ด่วน! โควิดวันนี้ ติดเชื้อเสียชีวิตเพิ่ม 86 ราย พบผู้ป่วยใหม่พุ่ง 9,539 ราย
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6502515
โควิดวันนี้ ศบค. เผยสถานการณ์ประจำวันเบื้องต้น ป่วยใหม่พุ่ง 9,539 ราย เศร้าอีก เสียชีวิตเพิ่ม 86 ราย ระบุ หายป่วยกลับบ้าน 4,053 ราย
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 11 ก.ค.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยใหม่ 9,539 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 9,436 ราย, ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 103 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 4,053 ราย หายป่วยสะสม 220,545 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกเดือนเม.ย. จำนวน 307,508 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 86 ราย ทั้งนี้ ศบค.จะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งเวลาประมาณ 12.30 น.
บุคลากรแพทย์มาเลย์ฉีดไฟเซอร์ ติดโควิดอื้อแต่อาการไม่หนัก
https://www.nationtv.tv/news/378828813
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานผลฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบโดส แก่บุคลากรแพทย์มาเลเซีย แม้ติดเชื้อโควิดทะลุ 2 พันคน แต่ไม่มีบุคคลใดอาการรุนแรง แตกต่างจากเจ้าหน้าที่แพทย์อินโดนีเซีย ฉีดซิโนแวคแต่เสียชีวิตจำนวนมาก
สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซีย อ้างคำกล่าวของ ดร.
อัมฮัม บาบา รัฐมนตรีสาธารณสุขว่า ตอนนี้บุคลากรการแพทย์ของมาเลเซียจำนวน 2,341 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบโดสแล้ว แต่ไม่มีใครอาการหนักแม้แต่รายเดียว
โดยแยกตามหมวดอาการระดับที่ 1 จำนวน 778 ราย , กลุ่ม 2 จำนวน 1,559 ราย , กลุ่ม 3 จำนวน 2 ราย , กลุ่ม 4 จำนวน 2 ราย , และไม่มีใครอาการร้ายแรงอยู่ในกลุ่มที่ 5 จึงเชื่อว่า เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
ซึ่งสถานการณ์ในมาเลเซีย แตกต่างจากอินโดนีเซีย หลังจากสำนักข่างต่างประเทศ รายงานข่าวอ้างสมาคมโรงพยาบาลอินโดนีเซียว่า บุคลากรการแพทย์ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วประมาณ 95% ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนซิโนแวค
โดย Lapor COVID-19 แหล่งข้อมูลอิสระเกาะติดสถานการณ์โควิด ระบุว่า มีบุคลากรการแพทย์เสียชีวิต 131 ราย นับจากเดือน มิ.ย.ทำให้เกิดคำถามเรื่องประสิทธิภาพวัคซีนจากจีน
ล่าสุดรัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย ประกาศว่า จะใช้วัคซีนโมเดอร์นา ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา เป็น booster dose หรือกระตุ้นภูมิต้านทาน ให้กับบุคลาการแพทย์ 1.47 ล้านคนที่ฉีดซิโนแวคแล้ว เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เสี่ยงกับเชื้อไวรัสระดับสูงทุกวัน
ทั้งนี้สหรัฐจะบริจาควัคซีนโมเดอร์นา 4 ล้านโดส ผ่านโครงการแบ่งปันวัคซีนโลก COVAX ให้แก่อินโดนีเซีย โดยวัคซีนจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) และจะเริ่มฉีดเข็ม 3 ให้บุคลากรการแพทย์ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ทารกน้อยสิ้นใจหลังโควิดลงปอด หมอที่แพร่ผ่าท้องช่วย ด้านแม่ก็อาการหนัก
https://www.thairath.co.th/news/local/north/2137362
ทารกน้อยสิ้นใจหลังโควิดลงปอด หมอที่แพร่ผ่าท้องช่วย ด้านแม่ก็อาการหนัก
