อย่างแรกคือต้องบอกเลยว่าเราอยู่ม.6ค่ะ เรามีแพชชั่นในอาชีพที่เราอยากเป็นมากเลยค่ะ มันเป็นอาชีพที่ต้องได้คะแนนสูงและรับคนจำนวนจำกัดที่น้อยมากๆเลยค่ะ จบไปแล้วคุ้มค่ะ(พอเดากันได้ใช่ไหมคะ) ช่วงแรกครอบครัวเราไม่สนับสนุนเลยค่ะเพราะไม่ใช่ว่างานที่จบไปแล้วจะไม่ดี แต่ที่เขาไม่ยอมรับคือจำนวนที่เราไปสอบตอนแรก(รอบโควตา)เขารับเพียงแค่10คนค่ะ เรารู้สึกว่าช่วงนั้นเราฮึดมากเราว่าเราทำได้ เราเต็มที่กับมันมาก พอสอบเสร็จเเล้วเราก็คงมั่นใจกับมันว่าเราเข้าได้แน่ ชัวร์ๆผลสรุปแล้วเราติดสำรองค่ะช่วงนั้นเราดาวน์ไม่เอาอะไรเลยค่ะ แล้วไม่มีคนสละสิทธิ์ด้วย มันครส.เดียวกับคนที่พึ่งอกหักเลยค่ะ ร้องไห้ไม่ออก มันตกใจ เสียใจ แล้วก็คิดว่าทำไมตรงนั้นไม่ใช่ที่ของเราทั้งๆที่ความพยายามของเราก็ไม่ใช่น้อยๆ เราลาเรียนเพื่อมาติวมันก่อนสอบ แต่เรากับทำมันไม่ได้ มันห่างกับเรานิดเดียวเองค่ะ ทำไมเราถึงคว้ามันไม่ได้ เราแทบจะทิ้งทุกอย่างในชีวิตเลยค่ะตอนนั้น หลังจากที่เราช็อคเสร็จแล้วเราก็ร้องไห้กับมันอยู่นานมากๆเลยค่ะ หลังจากนั้นเราก็เกิดฮึดอีกครั้งนึงขึ้นมาค่ะเพราะมันมีรอบปกติที่รับเพียง5คนทั้งประเทศ เราเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพ่อกับแม่เขาก็ยิ่งไม่ยอมรับยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ เพราะรอบนี้จะไม่ใช่แค่เด็กม.6แล้ว ยังมีเด็กซิ่วอีกและรับเพียง5คนเท่านั้นเป็นการแข่งขันที่สูงมาก พ่อกับแม่เค้าไม่อยากให้เรามาอีกค่ะ เค้าบอกว่าถ้าไม่ติดมันไม่คุ้ม+ค่าใช้จ่ายในการพามาสอบต่างๆแพงมากค่ะ บ้านอยู่ไกลจากที่สอบมากด้วยค่ะ(เเต่ใจเรารักในอาชีพนี้มาก เราเตรียมตัวเพื่อสอบอาชีพนี้มานานพอสมควรเลยค่ะ) ใจเรามันสู้มากค่ะ เรารู้ว่าเราไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอก รับเพียงแค่5คนเราก็สู้ แต่ที่เราท้อคือคำพูดที่เราโดนกรอกรอบข้างตลอด เรายอมรับเลยค่ะมันทำให้แพชชั่นเรามันน้อยลงเรื่อยๆ ทุกๆครั้งที่พยายามอธิบายจะไม่มีใครเปิดใจรับฟัง และการที่เราต้องมาอธิบายเรื่องแบบนั้นทำให้เราท้อยิ่งกว่าเดิมอีกค่ะ เราตต้องร้องไห้ทุกครั้งที่เราอธิบายให้เขาฟังเขาทั้งไม่ยอมรับและตัดกำลังใจเรา ที่เรามาเล่าเรื่องราวในครั้งนี้มีใครมีกำลังใจดีๆ หรือมีใครที่กำลังเจอสถานการณ์เดียวกันก็มาเล่าให้ฟังได้นะคะ ช่วงนี้ดาวน์มากเลยค่ะร้องไห้เพราะเรื่องการเรียนทุกวันเลยค่ะ
รู้สึกเป้าหมายในการเรียนอยู่สูงเกินไป ทำยังไงดี