เรื่องเล่านี้เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผู้เล่าทำงานเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ขอยืนยันว่าเจอกับตัวเองและน้องพนักงานอีกคนที่อยู่ด้วยกัน
โดยที่แม้จะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่ไม่มีแอลกอฮอล์ในร่างกายเลย
เราได้เข้ามาทำงานที่นี่ ได้ซัก 2ปี การทำงานของเราชาวโรงแรมก็จะมีการเวียนตำแหน่งบ้างและเวียนกะการทำงาน แน่นอนว่าต้องได้อยู่กะกลางคืนตารางงานที่หัวหน้าจัดให้ตลอด2 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยเจอเหตุการณ์หรือประสบการณ์แปลกเหนื่อธรรมชาติเลย หากช่วงเทศกาลจะมีพนักงานกะดึก 2 คน ปกติจะมีคนเดียวด้วยเป็นโรงแรมขนาดเล็ก แต่จะมีทีมพี่รปภ.อยู่ด้วย
วันนั้นเป็นวันที่ 13 เมษายน 2561 เราเข้างาน ช่วง 4 ทุ่ม กับน้องผู้หญิงอีกคน ชื่อน้องขวัญ เราสองคนสนิทกันดีอาจจะเพราะเข้างานช่วงเวลาใกล้ๆกันและนิสัยคล้ายกัน ขอบอกว่าน้องขวัญเป็นคนที่เรียกว่ามีเซ้นส์ เขามักจะเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ฟังบ่อย ๆ เราก็เชื่อนะว่าทุกที่ต้องมีประวัติแต่ พวกเขาคงไม่อยากเกี่ยวข้องกับเราหรอก ต่างคนต่างอยู่ มากกว่า
แน่นอนว่าเป็นช่วงสงกรานต์บรรยากาศ ตามถนนจากห้องพักมาที่ทำงานคึกคักมาก มีการฉลอง การเล่นน้ำตลอดทาง แต่พอเมื่อมาถึงที่ทำงานกับเงียบสงบจนแกล้งถามรปภ.ว่าโรงแรมเราปิดหรอพี่ พี่เขาว่าแขกออกไปเที่ยวหมดแล้ว โน้น ดึก ๆ คงกลับ เมื่อมาถึงจุดส่งกะทำงานกันเรียบร้อย พนักงานกะก่อนหน้าเขาเตรียมตัวจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ เพราะพรุ่งนี้เขาได้เข้าบ่ายเหมือนเดิม เมื่อได้อยู่ 2 คนกับน้องขวัญ น้องนี่ตัวชงเลย พี่อิ่มค่ะ หนูว่าวันนี้เราต้องเจออะไรแน่เลยพี่ หนูรู้สึกแปลก ๆ อ้าว เอาแล้ว เอาแล้ว เราก็ทำเป็นคิดว่าน้องคงหมายถึงเมื่อลูกค้ามาถึง ช่วงดึก คงเมาและคงวุ่นวาย เราเลยตอบไปว่าไม่เป็นไรอยู่กันหลายคน น้องยังจะแย้งอีกว่าไม่ใช่เรื่องแขกที่เป็นคน เราบอกว่าเงียบเลย นั่งดูซีรีส์ไป (ที่นี่กะดึก อนุญาตให้พนักงานนั่ง และใช้โทรศัพท์ได้ ค่ะ)
