เอาจริง! เตือนจัดฉากตายข้างถนน แชร์โซเชียลทำสังคมแตกตื่น คุก 5 ปี-ปรับ 1 แสน
วันพฤหัสบดี ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 14.44 น.
วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนถึงกรณีการแชร์ภาพและคลิปวิดีโอคนเสียชีวิตบนท้องถนน ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคม ดังนี้
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้โพสต์เตือนประกอบกับคลิปวิดีโอที่ปรากฎเป็นภาพผู้เสียชีวิตบนท้องถนน ในหลายสถานที่ แต่ปรากฎว่าผู้เสียชีวิตในหลายคลิปนั้นแต่งกายเหมือนกันและมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็ได้ถูกส่งต่อข้อมูลหรือแชร์ไปอย่างแพร่หลายในวงกว้าง ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความหวาดกลัวตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงสถานการณ์ฉุกเฉินและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว รวมถึงตัวผู้ที่เกี่ยวของทุกรายหากพบว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือเป็นความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายต่อไป
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามข่าวปลอม โดยกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฏิบัติกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ในการสร้างการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนหรือข่าวปลอม(Fake News) จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่โดยเฉพาะบนสื่อสังคมออนไลน์ และเร่งทำการพิสูจน์ทราบ สืบสวนสอบสวนรวมถึงดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายกับผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น
หากตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดจริง การกระทำดังกล่าวในลักษณะการผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือ คำสั่งที่ออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันที่พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆได้ง่าย ก็ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ ไม่ส่งต่อหรือแชร์ข้อมูล จนกว่าจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม เพราะในปัจจุบันนี้มีข่าวปลอมเกิดขึ้นทุกวัน นอกจากนี้หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center ของสำนักงานตำรวจแห่งยเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
https://www.naewna.com/local/591190
จี้ จนท.ไล่ล่าจับขบวนการแก๊งแกล้งตายโควิดป่วนเมือง
วันพฤหัสบดี ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 17.22 น.
ทิพานัน” ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบแก๊งรับจ้างจัดฉากแกล้งตายบนถนน สร้างความตื่นตระหนก พร้อมสาวให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ชี้มีความผิดถึงคุกสูงสุด 5 ปี ปรับ 100,000 บาท เตือนประชาชนตกเป็นเครื่องมือ วอนอย่ารีบแชร์ ห่วงเยาวชนเลียนแบบ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพจับผิดการจัดฉากภาพผู้เสียชีวิตนอนริมถนน ภาพคนล้มบนถนนเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นผลกระทบจากโควิด-19 และเมื่อได้ประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่าบางกรณีน่าสงสัยว่าเป็นการรับจ้างไปนอนล้มในสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพและส่งคลิป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม ซ้ำเติมวิกฤต ทำลายขวัญและกำลังใจของพี่น้องประชาชน เพิ่มภาระแก่เจ้าหน้าที่และเสียเวลาช่วยชีวิตผู้ป่วยที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือ ดังนั้นจึงต้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ คือ ผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้าง และผู้นำเข้า
ข้อมูลในสื่อโซเชียลทอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนข้อ 11 แห่งข้อกำหนดฉบับที่ 27 เรื่องมาตรการเพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนโดยทุจริต ข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ แล้วแต่พฤติการณ์
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่พบเห็นภาพในลักษณะดังกล่าว ขอให้หยุดคิดและตรวจสอบที่มาที่ไปของแหล่งข้อมูลที่นำภาพและคลิปมาเผยแพร่ก่อนรีบส่งต่อ ซึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือในการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย บั่นทอนกำลังใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่ ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชน อาจเกิดการลอกเลียนแบบพฤติกรรมนี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
“กลุ่มขบวนการ "เด็กเลี้ยงแกะ" ที่สร้างภาพสร้างสถานการณ์นั้น ขอให้คำนึงถึงความเป็นคน เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะในสถานการณ์วิกฤตโควิดแบบนี้ ทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตผู้ป่วยที่รอคอยความช่วยเหลือ หากเจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลากับการตรวจสอบเรื่องโกหกหรือข่าวปลอม หลายชีวิตอาจจะได้รับการช่วยเหลือไม่ทันเวลา ได้โปรดเห็นแก่ชีวิตมนุษย์”น.ส.ทิพานันกล่าว
https://www.banmuang.co.th/news/politic/244090
ขบวนการเด็กเลี้ยงแกะ มีแต่เฟคนิวส์
คนเสพต้องตั้งสติให้ดีค่ะ บางเรื่องก็ไม่ใช่อย่างที่เห็น
คนเมานอนข้างถนน ก็เอาสร้างเฟคนิวส์ได้ ทำสังคมตื่นตระหนก
ช่วยกันดูแล อย่าให้ใครทำลายบรรยากาศให้แย่ลงนะคะ
เจ้าหน้าที่ต้องเอาจริง อย่าได้ละเว้นค่ะ
โควิดว่าร้าย พวกนี้ยิ่งร้าย อย่าปล่อยให้ลอยนวล
🧡มาลาริน/จี้ ! จับขบวนการแกล้งตายโควิดป่วนเมือง/เตือนจัดฉากตายข้างถนน แชร์โซเชียลทำสังคมแตกตื่น คุก 5 ปี-ปรับ1แสน
วันพฤหัสบดี ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 14.44 น.
วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเรียนถึงกรณีการแชร์ภาพและคลิปวิดีโอคนเสียชีวิตบนท้องถนน ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคม ดังนี้
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้โพสต์เตือนประกอบกับคลิปวิดีโอที่ปรากฎเป็นภาพผู้เสียชีวิตบนท้องถนน ในหลายสถานที่ แต่ปรากฎว่าผู้เสียชีวิตในหลายคลิปนั้นแต่งกายเหมือนกันและมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็ได้ถูกส่งต่อข้อมูลหรือแชร์ไปอย่างแพร่หลายในวงกว้าง ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความหวาดกลัวตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้วงสถานการณ์ฉุกเฉินและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินการพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว รวมถึงตัวผู้ที่เกี่ยวของทุกรายหากพบว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือเป็นความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายต่อไป
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามข่าวปลอม โดยกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องประสานการปฏิบัติกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ในการสร้างการรับรู้ข่าวสารที่ถูกต้องให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อป้องกันการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือนหรือข่าวปลอม(Fake News) จากกลุ่มผู้ไม่หวังดีที่โดยเฉพาะบนสื่อสังคมออนไลน์ และเร่งทำการพิสูจน์ทราบ สืบสวนสอบสวนรวมถึงดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายกับผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายอย่างเด็ดขาดไม่มีข้อยกเว้น
หากตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดจริง การกระทำดังกล่าวในลักษณะการผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือ คำสั่งที่ออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ในปัจจุบันที่พี่น้องประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆได้ง่าย ก็ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าหลงเชื่อ ไม่ส่งต่อหรือแชร์ข้อมูล จนกว่าจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม เพราะในปัจจุบันนี้มีข่าวปลอมเกิดขึ้นทุกวัน นอกจากนี้หากพี่น้องประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center ของสำนักงานตำรวจแห่งยเลข 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
https://www.naewna.com/local/591190
จี้ จนท.ไล่ล่าจับขบวนการแก๊งแกล้งตายโควิดป่วนเมือง
วันพฤหัสบดี ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 17.22 น.
ทิพานัน” ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสอบแก๊งรับจ้างจัดฉากแกล้งตายบนถนน สร้างความตื่นตระหนก พร้อมสาวให้ถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ทำเป็นขบวนการหรือไม่ ชี้มีความผิดถึงคุกสูงสุด 5 ปี ปรับ 100,000 บาท เตือนประชาชนตกเป็นเครื่องมือ วอนอย่ารีบแชร์ ห่วงเยาวชนเลียนแบบ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีโลกออนไลน์แชร์ภาพจับผิดการจัดฉากภาพผู้เสียชีวิตนอนริมถนน ภาพคนล้มบนถนนเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นผลกระทบจากโควิด-19 และเมื่อได้ประสานงานให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่าบางกรณีน่าสงสัยว่าเป็นการรับจ้างไปนอนล้มในสถานที่ต่างๆ เพื่อถ่ายภาพและส่งคลิป ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการสร้างความตื่นตระหนกให้กับสังคม ซ้ำเติมวิกฤต ทำลายขวัญและกำลังใจของพี่น้องประชาชน เพิ่มภาระแก่เจ้าหน้าที่และเสียเวลาช่วยชีวิตผู้ป่วยที่กำลังรอคอยความช่วยเหลือ ดังนั้นจึงต้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ คือ ผู้รับจ้าง ผู้ว่าจ้าง และผู้นำเข้า
ข้อมูลในสื่อโซเชียลทอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนข้อ 11 แห่งข้อกำหนดฉบับที่ 27 เรื่องมาตรการเพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท และความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนโดยทุจริต ข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ แล้วแต่พฤติการณ์
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ขอฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่พบเห็นภาพในลักษณะดังกล่าว ขอให้หยุดคิดและตรวจสอบที่มาที่ไปของแหล่งข้อมูลที่นำภาพและคลิปมาเผยแพร่ก่อนรีบส่งต่อ ซึ่งอาจตกเป็นเครื่องมือในการสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย บั่นทอนกำลังใจของผู้ปฏิบัติหน้าที่ ที่น่าเป็นห่วงคือเยาวชน อาจเกิดการลอกเลียนแบบพฤติกรรมนี้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
“กลุ่มขบวนการ "เด็กเลี้ยงแกะ" ที่สร้างภาพสร้างสถานการณ์นั้น ขอให้คำนึงถึงความเป็นคน เลิกการกระทำดังกล่าวเสีย เพราะในสถานการณ์วิกฤตโควิดแบบนี้ ทุกวินาทีมีค่าต่อชีวิตผู้ป่วยที่รอคอยความช่วยเหลือ หากเจ้าหน้าที่ต้องเสียเวลากับการตรวจสอบเรื่องโกหกหรือข่าวปลอม หลายชีวิตอาจจะได้รับการช่วยเหลือไม่ทันเวลา ได้โปรดเห็นแก่ชีวิตมนุษย์”น.ส.ทิพานันกล่าว
https://www.banmuang.co.th/news/politic/244090
ขบวนการเด็กเลี้ยงแกะ มีแต่เฟคนิวส์
คนเสพต้องตั้งสติให้ดีค่ะ บางเรื่องก็ไม่ใช่อย่างที่เห็น
คนเมานอนข้างถนน ก็เอาสร้างเฟคนิวส์ได้ ทำสังคมตื่นตระหนก
ช่วยกันดูแล อย่าให้ใครทำลายบรรยากาศให้แย่ลงนะคะ
เจ้าหน้าที่ต้องเอาจริง อย่าได้ละเว้นค่ะ
โควิดว่าร้าย พวกนี้ยิ่งร้าย อย่าปล่อยให้ลอยนวล