.
ผมกุมมือพ่อไว้แน่น ก้มลงไปฟังสิ่งที่พ่อกำลังจะพูดออกมา ผมพยักหน้าเข้าใจ รับทราบ ผมเข้าใจพ่อทุกอย่าง เข้าใจสิ่งที่พ่อทำ เข้าใจชีวิตของผมดี
ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่อยากให้พ่อเห็นว่าร้องไห้ อยากให้พ่อเห็นว่าผมเข้มแข็งที่สุด ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างมองผมกับพ่อทั้งน้ำตา อีกคนพี่สาวของผมที่กอดพ่อร้องไห้ พวกเราสองคนเข้าใจพ่อดี ไม่โกรธ ไม่เกลียด พวกเรารักพ่อ พวกเราอโหสิกรรมให้พ่อทุกอย่าง
พ่อของผมป่วยติดเตียงมาหลายปีแล้วครับ ตั้งแต่พ่อป่วยผมก็แวะมาเยี่ยมท่านทุกวันกับพี่สาว เพราะพ่อเรียกหาผมกับพี่ไม่หยุดเลย ร้องหาตลอด จนพี่สาวต้องไปคอยอยู่ดูแลทั้งวัน พ่อหลับค่อยกลับมาบ้านของตนเอง ส่วนผมก็แวะไปหลังเลิกงานค่อยกลับมาบ้านเช่นกัน แต่วันนี้พ่อกำลังจะจากผมไป วันนี้พ่อจะจากผมไปแบบไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว
ผมกุมมือพ่อโน้มใบหน้าไปฟังพ่อพูดทั้งน้ำตา มืออีกข้างคอยเช็ดน้ำตาตัวเองเรื่อย ๆ นาทีนี้ผมไม่อายใครทั้งนั้น ทั้งน้อง ๆ และภรรยา ดีที่ลูก ๆ ของผมไม่อยู่ที่นี่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นพ่อของตนเองร้องไห้แหง ๆ ส่วนพี่สาวกอดลำตัวของพ่อปล่อยโฮก่อนแล้วครับ
พ่อร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน พ่อหลับตาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ส่วนคนที่เจ็บปวดยิ่งกว่าคือผม และ ลูก ๆ ทุกคนของพ่อ ผมกับพี่สาวและน้อง ๆ ต่างร้องไห้ พ่อร้องเจ็บปวดทรมานอยู่ครู่หนึ่งก็จากไปด้วยความสงบ จากไปในอ้อมกอดของผม คราวนี้ผมร้องไห้อยากสุดเสียใจ เสียใจที่ชีวิตของผมหลังจากนี้จะไม่มีพ่ออีกแล้ว
สัมผัสอ้อมกอดสุดท้ายของพ่อช่างอบอุ่นเหลือเกินครับ ถึงอย่างไรผมก็ดีใจที่ได้สัมผัสอ้อมกอดสุดท้ายของท่าน ผมอบอุ่นที่สุด ผมจะจำอ้อมกอดนี้ไปตลอดชีวิต
ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมกับพี่สาวไม่เคยได้รับไออุ่นจากพ่อเลย ทุกคนคงพอจะเดาได้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร ถูกต้องครับ ! ทุกคนเดาไม่ผิดหรอก พ่อแม่ของผมแยกทางกันตั้งแต่ผมยังเล็กมาก พี่สาวก็ยังเด็กอยู่ แม่เป็นคนดูแลพวกผมเสมอมา และ แม่ของผมเป็นคนที่มีทิฐิสูงมาก ๆ เลยล่ะครับอย่างไรน่ะหรือ
ผมโตขึ้นจำความได้พ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ตอนเด็ก ๆ แม่ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลยนอกจากเฝ้าพร่ำสอนเสมอว่า อย่าไปเจอกับพ่อเด็ดขาด อย่ารับอะไรจากพ่อเด็ดขาด แม้กระทั่งญาติฝั่งพ่อก็ไม่ให้รับหรือเจอหน้า ไม่อย่างนั้นแม่เอาตายแน่
