JJNY : ติดเชื้อ 11,305 เสียชีวิต 80│คลองเตยวิกฤต ดับคาบ้านหลายราย│หลานเฝ้าศพยายติดโควิดดับ│ล็อกดาวน์13จว.ฉุดจีดีพี3แสนล.

ยอดป่วย 'โควิด' ทะยานต่อ พบติดเชื้อเพิ่ม 11,305 ราย เสียชีวิต 80 ราย ผงะ! ป่วยสะสมเฉียด 4 แสน
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2838200
 
 
ยอดป่วย ‘โควิด’ ทะยานต่อ พบติดเชื้อเพิ่ม 11,305 ราย เสียชีวิต 80 ราย ผงะ! ป่วยสะสมเฉียด 4 แสน
 
เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย ระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 11,305 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 10,710 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 595 ราย ผู้ป่วยสะสม 397,612 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 6,557 ราย หายป่วยสะสม 268,782 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) เสียชีวิต 80 ราย
  

 
คลองเตยวิกฤต โควิดยังระบาด  เหตุตรวจเชิงรุกไม่ทัน ดับคาบ้านหลายราย
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/152091
 
ชุมชนคลองเตยไม่ใช่ไร้การระบาด แต่การตรวจเชิงรุกทำได้น้อยลง ขณะที่ผู้เสียชีวิตคาบ้าน ในชุมชนคลองเตย ก็มีหลายรายต่อสัปดาห์
 
เดือนมษายน ที่ผ่านมา ถ้าพูดถึงกลุ่มก้อนการระบาดในชุมชนที่ใหญ่มที่สุด ก็คือคลัสเตอร์ ชุมชนคลองเตย ตอนนั้นความช่วยเหลือในทุกๆด้าน มุ่งสู่ชุมชนคลองเตย ทั้งการตรวจเชิงรุก ทั้งการจัดวัคซีนเข้าไปฉีดเป็นการเร่งด้วยเพราะเป็นพื้นที่แพร่ระบาด ตอนนี้ชื่อของชุมชนคลองเตยเงียบไปไม่ใช่เพราะไร้การระบาด แต่การตรวจเชิงรุกทำได้น้อยลง ขณะที่ผู้เสียชีวิตคาบ้าน ในชุมชนคลองเตย ก็มีหลายรายต่อสัปดาห์
 
ขณะนี้ผู้ติดเชื้อโควิดอาการหนัก ในชุมชนคลองเตยมีมากกว่า 20 คน นี่คือคำบอกเล่า จากผู้ก่อตั้งกลุ่มจิตอาสาคลองเตย นายสิทธิชาติ อังคะสิทธิศิริ ประธานชุมชนคลองเตย ล็อก 1-2-3 เขาบอกว่า ภาพรวมสถานการณ์โควิด ในพื้นที่คลองเตย เข้าขั้นวิกฤต ขณะที่การตรวจเชิงรุกในพื้นที่ทำไม่ทัน ต่อสถานการณ์ ทำให้การติดเชื้อแพร่กระจายไปทั่ว หลายครั้งพบว่า มีคนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน ทั้งที่ยังไม่ได้ตรวจโควิด ตอนนี้ อาสาในชุมชนต้องใช้รถกระบะนำผู้ป่วยอาการหนักไปส่งโรงพยาบาล เพราะ ไม่มีรถมารับ โดยการใช้รถขนผู้ป่วย ทำสลับกับ ขนศพผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิต เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนในชุมชนเสียชีวิตที่บ้านเพราะโควิด 3-4 คน
 
ผู้นำชุมชนบอกว่า ยอดติดเชื้อที่สูงขึ้นในชุมชนคลองเตย เกิดจากการที่ยกเลิกการตรวจโควิดเชิงรุกไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถคัดแยกผู้ติดเชื้อออกจากคนปกติได้ และโดยลักษณะทางกายภาพของชุมชน ที่บ้านแต่ละหลังห่างกันไม่กี่เมตร ต้องเดินผ่านกันไปมา เป็นไปได้ยากที่จะไม่ติดเชื้อโควิดต่อๆกัน
 
ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลของศบค. ที่ระบุว่า การระบาดครั้งล่าสุดนี้ มักจะเกิดขึ้นในครอบครัวและชุมชนมากที่สุด และจะความคุมได้ยากที่สุด
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
 


หลานเฝ้าศพยาย หลังติดโควิดดับคาบ้าน 
https://www.pptvhd36.com/news/อาชญากรรม/152087
 
เกิดเหตุสลดพบศพหญิงอ้วนน้ำหนัก120 กิโลกรัม เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 นอนเสียชีวิตคาบ้านพักย่านจ.นนทบุรี นับ 10 ชม.
 
