สักกปัญหสูตร
เพลงขับกล่อมของปัญจสิขะ คันธรรพบุตร
“แม่ภัททาสุริยวัจฉสา-
ฉันขอกราบท่านติมพรุบิดาของเธอ
โดยเหตุที่เธอเกิดมางดงาม ทำให้ฉันปลื้มใจ
เหมือนสายลมย่อมเป็นที่ปรารถนาของผู้มีเหงื่อ
หรือเหมือนน้ำเป็นที่ปรารถนาของผู้กระหาย
เธอผู้ไฉไลเป็นที่รักของฉัน
ดุจธรรมเป็นที่รักของพระอรหันต์
เธอจงช่วยดับความเร่าร้อน-
เหมือนช่วยวางยาคนไข้ผู้กระสับกระส่าย
เหมือนให้อาหารแก่ผู้หิว
หรือเหมือนใช้น้ำดับไฟที่กำลังลุกอยู่
ขอให้ฉันได้ซบลงจดถันและอุทรของเธอ
เหมือนช้างที่ร้อนจัดในคราวร้อน
หยั่งลงสู่สระโบกขรณีมีน้ำเย็น
ระคนด้วยละอองเกสรดอกปทุม
ฉันมึนงงเพราะ(เห็น)ช่วงขาที่งามสมส่วน
ไม่รับรู้เหตุการณ์ (อะไรๆ)
เหมือนช้างเหลือขอเพราะถือว่าเราชนะได้แล้ว-
ฉันมีใจจดจ่อที่เธอ ไม่อาจกลับใจที่แปรผันไป
เหมือนปลาที่กลืนเบ็ดเข้าไป
นางผู้เจริญ เธอจงเอาขาซ้ายกระหวัดฉันไว้
เธอผู้มีดวงตาหยาดเยิ้มจงกระหวัดฉันไว้เถิด
เธอผู้งดงามจงสวมกอดฉันไว้
สิ่งนี้คือสิ่งที่ฉันปรารถนายิ่งนัก
ความใคร่ของฉันต่อเธอผู้มีผมงามสลวย
ถึงมีน้อยก็เกิดผลมาก
เหมือนทักษิณาที่ถวายแด่พระอรหันต์
นางผู้งดงามทั่วสรรพางค์
บุญที่ฉันได้ทำไว้ในพระอรหันต์ผู้คงที่นั้น
จงอำนวยผลแก่ฉันพร้อมกับเธอ
นางผู้งดงามทั่วสรรพางค์
บุญที่ฉันได้ทำไว้ในปฐพีมณฑลนี้
จงอำนวยผลแก่ฉันพร้อมกับเธอ
แม่(ภัททา)สุริยวัจฉสา ฉันใฝ่ฝันหาเธอ
เหมือนพระสมณศากยบุตรผู้ทรงเข้าฌานอยู่ผู้เดียว
ผู้มีปัญญาครองตน มีสติ
เป็นมุนี แสวงหาอมตธรรม
แม่คุณคนงาม ถ้าฉันได้อยู่ร่วมกับเธอ ก็จะพึงชื่นชม
เหมือนพระมุนีบรรลุพระสัมโพธิญาณอันสูงสุดพึงชื่นชมฉะนั้น
หากท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่แห่งดาวดึงส์
จะประทานพรแก่ฉัน
ฉันก็จะต้องเลือกเอาเธอเป็นแน่
ความปรารถนาของฉันมั่นคงอยู่อย่างนี้
แม่คุณผู้เฉลียวฉลาด
ฉันขอน้อมไหว้บิดาของเธอผู้มีธิดางามเช่นนี้
ดุจต้นสาละที่ผลิดอกใหม่ๆ ฉะนั้น”
เนื้อหาในพระสูตรแบบนี้ทำไมดูแปร่งๆครับ มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง หรือว่าเป็นแค่เรื่องสมมติที่ผูกขึ้นสร้างอรรถรถเท่านั้น
ดูคล้ายกับบทอัศจรรย์ในวรรณคดีเลย ที่พรรณนาเรื่องเพศและกามารมณ์แทรกซึมไว้ในบทกวีสวยๆจะได้ไม่ต้องเขิน
แล้วนี่ยังอุตส่าห์ทำให้อารมณ์พลอดรักงอกเงยกลายเป็นพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ได้อีก
อีกอย่างสงสัยว่าทำไมพระเถระที่เป็นผู้สังคายนาพระไตรปิฎกถึงต้องอุตส่าห์จำบทเพลงแบบนี้โดยละเอียด มาใส่ไว้ในพระไตรปิฎกด้วย
ท่านเหล่านั้นก็เป็นพระอรหันต์กันหมดแล้ว ร่ายบทเพลงเช่นนี้มาจะไม่กระดากปากเหรอ แถมเสี่ยงที่จะถูกติเตียนด้วยพระอื่นมาอ่านแล้วจะเกิดกามราคะ
ทั้งที่สรุปเหตุการณ์เป็นเรื่องย่อเหลือบรรทัดเดียวก็ได้ หรือเว้นแต่พระสูตรนี้จะเป็นของปลอม