ผมรู้จักพ่อนะครับ ญาติพี่น้องพ่อก็รู้จัก แต่ ไม่สามารถไปเจอได้ และ พ่อก็ไม่สามารถมาเจอผมได้ พ่อก็แอบมาเจออยู่บ่อย ๆ แล้วผมกับพี่สาวก็โดนแม่ตีบ่อย ๆ เช่นกัน แม่เอาแต่พูดว่าแม่เกลียดพ่อ ไม่เคยอธิบายเลยว่าทำไมถึงเกลียด
วันหนึ่งพ่อถูกหวยได้เงินหลายบาท พ่อมาดักรอผมกับพี่สาวที่โรงเรียน ให้เงินและขนมมากมาย พ่อบอกว่าอยากซื้อชุดให้คนละชุดทว่าไม่กล้าเดี๋ยวแม่รู้ แล้วพ่อก็กลับไป พอพวกผมสองคนพี่น้องกลับไปถึงบ้านไม่รู้แม่ทราบได้อย่างไร ผมกับพี่สาวโดนแม่ตีด้วยไม้คานครับ
แม่ปิดประตูบ้านตีผมกับพี่สาวด้วยไม้คาน ผมยังเด็กครับ สมัยนั้นผมกับพี่สาวยังอยู่ประถม แม่ตีไม่ยั้งมือเลย ง้างมือสุดแขนฟาดไม้คานลงลำตัวของผมกับพี่ ผมจำได้ว่าแม่ร้องไห้ผมกับพี่สาวก็ร้องไห้เพราะเจ็บ ผมกับพี่สาวยกมือไหว้อ้อนวอนแม่ ขอโทษแม่จะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่เจอกับพ่ออีก จะไม่รับอะไรจากพ่ออีกเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่รับอีก
แม่ก็ตีไม่ยั้งเหมือนเดิม ตีจนเลือดซึมเลยครับ โชคดียายกับน้าชายมาช่วยได้ทัน ยายเคาะประตูบ้านพังประตูเข้ามาห้ามแม่เอาไว้ได้ทันพอดี พวกผมเกือบตายคามือแม่ แม่ร้องไห้ พี่สาวก็ร้องไห้กลัวจนตัวสั่น ผมก็เหมือนกัน กลัวแม่จนตัวสั่นไปหมด
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมกับพ่อก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ผมกลัวแม่ กลัวเจ็บ ส่วนพ่อกลัวผมกับพี่เจ็บตัวครับ พ่อเองก็ไม่กล้ามาเจอผมอีกเลย เชื่อไหมว่าผมกลัวแม่มาก ขนาดได้ยินคนพูดว่าพ่ออยู่ตรงนั้นตรงนี้ ผมจะไม่เฉียดเข้าไปใกล้เลย ซึ่งไม่รู้ว่าตรงนั้นมีพ่อจริงหรือเปล่า ทว่าผมขอหลบไว้ก่อน เพราะผมกลัวแม่ ผมรักแม่มากครับ
ผมไม่เคยได้รับไออุ่นจากพ่ออีกเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา วันเวลาที่เราไม่ได้เจอกันมันสร้างกำแพงของความเหินห่างครับ ผมก็เริ่มไม่โหยหาพ่อแล้วเหมือนกันเพราะโตแล้ว มีเพื่อน มีคนรัก เล่นไปตามประสาวัยรุ่นบ้างก็ลืม ๆ พ่อไป ความสนิทกลายเป็นความเขินเมื่อเจอกับพ่ออีกครั้ง
ผมกลับมาเจอพ่อได้อีกครั้งก็ตอนโตแล้วนี่ล่ะครับ โตมาก ๆ ด้วย กลับมาเจอพ่ออีกครั้งก็ตอนเรียนจบมีงานทำแล้ว เหมือนยิ่งแก่ยิ่งโหยหาครับ ผมรู้สึกว่าเหมือนคิดถึงพ่อ อยากเจอหน้าพ่ออะไรแบบนี้ ก็หาเวลาไปเจอท่านบ้าง แอบแม่ไปเหมือนเดิมครับ แม่ยังทิฐิสูงเหมือนเดิม ทว่าก็ทำอะไรผมไม่ได้เหมือนตอนเด็ก ๆ ถึงอย่างไรผมก็จะให้แม่ทราบไม่ได้ ผมห่วงความรู้สึกของท่านครับ