สสจ.แพร่ แถลง เคสทารกแรกเกิดติดโควิดตาย ระบุ ผ่าออกจากท้องแม่ที่ป่วยโควิด-19 ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่นานก็สิ้นใจเพราะติดเชื้อจากแม่ โดยขณะนี้อาการยังโคม่าต้องเจาะคอใส่เครื่องช่วยหายใจ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กทารกแรกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมสวมชุดป้องกัน เข้ารับร่างทารกน้อยซึ่งคลอดก่อนกำหนด โดยมีอายุครรภ์เพียง 28 สัปดาห์ ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดทำคลอดเมื่อเวลา 14.26 น.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีภาวะหัวใจเต้นเร็ว
ขณะที่ มารดา หญิงอายุ 28 ปี เพิ่งเดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยการประสานขอเข้าร่วมโครงการคนแพร่ไม่ทิ้งกัน มีรถไปรับมารักษาตัวที่บ้านเกิด แต่เนื่องจากมารดามีภาวะป่วยโควิด-19 แล้วเชื้อลงปอด ต้องเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ จากการตรวจทารกในครรภ์มีภาวะหัวใจเต้นเร็ว แพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดทำคลอดก่อนกำหนด เพื่อช่วยเหลือชีวิตทั้งแม่และเด็กไว้ แต่หลังคลอดทารกยังมีอาการหัวใจเต้นเร็ว แม้แพทย์ช่วยเหลือทุกทางแล้วแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือไว้ได้ สิ้นใจไปในที่สุด
นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้ป่วยที่ขอกลับมารักษาที่จังหวัดแพร่ ในโครงการคนแพร่ไม่ทิ้งกัน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา มีอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ยังไม่ครบกำหนดคลอด แต่มีอาการไข้ และหายใจหอบเนื่องจากเชื้อลงปอด แพทย์ได้ทำการประเมินผู้ป่วย และได้ทำการผ่าตัดทำคลอดเพื่อช่วยชีวิตแม่และลูก แต่เนื่องจากลูกนั้นมีอายุเพียง 28 สัปดาห์ยังไม่ครบกำหนดคลอด ทำให้เด็กเสียชีวิต
เบื้องต้น หลังผ่าคลอดแม่ปลอดภัยดี จึงทำการรักษาผู้เป็นแม่ต่อไป และส่งร่างเด็กน้อยให้ครอบครัวซึ่งได้ขอให้เจ้าหน้าที่สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่ นำร่างทำพิธีฌาปนกิจที่ป่าช้าประตูมารทันทีเมื่อเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา.
JJNY : เสียชีวิต86 ป่วยใหม่9,539 │แพทย์มาเลย์ฉีดไฟเซอร์ ติดอื้อแต่ไม่หนัก│ทารกสิ้นใจหลังโควิดลงปอด│หอค้าคาด14วันสูญแสนล.
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6502515
เมื่อเวลา 07.50 น. วันที่ 11 ก.ค.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยใหม่ 9,539 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 9,436 ราย, ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 103 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 4,053 ราย หายป่วยสะสม 220,545 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกเดือนเม.ย. จำนวน 307,508 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 86 ราย ทั้งนี้ ศบค.จะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งเวลาประมาณ 12.30 น.
บุคลากรแพทย์มาเลย์ฉีดไฟเซอร์ ติดโควิดอื้อแต่อาการไม่หนัก
https://www.nationtv.tv/news/378828813
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานผลฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบโดส แก่บุคลากรแพทย์มาเลเซีย แม้ติดเชื้อโควิดทะลุ 2 พันคน แต่ไม่มีบุคคลใดอาการรุนแรง แตกต่างจากเจ้าหน้าที่แพทย์อินโดนีเซีย ฉีดซิโนแวคแต่เสียชีวิตจำนวนมาก
สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซีย อ้างคำกล่าวของ ดร.อัมฮัม บาบา รัฐมนตรีสาธารณสุขว่า ตอนนี้บุคลากรการแพทย์ของมาเลเซียจำนวน 2,341 คน ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังได้รับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ครบโดสแล้ว แต่ไม่มีใครอาการหนักแม้แต่รายเดียว
