อีกไม่กี่สัปดาห์เราก็จะได้ดูกันแล้วกับภาพยนตร์เรื่อง Diana ถือว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่เฝ้ารอคอย และแอบหวังว่าจะทำออกมาได้สวยงามน่าประทับใจ แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็คงต้องลุ้นต่อไป สำหรับนาโอมิ ผมไม่ห่วง เพราะจากภาพทีเซอร์ เธอก็สวยสง่า และแต่งออกมาได้คล้ายท่านอยู่มาก ถ้าจะห่วง ก็ขอห่วงตรงที่ภาพยนตร์เวอร์ชั่นนี้ เลื่อกถ่ายทอดเหตุการณ์ช่วง 2 ปีก่อนสิ้นพระชนม์นี่แหละ มีหลายประเด็นเหลือเกินที่ค่อนข้างอ่อนไหว แต่เพราะอย่างนี้ไม่ใช่หรือที่กระตุ้นให้เราอยากดูเพราะอยากรู้ว่าทีมผู้สร้างจะนำเสนอออกมายังไง
ตัวอย่าง
http://www.majortrailers.com/detail.php?tid=1196
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวสองปีสุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ จากชีวิตจริงของเจ้าหญิงไดอาน่า ซึ่งรับบทโดยดาราสาวผู้เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วถึง 2 ครั้ง อย่างนาโอมิ วัตส์ (King Kong, The Impossibles , 21 Grams)ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวของเธอทั้งในแง่ของพระราชกรณียกิจต่างๆ รวมทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายแพทย์ฮัสนัต ข่าน (นาวีน แอนดริวส์จาก The English Patient,Lost)และโดดี อัลฟา (แคส อันวาร์) ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความพยายามในการตามหาความสุขของเจ้าหญิงที่มีคนรักมากที่สุดในโลก รวมทั้งยังเปิดเผยความลับในชีวิตจริงของเจ้าหญิงผู้ล่วงลับพระองค์นี้
เกี่ยวกับภาพยนตร์
หัวใจหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเปลี่ยนผ่านในช่วงชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่า จากผู้หญิงที่หดหู่ ซึมเศร้า สู่หญิงสาวที่ได้รับการเติมเต็มในชีวิตส่วนตัว มันคือเรื่องราวความรักที่แสนสวยงามระหว่างไดอาน่าและข่าน " มันเป็นเรื่องสำคัญที่สมควรจะเปิดเผยให้ทุกคนรู้ เพราะเรื่องราวของพวกเขาทั้งคู่เป็นอะไรที่จริงใจ มันเหมือนกับเทพนิยายความรักของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มาจากอีกวัฒนธรรมและต้องมาตกหลุมรักกับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าโด่งดังที่สุดในโลก เป็นเรื่องราวที่สอนอะไรพวกเราได้หลายๆอย่างครับ ” ซึ่งเมื่อได้รับการถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์แล้ว ซึ่งที่ผู้สร้างตั้งใจก็คือการถ่ายทอดด้านที่แตกต่างกันออกไปของตัวละครตัวนี้ออกมาให้ได้มากที่สุด ทั้งความเป็นไอคอน ความโดดเดี่ยว ความวิตกกังวล ที่ทำให้ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งทีมผู้สร้าง พยายามที่จะถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านี้ออกมาให้ได้ ผ่านฉากต่างๆ “เราพยายามแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวของเธอ ผ่านช่วงเวลาส่วนตัวที่เธอใช้อยู่ในอพาร์ตเมนต์เพียงลำพัง ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับชีวิตของเธอที่ปรากฏสู่สาธารณะในฐานะเจ้าหญิง และเมื่อทันทีที่เธอได้พบข่านสิ่งต่างๆก็เปลี่ยนไป” เฮิร์ชบีเกลกล่าว
เฮิร์ชบีเกลเชื่อว่าทั้งข่านและไดอาน่า รู้ในทันทีว่าพวกเขาทั้งคู่คือคู่แท้ของกันและกัน “พวกเขามีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนกัน ข่ายเป็นหมด ส่วนไดอาน่าก็มีพลังในการรักษาเยียวยาผู้คนอยู่ในตัวเธอ" ซึ่งเรื่องนี้ทีมผู้อำนวยการสร้างก็เห็นอย่างเดียวกัน “ฮัสนัตคือศัลยกรรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจผู้อุทิศตน ในขณะที่เจ้าหญิงไดอาน่าก็คือเจ้าหญิงที่แสนดี ที่คอยอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้คน นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดพวกเขาให้เข้าหากัน ” น่าเสียดายที่เทพนิยายแห่งความรักครั้งนี้ต้องจบลงอย่างแสนเศร้า หลังจากนั้นฮัสนัสได้เปิดโรงพยาบาลขึ้นในปากีสถาน ที่ซึ่งถ้าหากเจ้าหญิงไดอาน่ายังมีชีวิตอยู่ เธอคงได้อยู่เคียงข้างเขาที่นั่นในฐานะภรรยาอย่างเต็มตัว