ช่วงเวลานั้นก็ดีใจนะครับ พ่อก็คือพ่อ ผมก็คือผม สำหรับพ่อลูกก็คือลูก ผมกลับมาหาพ่อรอบนี้พ่อแก่มากครับ ขนาดผมยังอายุมากขึ้นแล้วพ่อจะไม่แก่ได้อย่างไร ผมสัมผัสได้ถึงความเขินของพ่อเหมือนกัน พ่อเองก็เขินผมครับ ไม่ใช่ผมที่เขินท่านคนเดียว
พอมีงานทำชีวิตอิสระมากขึ้น ผมก็หาโอกาสมาเจอท่านบ่อย ๆ โดยที่แม่ก็ไม่ทราบอีกนั่นแหละครับ ส่วนพี่สาวกล้าขัดคำสั่งแม่มาหาพ่อได้ ก็ตอนแต่งงานแยกบ้านอยู่กับแม่แล้ว ถึงอย่างไรก็อยู่คนละบ้านกับแม่แล้ว ถึงจะงอนกันง้อนิดง้อหน่อยก็หาย
อืมม์ อย่าว่าแต่ผมกับพี่สาวเลยครับ แม้แต่หลาน ๆ แม่ก็ห้ามไปเจอพ่อ ลูก ๆ ของผม ลูก ๆ ของพี่สาว ก็โดนย่าโดนยายห้ามหมด ลามไปนู่นครับ ลูกเขยลูกสะใภ้ของผมนู่นแหนะ ไม่ให้ยอมให้พ่อได้รู้จักเลย
ตอนเด็ก ๆ พ่อทิ้งผมไปเราก็ยังได้เจอกัน วันนี้พ่อจะทิ้งผมไปอีกแล้ว โดยที่ผมจะไม่มีโอกาสได้เจออีกตลอดไป ผมนอนซบอกของพ่อร้องไห้เงียบ ๆ กุมมือพ่อเอาไว้แน่น มือพ่อยังอุ่นอยู่เลยครับ เหมือนพ่อแค่หลับไปเท่านั้นเอง เหมือนพ่อยังไม่ได้จากผมไปเลย
ตอนนี้พี่สาวผมปล่อยโฮไม่หยุด มีภรรยาของผมคอยปลอบใจอยู่ใกล้ ๆ น้อง ๆ ต่างแม่ของผมต่างร้องไห้กันระงม ญาติ ๆ ต่างร้องไห้กับการจากไปของพ่อ วันนี้ผมยอมขัดคำสั่งของแม่ ผมยอมให้แม่โกรธที่ผมมาหาพ่อ ที่ผมร้องไห้กับพ่อ ที่ผมกอดพ่อ ผมยอม ! ถ้ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ผมและพ่อมีความสุขร่วมกัน
อันที่จริงผมขัดคำสั่งแม่ตั้งนานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่ผมทราบว่าพ่อป่วยนอนติดเตียง ผมยอมขับรถมาหาพ่อหลังเลิกงานทุกวัน มากอดพ่อทุก ๆ วัน ผมนึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจทำแบบนี้ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้วันนี้ผมคงเสียใจที่สุด ว่าไม่เคยทำอะไรให้พ่อและตนเองมีความสุขร่วมกันเลย ทั้งที่มีโอกาสแล้ว ทว่าผมได้ทำ ผมสร้างความสุขร่วมกับพ่อ แม้จะเป็นเวลาเพียงน้อยนิด หากเทียบกับทั้งชีวิตที่ผมและพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ผมรวบรวมสติหยุดร้องไห้ บอกกับภรรยาโทรหาลูก ๆ ว่าปู่เสียแล้ว ให้กลับมาบ้านด่วน อย่างน้อยก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้กันได้ ลูก ๆ ของผมก็รู้จักกับพ่อนะครับ ได้เจอกันบ้าง ผมเคยพาแอบมาไหว้ ทว่าก็ไม่ได้บ่อยนัก ด้วยเกรงใจแม่ของผมครับ แค่ผมแอบมาก็เพียงพอแล้ว