โดยแยกตามหมวดอาการระดับที่ 1 จำนวน 778 ราย , กลุ่ม 2 จำนวน 1,559 ราย , กลุ่ม 3 จำนวน 2 ราย , กลุ่ม 4 จำนวน 2 ราย , และไม่มีใครอาการร้ายแรงอยู่ในกลุ่มที่ 5 จึงเชื่อว่า เป็นผลมาจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
ซึ่งสถานการณ์ในมาเลเซีย แตกต่างจากอินโดนีเซีย หลังจากสำนักข่างต่างประเทศ รายงานข่าวอ้างสมาคมโรงพยาบาลอินโดนีเซียว่า บุคลากรการแพทย์ได้รับวัคซีนครบโดสแล้วประมาณ 95% ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนซิโนแวค
โดย Lapor COVID-19 แหล่งข้อมูลอิสระเกาะติดสถานการณ์โควิด ระบุว่า มีบุคลากรการแพทย์เสียชีวิต 131 ราย นับจากเดือน มิ.ย.ทำให้เกิดคำถามเรื่องประสิทธิภาพวัคซีนจากจีน
ล่าสุดรัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซีย ประกาศว่า จะใช้วัคซีนโมเดอร์นา ที่ได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกา เป็น booster dose หรือกระตุ้นภูมิต้านทาน ให้กับบุคลาการแพทย์ 1.47 ล้านคนที่ฉีดซิโนแวคแล้ว เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เสี่ยงกับเชื้อไวรัสระดับสูงทุกวัน
ทั้งนี้สหรัฐจะบริจาควัคซีนโมเดอร์นา 4 ล้านโดส ผ่านโครงการแบ่งปันวัคซีนโลก COVAX ให้แก่อินโดนีเซีย โดยวัคซีนจะมาถึงในวันพรุ่งนี้ (11 มิ.ย.) และจะเริ่มฉีดเข็ม 3 ให้บุคลากรการแพทย์ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป
ทารกน้อยสิ้นใจหลังโควิดลงปอด หมอที่แพร่ผ่าท้องช่วย ด้านแม่ก็อาการหนัก
https://www.thairath.co.th/news/local/north/2137362
ทารกน้อยสิ้นใจหลังโควิดลงปอด หมอที่แพร่ผ่าท้องช่วย ด้านแม่ก็อาการหนัก
สสจ.แพร่ แถลง เคสทารกแรกเกิดติดโควิดตาย ระบุ ผ่าออกจากท้องแม่ที่ป่วยโควิด-19 ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่นานก็สิ้นใจเพราะติดเชื้อจากแม่ โดยขณะนี้อาการยังโคม่าต้องเจาะคอใส่เครื่องช่วยหายใจ
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 10 กรกฎาคม 2564 สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตเป็นเด็กทารกแรกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จึงได้จัดเจ้าหน้าที่พร้อมสวมชุดป้องกัน เข้ารับร่างทารกน้อยซึ่งคลอดก่อนกำหนด โดยมีอายุครรภ์เพียง 28 สัปดาห์ ซึ่งเข้ารับการผ่าตัดทำคลอดเมื่อเวลา 14.26 น.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีภาวะหัวใจเต้นเร็ว
ขณะที่ มารดา หญิงอายุ 28 ปี เพิ่งเดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยการประสานขอเข้าร่วมโครงการคนแพร่ไม่ทิ้งกัน มีรถไปรับมารักษาตัวที่บ้านเกิด แต่เนื่องจากมารดามีภาวะป่วยโควิด-19 แล้วเชื้อลงปอด ต้องเจาะคอเพื่อช่วยหายใจ จากการตรวจทารกในครรภ์มีภาวะหัวใจเต้นเร็ว แพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดทำคลอดก่อนกำหนด เพื่อช่วยเหลือชีวิตทั้งแม่และเด็กไว้ แต่หลังคลอดทารกยังมีอาการหัวใจเต้นเร็ว แม้แพทย์ช่วยเหลือทุกทางแล้วแต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือไว้ได้ สิ้นใจไปในที่สุด
นายแพทย์ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้ป่วยที่ขอกลับมารักษาที่จังหวัดแพร่ ในโครงการคนแพร่ไม่ทิ้งกัน เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา มีอายุครรภ์ 28 สัปดาห์ ยังไม่ครบกำหนดคลอด แต่มีอาการไข้ และหายใจหอบเนื่องจากเชื้อลงปอด แพทย์ได้ทำการประเมินผู้ป่วย และได้ทำการผ่าตัดทำคลอดเพื่อช่วยชีวิตแม่และลูก แต่เนื่องจากลูกนั้นมีอายุเพียง 28 สัปดาห์ยังไม่ครบกำหนดคลอด ทำให้เด็กเสียชีวิต
เบื้องต้น หลังผ่าคลอดแม่ปลอดภัยดี จึงทำการรักษาผู้เป็นแม่ต่อไป และส่งร่างเด็กน้อยให้ครอบครัวซึ่งได้ขอให้เจ้าหน้าที่สมาคมอาสาสมัครกู้ภัยจังหวัดแพร่ นำร่างทำพิธีฌาปนกิจที่ป่าช้าประตูมารทันทีเมื่อเวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา.