบค์ไม่คล่องตัว ถ้านายขี่รถเร็ว เราก็กลัวไม่ปลอดภัยเหมือนกัน”

“ตกลงไป ผมถือว่าคอนเฟิร์ม ถ้าไม่ยอมไป จะตามลากตัวถึงบ้านเลย ผมสัญญาว่าจะขี่รถอย่างระมัดระวังให้มากที่สุด ฝากชีวิตไว้กับผมได้ ออกมานานขนาดนี้ แฟนนายคงหลับคาจานส้มตำไปแล้วมั้ง” บักเติ่งมัดมือชก

“บ้า... ปอนด์ไม่ใช่แฟนเรา ที่เราออกมาเดินเล่นตรงนี้ เผื่อเขาจะได้อยู่กับคนของเขาสองต่อสอง”

“อ๋อ... เข้าใจละ ผมขอตัวก่อน แล้วค่อยคุยกันทางไลน์”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่