แอบกระซิบนะครับ ขอเม้าท์แม่หน่อยแล้วกัน เม้าท์ด้วยความรักนะครับ เจ้าลูกชายของผมเคยพาแฟนแอบไปเจอปู่ ย่ารู้โทรมาบ่นโทรมางอนใหญ่เลย หลานชายต้องโอ๋ถึงหายงอน ฮา ทีนี้ผมดันทะลึ่งพูดไปว่า ทีคนไม่ใช่ปู่เขายังเคารพรัก นี่ปู่ของเขาแท้ ๆ ทำไมเขาจะไปเจอไปรู้จักไม่ได้ โห่ แม่เล่นงานผมใหญ่เลยครับ ต้องนำของไปสมนาคุณหลายอย่างหลายบาทเลยเชียว แม่ถึงหายงอน ฮา คนที่ผมพูดถึงก็พ่อเลี้ยงล่ะครับ
วันฌาปนกิจผมกับลูกชายบวชหน้าไฟให้พ่อกันครับ มีน้อง ๆ และหลาน ๆ อีกหลายคนที่บวช เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำให้พ่อได้ ผมกับพี่สาวอโหสิกรรมให้พ่อทุกอย่าง ให้พ่อไปสู่สุคติ อย่าได้ห่วงอะไรเลย ผมไม่โกรธ ไม่เกลียด ผมรักพ่อมากต่างหากครับ
เรื่องราวของผมตอนเด็ก ๆ กับพ่อ มันคอยหลอกหลอนผมอยู่เสมอมาครับ ไม่รุนแรงทว่ามันอยู่ในใจไม่เสื่อมคลาย ผมสัญญากับตนเองว่าครอบครัวผมจะต้องไม่เป็นแบบนั้น ผมบอกกับภรรยาว่าถ้าหากจะมีคนใหม่ให้มีตั้งแต่ยังไม่มีลูกร่วมกันเสีย อย่าได้ทำตอนมีลูกร่วมกันเลย เพราะผมเห็นเรื่องราวของตนเองแล้วมันเข็ดขยาด และ ผมก็เกลียดเรื่องพวกนี้มากด้วย
…………………………………
พวกเรานั่งรถกลับบ้านหลังจากเสร็จงานศพของปู่ พ่อเล่าเรื่องราวชีวิตของพ่อให้พวกเราฟัง ซึ้งมาก ๆ เลยครับปนตลกด้วย ผมเองก็เคยโดนย่าหวดมาแล้ว ไม่ได้หวดด้วยไม้คานแต่หวดด้วยคำพูดและอากัปกิริยาครับ นึกแล้วก็ตลกย่า คราวที่ผมพาแฟนไปเจอปู่ แอบไปกันนะครับ ย่าหูตาไวมาก ฮา พวกเราหัวเราะย่า หัวเราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ เป็นการหัวเราะด้วยความรักตลกทุกคราวที่พูดถึง
“พ่อแกน่ะ เถียงแย่งลูกกับแม่ตั้งแต่แม่ยังไม่มีลูกเลย” แม่เล่าเรื่องของพ่อให้พวกเราฟังบ้างระหว่างกลับบ้าน “แต่งงานกันใหม่ ๆ บอกกับแม่ว่า ถ้าจะมีผัวใหม่ก็รีบมีเลยตอนนี้ ถ้ามีลูกแล้วพ่อจะเอาลูกคนเดียว ไม่ให้แม่สักคนพะนะ” แม่พูดกลั้วหัวเราะ พ่อก็หัวเราะด้วยคน
“ทำไมพ่อต้องพูดแบบนั้นด้วยแม่” พี่สาวของผมถาม
“อ้าวก็กลัวจะเหมือนตอนตนเองเด็ก ๆ ไง พ่อไม่ได้กลัวลูกจะขาดความอบอุ่นหรอกนะ แต่พ่อกลัวตัวเองจะไม่ได้เจอหน้าลูกเหมือนปู่ต่างหาก” แม่เล่าต่อ บรรยากาศภายในรถไม่ได้เครียดเลย พ่อก็ไม่โกรธแม่ด้วย ปล่อยให้แม่พูดไป แถมพ่อยังเล่าเรื่องตอนเด็ก ๆ แอบย่าไปหาปู่บ่อย ๆ ให้ฟังอีก ครั้งสุดท้ายโดนหนัก โดนย่าปิดบ้านตีด้วยไม้คานนั่นแหละทำให้พ่อกับปู่ไม่ได้เจอกันอีกเลย เพราะปู่สงสารพ่อกับป้า
“แกก็อีกคน ! อะไรไม่ดีก็อย่าทำ” อ้าวซวยเลยผม พูดเรื่องปู่กับพ่ออยู่ดี ๆ แม่หันมาเทศนาผมซะอย่างนั้น ผมของนั่งเงียบ ๆ อยู่เบาะหลังไม่ออกความคิดเห็นอะไรละกัน
จบ…
เรื่องสั้น : สิ่งสุดท้าย
.
