สวัสดีค่ะทุกคน
เราเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า ถ้าสอบติดแอร์เราจะมาเขียนรีวิวเพื่อแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนๆที่สนใจได้อ่าน จริงๆแล้ว เราควรจะมาเขียนรีวิวตั้งแต่สอบติดแล้วแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างเลยไม่ได้มาเขียนสักที วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของเราจริงๆที่ได้มาเขียนรีวิว เราหวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่มีคนฝันหรือตามความฝันในการเป็นแอร์นะคะ
จริงๆเราสอบติดได้มาเกือบ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ ประสบการณ์การทำงานก็ร่วม 2 ปีกว่าแล้ว เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากอาชีพนี้ มีแต่ความทรงจำดีๆมากมายเลยค่ะ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้อาชีพของเราประสบปัญหาอยู่พอสมควร แต่เราก็ภูมิใจค่ะแล้วก็รู้สึกคิดไม่ผิดที่มีโอกาสได้ทำงานอาชีพนี้ เพราะอาชีพนี้ทำให้เราสามารถสร้างตัวและดูแลครอบครัวได้ค่ะ ถ้าฟ้าเปิดเมื่อไหร่ สถานการณ์โควิดดีขึ้น คิดว่าทุกคนคงเหงาอยู่ที่บ้านพอแล้ว อยากออกมาท่องเที่ยวกันเต็มที เมื่อเวลาที่สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น เราเชื่อว่าอาชีพนี้จะกลับมาคึกคักอีกครั้งค่ะ เลิกดราม่า 55 แล้วมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า....
สิ่งที่ทุกคนต้องเตรียมเพื่อการสมัคร คือ
- เรซูเม่ เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา
- ผลสอบโทอิค ตอนรอบเราต้องไม่ต่ำกว่า 650 คะแนน
- สายการบินแต่ละสาย จะมีเกณฑ์พิจารณาที่แตกต่างกัน ก่อนสมัครเราควรศึกษาก่อนนะคะ เช่น ส่วนสูง ภาษาที่ 3 หรือวุฒิการศึกษา
การสอบจะแบ่งเป็น 3 ด่านค่ะ
1. ด่านแรก คือ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ส่งเอกสารค่ะ สายที่เราทำงานค่อนข้างจะเคร่งเรื่องส่วนสูงมากค่ะ ถ้าขาดไปครึ่งเซนติเมตร ก็ไม่ได้นะคะ ตรงนี้เพื่อนๆต้องไปดูเกณฑ์ก่อนการสมัครก่อนนะคะ ว่าตัวเองอยู่ในเกณฑ์ไหม
ขั้นตอนต่อไป เขาจะนำเราเข้าไปในห้องโถงใหญ่ๆค่ะ เราต้องเดินลากกระเป๋าบินให้กรรมการดู พอเดินเสร็จแล้ว กรรมการก็มีคำถามง่ายๆให้เราค่ะ เช่น ชอบทะเลหรือภูเขาเพราะอะไร ถ้าให้เลือกเสื้อยืดกับเสื้อเชิ๊ตเลือกอะไร แล้วทำไมถึงเลือกอันนี้ เราแอบไปรู้มาว่าจริงๆแล้วรอบนี้คำตอบไม่ได้มีผลอะไรเลยค่ะกรรมการแค่อยากฟังเวลาเราพูด ดูบุคลิกภาพ และเขาแอบมองหารอยแผลเป็นที่เขาสามารถมองเห็นได้ค่ะ แล้วก็อย่าลืมทำตามกฏที่กรรมการขอไว้นะคะ เช่น รอบแรกต้องใส่กระโปรงยาวถึงหัวเข่า ห้ามใส่ถุงน่อง ใส่เสื้อแขนสั้น เพราะถ้าเราไม่ทำตามกฏเขาอาจจะคิดว่า เมื่อเราไปทำงานให้เขา เราจะรักษากฏต่างๆได้ไหม
