คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19 ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 25 สิงหาคม 2564
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/393220738962923
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 18,417 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,102,368 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 15,953 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 146 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10 ราย
- ผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐสะสม 4,882 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 2,308 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 234,633 ราย)
เสียชีวิตรวม 10,085 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 297 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 903,015 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 21,186 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 189,268 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 18,261 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(4,139) ปริมณฑล (4,493) จังหวัดอื่น ๆ (9,629)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 10 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่ภูเก็ต(2) สุราษฎร์ธานี(1) เชียงราย(1) นราธิวาส(1) สระแก้ว(2) ประจวบคีรีขันธ์(1) และ อยู่ระหว่างประสาน รพ. (2) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศลาว 1 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 4 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 1 ราย
- จากประเทศเมียนมา 1 ราย
- จากประเทศเนเธอร์แลนด์ 1 ราย
- จากประเทศอิสราเอล 1 ราย
- จากประเทศสหราชอาณาจักร 1 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 213.9 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.4 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.09 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 191.4 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.48)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 147,619 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 648,161 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 32.5 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 51,016 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 31.7 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.5
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 32 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 50 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 378,377 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,584 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 14,622 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,593,602 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 20,837 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 90,107 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,821 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 12,957 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 8,342 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 10,811 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,014 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4094536304005244
แถลงความคืบหน้า สถานการณ์ โรคไวรัสโควิด-19
ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 12.30 น.
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2564 เวลา 13.30 น.
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 25 สิงหาคม 2564
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/393220738962923
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รายงานข้อมูลสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
ณ วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2564
ประเทศไทย
วันนี้มีผู้ติดเชื้อ 18,417 ราย รวมผู้ติดเชื้อสะสม 1,102,368 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯเพิ่มขึ้น 15,953 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 146 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น 10 ราย
- ผู้ติดเชื้อในสถานกักกันของรัฐสะสม 4,882 ราย
- เป็นผู้ติดเชื้อจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกวันนี้ 2,308 ราย (ยอดผู้ติดเชื้อสะสมจากการตรวจคัดกรองเชิงรุกอยู่ที่ 234,633 ราย)
เสียชีวิตรวม 10,085 ราย(วันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 297 ราย)
รักษาหายป่วยแล้ว 903,015 ราย (มีผู้ป่วยกลับบ้านเพิ่มขึ้น 21,186 ราย)
รักษาอยู่ในโรงพยาบาล 189,268 ราย
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ (ไม่รวมเรือนจำ) 18,261 ราย มีรายละเอียดดังนี้ จากกรุงเทพฯ(4,139) ปริมณฑล (4,493) จังหวัดอื่น ๆ (9,629)
สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เพิ่มขึ้นในวันนี้ 10 รายและเข้า Quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่ภูเก็ต(2) สุราษฎร์ธานี(1) เชียงราย(1) นราธิวาส(1) สระแก้ว(2) ประจวบคีรีขันธ์(1) และ อยู่ระหว่างประสาน รพ. (2) มีรายละเอียดดังนี้
- จากประเทศลาว 1 ราย
- จากประเทศกัมพูชา 4 ราย
- จากประเทศมาเลเซีย 1 ราย
- จากประเทศเมียนมา 1 ราย
- จากประเทศเนเธอร์แลนด์ 1 ราย
- จากประเทศอิสราเอล 1 ราย
- จากประเทศสหราชอาณาจักร 1 ราย
สถานการณ์โลกในวันนี้
- ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลก 213.9 ล้านราย มีจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมกว่า 4.4 ล้านราย(คิดเป็นร้อยละ 2.09 ของจำนวนผู้ติดเชื้อ) ในขณะที่ผู้รักษาหายมีจำนวน 191.4 ล้านราย (คิดเป็นร้อยละ 89.48)
- สหรัฐอเมริกา มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 147,619 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 1 ของโลก อยู่ที่ 648,161 ราย
- อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทะลุ 32.5 ล้านรายแล้ว โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ 51,016 ราย ทั้งนี้ยอดผู้รักษาหายในอินเดียอยู่ที่ 31.7 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 97.5
- ไทยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่อันดับ 32 และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่อันดับ 50 ของโลก
สถานการณ์อาเซียนในวันนี้
- เมียนมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 378,377 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่เฉลี่ยในรอบ 7 วันที่ผ่านมาอยู่ที่ 2,584 ราย และมีจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 14,622 ราย
- มาเลเซีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 1,593,602 ราย โดยยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ อยู่ที่ 20,837 ราย
- กัมพูชา ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 90,107 ราย มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 1,821 ราย
- ลาว ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 12,957 ราย โดยกำลังรักษาอยู่ 8,342 ราย
- เวียดนาม ผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ที่ 10,811 ราย และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 9,014 ราย
ประมวลข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค และศูนย์ปฏิบัติการด้านนวัตกรรมการแพทย์ และการวิจัยและพัฒนาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
https://web.facebook.com/nrctofficial/posts/4094536304005244
แสดงความคิดเห็น
🇹🇭มาลาริน💚25ส.ค.ป่วย18,417คน รักษาหาย21,186คน เสียชีวิต297คน/ติดเชื้อ77จว.บางจวติดหลักหน่วย/รถฉีดวัคซีนกทม./สูตรไขว้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 18,417 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 18,271 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 146 ราย ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 1,073,505 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 1,102,368 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 297 ราย เสียชีวิตสะสม 10,085 ราย หายป่วยเพิ่ม 21,186 ราย หายป่วยสะสมระลอกเมษายน 875,589 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 189,268 ราย
https://www.sanook.com/news/8432358/
โควิดวันนี้" 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด กทม. 4,139 จับตาสมุทรปราการพุ่งสูง ฉะเชิงเทรา นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/956520
ภายนอกเป็นรถเมล์ แต่ข้างในครบครัน ทั้งทีมหมอ พยาบาล อุปกรณ์การแพทย์บริการฉีดวัคซีนเชิงรุกเข้าให้ใกล้ถึงบ้านได้มากที่สุด
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกทม.โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ "เตรียมพบ "รถฉีดวัคซีนถึงบ้าน" (BKK Mobile Vaccination Unit : BMV) การที่จะฉีดวัคซีนประชาชนทุกคนให้เร็วที่สุดเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด ทันทีที่ได้รับจัดสรรก็ได้ฉีดเชิงรุกในสถานที่เสี่ยง ในชุมชน ให้กับคนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง ทุกพื้นที่เขต เพื่อให้เข้าถึงคนที่ไม่สะดวกเดินทาง จึงได้จัดรถฉีดวัคซีนถึงบ้าน (BKK Mobile Vaccination Unit : BMV) ที่จะมีทีมหมอ พยาบาล นั่งรถไปฉีดเชิงรุกให้ถึงหน้าบ้านที่จะเคลื่อนที่ไปตามชุมชน ฉีดใกล้บ้านให้ได้มากที่สุด คาดว่าจะเริ่มฉีดได้สัปดาห์หน้านี้
รถฉีดวัคซีน ภายนอกจะเป็นรถโดยสารประจำทางทั่วไป แต่ภายในมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ครบครัน เช่น เครื่องวัดความดัน เครื่องวัดอุณหภูมิ ตู้เย็นสำหรับเก็บรักษาวัคซีน อุปกรณ์ปฐมพยาบาล เตียงสนาม เครื่องกระตุ้นหัวใจ (AED) สามารถฉีดวัคซีนได้อย่างปลอดภัยเช่นเดียวกับมาตรฐานในโรงพยาบาล และหลังการฉีดวัคซีนจะฆ่าเชื้อทุกวัน
การฉีดวัคซีนบนรถเช่นนี้ มีการนำมาใช้แล้วในประเทศต่างๆ เช่น จีน เวียดนาม กทม.ได้นำรูปแบบมาประยุกต์ให้เหมาะสม ซึ่งจะช่วยให้การฉีดวัคซีนของ กทม. คล่องตัวมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงในการเดินทางมาจุดฉีดสำหรับผู้ที่ต้องใช้รถโดยสารสาธารณะ และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มีข้อจำกัดในการเดินทาง หรือผู้ที่ไม่สะดวกในการไปฉีดวัคซีนตามเวลาปกติ เพราะรถบัสวัคซีนสามารถไปให้บริการตามย่านใกล้ๆที่ทำงานได้
กทม.กำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาด ทั้งการตรวจเชิงรุก และการฉีดวัคซีน"
https://siamrath.co.th/n/274571
สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด-19 สูตรต่างๆ สำหรับประชาชนไทย จะแบ่งเป็น....👇
- กลุ่มเป้าหมายประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุ 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป โดยจะมี 2 สูตร คือ สูตรที่ 1 เป็นวัคซีนซิโนแวค เข็มที่ 1 และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มที่ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์เป็นสูตรหลัก หรืออาจมีบางกรณีที่จำเป็นทางการแพทย์ หรือเข็มที่ 1 เป็นแอสตร้าฯอยู่แล้วก็จะเป็นสูตรที่ 2 คือ วัคซีนแอสตร้าฯ 2 เข็ม ห่างกัน 12 สัปดาห์
- กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มเด็กและวัยรุ่นอายุ 12-18 ปีที่มีโรคเรื้อรัง 7 โรค หญิงตั้งครรภ์ที่มีอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป จะได้วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์
- กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า แบ่งเป็น ....✏
1.ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม ครบ 2 เข็ม ให้วัคซีนไฟเซอร์ หรือแอสตร้าฯ กระตุ้น 1 เข็ม
2.ผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวค ซิโนฟาร์ม หรือแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม ให้วัคซีนไฟเซอร์ เข็มที่ 2 โดยกำหนดระยะห่างระหว่างโดสตามชนิดของวัคซีนเข็มที่ 1 เป็นหลัก
3.วัคซีนซิโนแวคเข็มแรก และตามด้วยแอสตร้าฯ เข็มที่ 2 ห่างกัน 3 สัปดาห์ (สูตรไขว้)
4.วัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ และ 5. วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ห่างกัน 12 สัปดาห์
นพ.เฉวตสรร กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ยังคงเน้นใน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยในรอบการจัดส่งถัดไป 20 ล้านโดสและเพิ่มอีก 10 ล้านโดสรวม 30 ล้านโดส ก็จะทยอยส่งมอบ ส่วนซิโนแวค 12 ล้านโดสก็จะมาไขว้กับแอสตร้าเซนเนก้า ได้พอดี ดังนั้น ผู้ที่สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัวไม่ต้องกังวลเรื่องการฉีดวัคซีน โดยการติดตามอาการไม่พึงประสงค์กรณีการฉีดไขว้ ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมของการฉีดวัคซีนแต่ละตัว แต่ละเข็ม ซึ่งเมื่อเข้ารับวัคซีนเจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์จะให้ข้อแนะนำเพราะบางสูตรอาจแต่ละคนมีอาการแพ้ที่แตกต่างกันนั่นเอง
https://siamrath.co.th/n/274662
คนป่วยรักษาในโรงพยาบาลลดลง เป็นสถานการณ์ที่ดีค่ะ....
ร่วมใจกันเอาชนะโควิดคนะคะ