ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็น EMP กระบอกที่สอง เปิดตัวในปี 2016 ชื่อรุ่นที่สลักไว้บนลำเลื่อนคือ EMP4 ในเว็บของสปริงฟีลด์เรียกชื่อเต็มว่า EMP 4” Lightweight Champion คือบอกความยาวลำกล้อง 4 นิ้ว, วัสดุโครงปืนเป็นอัลลอยด์
นักนิยมปืนบ้านเรา คุ้นกับ “สปริงฟีลด์” ว่าเป็นชื่อกระสุนปืนยาวชนวนกลางคือ .30-06 Springfield ที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “สามสิบศูนย์หก” ตัวเลข .30 คือขนาดหน้าตัดหัวกระสุน, -06 คือเลขสองหลักท้ายของปีที่เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ ค.ศ. 1906 พร้อมกับตัวปืนแบบลูกเลื่อน ผลิตโดยคลังแสงประวัติศาสตร์ Springfield Armory ก่อตั้งในปี 1777 และปิดตัวอย่างถาวรในปี 1968 ต่อมาบริษัท สปริงฟีลด์อาร์มอรี (Springfield Armory, Inc.) ซื้อสิทธิการใช้ชื่อนี้จากรัฐบาลเมื่อจดทะเบียนบริษัทในปี 1974 ผลงานที่ติดตลาดคือปืนพกรูปแบบ 1911 และปืนยาวกึ่งอัตโนมัติ M1A ขนาด 7.62 NATO ซึ่งเป็นปืนทหาร พัฒนาต่อเนื่องจาก M1 Garand ที่บ้านเรารู้จักในชื่อ ปลยบ.88 ใช้กระสุน .30-06 เป็นปืนหลักของทหารอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเกาหลี
ผลงานชิ้นสำคัญที่เป็นของสปริงฟีลด์โดยเฉพาะ คือปืนในชุด EMP (Enhanced Micro Pistol) ออกวางขายครั้งแรกในปี 2006 เป็นปืนระบบ 1911 ลำกล้องสั้น 3 นิ้ว ใช้กระสุน 9 มม. พาราฯ มีความพิเศษคือโครงปืนส่วนด้ามแคบกว่า 1911 เดิมในแนว หน้า-หลัง วิศวกรของสปริงฟีลด์ เห็นว่า กระสุนขนาด 9 มม. ที่เป็นมาตรฐานทหารในปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่โครงปืน 1911 เดิม ออกแบบมารับกระสุน .45 ACP ที่ยาวตลอด 32.4 มิลลิเมตร เมื่อทำเป็นขนาด 9 มม. ความยาวกระสุน 29.7 มิลลิเมตร มีส่วนเกินเกือบ 3 มิลลิเมตร ทำให้ด้ามใหญ่กว่าที่จำเป็น และต้องหนุนซองกระสุนด้านหลัง กับเสริมขาเตะปลอกให้ยาวไปด้านหน้ารับกัน พบปัญหาการทำงานป้อนกระสุนบ่อยกว่าเมื่อใช้กระสุนยาวของเดิม หลังจากทดสอบทำโครงปืนใหม่ให้ด้ามแคบเข้ามาประมาณ 3 มิลลิเมตรเช่นนี้แล้ว พบว่าช่วยตัดปัญหาดังกล่าวได้ทั้งหมด และมีผลพลอยได้คือด้ามที่แคบเข้ามาจับยิงถนัดกว่า