ตอนนั้นประมาณ เที่ยงคืน น้องขวัญก็ว่าหิวเพราะตอนหัวค่ำกินไปนิดเดียว เลยขอออกไปเซเว่นที่อยู่ใกล้ ๆ โรงแรม เราก็ให้น้องไป และฝากซื้อกาแฟเย็นและขนมอีก 2 อย่าง เรื่องมันเริ่มตอนนี้แหละค่ะ (ขอเล่าเพื่อความเข้าใจ โรงแรมที่เราทำงานจะเป็นตึกแบบตัวแอล (L) ล็อบบี้เราเป็นห้องที่ถูกสร้างขึ้น แยกจากตึกห้องพักหันหน้าเข้าหาตึกพัก ด้านหลังเป็นกำแพงสูง ๆ ของหมู่บ้านจัดสรร หน้าล็อบบี้จะมีทางเดิน เข้าตึก ถัดไปตรงกลางจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดเล็ก และที่นั่งเล่น ห้องล็อบบี้ หันหน้าเข้าหาตึกนะคะ ดังนั้น จะเป็นห้องที่เป็นกระจก 2 ด้าน ปูนสองด้าน ทำให้ พนักงานเห็นลูกค้าทุกคนที่เข้าออก และมุมห้องด้านขวามือจะมีทีวี ขนาดใหญ่ที่แสดงภาพกล้องวงจรปิดติดอยู่)
หลังจากจากที่น้องขวัญออกไปได้ ประมาณ 10 นาที ก็ได้มี ลูกค้าหญิงท่านหนึ่งเดินผ่าน หน้าฟร้อนท์ไป เป็นวัยรุ่นแต่งตัวปกติกางเกงยีนส์ ขาสั้น เสื้อยืดตัวใหญ่สีขาว มัดผมรวบแบบง่าย ๆ เราก็มองดูในทีวีว่าลูกค้าจะไปชั้นไหน ปรากฎว่า ไปตึก 2 (ตึกด้านใน) ชั้น 1 ห้อง น่าจะริมสุด เราก็ไม่สนใจดูอีกกลับมา เตรียมรายงาน อาหารเช้าและ รีเควสต่างๆที่ลูกค้าแจ้ง เพราะอีก ไม่กี่ชั่วโมงครัวเช้าก็จะมาทำงานแล้ว พอน้องขวัญกลับมา ซึ่งไม่น่า เกิน 5 นาที จากนั้น เราเงยหน้าขึ้นไปเพื่อจะคุยกับน้องขวัญ กับไปสะดุดกับภาพในวงจรปิด คือ ลูกค้าคนนั้น ยังยืนอยู่หน้าห้องโดยยืนหันหลังให้กล้อง ด้วยเป็นห้องมุมสุดไปจึงไม่สว่างเท่าไหร่ เราเลยบอกน้องขวัญว่า สงสัยเข้าห้องไม่ได้ ช่วยเอาคีย์การ์ดสำรองไปเปิดให้ลูกค้าหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับมากิน ขวัญบอกว่าไหนพี่ลูกค้าอยู่ไหน หนูไม่เห็น ทั้ง ๆ ที่เรายังเห็นอยู่ น้องมันยืนยันว่าไม่มี จะไม่มีได้ไงก็เห็นอยู่เนี่ย น้องเลยบอกว่า พี่ดูดี ๆ ไหน บนจอในตึกไม่มีใครเลยพี่ ชั้นที่พี่ว่าก็ไม่มีใคร ตอนั้นก็คิดว่าน้องมันอำหรือป่าว หรือ น้องมันขี้เกียจ เราเลยไม่อยากเซ้าซี้ เลยไปเอง พอเราเดินไปถึง ปรากฎว่าไม่มีใครอยู่เลย เราก็คิดว่าลูกค้าคงมีคนมาด้วยและเปิดประตูให้แล้ว พอกลับมาบอกขวัญ น้องเลยว่า หนูว่าไม่น่าใช่คนหรอกพี่ เพราะหนูยืนดูกล้องตลอดไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลย เราเถียงว่าอย่ามาอำผีอะไรจะเห็นชัดขนาดนั้น ขวัญเสนอว่าลองไปถามรปภ.กะหนูไหม เราก็ว่าเอาสิ พอถามรปภ.หน้าตึกว่า ช่วง 20 นาที ที่ผ่านมาพี่อยู่จุดตลอดไหม พี่เขาว่าอยู่ เราก็ถามต่อว่า ประมาณ 20 นาที ที่ผ่านมา มีแขกผู้หญิงวัยรุ่น เขามาโรงแรมไหม พี่เขายืนยันว่า ไม่มีนะครับ มีอะไรหรือป่าว ตอนั้น เราเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นผี พอเข้ามาในฟร้อนท์ เอาว่ะเพื่อพิสูจน์ เลยตัดสินใจโทรเข้าห้อง