บ้านเรามีกัน 4 คน พ่อแม่เราน้องชาย ทุกคนอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหมด ฉีดวัคซีนกันครบแล้วทุกคน แต่ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อ
ครอบครัวเรา ต่างมาถึงจุดที่ต้องแยกกันอยู่คนล่ะชั้นคนล่ะมุมในบ้านชั่วคราว ต่างคนต่างมีห้องนอนห้องน้ำส่วนตัว ในแต่ล่ะชั้น
สาเหตุหลักคือ ไม่ต้องการจะเป็นพาหะนำพาให้คนในครอบครัวตัวเองและเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นกันต้องกลายเป็นผู้ติดเชื้อ ในกรณีที่ตัวเองอาจจะติดเชื้อเพราะพวกเราทั้งสี่คนมีโอกาสติดเชื้อสูง
ง่ายๆคือตัดโอกาสให้น้อยที่สุดในการเอาโควิดจากที่ทำงานไปติดและแพร่เชื้อให้คนในบ้าน
และตัดโอกาสเอาโควิดจากคนในบ้านไปติดและแพร่เชื้อให้เพื่อนร่วมงานซึ่งต่างเป็นบุคคลากรทางการแพทย์โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานด่านหน้า
ทุกคนต้องเข้าเวรเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดก็เพิ่มขึ้นตามตัวไปด้วย ลงเวรมาก็รีบอาบน้ำป้องกันตัวเอง ดูแลตัวเอง
บอกตรงๆว่า หดหู่มาก กับบรรยากาศและสิ่งแวดล้อม แต่พยายามเข้มแข็ง บอกตัวเองทุกวันว่า จะต้องไม่ติด จะระมัดระวัง แต่ก็เตรียมใจเตรียมตัวนะที่จะติด ประมาณว่า ใช้ชีวิตตั้งอยู่บนความไม่ประมาทแต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจจนเกินเหตุและเตรียมใจเตรียมพร้อมรับมือถ้าตัวเองติดเชื้อ
เราไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันสำหรับการตรวจผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการติดโควิด-19 ดังนั้นถ้าผู้ป่วยจงใจหรือปกปิดข้อมูลความเสี่ยงในการติดเชื้อ เราก็มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อจากผู้ป่วยนั้นๆ เพราะต้องสัมผัสผู้ป่วยโดยตรงและระบบคัดกรองผู้ป่วยก็มีช่องโหว่บ้างทำให้เราอาจจะสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว
PPE อุปกรณ์ป้องกันก็ไม่ได้มีเหลือใช้ วัคซีน mRNA ก็ยังมาไม่ถึง คนก็ล้นโรงพยาบาล แผนกฉุกเฉินงดให้บริการชั่วคราว เตียง ICU เต็ม…
ระบบสาธารณสุขล่มสลาย?!!!
ถ้าใครสงสัยว่าตัวเองเสี่ยง/อาจจะติดเชื้อให้รีบไปตรวจและกักตัว ให้สมมุติฐานไว้ก่อนเลยว่าตัวเองเป็นจะได้ไม่สุ่มเสี่ยงออกไปแพร่เชื้อแพร่กระจายในวงกว้างให้ผู้อื่นไปเป็นทอดๆ จนกว่าผลตรวจจะออกมาเป็นลบค่ะ
เราไม่กลัวติดเชื้อนะ แต่ก็ไม่อยากจะติดเชื้อ ไม่อยากจะป่วย แต่ก็ยอมรับว่าทุกวันนี้เหมือนรอเวลาจะติดเชื้อโควิดแค่ไม่รู้ว่าตอนไหน เมื่อไหร่แค่นั้นเอง แต่ถ้าเราติดจะมาเขียนเป็นวิทยาทานอย่างละเอียดเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ เรามาเล่าสู่ให้ฟังในส่วนเล็กๆและเป็นความเห็นส่วนตัวของเราล้วนๆค่ะ
ครอบครัวเราหาทางป้องกันตัวเองในเรื่องวัคซีนด้วยเงินส่วนตัวล้วนๆ ไม่เรียกร้องต่อว่าอะไรกับใครในส่วนนี้ค่ะ
ไม่ใช่หมอทุกคนทำงานกับเคสโควิดตลอดเวลา
หมอพยาบาลบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับเข็มที่สาม วัคซีน Pfizer ใช้การกระตุ้นภูมิ จากรัฐบาลที่จะได้รับ 1.5 ล้านโดสในเดือนนี้ โดยไม่ได้ ”เห็นแก่ตัว” แต่อย่างใด โดยเฉพาะทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทำงานในวอร์ดโควิด ไม่เฉพาะแค่หมอ พยาบาล เท่านั้น เจ้าหน้าที่ต่างๆด้วย