ทำไมเทวดาพลอดรักกันถึงออกมาเป็นเป็นพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ได้ครับ
เพลงขับกล่อมของปัญจสิขะ คันธรรพบุตร
“แม่ภัททาสุริยวัจฉสา-
ฉันขอกราบท่านติมพรุบิดาของเธอ
โดยเหตุที่เธอเกิดมางดงาม ทำให้ฉันปลื้มใจ
เหมือนสายลมย่อมเป็นที่ปรารถนาของผู้มีเหงื่อ
หรือเหมือนน้ำเป็นที่ปรารถนาของผู้กระหาย
เธอผู้ไฉไลเป็นที่รักของฉัน
ดุจธรรมเป็นที่รักของพระอรหันต์
เธอจงช่วยดับความเร่าร้อน-
เหมือนช่วยวางยาคนไข้ผู้กระสับกระส่าย
เหมือนให้อาหารแก่ผู้หิว
หรือเหมือนใช้น้ำดับไฟที่กำลังลุกอยู่
ขอให้ฉันได้ซบลงจดถันและอุทรของเธอ
เหมือนช้างที่ร้อนจัดในคราวร้อน
หยั่งลงสู่สระโบกขรณีมีน้ำเย็น
ระคนด้วยละอองเกสรดอกปทุม
ฉันมึนงงเพราะ(เห็น)ช่วงขาที่งามสมส่วน
ไม่รับรู้เหตุการณ์ (อะไรๆ)
เหมือนช้างเหลือขอเพราะถือว่าเราชนะได้แล้ว-
ฉันมีใจจดจ่อที่เธอ ไม่อาจกลับใจที่แปรผันไป
เหมือนปลาที่กลืนเบ็ดเข้าไป
นางผู้เจริญ เธอจงเอาขาซ้ายกระหวัดฉันไว้
เธอผู้มีดวงตาหยาดเยิ้มจงกระหวัดฉันไว้เถิด
เธอผู้งดงามจงสวมกอดฉันไว้
สิ่งนี้คือสิ่งที่ฉันปรารถนายิ่งนัก
ความใคร่ของฉันต่อเธอผู้มีผมงามสลวย
ถึงมีน้อยก็เกิดผลมาก
เหมือนทักษิณาที่ถวายแด่พระอรหันต์
นางผู้งดงามทั่วสรรพางค์
บุญที่ฉันได้ทำไว้ในพระอรหันต์ผู้คงที่นั้น
จงอำนวยผลแก่ฉันพร้อมกับเธอ
นางผู้งดงามทั่วสรรพางค์
บุญที่ฉันได้ทำไว้ในปฐพีมณฑลนี้
จงอำนวยผลแก่ฉันพร้อมกับเธอ
แม่(ภัททา)สุริยวัจฉสา ฉันใฝ่ฝันหาเธอ
เหมือนพระสมณศากยบุตรผู้ทรงเข้าฌานอยู่ผู้เดียว
ผู้มีปัญญาครองตน มีสติ
เป็นมุนี แสวงหาอมตธรรม
แม่คุณคนงาม ถ้าฉันได้อยู่ร่วมกับเธอ ก็จะพึงชื่นชม
เหมือนพระมุนีบรรลุพระสัมโพธิญาณอันสูงสุดพึงชื่นชมฉะนั้น
หากท้าวสักกะผู้เป็นใหญ่แห่งดาวดึงส์
จะประทานพรแก่ฉัน
ฉันก็จะต้องเลือกเอาเธอเป็นแน่
ความปรารถนาของฉันมั่นคงอยู่อย่างนี้
แม่คุณผู้เฉลียวฉลาด
ฉันขอน้อมไหว้บิดาของเธอผู้มีธิดางามเช่นนี้
ดุจต้นสาละที่ผลิดอกใหม่ๆ ฉะนั้น”
เนื้อหาในพระสูตรแบบนี้ทำไมดูแปร่งๆครับ มันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง หรือว่าเป็นแค่เรื่องสมมติที่ผูกขึ้นสร้างอรรถรถเท่านั้น
ดูคล้ายกับบทอัศจรรย์ในวรรณคดีเลย ที่พรรณนาเรื่องเพศและกามารมณ์แทรกซึมไว้ในบทกวีสวยๆจะได้ไม่ต้องเขิน
แล้วนี่ยังอุตส่าห์ทำให้อารมณ์พลอดรักงอกเงยกลายเป็นพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ได้อีก
อีกอย่างสงสัยว่าทำไมพระเถระที่เป็นผู้สังคายนาพระไตรปิฎกถึงต้องอุตส่าห์จำบทเพลงแบบนี้โดยละเอียด มาใส่ไว้ในพระไตรปิฎกด้วย
ท่านเหล่านั้นก็เป็นพระอรหันต์กันหมดแล้ว ร่ายบทเพลงเช่นนี้มาจะไม่กระดากปากเหรอ แถมเสี่ยงที่จะถูกติเตียนด้วยพระอื่นมาอ่านแล้วจะเกิดกามราคะ
ทั้งที่สรุปเหตุการณ์เป็นเรื่องย่อเหลือบรรทัดเดียวก็ได้ หรือเว้นแต่พระสูตรนี้จะเป็นของปลอม