ผมกุมมือพ่อไว้แน่น ก้มลงไปฟังสิ่งที่พ่อกำลังจะพูดออกมา ผมพยักหน้าเข้าใจ รับทราบ ผมเข้าใจพ่อทุกอย่าง เข้าใจสิ่งที่พ่อทำ เข้าใจชีวิตของผมดี
ผมพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้ ไม่อยากให้พ่อเห็นว่าร้องไห้ อยากให้พ่อเห็นว่าผมเข้มแข็งที่สุด ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างมองผมกับพ่อทั้งน้ำตา อีกคนพี่สาวของผมที่กอดพ่อร้องไห้ พวกเราสองคนเข้าใจพ่อดี ไม่โกรธ ไม่เกลียด พวกเรารักพ่อ พวกเราอโหสิกรรมให้พ่อทุกอย่าง
พ่อของผมป่วยติดเตียงมาหลายปีแล้วครับ ตั้งแต่พ่อป่วยผมก็แวะมาเยี่ยมท่านทุกวันกับพี่สาว เพราะพ่อเรียกหาผมกับพี่ไม่หยุดเลย ร้องหาตลอด จนพี่สาวต้องไปคอยอยู่ดูแลทั้งวัน พ่อหลับค่อยกลับมาบ้านของตนเอง ส่วนผมก็แวะไปหลังเลิกงานค่อยกลับมาบ้านเช่นกัน แต่วันนี้พ่อกำลังจะจากผมไป วันนี้พ่อจะจากผมไปแบบไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว
ผมกุมมือพ่อโน้มใบหน้าไปฟังพ่อพูดทั้งน้ำตา มืออีกข้างคอยเช็ดน้ำตาตัวเองเรื่อย ๆ นาทีนี้ผมไม่อายใครทั้งนั้น ทั้งน้อง ๆ และภรรยา ดีที่ลูก ๆ ของผมไม่อยู่ที่นี่ด้วย ไม่อย่างนั้นคงได้เห็นพ่อของตนเองร้องไห้แหง ๆ ส่วนพี่สาวกอดลำตัวของพ่อปล่อยโฮก่อนแล้วครับ
พ่อร้องด้วยความเจ็บปวดทรมาน พ่อหลับตาร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ส่วนคนที่เจ็บปวดยิ่งกว่าคือผม และ ลูก ๆ ทุกคนของพ่อ ผมกับพี่สาวและน้อง ๆ ต่างร้องไห้ พ่อร้องเจ็บปวดทรมานอยู่ครู่หนึ่งก็จากไปด้วยความสงบ จากไปในอ้อมกอดของผม คราวนี้ผมร้องไห้อยากสุดเสียใจ เสียใจที่ชีวิตของผมหลังจากนี้จะไม่มีพ่ออีกแล้ว
สัมผัสอ้อมกอดสุดท้ายของพ่อช่างอบอุ่นเหลือเกินครับ ถึงอย่างไรผมก็ดีใจที่ได้สัมผัสอ้อมกอดสุดท้ายของท่าน ผมอบอุ่นที่สุด ผมจะจำอ้อมกอดนี้ไปตลอดชีวิต
ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมกับพี่สาวไม่เคยได้รับไออุ่นจากพ่อเลย ทุกคนคงพอจะเดาได้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร ถูกต้องครับ ! ทุกคนเดาไม่ผิดหรอก พ่อแม่ของผมแยกทางกันตั้งแต่ผมยังเล็กมาก พี่สาวก็ยังเด็กอยู่ แม่เป็นคนดูแลพวกผมเสมอมา และ แม่ของผมเป็นคนที่มีทิฐิสูงมาก ๆ เลยล่ะครับอย่างไรน่ะหรือ
ผมโตขึ้นจำความได้พ่อกับแม่ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ตอนเด็ก ๆ แม่ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรให้ฟังเลยนอกจากเฝ้าพร่ำสอนเสมอว่า อย่าไปเจอกับพ่อเด็ดขาด อย่ารับอะไรจากพ่อเด็ดขาด แม้กระทั่งญาติฝั่งพ่อก็ไม่ให้รับหรือเจอหน้า ไม่อย่างนั้นแม่เอาตายแน่