ตึก2 ชั้น 1 ทุกห้องปรากฎว่าไม่มีลูกค้าในห้องเพราะหากดึงคีย์การ์ด ออก อุปกรณ์ไปไฟฟ้าทุกอย่าง ยกเว้น ตู้เย็นจะไม่ทำงาน แค่นั้นแหละ จากคนที่ไม่กลัวตอนนั้นนี่ จำได้เลยว่ากลัวแบบสุด ๆ มาให้เห็นกันแบบนี้เลยหรอ น้องขวัญเห็นเราอาการไม่ดีน้องเลย ขยับเก้าอี้มาใกล้ๆ แล้วก็ปลอบ(หรือป่าว)ว่าเขาคงมาขอให้ทำบุญให้มั้ง โชคดีแล้วที่เขามาแบบสวยๆ คนอื่นนี่เจอแบบน่ากลัว ๆ เลย ใช่ค่ะ ทุกครั้งที่เพื่อนร่วมงานเล่าให้ฟังก็จะดูหลอนมาก เราที่ไม่เคยเห็นและพูดปรามเขาตลอด วันนี้เขาคงมาให้เห็น ประมาณว่าไม่เชื่อหรอ เดียวเจอกันขวัญบอกว่าพรุ่งนี้ เราใส่บาตรให้เขากันเขาคงไม่ได้อยากหรอก คงมาให้รู้ว่ามีเขาอยู่มั้ง หน้าโรงแรมจะมีพระมาบิณฑบาต ทุกวันค่ะ
เวลาผ่านไปจน ประมาณ ตี 4 ครัวเช้าเริ่มมาเข้างาน ค่อยใจชื้นขึ้นและกล้วเข้าห้องน้ำ
จากวันนั้นมา หากได้อยู่กะดึกวันแรกจะเอาพวงมาลัยมาไหว้ศาลด้วย และบอกกล่าวว่าหากตรงวันพระที่เข้าเวรจะใส่บาตรให้อย่ามาให้เห็นอย่างนี้อีก และหลังจากนั้น หลายเดือนเลยจึงยอมให้น้องขวัญเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง ทุกคนที่ได้ฟังจะพูดประมาณว่าไงล่ะเจอเองที่นี้คงไม่ว่าเขาโกหกแล้วนะ
ตอนนี้หากใครเล่าเรื่องเหล่านี้เราก็ไม่ขัดเขาอีกเลย แต่จะหาเรื่องหนีออกจากมากกว่า สารภาพว่ากลัวจ้า
ปล.เราเล่าเรื่องไม่เก่งแค่อยากแชร์ค่ะ ท่านไหนมีเรื่องอะไรแชร์มาได้นะคะจะตั้งใจอ่าน
พี่ว่าเราโดนแล้วล่ะขวัญ (พนักงานโรงแรมกะดึกช่วงสงกรานต์)
โดยที่แม้จะเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์แต่ไม่มีแอลกอฮอล์ในร่างกายเลย
เราได้เข้ามาทำงานที่นี่ ได้ซัก 2ปี การทำงานของเราชาวโรงแรมก็จะมีการเวียนตำแหน่งบ้างและเวียนกะการทำงาน แน่นอนว่าต้องได้อยู่กะกลางคืนตารางงานที่หัวหน้าจัดให้ตลอด2 ปีที่ผ่านมาเราไม่เคยเจอเหตุการณ์หรือประสบการณ์แปลกเหนื่อธรรมชาติเลย หากช่วงเทศกาลจะมีพนักงานกะดึก 2 คน ปกติจะมีคนเดียวด้วยเป็นโรงแรมขนาดเล็ก แต่จะมีทีมพี่รปภ.อยู่ด้วย
วันนั้นเป็นวันที่ 13 เมษายน 2561 เราเข้างาน ช่วง 4 ทุ่ม กับน้องผู้หญิงอีกคน ชื่อน้องขวัญ เราสองคนสนิทกันดีอาจจะเพราะเข้างานช่วงเวลาใกล้ๆกันและนิสัยคล้ายกัน ขอบอกว่าน้องขวัญเป็นคนที่เรียกว่ามีเซ้นส์ เขามักจะเล่าเรื่องเหล่านี้ให้ฟังบ่อย ๆ เราก็เชื่อนะว่าทุกที่ต้องมีประวัติแต่ พวกเขาคงไม่อยากเกี่ยวข้องกับเราหรอก ต่างคนต่างอยู่ มากกว่า