2. ต่อมาด่านที่ 2 รอบ Group discussion ทำกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมกับผู้สมัครคนอื่นๆ รอบนี้กรรมการจะจัดเราเป็นกลุ่มค่ะ กลุ่มละประมาณ 10 คน กรรมการจะให้หัวข้อมาว่า ถ้าบนเครื่องบินมีผู้โดยสารที่เป็นคุณแม่ พาลูกชายขึ้นเครื่อง แล้ววันนั้นเป็นวันเกิดของลูกชาย จะทำอะไรหรือจะเซอไพรส์วันเกิดอะไรให้ผู้โดยสาร รอบนี้กรรมการจะเตรียมอุปกรณ์ให้เราด้วยค่ะ เช่น กระดาษ กรรไกร ผู้สมัครทุกคนต้องช่วยกันครีเอทอุปกรณ์และตรีมที่จะทำให้ผู้โดยสารประทับใจ จากนั้นก็โชว์ให้กรรมการดูค่ะ รอบนี้เราต้องพูดภาษาอังกฤษหมดเลยนะคะ เราคิดว่ารอบนี้กรรมการดูตอนเราทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นค่ะ ดูวิธีการพูดจา บุคลิกภาพ ความมีน้ำใจ และทัศนคติที่ดี การเสนอความคิดเห็นต่อผู้อื่นค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาอังกฤษมากไปนะคะ พูดผิดพูดถูกไม่เป็นไรค่ะ แต่เราไม่ควรแย่งเพื่อนพูดหรือพยายามทำตัวให้เด่นออกนอกหน้าเกินไปนะคะ อันนี้กรรมการไม่ค่อยชอบค่ะ
3. รอบสุดท้าย เป็นรอบโชว์ความสามารถพิเศษและสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ พอมาถึงรอบนี้แล้ว สิ่งที่เราคิดว่าสำคัญที่สุดคือความเป็นของตัวเองและความPositive ของเราค่ะ เราเลือกโชว์ความสามารถ 1 อย่าง ซึ่งก็คือร้องเพลง ซึ่งเราร้องเพลงไม่ได้เลย แต่อาศัยยิ้มเยอะๆกับความสดใสเข้าสู้ค่ะ พยายามความคุมสติ ไม่ให้ตื่นเต้น จริงๆความสามารถพิเศษไม่จำเป็นต้องโชว์ทุกคนนะคะ บางคนบอกว่าไม่มีก็มี แต่เราคิดว่า ควรหาอะไรโชว์ดีกว่าค่ะ ถ้าเราไม่เคยทำงานในสายงานนี้มาก่อน เพราะมีลูกเรือเก่าสายต่างๆมาสมัครเยอะเลย เขามีประสบการณ์การทำงานมากกว่า คุณสมบัติเขาได้เปรียบกว่าเราค่ะ
หลังจากโชว์ความสามารถเสร็จ ก็มาถึงสัมภาษณ์รอบสุดท้าย จะมีกรรมการนั่งอยู่ 2 คน ค่ะ คำถามที่เราโดนถามตอนสัมภาษณ์ กรรมการจะดูจากเรซูเม่แล้วถามค่ะ
- แนะนำตัวเอง สิ่งที่เราอยากบอก
- เกี่ยวกับงานที่เราทำล่าสุด ทำอะไรมาบ้าง
- คิดว่าถ้าให้ไปทำงานต่างเบส โอเคไหม
- คุยเรื่องส่วนตัว เรื่องที่บ้าน
- มีรูปมาให้ แล้วให้เราสุ่มเลือก แล้วให้เราลองพูดขายดูค่ะ แต่จะหินตรงที่ว่า ของต่างๆในรูปจะเป็นพวกของแปลกๆ เศษยางรถ เศษผม กรวดทราย เชือก ขยะ
ทริคที่เราอยากแนะนำคือ เราควรซื่อสัตย์ในการตอบคำถามค่ะ ถ้ากรรมการเห็นถึงความจริงใจและความตั้งใจ ยังไงกรรมการก็ชอบเราค่ะ พยายามเป็นตัวของตัวเองที่สุด ไม่ต้องเกร็งค่ะ พยายามคิดว่าเราคุยกับคนในครอบครัว อาจจะช่วยลดความตื่นเต้นได้ค่ะ
จบไปแล้วนะคะกับการรีวิว เราหวังจริงๆว่า ถ้ามีใครเข้ามาอ่าน จะได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อคนที่สนใจ สุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อนๆมีคำถามอะไรที่เกี่ยวกับอาชีพนี้คอมเมนต์ถามเราได้เลยนะคะ ขอเป็นกำลังใจกับทุกคนที่ตามล่าความฝันอยู่ อย่าเพิ่งยอมแพ้หรือท้อนะคะ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นแน่นอนค่ะ
ปล. ถ้าคุณคิดว่าการเป็นแอร์ คุณจะต้องสวยหรือขาว ขอบอกเลยนะคะว่าไม่จริง แต่ละคนมีความสวยและฉลาดในแบบฉบับของตัวเองค่ะ สิ่งสำคัญคือAttitude นะคะ สู้ๆค่ะทุกคน