เล่าสู่กันฟังเรื่องสถานการณ์โควิด-19
ครอบครัวเรา ต่างมาถึงจุดที่ต้องแยกกันอยู่คนล่ะชั้นคนล่ะมุมในบ้านชั่วคราว ต่างคนต่างมีห้องนอนห้องน้ำส่วนตัว ในแต่ล่ะชั้น
สาเหตุหลักคือ ไม่ต้องการจะเป็นพาหะนำพาให้คนในครอบครัวตัวเองและเพื่อนร่วมงานที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงเช่นกันต้องกลายเป็นผู้ติดเชื้อ ในกรณีที่ตัวเองอาจจะติดเชื้อเพราะพวกเราทั้งสี่คนมีโอกาสติดเชื้อสูง
ง่ายๆคือตัดโอกาสให้น้อยที่สุดในการเอาโควิดจากที่ทำงานไปติดและแพร่เชื้อให้คนในบ้าน
และตัดโอกาสเอาโควิดจากคนในบ้านไปติดและแพร่เชื้อให้เพื่อนร่วมงานซึ่งต่างเป็นบุคคลากรทางการแพทย์โดยไม่ได้ตั้งใจ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำงานด่านหน้า
ทุกคนต้องเข้าเวรเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิดก็เพิ่มขึ้นตามตัวไปด้วย ลงเวรมาก็รีบอาบน้ำป้องกันตัวเอง ดูแลตัวเอง
บอกตรงๆว่า หดหู่มาก กับบรรยากาศและสิ่งแวดล้อม แต่พยายามเข้มแข็ง บอกตัวเองทุกวันว่า จะต้องไม่ติด จะระมัดระวัง แต่ก็เตรียมใจเตรียมตัวนะที่จะติด ประมาณว่า ใช้ชีวิตตั้งอยู่บนความไม่ประมาทแต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกตกใจจนเกินเหตุและเตรียมใจเตรียมพร้อมรับมือถ้าตัวเองติดเชื้อ
เราไม่ได้สวมอุปกรณ์ป้องกันสำหรับการตรวจผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงในการติดโควิด-19 ดังนั้นถ้าผู้ป่วยจงใจหรือปกปิดข้อมูลความเสี่ยงในการติดเชื้อ เราก็มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อจากผู้ป่วยนั้นๆ เพราะต้องสัมผัสผู้ป่วยโดยตรงและระบบคัดกรองผู้ป่วยก็มีช่องโหว่บ้างทำให้เราอาจจะสัมผัสกับผู้ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว
PPE อุปกรณ์ป้องกันก็ไม่ได้มีเหลือใช้ วัคซีน mRNA ก็ยังมาไม่ถึง คนก็ล้นโรงพยาบาล แผนกฉุกเฉินงดให้บริการชั่วคราว เตียง ICU เต็ม…
ระบบสาธารณสุขล่มสลาย?!!!
ถ้าใครสงสัยว่าตัวเองเสี่ยง/อาจจะติดเชื้อให้รีบไปตรวจและกักตัว ให้สมมุติฐานไว้ก่อนเลยว่าตัวเองเป็นจะได้ไม่สุ่มเสี่ยงออกไปแพร่เชื้อแพร่กระจายในวงกว้างให้ผู้อื่นไปเป็นทอดๆ จนกว่าผลตรวจจะออกมาเป็นลบค่ะ
เราไม่กลัวติดเชื้อนะ แต่ก็ไม่อยากจะติดเชื้อ ไม่อยากจะป่วย แต่ก็ยอมรับว่าทุกวันนี้เหมือนรอเวลาจะติดเชื้อโควิดแค่ไม่รู้ว่าตอนไหน เมื่อไหร่แค่นั้นเอง แต่ถ้าเราติดจะมาเขียนเป็นวิทยาทานอย่างละเอียดเลยค่ะ
ขอบคุณนะคะ เรามาเล่าสู่ให้ฟังในส่วนเล็กๆและเป็นความเห็นส่วนตัวของเราล้วนๆค่ะ
ครอบครัวเราหาทางป้องกันตัวเองในเรื่องวัคซีนด้วยเงินส่วนตัวล้วนๆ ไม่เรียกร้องต่อว่าอะไรกับใครในส่วนนี้ค่ะ
ไม่ใช่หมอทุกคนทำงานกับเคสโควิดตลอดเวลา
หมอพยาบาลบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้านั้นสมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับเข็มที่สาม วัคซีน Pfizer ใช้การกระตุ้นภูมิ จากรัฐบาลที่จะได้รับ 1.5 ล้านโดสในเดือนนี้ โดยไม่ได้ ”เห็นแก่ตัว” แต่อย่างใด โดยเฉพาะทีมบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนที่ทำงานในวอร์ดโควิด ไม่เฉพาะแค่หมอ พยาบาล เท่านั้น เจ้าหน้าที่ต่างๆด้วย