แน่นอนว่าเป็นช่วงสงกรานต์บรรยากาศ ตามถนนจากห้องพักมาที่ทำงานคึกคักมาก มีการฉลอง การเล่นน้ำตลอดทาง แต่พอเมื่อมาถึงที่ทำงานกับเงียบสงบจนแกล้งถามรปภ.ว่าโรงแรมเราปิดหรอพี่ พี่เขาว่าแขกออกไปเที่ยวหมดแล้ว โน้น ดึก ๆ คงกลับ เมื่อมาถึงจุดส่งกะทำงานกันเรียบร้อย พนักงานกะก่อนหน้าเขาเตรียมตัวจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ เพราะพรุ่งนี้เขาได้เข้าบ่ายเหมือนเดิม เมื่อได้อยู่ 2 คนกับน้องขวัญ น้องนี่ตัวชงเลย พี่อิ่มค่ะ หนูว่าวันนี้เราต้องเจออะไรแน่เลยพี่ หนูรู้สึกแปลก ๆ อ้าว เอาแล้ว เอาแล้ว เราก็ทำเป็นคิดว่าน้องคงหมายถึงเมื่อลูกค้ามาถึง ช่วงดึก คงเมาและคงวุ่นวาย เราเลยตอบไปว่าไม่เป็นไรอยู่กันหลายคน น้องยังจะแย้งอีกว่าไม่ใช่เรื่องแขกที่เป็นคน เราบอกว่าเงียบเลย นั่งดูซีรีส์ไป (ที่นี่กะดึก อนุญาตให้พนักงานนั่ง และใช้โทรศัพท์ได้ ค่ะ)
ตอนนั้นประมาณ เที่ยงคืน น้องขวัญก็ว่าหิวเพราะตอนหัวค่ำกินไปนิดเดียว เลยขอออกไปเซเว่นที่อยู่ใกล้ ๆ โรงแรม เราก็ให้น้องไป และฝากซื้อกาแฟเย็นและขนมอีก 2 อย่าง เรื่องมันเริ่มตอนนี้แหละค่ะ (ขอเล่าเพื่อความเข้าใจ โรงแรมที่เราทำงานจะเป็นตึกแบบตัวแอล (L) ล็อบบี้เราเป็นห้องที่ถูกสร้างขึ้น แยกจากตึกห้องพักหันหน้าเข้าหาตึกพัก ด้านหลังเป็นกำแพงสูง ๆ ของหมู่บ้านจัดสรร หน้าล็อบบี้จะมีทางเดิน เข้าตึก ถัดไปตรงกลางจะเป็นสระว่ายน้ำขนาดเล็ก และที่นั่งเล่น ห้องล็อบบี้ หันหน้าเข้าหาตึกนะคะ ดังนั้น จะเป็นห้องที่เป็นกระจก 2 ด้าน ปูนสองด้าน ทำให้ พนักงานเห็นลูกค้าทุกคนที่เข้าออก และมุมห้องด้านขวามือจะมีทีวี ขนาดใหญ่ที่แสดงภาพกล้องวงจรปิดติดอยู่)
หลังจากจากที่น้องขวัญออกไปได้ ประมาณ 10 นาที ก็ได้มี ลูกค้าหญิงท่านหนึ่งเดินผ่าน หน้าฟร้อนท์ไป เป็นวัยรุ่นแต่งตัวปกติกางเกงยีนส์ ขาสั้น เสื้อยืดตัวใหญ่สีขาว มัดผมรวบแบบง่าย ๆ เราก็มองดูในทีวีว่าลูกค้าจะไปชั้นไหน ปรากฎว่า ไปตึก 2 (ตึกด้านใน) ชั้น 1 ห้อง น่าจะริมสุด เราก็ไม่สนใจดูอีกกลับมา เตรียมรายงาน อาหารเช้าและ รีเควสต่างๆที่ลูกค้าแจ้ง เพราะอีก ไม่กี่ชั่วโมงครัวเช้าก็จะมาทำงานแล้ว พอน้องขวัญกลับมา ซึ่งไม่น่า เกิน 5 นาที จากนั้น เราเงยหน้าขึ้นไปเพื่อจะคุยกับน้องขวัญ กับไปสะดุดกับภาพในวงจรปิด คือ ลูกค้าคนนั้น ยังยืนอยู่หน้าห้องโดยยืนหันหลังให้กล้อง ด้วยเป็นห้องมุมสุดไปจึงไม่สว่างเท่าไหร่ เราเลยบอกน้องขวัญว่า สงสัยเข้าห้องไม่ได้ ช่วยเอาคีย์การ์ดสำรองไปเปิดให้ลูกค้าหน่อย