ผมรู้จักพ่อนะครับ ญาติพี่น้องพ่อก็รู้จัก แต่ ไม่สามารถไปเจอได้ และ พ่อก็ไม่สามารถมาเจอผมได้ พ่อก็แอบมาเจออยู่บ่อย ๆ แล้วผมกับพี่สาวก็โดนแม่ตีบ่อย ๆ เช่นกัน แม่เอาแต่พูดว่าแม่เกลียดพ่อ ไม่เคยอธิบายเลยว่าทำไมถึงเกลียด
วันหนึ่งพ่อถูกหวยได้เงินหลายบาท พ่อมาดักรอผมกับพี่สาวที่โรงเรียน ให้เงินและขนมมากมาย พ่อบอกว่าอยากซื้อชุดให้คนละชุดทว่าไม่กล้าเดี๋ยวแม่รู้ แล้วพ่อก็กลับไป พอพวกผมสองคนพี่น้องกลับไปถึงบ้านไม่รู้แม่ทราบได้อย่างไร ผมกับพี่สาวโดนแม่ตีด้วยไม้คานครับ
แม่ปิดประตูบ้านตีผมกับพี่สาวด้วยไม้คาน ผมยังเด็กครับ สมัยนั้นผมกับพี่สาวยังอยู่ประถม แม่ตีไม่ยั้งมือเลย ง้างมือสุดแขนฟาดไม้คานลงลำตัวของผมกับพี่ ผมจำได้ว่าแม่ร้องไห้ผมกับพี่สาวก็ร้องไห้เพราะเจ็บ ผมกับพี่สาวยกมือไหว้อ้อนวอนแม่ ขอโทษแม่จะไม่ทำอีกแล้ว จะไม่เจอกับพ่ออีก จะไม่รับอะไรจากพ่ออีกเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดอย่างไรก็จะไม่รับอีก
แม่ก็ตีไม่ยั้งเหมือนเดิม ตีจนเลือดซึมเลยครับ โชคดียายกับน้าชายมาช่วยได้ทัน ยายเคาะประตูบ้านพังประตูเข้ามาห้ามแม่เอาไว้ได้ทันพอดี พวกผมเกือบตายคามือแม่ แม่ร้องไห้ พี่สาวก็ร้องไห้กลัวจนตัวสั่น ผมก็เหมือนกัน กลัวแม่จนตัวสั่นไปหมด
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมกับพ่อก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ผมกลัวแม่ กลัวเจ็บ ส่วนพ่อกลัวผมกับพี่เจ็บตัวครับ พ่อเองก็ไม่กล้ามาเจอผมอีกเลย เชื่อไหมว่าผมกลัวแม่มาก ขนาดได้ยินคนพูดว่าพ่ออยู่ตรงนั้นตรงนี้ ผมจะไม่เฉียดเข้าไปใกล้เลย ซึ่งไม่รู้ว่าตรงนั้นมีพ่อจริงหรือเปล่า ทว่าผมขอหลบไว้ก่อน เพราะผมกลัวแม่ ผมรักแม่มากครับ
ผมไม่เคยได้รับไออุ่นจากพ่ออีกเลยตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา วันเวลาที่เราไม่ได้เจอกันมันสร้างกำแพงของความเหินห่างครับ ผมก็เริ่มไม่โหยหาพ่อแล้วเหมือนกันเพราะโตแล้ว มีเพื่อน มีคนรัก เล่นไปตามประสาวัยรุ่นบ้างก็ลืม ๆ พ่อไป ความสนิทกลายเป็นความเขินเมื่อเจอกับพ่ออีกครั้ง
ผมกลับมาเจอพ่อได้อีกครั้งก็ตอนโตแล้วนี่ล่ะครับ โตมาก ๆ ด้วย กลับมาเจอพ่ออีกครั้งก็ตอนเรียนจบมีงานทำแล้ว เหมือนยิ่งแก่ยิ่งโหยหาครับ ผมรู้สึกว่าเหมือนคิดถึงพ่อ อยากเจอหน้าพ่ออะไรแบบนี้ ก็หาเวลาไปเจอท่านบ้าง แอบแม่ไปเหมือนเดิมครับ แม่ยังทิฐิสูงเหมือนเดิม ทว่าก็ทำอะไรผมไม่ได้เหมือนตอนเด็ก ๆ ถึงอย่างไรผมก็จะให้แม่ทราบไม่ได้ ผมห่วงความรู้สึกของท่านครับ