พบหญิงอายุ 59 ปี น้ำหนักตัว120 กิโล เสียชีวิตภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี ตั้งแต่เมื่อเวลา 06.00 น.ของเช้ามืดที่ผ่านมาแต่ยังไม่มีหน่วยงานได้เข้ามาเก็บศพจนถึงขณะนี้ ที่น่าสลดหดหู่ใจที่สุดคือภายในบ้านหลังดังกล่าวมีเพียงเด็กชายไร้เดียงสา วัยขวบครึ่ง และด.ญ. วัย 7 ขวบ อยู่กับศพภายในบ้าน โดยที่ยังไม่ทราบว่ายายนั้นได้เสียชีวิตไปแล้ว สร้างความสลดหดหู่ใจให้กับเพื่อนบ้าน
 
ต่อมาน้องน้ำ อายุ 16 ปี เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน เล่าว่าเธอ ตัดสินใจสวมถุงมือ เข้าไปในบ้าน อุ้ม น้องม่อน อายุขวบครึ่ง กับเด็กหญิงพลอย อายุ 7 ขวบ ซึ่งทั้งสองคนติดเชื้อโควิด-19 ออกมาจากศพคุณป้า เพราะทนรับสภาพกับเหตุการณ์นี้ ไม่ได้ ถามว่ากลัวติดเชื้อไหม น้องน้ำตอบว่ากลัวแต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อในบ้านตอนนี้ไม่มีใครที่สามารถดูแล เด็ก 2 คนนี้ได้ จึงตัดสินใจเข้าไปอุ้มเด็กออกมาด้านนอก โดยมีเพื่อนบ้านข้างเคียงอีกคนเข้าไปช่วยเหลือ
 
ป้าดำ เพื่อนข้างบ้านเล่าว่า ผู้เสียชีวิตคือนางวิภาวงศ์พิทักษ์ อายุ 58 ปี น้ำหนัก 120 กิโลเสียชีวิตตั้งแต่ช่วงเช้า โดยบ้านหลังดังกล่าวอยู่อาศัยด้วยกัน 7 คน คือพ่อ แม่ ลูกชาย ลูกสะใภ้ ลูกสาว น้องม่อน และน้องพลอย ทั้งหมดติดเชื้อ covid-19 ถูกส่งตัวไปรักษาแล้ว 4 คน ที่บ้านหลังนี้จึงเหลือเพียงผู้ตาย กับหลาน วัยขวบครึ่งและ 7 ขวบ ประกอบกับผู้ตายมีน้ำหนักตัวมาก มีโรคประจำตัวหลายโรค อาการหนักขึ้นหนักขึ้น
 
ล่าสุดทราบว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามนนทบุรี สวมชุดPPE ได้เข้ามารับศพผู้ตายที่บ้านแล้ว และพ่นฉีดยาฆ่าเชื้อภายในบ้านเบื้องต้น ซึ่งการนำร่างผู้ตายลงมาด้านล่างค่อนข้างลำบาก เนื่องจากผู้ตายมีน้ำหนักตัวมาก และต้องใช้รถขนเข็นในการขนศพขึ้นรถ ก่อนนำร่างไปเผาที่วัดวัดราษฎร์ประคองธรรม ทันที
 
ส่วนการช่วยเหลือเด็กทั้ง 2 คน ทางสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ได้ประสานช่วยเหลือเตรียมพาหลานผู้ตายทั้ง 2คนไปรักษาตัวอยู่กับแม่ที่รพ.สนามต่อ ไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่