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็น EMP กระบอกที่สอง เปิดตัวในปี 2016 ชื่อรุ่นที่สลักไว้บนลำเลื่อนคือ EMP4 ในเว็บของสปริงฟีลด์เรียกชื่อเต็มว่า EMP 4” Lightweight Champion คือบอกความยาวลำกล้อง 4 นิ้ว, วัสดุโครงปืนเป็นอัลลอยด์ ส่วน “แชมเปียน” นั้น สำหรับสปริงฟีลด์หมายถึงลำกล้องระดับคอมแพ็ค แต่ด้ามยาวกว่ารุ่นพกซ่อน ซึ่งสำหรับ EMP4 ขนาด 9 มม. จะได้ซองกระสุนเป็นแบบแถวเดี่ยว จุ 10 นัด, โครงปืนอัลลอยด์ เคลือบผิวอโนไดซ์ดำ, ลำเลื่อนสเตนเลสทุบขึ้นรูป แต่งผิวด้าน ติดศูนย์ต่อสู้ ศูนย์หลังมีจุดขาวสองจุด ศูนย์หน้าฝังเส้นรวมแสงแดง, ลำกล้องสเตนเลส ระดับยิงเป้า แบบหัวโตไม่ใช้บูช เสริมฐานโตงเตงเป็นทางลาดป้อนกระสุน, สปริงลำเลื่อนแบบเส้นแบน มีแกนสปริงชิ้นเดียวยาวตลอด
แม้จะมีชิ้นส่วนที่ต้องออกแบบใหม่ถึง 17 ชิ้น แต่ส่วนควบคุมการยิงยังเหมือน 1911 เดิม นกโปร่ง, หลังอ่อนหางยาวคุมนก, ไกแบบยิงเป้า, ห้ามไกซ้ายขวา และจุดที่ช่วยให้กระชับมือเป็นพิเศษคือประกับด้ามไม้ กับการแกะลายหน้าและหลังด้าม เป็นแบบหลุมตื้นไม่กัดมือ แต่กันลื่นได้ดีมาก
โดยรวมสำหรับ EMP4 เป็นปืนอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งพกซองนอกและพกในชายเสื้อ การทำงานเป็นแบบมาตรฐาน 1911 ไกซิงเกิลทุกนัด ให้ความแม่นยำสูง ด้ามจับได้ถนัดเป็นพิเศษคุมปืนได้ดี ใช้กระสุน 9 มม. ที่มีขายทุกสนามซ้อม การทำงานไว้ใจได้เต็มที่ทั้งกระสุนหัวแข็งและหัวรู มีข้อแนะนำคือ ใช้ลูก +P เท่าที่จำเป็น ช่วยยืดอายุการใช้งาน.
https://www.dailynews.co.th/article/553080
..............................................
ดร.พณิศวร ชำนาญเวช
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 639 ไลท์เวทแชมเปียน 9 มม. Springfield Armory EMP4
นักนิยมปืนบ้านเรา คุ้นกับ “สปริงฟีลด์” ว่าเป็นชื่อกระสุนปืนยาวชนวนกลางคือ .30-06 Springfield ที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า “สามสิบศูนย์หก” ตัวเลข .30 คือขนาดหน้าตัดหัวกระสุน, -06 คือเลขสองหลักท้ายของปีที่เข้าประจำการในกองทัพสหรัฐ ค.ศ. 1906 พร้อมกับตัวปืนแบบลูกเลื่อน ผลิตโดยคลังแสงประวัติศาสตร์ Springfield Armory ก่อตั้งในปี 1777 และปิดตัวอย่างถาวรในปี 1968 ต่อมาบริษัท สปริงฟีลด์อาร์มอรี (Springfield Armory, Inc.) ซื้อสิทธิการใช้ชื่อนี้จากรัฐบาลเมื่อจดทะเบียนบริษัทในปี 1974 ผลงานที่ติดตลาดคือปืนพกรูปแบบ 1911 และปืนยาวกึ่งอัตโนมัติ M1A ขนาด 7.62 NATO ซึ่งเป็นปืนทหาร พัฒนาต่อเนื่องจาก M1 Garand ที่บ้านเรารู้จักในชื่อ ปลยบ.88 ใช้กระสุน .30-06 เป็นปืนหลักของทหารอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเกาหลี
ผลงานชิ้นสำคัญที่เป็นของสปริงฟีลด์โดยเฉพาะ คือปืนในชุด EMP (Enhanced Micro Pistol) ออกวางขายครั้งแรกในปี 2006 เป็นปืนระบบ 1911 ลำกล้องสั้น 3 นิ้ว ใช้กระสุน 9 มม. พาราฯ มีความพิเศษคือโครงปืนส่วนด้ามแคบกว่า 1911 เดิมในแนว หน้า-หลัง วิศวกรของสปริงฟีลด์ เห็นว่า กระสุนขนาด 9 มม. ที่เป็นมาตรฐานทหารในปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่โครงปืน 1911 เดิม ออกแบบมารับกระสุน .45 ACP ที่ยาวตลอด 32.4 มิลลิเมตร เมื่อทำเป็นขนาด 9 มม. ความยาวกระสุน 29.7 มิลลิเมตร มีส่วนเกินเกือบ 3 มิลลิเมตร ทำให้ด้ามใหญ่กว่าที่จำเป็น และต้องหนุนซองกระสุนด้านหลัง กับเสริมขาเตะปลอกให้ยาวไปด้านหน้ารับกัน พบปัญหาการทำงานป้อนกระสุนบ่อยกว่าเมื่อใช้กระสุนยาวของเดิม หลังจากทดสอบทำโครงปืนใหม่ให้ด้ามแคบเข้ามาประมาณ 3 มิลลิเมตรเช่นนี้แล้ว พบว่าช่วยตัดปัญหาดังกล่าวได้ทั้งหมด และมีผลพลอยได้คือด้ามที่แคบเข้ามาจับยิงถนัดกว่า
ปืนนายแบบสัปดาห์นี้ เป็น EMP กระบอกที่สอง เปิดตัวในปี 2016 ชื่อรุ่นที่สลักไว้บนลำเลื่อนคือ EMP4 ในเว็บของสปริงฟีลด์เรียกชื่อเต็มว่า EMP 4” Lightweight Champion คือบอกความยาวลำกล้อง 4 นิ้ว, วัสดุโครงปืนเป็นอัลลอยด์ ส่วน “แชมเปียน” นั้น สำหรับสปริงฟีลด์หมายถึงลำกล้องระดับคอมแพ็ค แต่ด้ามยาวกว่ารุ่นพกซ่อน ซึ่งสำหรับ EMP4 ขนาด 9 มม. จะได้ซองกระสุนเป็นแบบแถวเดี่ยว จุ 10 นัด, โครงปืนอัลลอยด์ เคลือบผิวอโนไดซ์ดำ, ลำเลื่อนสเตนเลสทุบขึ้นรูป แต่งผิวด้าน ติดศูนย์ต่อสู้ ศูนย์หลังมีจุดขาวสองจุด ศูนย์หน้าฝังเส้นรวมแสงแดง, ลำกล้องสเตนเลส ระดับยิงเป้า แบบหัวโตไม่ใช้บูช เสริมฐานโตงเตงเป็นทางลาดป้อนกระสุน, สปริงลำเลื่อนแบบเส้นแบน มีแกนสปริงชิ้นเดียวยาวตลอด
แม้จะมีชิ้นส่วนที่ต้องออกแบบใหม่ถึง 17 ชิ้น แต่ส่วนควบคุมการยิงยังเหมือน 1911 เดิม นกโปร่ง, หลังอ่อนหางยาวคุมนก, ไกแบบยิงเป้า, ห้ามไกซ้ายขวา และจุดที่ช่วยให้กระชับมือเป็นพิเศษคือประกับด้ามไม้ กับการแกะลายหน้าและหลังด้าม เป็นแบบหลุมตื้นไม่กัดมือ แต่กันลื่นได้ดีมาก
โดยรวมสำหรับ EMP4 เป็นปืนอเนกประสงค์ ใช้ได้ทั้งพกซองนอกและพกในชายเสื้อ การทำงานเป็นแบบมาตรฐาน 1911 ไกซิงเกิลทุกนัด ให้ความแม่นยำสูง ด้ามจับได้ถนัดเป็นพิเศษคุมปืนได้ดี ใช้กระสุน 9 มม. ที่มีขายทุกสนามซ้อม การทำงานไว้ใจได้เต็มที่ทั้งกระสุนหัวแข็งและหัวรู มีข้อแนะนำคือ ใช้ลูก +P เท่าที่จำเป็น ช่วยยืดอายุการใช้งาน.
https://www.dailynews.co.th/article/553080
..............................................
ดร.พณิศวร ชำนาญเวช