เดี๋ยวค่อยกลับมากิน ขวัญบอกว่าไหนพี่ลูกค้าอยู่ไหน หนูไม่เห็น ทั้ง ๆ ที่เรายังเห็นอยู่ น้องมันยืนยันว่าไม่มี จะไม่มีได้ไงก็เห็นอยู่เนี่ย น้องเลยบอกว่า พี่ดูดี ๆ ไหน บนจอในตึกไม่มีใครเลยพี่ ชั้นที่พี่ว่าก็ไม่มีใคร ตอนั้นก็คิดว่าน้องมันอำหรือป่าว หรือ น้องมันขี้เกียจ เราเลยไม่อยากเซ้าซี้ เลยไปเอง พอเราเดินไปถึง ปรากฎว่าไม่มีใครอยู่เลย เราก็คิดว่าลูกค้าคงมีคนมาด้วยและเปิดประตูให้แล้ว พอกลับมาบอกขวัญ น้องเลยว่า หนูว่าไม่น่าใช่คนหรอกพี่ เพราะหนูยืนดูกล้องตลอดไม่มีอะไรเคลื่อนไหวเลย เราเถียงว่าอย่ามาอำผีอะไรจะเห็นชัดขนาดนั้น ขวัญเสนอว่าลองไปถามรปภ.กะหนูไหม เราก็ว่าเอาสิ พอถามรปภ.หน้าตึกว่า ช่วง 20 นาที ที่ผ่านมาพี่อยู่จุดตลอดไหม พี่เขาว่าอยู่ เราก็ถามต่อว่า ประมาณ 20 นาที ที่ผ่านมา มีแขกผู้หญิงวัยรุ่น เขามาโรงแรมไหม พี่เขายืนยันว่า ไม่มีนะครับ มีอะไรหรือป่าว ตอนั้น เราเริ่มใจไม่ดี แต่ก็ไม่เชื่อว่าจะเป็นผี พอเข้ามาในฟร้อนท์ เอาว่ะเพื่อพิสูจน์ เลยตัดสินใจโทรเข้าห้อง ตึก2 ชั้น 1 ทุกห้องปรากฎว่าไม่มีลูกค้าในห้องเพราะหากดึงคีย์การ์ด ออก อุปกรณ์ไปไฟฟ้าทุกอย่าง ยกเว้น ตู้เย็นจะไม่ทำงาน แค่นั้นแหละ จากคนที่ไม่กลัวตอนนั้นนี่ จำได้เลยว่ากลัวแบบสุด ๆ มาให้เห็นกันแบบนี้เลยหรอ น้องขวัญเห็นเราอาการไม่ดีน้องเลย ขยับเก้าอี้มาใกล้ๆ แล้วก็ปลอบ(หรือป่าว)ว่าเขาคงมาขอให้ทำบุญให้มั้ง โชคดีแล้วที่เขามาแบบสวยๆ คนอื่นนี่เจอแบบน่ากลัว ๆ เลย ใช่ค่ะ ทุกครั้งที่เพื่อนร่วมงานเล่าให้ฟังก็จะดูหลอนมาก เราที่ไม่เคยเห็นและพูดปรามเขาตลอด วันนี้เขาคงมาให้เห็น ประมาณว่าไม่เชื่อหรอ เดียวเจอกันขวัญบอกว่าพรุ่งนี้ เราใส่บาตรให้เขากันเขาคงไม่ได้อยากหรอก คงมาให้รู้ว่ามีเขาอยู่มั้ง หน้าโรงแรมจะมีพระมาบิณฑบาต ทุกวันค่ะ
เวลาผ่านไปจน ประมาณ ตี 4 ครัวเช้าเริ่มมาเข้างาน ค่อยใจชื้นขึ้นและกล้วเข้าห้องน้ำ
จากวันนั้นมา หากได้อยู่กะดึกวันแรกจะเอาพวงมาลัยมาไหว้ศาลด้วย และบอกกล่าวว่าหากตรงวันพระที่เข้าเวรจะใส่บาตรให้อย่ามาให้เห็นอย่างนี้อีก และหลังจากนั้น หลายเดือนเลยจึงยอมให้น้องขวัญเล่าเรื่องนี้ให้คนอื่นฟัง ทุกคนที่ได้ฟังจะพูดประมาณว่าไงล่ะเจอเองที่นี้คงไม่ว่าเขาโกหกแล้วนะ
ตอนนี้หากใครเล่าเรื่องเหล่านี้เราก็ไม่ขัดเขาอีกเลย แต่จะหาเรื่องหนีออกจากมากกว่า สารภาพว่ากลัวจ้า
ปล.เราเล่าเรื่องไม่เก่งแค่อยากแชร์ค่ะ ท่านไหนมีเรื่องอะไรแชร์มาได้นะคะจะตั้งใจอ่าน