ช่วงเวลานั้นก็ดีใจนะครับ พ่อก็คือพ่อ ผมก็คือผม สำหรับพ่อลูกก็คือลูก ผมกลับมาหาพ่อรอบนี้พ่อแก่มากครับ ขนาดผมยังอายุมากขึ้นแล้วพ่อจะไม่แก่ได้อย่างไร ผมสัมผัสได้ถึงความเขินของพ่อเหมือนกัน พ่อเองก็เขินผมครับ ไม่ใช่ผมที่เขินท่านคนเดียว
พอมีงานทำชีวิตอิสระมากขึ้น ผมก็หาโอกาสมาเจอท่านบ่อย ๆ โดยที่แม่ก็ไม่ทราบอีกนั่นแหละครับ ส่วนพี่สาวกล้าขัดคำสั่งแม่มาหาพ่อได้ ก็ตอนแต่งงานแยกบ้านอยู่กับแม่แล้ว ถึงอย่างไรก็อยู่คนละบ้านกับแม่แล้ว ถึงจะงอนกันง้อนิดง้อหน่อยก็หาย
อืมม์ อย่าว่าแต่ผมกับพี่สาวเลยครับ แม้แต่หลาน ๆ แม่ก็ห้ามไปเจอพ่อ ลูก ๆ ของผม ลูก ๆ ของพี่สาว ก็โดนย่าโดนยายห้ามหมด ลามไปนู่นครับ ลูกเขยลูกสะใภ้ของผมนู่นแหนะ ไม่ให้ยอมให้พ่อได้รู้จักเลย
ตอนเด็ก ๆ พ่อทิ้งผมไปเราก็ยังได้เจอกัน วันนี้พ่อจะทิ้งผมไปอีกแล้ว โดยที่ผมจะไม่มีโอกาสได้เจออีกตลอดไป ผมนอนซบอกของพ่อร้องไห้เงียบ ๆ กุมมือพ่อเอาไว้แน่น มือพ่อยังอุ่นอยู่เลยครับ เหมือนพ่อแค่หลับไปเท่านั้นเอง เหมือนพ่อยังไม่ได้จากผมไปเลย
ตอนนี้พี่สาวผมปล่อยโฮไม่หยุด มีภรรยาของผมคอยปลอบใจอยู่ใกล้ ๆ น้อง ๆ ต่างแม่ของผมต่างร้องไห้กันระงม ญาติ ๆ ต่างร้องไห้กับการจากไปของพ่อ วันนี้ผมยอมขัดคำสั่งของแม่ ผมยอมให้แม่โกรธที่ผมมาหาพ่อ ที่ผมร้องไห้กับพ่อ ที่ผมกอดพ่อ ผมยอม ! ถ้ามันจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้ผมและพ่อมีความสุขร่วมกัน
อันที่จริงผมขัดคำสั่งแม่ตั้งนานแล้วล่ะครับ ตั้งแต่ผมทราบว่าพ่อป่วยนอนติดเตียง ผมยอมขับรถมาหาพ่อหลังเลิกงานทุกวัน มากอดพ่อทุก ๆ วัน ผมนึกขอบคุณตัวเองที่ตัดสินใจทำแบบนี้ ถ้าผมไม่ทำแบบนี้วันนี้ผมคงเสียใจที่สุด ว่าไม่เคยทำอะไรให้พ่อและตนเองมีความสุขร่วมกันเลย ทั้งที่มีโอกาสแล้ว ทว่าผมได้ทำ ผมสร้างความสุขร่วมกับพ่อ แม้จะเป็นเวลาเพียงน้อยนิด หากเทียบกับทั้งชีวิตที่ผมและพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน
ผมรวบรวมสติหยุดร้องไห้ บอกกับภรรยาโทรหาลูก ๆ ว่าปู่เสียแล้ว ให้กลับมาบ้านด่วน อย่างน้อยก็เป็นสิ่งสุดท้ายที่ทำให้กันได้ ลูก ๆ ของผมก็รู้จักกับพ่อนะครับ ได้เจอกันบ้าง ผมเคยพาแอบมาไหว้ ทว่าก็ไม่ได้บ่อยนัก ด้วยเกรงใจแม่ของผมครับ แค่ผมแอบมาก็เพียงพอแล้ว
