หาก ไดอาน่า ยังคงเป็นผู้ช่วยครูโรงเรียนอนุบาล
ตอนนี้เธออาจจะได้อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น
มีความสุขแบบที่ควรจะเป็น
แต่... โชคชะตาได้เล่นตลกกับนางฟ้าขี้อายคนนี้
-----------------------------------
https://www.bbc.com/thai/62734326
เจ้าหญิงไดอานา : รำลึกชีวิตเจ้าหญิงแห่งเวลส์ผ่านภาพถ่ายในโอกาสครบ 25 ปีการสิ้นพระชนม์
ไดอานา อดีตเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษ เคยทรงเป็นที่รู้จักในฐานะ "ผู้หญิงที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก"
ในโอกาสครบ 25 ปีการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ บีบีซีพาย้อนชมชีวิตของเจ้าหญิงไดอานาผ่านเลนส์กล้อง และภาพถ่ายที่เปี่ยมด้วยความหมายต่าง ๆ
ไดอานา ฟรานซิส สเปนเซอร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 1961 ที่คฤหาสน์พาร์กเฮาส์ ใกล้กับซานดริงแฮม มณฑลนอร์ฟอล์ก
เธอเป็นบุตรสาวคนเล็กของวิสเคานต์และวิสเคานเตสอัลธอร์ปในขณะนั้น
หลังจากพ่อและแม่ของเธอหย่ากัน เธอมักจะต้องเดินทางไปมาระหว่างบ้านของพวกเขาในมณฑลนอร์แทมป์ตันเชียร์ และสกอตแลนด์
เลดี้ไดอานาได้รับการศึกษาในโรงเรียนเตรียมในเมืองนอร์ฟอร์ก เมื่ออายุได้ 9 ปี จึงได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนริดเดิลสเวิร์ธ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วนใกล้เมืองดิส และเมื่ออายุได้ 12 ปี ได้เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเวสต์ฮีธเกิร์ลส์สคูล เมืองเซเว่นโอ๊กส์ มณฑลเคนต์
ปี 1978 ไดอานาเดินทางกลับลอนดอน หลังจากเรียนที่โรงเรียนการเรือนอังสติตูอัลแป็งวิเดมาแน็ต เมืองรูฌมงต์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้เพียงหนึ่งภาคการศึกษา
หลังจากเรียนจบ เธอทำงานในกรุงลอนดอน งานแรกคือพี่เลี้ยงเด็ก และต้องเป็นแม่ครัวบ้างเป็นครั้งคราว จากนั้นได้ไปเป็นผู้ช่วยที่โรงเรียนอนุบาลยังอิงแลนด์ในย่านไนต์สบริดจ์
มีข่าวลือแพร่สะพัดว่ามิตรภาพของเธอกับเจ้าชายแห่งเวลส์กำลังเบ่งบานและอาจจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านั้น สื่อมวลชนต่างติดตามเธอทุกฝีก้าว และ ทางสำนักพระราชวังพยายามอย่างหนักในการลดกระแสข่าวลง
วันที่ 24 ก.พ. 1981 การหมั้นหมายเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ แหวนหมั้นมีมูลค่าเกือบ 30,000 ปอนด์ หรือราว 1.28 ล้านบาท เป็นแหวนไพลินล้อมเพชร 14 เม็ด
ปัจจุบัน แหวนไพลินดังกล่าวสืบทอดต่อมายังแคเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่ทรงสวมใส่ต่อ
เลดี้ไดอานา เดินไปตามทางเดินพร้อมกับเอิร์ล สเปนเซอร์ บิดาของเธอในมหาวิหารเซนต์พอล เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 1981 ในชุดเจ้าสาวที่ได้รับการออกแบบโดยเดวิด และเอลิซาเบธ เอมานูเอล ชุดมีชายยาว 20 เมตร และทำจากผ้าแพรสีงาช้างและลูกไม้โบราณ สื่อรายงานว่า พระราชพิธีอภิเสกสมรสเป็น "การแต่งงานแห่งศตวรรษ"
ขณะเข้าพิธีอภิเษกสมรส ไดอานามีอายุเพียง 20 ปี แม่ของเธอเฝ้ามองลูกสาวที่เดินคล้องแขนพ่อในพิธี เพื่อเตรียมกล่าวคำสาบาน เธอแสดงให้เห็นถึงความประหม่าเพียงแค่ครั้งเดียว ขณะที่พยายามกล่าวพระนามเต็มของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้ถูกต้อง
มีผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกชมการถ่ายทอดพิธีอภิเษกสมรสผ่านทางโทรทัศน์ และมีผู้คนมาเฝ้ารับเสด็จอยู่ตามเส้นทางจากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังโบสถ์เซนต์พอลราว 600,000 คน
เจ้าหญิงไดอานาทรงปรารถนาจะมีครอบครัวขนาดใหญ่ ภายในเวลา 1 ปีหลังพิธีอภิเษกสมรส พระองค์ทรงให้กำเนิดเจ้าชายวิลเลียม เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 1982 ซึ่งทรงมีฐานะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2
เจ้าหญิงไดอานามีพระประสงค์จะอบรมสั่งสอนพระโอรสเยี่ยงสามัญชน เจ้าชายวิลเลียมจึงกลายเป็นรัชทายาทชายพระองค์แรกที่เข้าศึกษาในโรงเรียนอนุบาล
วันที่ 15 ก.ย. 1984 เจ้าชายวิลเลียมทรงมีพระอนุชา ซึ่งทรงมีพระนามเต็มว่า "เฮนรี ชาร์ลส์ อัลเบิร์ต เดวิด" แต่มีการประกาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นให้ทรงเป็นที่รู้จักในพระนาม "แฮร์รี"
เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีทรงเรียนหนังสือร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ โดยไม่มีครูมาถวายการสอนเป็นการส่วนพระองค์
เจ้าหญิงไดอานาทรงอบรมเลี้ยงดูพระโอรสทั้งสองด้วยความรัก
เจ้าชายแฮร์รีเคยตรัสว่า เจ้าหญิงไดอานาทรงเป็น "หนึ่งในแม่ที่ซุกซนที่สุด" ก่อนเสริมว่า "แต่เธอก็มอบความรักให้เราอย่างล้นเหลือ"
ในการเสด็จเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการครั้งแรก เจ้าหญิงไดอานาทรงเต้นรำกับจอห์น ทราโวลตา นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังที่ทำเนียบขาว โดยนับตั้งแต่ทรงออกงานพร้อมกับว่าที่พระสวามีในขณะนั้นเพื่อประกาศเรื่องการหมั้น ฉลองพระองค์ของเจ้าหญิงไดอานาก็ตกเป็นที่สนใจมาโดยตลอด
งานการกุศลของเจ้าหญิงไดอานาทำให้ประชาชนชื่นชอบพระองค์เพิ่มมากขึ้น พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับความสนใจ สุนทรพจน์ของพระองค์ตรงไปตรงมา และช่วยขจัดอคติหลายอย่าง
การแสดงออกง่าย ๆ อย่างการจับมือกับผู้ป่วยเอดส์ทำให้สาธารณชนเชื่อว่าการพูดคุยพบปะกันทางสังคมไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี
เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจร่วมกันจำนวนมากและเสด็จเยือนต่างประเทศด้วยกัน แต่ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ประชาชนก็รับรู้เรื่องที่ทั้งสองพระองค์ทรงไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
การเสด็จเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในปี 1992 เจ้าหญิงไดอานาประทับนั่งเพียงลำพังที่ด้านนอกทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ เป็นการบอกด้วยภาพว่า แม้ว่าทั้งสองพระองค์จะยังคงอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทางการ แต่อันที่จริงแล้วทั้งสองพระองค์ทรงแยกทางกันแล้ว
เจ้าหญิงไดอานาทรงรักษามิตรภาพอันใกล้ชิดกับแม่ชีเทเรซาตลอดช่วงชีวิตของพระองค์ ในภาพนี้เป็นการเสด็จเยือนสำนักแม่ชีในกรุงโรมของอิตาลี เจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์ในวันที่ 31 ส.ค. 1997 ก่อนหน้าที่แม่ชีเทเรซาจะเสียชีวิตเพียง 5 วัน
การหย่าร้างของเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เสร็จสิ้นในวันที่ 28 ส.ค. 1996
พระองค์ทรงกลายเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการว่า ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ในเดือน มิ.ย. ปีต่อมา พระองค์ทรงนำฉลองพระองค์ที่เคยปรากฏบนหน้านิตยสารทั่วโลก 79 ชุดออกประมูล การประมูลนี้ได้เงินสำหรับการกุศลราว 3.5 ล้านปอนด์ หรือราว 150 ล้านบาท และดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
วันที่ 31 ส.ค. 1997 หลังจากเสวยพระกระยาหารค่ำที่โรงแรมริตซ์ปารีสกับนายโดดี อัล ฟา
ลูกชายของนายโมฮาเหม็ด อัล ฟา
นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ทั้งคู่เดินทางออกจากภัตราคารด้วยรถลิมูซีน และถูกช่างภาพขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามเพื่อเก็บภาพของพระองค์กับพระสหายใหม่ การไล่ตามถ่ายภาพนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่อุโมงค์ใต้ถนน
ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนมาเฝ้ารอตามเส้นทางเคลื่อนพระศพเจ้าหญิงไดอานาไปยังโบสถ์เวสต์มินสเตอร์ และเส้นทางการอัญเชิญพระศพไปยังบ้านของตระกูลสเปนเซอร์ในมณฑลนอร์แทมป์ตันเชียร์ พระโอรสทั้งสองพระองค์ได้แก่เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี พร้อมกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์, ดยุคแห่งเอดินบะระ และเอิร์ล สเปนเซอร์ พระอนุชาของเจ้าหญิงไดอานา ทรงร่วมในขบวนด้วย
และแม้จะผ่านมา 25 ปี หลังการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เจ้าหญิงไดอานายังทรงเป็นที่จดจำในฐานะ "เจ้าหญิงของปวงชน"
เลดี้ ไดอาน่า เริ่มต้นด้วย "การแต่งงานแห่งศตวรรษ" และจบลงด้วย "การสิ้นพระชนม์แห่งศตวรรษ"
ตอนนี้เธออาจจะได้อยู่กับครอบครัวที่อบอุ่น
มีความสุขแบบที่ควรจะเป็น
แต่... โชคชะตาได้เล่นตลกกับนางฟ้าขี้อายคนนี้
-----------------------------------
https://www.bbc.com/thai/62734326
เจ้าหญิงไดอานา : รำลึกชีวิตเจ้าหญิงแห่งเวลส์ผ่านภาพถ่ายในโอกาสครบ 25 ปีการสิ้นพระชนม์
ไดอานา อดีตเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อังกฤษ เคยทรงเป็นที่รู้จักในฐานะ "ผู้หญิงที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในโลก"
ในโอกาสครบ 25 ปีการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ บีบีซีพาย้อนชมชีวิตของเจ้าหญิงไดอานาผ่านเลนส์กล้อง และภาพถ่ายที่เปี่ยมด้วยความหมายต่าง ๆ
ไดอานา ฟรานซิส สเปนเซอร์ เกิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 1961 ที่คฤหาสน์พาร์กเฮาส์ ใกล้กับซานดริงแฮม มณฑลนอร์ฟอล์ก
เธอเป็นบุตรสาวคนเล็กของวิสเคานต์และวิสเคานเตสอัลธอร์ปในขณะนั้น
หลังจากพ่อและแม่ของเธอหย่ากัน เธอมักจะต้องเดินทางไปมาระหว่างบ้านของพวกเขาในมณฑลนอร์แทมป์ตันเชียร์ และสกอตแลนด์
เลดี้ไดอานาได้รับการศึกษาในโรงเรียนเตรียมในเมืองนอร์ฟอร์ก เมื่ออายุได้ 9 ปี จึงได้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนริดเดิลสเวิร์ธ ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำหญิงล้วนใกล้เมืองดิส และเมื่ออายุได้ 12 ปี ได้เข้าศึกษาต่อในโรงเรียนเวสต์ฮีธเกิร์ลส์สคูล เมืองเซเว่นโอ๊กส์ มณฑลเคนต์
ปี 1978 ไดอานาเดินทางกลับลอนดอน หลังจากเรียนที่โรงเรียนการเรือนอังสติตูอัลแป็งวิเดมาแน็ต เมืองรูฌมงต์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้เพียงหนึ่งภาคการศึกษา
หลังจากเรียนจบ เธอทำงานในกรุงลอนดอน งานแรกคือพี่เลี้ยงเด็ก และต้องเป็นแม่ครัวบ้างเป็นครั้งคราว จากนั้นได้ไปเป็นผู้ช่วยที่โรงเรียนอนุบาลยังอิงแลนด์ในย่านไนต์สบริดจ์
มีข่าวลือแพร่สะพัดว่ามิตรภาพของเธอกับเจ้าชายแห่งเวลส์กำลังเบ่งบานและอาจจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปมากกว่านั้น สื่อมวลชนต่างติดตามเธอทุกฝีก้าว และ ทางสำนักพระราชวังพยายามอย่างหนักในการลดกระแสข่าวลง
วันที่ 24 ก.พ. 1981 การหมั้นหมายเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ แหวนหมั้นมีมูลค่าเกือบ 30,000 ปอนด์ หรือราว 1.28 ล้านบาท เป็นแหวนไพลินล้อมเพชร 14 เม็ด
ปัจจุบัน แหวนไพลินดังกล่าวสืบทอดต่อมายังแคเธอรีน ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ที่ทรงสวมใส่ต่อ
เลดี้ไดอานา เดินไปตามทางเดินพร้อมกับเอิร์ล สเปนเซอร์ บิดาของเธอในมหาวิหารเซนต์พอล เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 1981 ในชุดเจ้าสาวที่ได้รับการออกแบบโดยเดวิด และเอลิซาเบธ เอมานูเอล ชุดมีชายยาว 20 เมตร และทำจากผ้าแพรสีงาช้างและลูกไม้โบราณ สื่อรายงานว่า พระราชพิธีอภิเสกสมรสเป็น "การแต่งงานแห่งศตวรรษ"
ขณะเข้าพิธีอภิเษกสมรส ไดอานามีอายุเพียง 20 ปี แม่ของเธอเฝ้ามองลูกสาวที่เดินคล้องแขนพ่อในพิธี เพื่อเตรียมกล่าวคำสาบาน เธอแสดงให้เห็นถึงความประหม่าเพียงแค่ครั้งเดียว ขณะที่พยายามกล่าวพระนามเต็มของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ให้ถูกต้อง
มีผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกชมการถ่ายทอดพิธีอภิเษกสมรสผ่านทางโทรทัศน์ และมีผู้คนมาเฝ้ารับเสด็จอยู่ตามเส้นทางจากพระราชวังบักกิงแฮมไปยังโบสถ์เซนต์พอลราว 600,000 คน
เจ้าหญิงไดอานาทรงปรารถนาจะมีครอบครัวขนาดใหญ่ ภายในเวลา 1 ปีหลังพิธีอภิเษกสมรส พระองค์ทรงให้กำเนิดเจ้าชายวิลเลียม เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 1982 ซึ่งทรงมีฐานะเป็นรัชทายาทลำดับที่ 2
เจ้าหญิงไดอานามีพระประสงค์จะอบรมสั่งสอนพระโอรสเยี่ยงสามัญชน เจ้าชายวิลเลียมจึงกลายเป็นรัชทายาทชายพระองค์แรกที่เข้าศึกษาในโรงเรียนอนุบาล
วันที่ 15 ก.ย. 1984 เจ้าชายวิลเลียมทรงมีพระอนุชา ซึ่งทรงมีพระนามเต็มว่า "เฮนรี ชาร์ลส์ อัลเบิร์ต เดวิด" แต่มีการประกาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นให้ทรงเป็นที่รู้จักในพระนาม "แฮร์รี"
เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีทรงเรียนหนังสือร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ โดยไม่มีครูมาถวายการสอนเป็นการส่วนพระองค์
เจ้าหญิงไดอานาทรงอบรมเลี้ยงดูพระโอรสทั้งสองด้วยความรัก
เจ้าชายแฮร์รีเคยตรัสว่า เจ้าหญิงไดอานาทรงเป็น "หนึ่งในแม่ที่ซุกซนที่สุด" ก่อนเสริมว่า "แต่เธอก็มอบความรักให้เราอย่างล้นเหลือ"
ในการเสด็จเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการครั้งแรก เจ้าหญิงไดอานาทรงเต้นรำกับจอห์น ทราโวลตา นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังที่ทำเนียบขาว โดยนับตั้งแต่ทรงออกงานพร้อมกับว่าที่พระสวามีในขณะนั้นเพื่อประกาศเรื่องการหมั้น ฉลองพระองค์ของเจ้าหญิงไดอานาก็ตกเป็นที่สนใจมาโดยตลอด
งานการกุศลของเจ้าหญิงไดอานาทำให้ประชาชนชื่นชอบพระองค์เพิ่มมากขึ้น พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้รับความสนใจ สุนทรพจน์ของพระองค์ตรงไปตรงมา และช่วยขจัดอคติหลายอย่าง
การแสดงออกง่าย ๆ อย่างการจับมือกับผู้ป่วยเอดส์ทำให้สาธารณชนเชื่อว่าการพูดคุยพบปะกันทางสังคมไม่มีความเสี่ยงในการติดเชื้อเอชไอวี
เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ทรงปฏิบัติพระกรณียกิจร่วมกันจำนวนมากและเสด็จเยือนต่างประเทศด้วยกัน แต่ในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ประชาชนก็รับรู้เรื่องที่ทั้งสองพระองค์ทรงไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกัน
การเสด็จเยือนอินเดียอย่างเป็นทางการในปี 1992 เจ้าหญิงไดอานาประทับนั่งเพียงลำพังที่ด้านนอกทัชมาฮาล อนุสรณ์สถานแห่งความรักอันยิ่งใหญ่ เป็นการบอกด้วยภาพว่า แม้ว่าทั้งสองพระองค์จะยังคงอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทางการ แต่อันที่จริงแล้วทั้งสองพระองค์ทรงแยกทางกันแล้ว
เจ้าหญิงไดอานาทรงรักษามิตรภาพอันใกล้ชิดกับแม่ชีเทเรซาตลอดช่วงชีวิตของพระองค์ ในภาพนี้เป็นการเสด็จเยือนสำนักแม่ชีในกรุงโรมของอิตาลี เจ้าหญิงไดอานาสิ้นพระชนม์ในวันที่ 31 ส.ค. 1997 ก่อนหน้าที่แม่ชีเทเรซาจะเสียชีวิตเพียง 5 วัน
การหย่าร้างของเจ้าหญิงไดอานาและเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เสร็จสิ้นในวันที่ 28 ส.ค. 1996
พระองค์ทรงกลายเป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการว่า ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ในเดือน มิ.ย. ปีต่อมา พระองค์ทรงนำฉลองพระองค์ที่เคยปรากฏบนหน้านิตยสารทั่วโลก 79 ชุดออกประมูล การประมูลนี้ได้เงินสำหรับการกุศลราว 3.5 ล้านปอนด์ หรือราว 150 ล้านบาท และดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่
วันที่ 31 ส.ค. 1997 หลังจากเสวยพระกระยาหารค่ำที่โรงแรมริตซ์ปารีสกับนายโดดี อัล ฟา ลูกชายของนายโมฮาเหม็ด อัล ฟา นักธุรกิจผู้มั่งคั่ง ทั้งคู่เดินทางออกจากภัตราคารด้วยรถลิมูซีน และถูกช่างภาพขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ตามเพื่อเก็บภาพของพระองค์กับพระสหายใหม่ การไล่ตามถ่ายภาพนำไปสู่โศกนาฏกรรมที่อุโมงค์ใต้ถนน
ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนมาเฝ้ารอตามเส้นทางเคลื่อนพระศพเจ้าหญิงไดอานาไปยังโบสถ์เวสต์มินสเตอร์ และเส้นทางการอัญเชิญพระศพไปยังบ้านของตระกูลสเปนเซอร์ในมณฑลนอร์แทมป์ตันเชียร์ พระโอรสทั้งสองพระองค์ได้แก่เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รี พร้อมกับเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์, ดยุคแห่งเอดินบะระ และเอิร์ล สเปนเซอร์ พระอนุชาของเจ้าหญิงไดอานา ทรงร่วมในขบวนด้วย
และแม้จะผ่านมา 25 ปี หลังการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เจ้าหญิงไดอานายังทรงเป็นที่จดจำในฐานะ "เจ้าหญิงของปวงชน"