รีวิวประสบการณ์การสอบแอร์ปีกสีแดง สู้สิวะอิหญิง เราต้องทำให้ได้
เราเคยสัญญากับตัวเองไว้ว่า ถ้าสอบติดแอร์เราจะมาเขียนรีวิวเพื่อแชร์ข้อมูลให้กับเพื่อนๆที่สนใจได้อ่าน จริงๆแล้ว เราควรจะมาเขียนรีวิวตั้งแต่สอบติดแล้วแต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างเลยไม่ได้มาเขียนสักที วันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดีของเราจริงๆที่ได้มาเขียนรีวิว เราหวังว่ารีวิวของเราจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่มีคนฝันหรือตามความฝันในการเป็นแอร์นะคะ
จริงๆเราสอบติดได้มาเกือบ 2 ปีกว่าแล้วค่ะ ประสบการณ์การทำงานก็ร่วม 2 ปีกว่าแล้ว เราได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากอาชีพนี้ มีแต่ความทรงจำดีๆมากมายเลยค่ะ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด จึงทำให้อาชีพของเราประสบปัญหาอยู่พอสมควร แต่เราก็ภูมิใจค่ะแล้วก็รู้สึกคิดไม่ผิดที่มีโอกาสได้ทำงานอาชีพนี้ เพราะอาชีพนี้ทำให้เราสามารถสร้างตัวและดูแลครอบครัวได้ค่ะ ถ้าฟ้าเปิดเมื่อไหร่ สถานการณ์โควิดดีขึ้น คิดว่าทุกคนคงเหงาอยู่ที่บ้านพอแล้ว อยากออกมาท่องเที่ยวกันเต็มที เมื่อเวลาที่สถานการณ์ต่างๆดีขึ้น เราเชื่อว่าอาชีพนี้จะกลับมาคึกคักอีกครั้งค่ะ เลิกดราม่า 55 แล้วมาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า....
สิ่งที่ทุกคนต้องเตรียมเพื่อการสมัคร คือ
- เรซูเม่ เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา
- ผลสอบโทอิค ตอนรอบเราต้องไม่ต่ำกว่า 650 คะแนน
- สายการบินแต่ละสาย จะมีเกณฑ์พิจารณาที่แตกต่างกัน ก่อนสมัครเราควรศึกษาก่อนนะคะ เช่น ส่วนสูง ภาษาที่ 3 หรือวุฒิการศึกษา
การสอบจะแบ่งเป็น 3 ด่านค่ะ
1. ด่านแรก คือ ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ส่งเอกสารค่ะ สายที่เราทำงานค่อนข้างจะเคร่งเรื่องส่วนสูงมากค่ะ ถ้าขาดไปครึ่งเซนติเมตร ก็ไม่ได้นะคะ ตรงนี้เพื่อนๆต้องไปดูเกณฑ์ก่อนการสมัครก่อนนะคะ ว่าตัวเองอยู่ในเกณฑ์ไหม
ขั้นตอนต่อไป เขาจะนำเราเข้าไปในห้องโถงใหญ่ๆค่ะ เราต้องเดินลากกระเป๋าบินให้กรรมการดู พอเดินเสร็จแล้ว กรรมการก็มีคำถามง่ายๆให้เราค่ะ เช่น ชอบทะเลหรือภูเขาเพราะอะไร ถ้าให้เลือกเสื้อยืดกับเสื้อเชิ๊ตเลือกอะไร แล้วทำไมถึงเลือกอันนี้ เราแอบไปรู้มาว่าจริงๆแล้วรอบนี้คำตอบไม่ได้มีผลอะไรเลยค่ะกรรมการแค่อยากฟังเวลาเราพูด ดูบุคลิกภาพ และเขาแอบมองหารอยแผลเป็นที่เขาสามารถมองเห็นได้ค่ะ แล้วก็อย่าลืมทำตามกฏที่กรรมการขอไว้นะคะ เช่น รอบแรกต้องใส่กระโปรงยาวถึงหัวเข่า ห้ามใส่ถุงน่อง ใส่เสื้อแขนสั้น เพราะถ้าเราไม่ทำตามกฏเขาอาจจะคิดว่า เมื่อเราไปทำงานให้เขา เราจะรักษากฏต่างๆได้ไหม