แอบกระซิบนะครับ ขอเม้าท์แม่หน่อยแล้วกัน เม้าท์ด้วยความรักนะครับ เจ้าลูกชายของผมเคยพาแฟนแอบไปเจอปู่ ย่ารู้โทรมาบ่นโทรมางอนใหญ่เลย หลานชายต้องโอ๋ถึงหายงอน ฮา ทีนี้ผมดันทะลึ่งพูดไปว่า ทีคนไม่ใช่ปู่เขายังเคารพรัก นี่ปู่ของเขาแท้ ๆ ทำไมเขาจะไปเจอไปรู้จักไม่ได้ โห่ แม่เล่นงานผมใหญ่เลยครับ ต้องนำของไปสมนาคุณหลายอย่างหลายบาทเลยเชียว แม่ถึงหายงอน ฮา คนที่ผมพูดถึงก็พ่อเลี้ยงล่ะครับ
วันฌาปนกิจผมกับลูกชายบวชหน้าไฟให้พ่อกันครับ มีน้อง ๆ และหลาน ๆ อีกหลายคนที่บวช เป็นสิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำให้พ่อได้ ผมกับพี่สาวอโหสิกรรมให้พ่อทุกอย่าง ให้พ่อไปสู่สุคติ อย่าได้ห่วงอะไรเลย ผมไม่โกรธ ไม่เกลียด ผมรักพ่อมากต่างหากครับ
เรื่องราวของผมตอนเด็ก ๆ กับพ่อ มันคอยหลอกหลอนผมอยู่เสมอมาครับ ไม่รุนแรงทว่ามันอยู่ในใจไม่เสื่อมคลาย ผมสัญญากับตนเองว่าครอบครัวผมจะต้องไม่เป็นแบบนั้น ผมบอกกับภรรยาว่าถ้าหากจะมีคนใหม่ให้มีตั้งแต่ยังไม่มีลูกร่วมกันเสีย อย่าได้ทำตอนมีลูกร่วมกันเลย เพราะผมเห็นเรื่องราวของตนเองแล้วมันเข็ดขยาด และ ผมก็เกลียดเรื่องพวกนี้มากด้วย
…………………………………
พวกเรานั่งรถกลับบ้านหลังจากเสร็จงานศพของปู่ พ่อเล่าเรื่องราวชีวิตของพ่อให้พวกเราฟัง ซึ้งมาก ๆ เลยครับปนตลกด้วย ผมเองก็เคยโดนย่าหวดมาแล้ว ไม่ได้หวดด้วยไม้คานแต่หวดด้วยคำพูดและอากัปกิริยาครับ นึกแล้วก็ตลกย่า คราวที่ผมพาแฟนไปเจอปู่ แอบไปกันนะครับ ย่าหูตาไวมาก ฮา พวกเราหัวเราะย่า หัวเราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ เป็นการหัวเราะด้วยความรักตลกทุกคราวที่พูดถึง
“พ่อแกน่ะ เถียงแย่งลูกกับแม่ตั้งแต่แม่ยังไม่มีลูกเลย” แม่เล่าเรื่องของพ่อให้พวกเราฟังบ้างระหว่างกลับบ้าน “แต่งงานกันใหม่ ๆ บอกกับแม่ว่า ถ้าจะมีผัวใหม่ก็รีบมีเลยตอนนี้ ถ้ามีลูกแล้วพ่อจะเอาลูกคนเดียว ไม่ให้แม่สักคนพะนะ” แม่พูดกลั้วหัวเราะ พ่อก็หัวเราะด้วยคน
“ทำไมพ่อต้องพูดแบบนั้นด้วยแม่” พี่สาวของผมถาม
“อ้าวก็กลัวจะเหมือนตอนตนเองเด็ก ๆ ไง พ่อไม่ได้กลัวลูกจะขาดความอบอุ่นหรอกนะ แต่พ่อกลัวตัวเองจะไม่ได้เจอหน้าลูกเหมือนปู่ต่างหาก” แม่เล่าต่อ บรรยากาศภายในรถไม่ได้เครียดเลย พ่อก็ไม่โกรธแม่ด้วย ปล่อยให้แม่พูดไป แถมพ่อยังเล่าเรื่องตอนเด็ก ๆ แอบย่าไปหาปู่บ่อย ๆ ให้ฟังอีก ครั้งสุดท้ายโดนหนัก โดนย่าปิดบ้านตีด้วยไม้คานนั่นแหละทำให้พ่อกับปู่ไม่ได้เจอกันอีกเลย เพราะปู่สงสารพ่อกับป้า
“แกก็อีกคน ! อะไรไม่ดีก็อย่าทำ” อ้าวซวยเลยผม พูดเรื่องปู่กับพ่ออยู่ดี ๆ แม่หันมาเทศนาผมซะอย่างนั้น ผมของนั่งเงียบ ๆ อยู่เบาะหลังไม่ออกความคิดเห็นอะไรละกัน
จบ…