การเฟ้นหาผู้กำกับ : โอลิเวอร์ เฮิร์ชบีเกล
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดต่อมาก็คือการค้นหาผู้กำกับที่จะมารับหน้าที่ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ "พวกเราได้ทำการคัดเลือกผู้กำกับกันครับ และเราต้องระดมความคิดกันอยางมาก เพื่อให้การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง” ซึ่งทำให้ท้ายที่สุด ตัวเลือกที่พวกเขาเลือกก็คือ โอลิเวอร์ เฮิร์ชบีเกล ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วจากภาพยนตร์เรื่อง DOWNFALL โดยทีมผู้อำนวยการสร้างได้เห็นถึงความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ของเขาจากผลงานหลายๆเรื่องที่ผ่านมา "เขาเคยสร้างภาพยนตร์ชิ้นเยี่ยมที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของบุคคลสำคัญมาแล้วซึ่งเจ้าหญิงไดอาน่าก็คือไอคอนที่สำคัญอีกคนหนึ่งเช่นกัน ผมคิดว่าเขาคือผู้กำกับที่สมบูรณ์แบบในการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ” เบิร์นชไตน์กล่าว
โดยตัวของเฮิร์ชบีเกลเองนั้นพอจะรับรู้เรื่องราวของเข้าหญิงพระองค์นี้มาบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องที่เขารู้สึกสนใจนัก “ผมไม่ได้สนใจจะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเจ้าหญิงไดอาน่าในตอนแรกครับ จนกระทั่งมีคนบอกผมว่า สตีเฟน เจฟฟรีย์เป็นนักเขียนบทที่มีความสามารถมาก ผมจึงเริ่มอ่านและก็รู้สึกประหลาดใจสุดๆ แค่เพียง 10 หน้าผ่านไปเท่านั้นผมก็รู้สึกประทับใจมากๆ” นอกจากนี้ ยังมีบทของภาพยนตร์ในส่วนอื่นๆที่ถูกเพิ่มเติมเข้าไปด้วยความคิดเห็นของ เฮิร์ชบีเกลอีกด้วย “เขาอยากจะแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวเกี่ยวกับสื่อมวลชนและความปลอดภัย ซึ่งมันช่วยแสดงให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวของเจ้าหญิงไดอาน่าได้ดีครับ” เจฟฟรีย์กล่าว
โลกรู้จักเธอเพราะความรัก
โลกสนใจเธอเพราะความรัก
โลกสูญเสียเธอเพราะความรัก
แต่น้อยคนนัก ที่จะรู้จัก รักแท้ของเธอ
Cr.
http://www.majorcineplex.com
เจ้าหญิงไดอาน่า เพราะความรักเราจึงได้รู้จักเธอ
ตัวอย่าง http://www.majortrailers.com/detail.php?tid=1196
เนื้อเรื่อง
เรื่องราวสองปีสุดท้ายก่อนสิ้นพระชนม์ จากชีวิตจริงของเจ้าหญิงไดอาน่า ซึ่งรับบทโดยดาราสาวผู้เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วถึง 2 ครั้ง อย่างนาโอมิ วัตส์ (King Kong, The Impossibles , 21 Grams)ภาพยนตร์ถ่ายทอดเรื่องราวของเธอทั้งในแง่ของพระราชกรณียกิจต่างๆ รวมทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ส่วนตัวกับนายแพทย์ฮัสนัต ข่าน (นาวีน แอนดริวส์จาก The English Patient,Lost)และโดดี อัลฟา (แคส อันวาร์) ซึ่งจะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความพยายามในการตามหาความสุขของเจ้าหญิงที่มีคนรักมากที่สุดในโลก รวมทั้งยังเปิดเผยความลับในชีวิตจริงของเจ้าหญิงผู้ล่วงลับพระองค์นี้
เกี่ยวกับภาพยนตร์
หัวใจหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการเปลี่ยนผ่านในช่วงชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่า จากผู้หญิงที่หดหู่ ซึมเศร้า สู่หญิงสาวที่ได้รับการเติมเต็มในชีวิตส่วนตัว มันคือเรื่องราวความรักที่แสนสวยงามระหว่างไดอาน่าและข่าน " มันเป็นเรื่องสำคัญที่สมควรจะเปิดเผยให้ทุกคนรู้ เพราะเรื่องราวของพวกเขาทั้งคู่เป็นอะไรที่จริงใจ มันเหมือนกับเทพนิยายความรักของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มาจากอีกวัฒนธรรมและต้องมาตกหลุมรักกับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าโด่งดังที่สุดในโลก เป็นเรื่องราวที่สอนอะไรพวกเราได้หลายๆอย่างครับ ” ซึ่งเมื่อได้รับการถ่ายทอดออกมาในรูปแบบของภาพยนตร์แล้ว ซึ่งที่ผู้สร้างตั้งใจก็คือการถ่ายทอดด้านที่แตกต่างกันออกไปของตัวละครตัวนี้ออกมาให้ได้มากที่สุด ทั้งความเป็นไอคอน ความโดดเดี่ยว ความวิตกกังวล ที่ทำให้ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยความยากลำบาก ซึ่งทีมผู้สร้าง พยายามที่จะถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านี้ออกมาให้ได้ ผ่านฉากต่างๆ “เราพยายามแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวของเธอ ผ่านช่วงเวลาส่วนตัวที่เธอใช้อยู่ในอพาร์ตเมนต์เพียงลำพัง ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับชีวิตของเธอที่ปรากฏสู่สาธารณะในฐานะเจ้าหญิง และเมื่อทันทีที่เธอได้พบข่านสิ่งต่างๆก็เปลี่ยนไป” เฮิร์ชบีเกลกล่าว
เฮิร์ชบีเกลเชื่อว่าทั้งข่านและไดอาน่า รู้ในทันทีว่าพวกเขาทั้งคู่คือคู่แท้ของกันและกัน “พวกเขามีอะไรหลายๆอย่างที่เหมือนกัน ข่ายเป็นหมด ส่วนไดอาน่าก็มีพลังในการรักษาเยียวยาผู้คนอยู่ในตัวเธอ" ซึ่งเรื่องนี้ทีมผู้อำนวยการสร้างก็เห็นอย่างเดียวกัน “ฮัสนัตคือศัลยกรรมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรคหัวใจผู้อุทิศตน ในขณะที่เจ้าหญิงไดอาน่าก็คือเจ้าหญิงที่แสนดี ที่คอยอุทิศตนเพื่อช่วยเหลือผู้คน นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดพวกเขาให้เข้าหากัน ” น่าเสียดายที่เทพนิยายแห่งความรักครั้งนี้ต้องจบลงอย่างแสนเศร้า หลังจากนั้นฮัสนัสได้เปิดโรงพยาบาลขึ้นในปากีสถาน ที่ซึ่งถ้าหากเจ้าหญิงไดอาน่ายังมีชีวิตอยู่ เธอคงได้อยู่เคียงข้างเขาที่นั่นในฐานะภรรยาอย่างเต็มตัว
การเฟ้นหาผู้กำกับ : โอลิเวอร์ เฮิร์ชบีเกล
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดต่อมาก็คือการค้นหาผู้กำกับที่จะมารับหน้าที่ในการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ "พวกเราได้ทำการคัดเลือกผู้กำกับกันครับ และเราต้องระดมความคิดกันอยางมาก เพื่อให้การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง” ซึ่งทำให้ท้ายที่สุด ตัวเลือกที่พวกเขาเลือกก็คือ โอลิเวอร์ เฮิร์ชบีเกล ผู้กำกับฝีมือเยี่ยมที่เคยเข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้วจากภาพยนตร์เรื่อง DOWNFALL โดยทีมผู้อำนวยการสร้างได้เห็นถึงความสามารถในการสร้างภาพยนตร์ของเขาจากผลงานหลายๆเรื่องที่ผ่านมา "เขาเคยสร้างภาพยนตร์ชิ้นเยี่ยมที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของบุคคลสำคัญมาแล้วซึ่งเจ้าหญิงไดอาน่าก็คือไอคอนที่สำคัญอีกคนหนึ่งเช่นกัน ผมคิดว่าเขาคือผู้กำกับที่สมบูรณ์แบบในการกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ครับ” เบิร์นชไตน์กล่าว
โดยตัวของเฮิร์ชบีเกลเองนั้นพอจะรับรู้เรื่องราวของเข้าหญิงพระองค์นี้มาบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องที่เขารู้สึกสนใจนัก “ผมไม่ได้สนใจจะสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเจ้าหญิงไดอาน่าในตอนแรกครับ จนกระทั่งมีคนบอกผมว่า สตีเฟน เจฟฟรีย์เป็นนักเขียนบทที่มีความสามารถมาก ผมจึงเริ่มอ่านและก็รู้สึกประหลาดใจสุดๆ แค่เพียง 10 หน้าผ่านไปเท่านั้นผมก็รู้สึกประทับใจมากๆ” นอกจากนี้ ยังมีบทของภาพยนตร์ในส่วนอื่นๆที่ถูกเพิ่มเติมเข้าไปด้วยความคิดเห็นของ เฮิร์ชบีเกลอีกด้วย “เขาอยากจะแสดงให้เห็นถึงเรื่องราวเกี่ยวกับสื่อมวลชนและความปลอดภัย ซึ่งมันช่วยแสดงให้เห็นถึงความโดดเดี่ยวของเจ้าหญิงไดอาน่าได้ดีครับ” เจฟฟรีย์กล่าว
โลกรู้จักเธอเพราะความรัก
โลกสนใจเธอเพราะความรัก
โลกสูญเสียเธอเพราะความรัก
แต่น้อยคนนัก ที่จะรู้จัก รักแท้ของเธอ
Cr.http://www.majorcineplex.com