2. ต่อมาด่านที่ 2 รอบ Group discussion ทำกิจกรรมแบบกลุ่มร่วมกับผู้สมัครคนอื่นๆ รอบนี้กรรมการจะจัดเราเป็นกลุ่มค่ะ กลุ่มละประมาณ 10 คน กรรมการจะให้หัวข้อมาว่า ถ้าบนเครื่องบินมีผู้โดยสารที่เป็นคุณแม่ พาลูกชายขึ้นเครื่อง แล้ววันนั้นเป็นวันเกิดของลูกชาย จะทำอะไรหรือจะเซอไพรส์วันเกิดอะไรให้ผู้โดยสาร รอบนี้กรรมการจะเตรียมอุปกรณ์ให้เราด้วยค่ะ เช่น กระดาษ กรรไกร ผู้สมัครทุกคนต้องช่วยกันครีเอทอุปกรณ์และตรีมที่จะทำให้ผู้โดยสารประทับใจ จากนั้นก็โชว์ให้กรรมการดูค่ะ รอบนี้เราต้องพูดภาษาอังกฤษหมดเลยนะคะ เราคิดว่ารอบนี้กรรมการดูตอนเราทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่นค่ะ ดูวิธีการพูดจา บุคลิกภาพ ความมีน้ำใจ และทัศนคติที่ดี การเสนอความคิดเห็นต่อผู้อื่นค่ะ ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาอังกฤษมากไปนะคะ พูดผิดพูดถูกไม่เป็นไรค่ะ แต่เราไม่ควรแย่งเพื่อนพูดหรือพยายามทำตัวให้เด่นออกนอกหน้าเกินไปนะคะ อันนี้กรรมการไม่ค่อยชอบค่ะ
3. รอบสุดท้าย เป็นรอบโชว์ความสามารถพิเศษและสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ พอมาถึงรอบนี้แล้ว สิ่งที่เราคิดว่าสำคัญที่สุดคือความเป็นของตัวเองและความPositive ของเราค่ะ เราเลือกโชว์ความสามารถ 1 อย่าง ซึ่งก็คือร้องเพลง ซึ่งเราร้องเพลงไม่ได้เลย แต่อาศัยยิ้มเยอะๆกับความสดใสเข้าสู้ค่ะ พยายามความคุมสติ ไม่ให้ตื่นเต้น จริงๆความสามารถพิเศษไม่จำเป็นต้องโชว์ทุกคนนะคะ บางคนบอกว่าไม่มีก็มี แต่เราคิดว่า ควรหาอะไรโชว์ดีกว่าค่ะ ถ้าเราไม่เคยทำงานในสายงานนี้มาก่อน เพราะมีลูกเรือเก่าสายต่างๆมาสมัครเยอะเลย เขามีประสบการณ์การทำงานมากกว่า คุณสมบัติเขาได้เปรียบกว่าเราค่ะ
หลังจากโชว์ความสามารถเสร็จ ก็มาถึงสัมภาษณ์รอบสุดท้าย จะมีกรรมการนั่งอยู่ 2 คน ค่ะ คำถามที่เราโดนถามตอนสัมภาษณ์ กรรมการจะดูจากเรซูเม่แล้วถามค่ะ
- แนะนำตัวเอง สิ่งที่เราอยากบอก
- เกี่ยวกับงานที่เราทำล่าสุด ทำอะไรมาบ้าง
- คิดว่าถ้าให้ไปทำงานต่างเบส โอเคไหม
- คุยเรื่องส่วนตัว เรื่องที่บ้าน
- มีรูปมาให้ แล้วให้เราสุ่มเลือก แล้วให้เราลองพูดขายดูค่ะ แต่จะหินตรงที่ว่า ของต่างๆในรูปจะเป็นพวกของแปลกๆ เศษยางรถ เศษผม กรวดทราย เชือก ขยะ
ทริคที่เราอยากแนะนำคือ เราควรซื่อสัตย์ในการตอบคำถามค่ะ ถ้ากรรมการเห็นถึงความจริงใจและความตั้งใจ ยังไงกรรมการก็ชอบเราค่ะ พยายามเป็นตัวของตัวเองที่สุด ไม่ต้องเกร็งค่ะ พยายามคิดว่าเราคุยกับคนในครอบครัว อาจจะช่วยลดความตื่นเต้นได้ค่ะ
จบไปแล้วนะคะกับการรีวิว เราหวังจริงๆว่า ถ้ามีใครเข้ามาอ่าน จะได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อคนที่สนใจ สุดท้ายนี้ ถ้าเพื่อนๆมีคำถามอะไรที่เกี่ยวกับอาชีพนี้คอมเมนต์ถามเราได้เลยนะคะ ขอเป็นกำลังใจกับทุกคนที่ตามล่าความฝันอยู่ อย่าเพิ่งยอมแพ้หรือท้อนะคะ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่นแน่นอนค่ะ
ปล. ถ้าคุณคิดว่าการเป็นแอร์ คุณจะต้องสวยหรือขาว ขอบอกเลยนะคะว่าไม่จริง แต่ละคนมีความสวยและฉลาดในแบบฉบับของตัวเองค่ะ สิ่งสำคัญคือAttitude นะคะ สู้ๆค่ะทุกคน