รีวิวปืนเบาๆ: Kimber Pro Raptor II ขนาด 9มม.

สวัสดีครับ วันนี้มาพบกันอีกครั้งกับการมาแชร์เรื่องปืนกัน วันนี้ผมหยิบเอาปืนกึ่งอัตโนมัติ หรือที่เราชอบเรียกว่าปืนออโต้ ของค่าย Kimber มาเล่าสู่กันฟังครับ




ปืนกระบอกนี้เป็นปืนกระบอกแรกของผม โดยในเวลานั้นซื้อมาเพื่อใช้งานอเนกประสงค์ ยิงเล่น(ในสนาม) เฝ้าบ้าน พกพา และเน้นว่าต้องมีความปลอดภัยสูง มีระบบเซฟตี้ที่ดี โครงทนทาน ปืนรีคอยล์ไม่มาก เนื่องจากตอนนั้นยังมือใหม่มาก เอาจริงๆเลยนะครับ เวลานั้น 9มม. ก็ถือว่าเตะหนักสำหรับผมแล้ว และที่สำคัญขอปืนสวยๆหน่อยก็ดี 😄

รวบรวมทั้งหมดก็มาตกที่รุ่นนี้เรียกว่าหลงรักแต่แรกเจอครับ ปืนงานดีมาก เก็บรายละเอียดมาดี ตัวปืนเป็น platform 1911 โดยทาง Kimber จะทำปืนแบ่งรุ่นตามความยาวลำกล้อง โดยใช้ชื่อประมาณนี้ครับ

- ตัวปกติ fullsize คือลำกล้อง 5 นิ้ว
- รุ่น Pro หมายถึงปืน size compact ลำกล้องยาว 4 นิ้ว (ใน Colt ปืน 1911 size compact จะลำกล้อง 4.25 นิ้ว)
- รุ่น Ultra หมายถึงปืน subcompact ลำกล้องยาว 3 นิ้ว)

สำหรับกระทู้นี้เป็น Pro นะครับ เลยมีลำกล้อง 4 นิ้ว พกพาได้สะดวกขึ้นอีกหน่อยครับ

ตัวปืนเป็นสเตนเลสทั้งกระบอก ทำให้มีความทนทานสูง ยิงเยอะๆไม่ต้องกลัวเฟรมพังง่ายๆ เห็นหลายคนบอกว่า Kimber สนิมกินง่าย ส่วนตัวผมเองดูแลดีๆก็ไม่เจอสนิมครับ ใช้น้ำยาล้างปืนและน้ำมันปืนที่มีคุณภาพ อย่างกมากเป็นใช้ได้ครับ ตัวปืนทำผิวที่เรียกว่า satin silver หรือเรียกง่ายๆก็พ่นทรายแหล่ะครับ




ปืนรุ่นนี้ทำร่องกันลื่นเป็นลายพิเศษของรุ่นโดยเฉพาะ เป็นลายขนนกเนื่องจาก Raptor มันแปลว่านกล่าเหยือ เช่นพวก อินทรี เหยี่ยว ร่องกันลื่นตรงด้ามทำเป็นลายข้อโซ่ จับถนัดมือดี แต่คมครับ จับนานๆมีเจ็บมือ 😄



ด้ามไม้แกะลายขนนกเช่นกันมีเอกลักษณ์ดีมากๆครับ

ระบบกลไกเหมือน 1911 ทั่วๆไปครับ ระบบเซฟตี้มาเต็ม คือมีเซฟห้ามไก เซฟหลังอ่อน พูดง่ายๆคือการจะยิงปืนออกไปได้ต้องปลดเซฟห้ามไกและกำด้ามปืน หากไม่ปลดเซฟ หรือปลดแล้วแต่เหนี่ยวไกโดยไม่กำด้ามปืน ปืนก็จะไม่ลั่นครับ

ถือว่ามีความปลอดภัยสูง แต่หลายคนอาจจะมองว่ามันยุ่งยากมีเซฟต้องมานั่งจำว่าปลดหรือยัง อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบครับ



ภาพเซฟหลังอ่อนที่อยู่บริเวณด้ามครับ ทำมาสวยงามและเข้ากับอุ้งมือดีมากครับ

ศูนย์เป็นแบบต่อสู้ ปรับได้โดยตอกเลื่อนซ้ายขวาเอา โดยศูนย์แบบ night sight เรืองแสงได้เวลากลางคืน ช่วยให้เล็งได้ง่ายในสภาวะแสงน้อยครับ





ภาพศูนย์ของปืนกระบอกนี้ครับ เห็นได้ชัดเจนดีเวลากลางคืนครับ สว่างพอๆกับของ Sig ครับ

มาถึงการใช้งานกันบ้างครับตัวปืนไกซิงเกิ้ลล้วน น้ำหนักไกประมาณสี่ปอนด์ เรียบและหลุดคมดีครับ อาจจะไม่ดีระดับปืนยิงเป้าแข่งขัน แต่ก็ถือว่าเพียงพอสำหรับปืนใช้งานป้องกันตัวครับ

ช่วงแรกๆของการใช้งานแนะนำว่าให้ยิงรันอินด้วยกระสุนที่แรงๆหน่อยและเป็นหัว FMJ สักสองสามกล่องครับ ช่วงแรกจะมีขัดๆบ้าง แต่พอผ่านไปสัก 500 นัดปืนจะเข้าที่และไม่ติดอีกเลยครับ ใช้งานได้ดี เชื่อถือได้ครับ



กลุ่มกระสุนที่ทำได้ถือว่าโอเคครับ ปืนดี คนยิงยิงไม่ดีเอง ปั้นกลุ่ม ระยะ 10 เมตร กระสุน 10 นัดครับ

ผลสรุปนะครับว่าปืนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง

ข้อดี
- ระบบเซฟตี้มาครบ เหมาะกับคนขี้ระแวง
- ไกคมยิงง่าย สไตล์ 1911 แถมอะไหล่ของแต่งเพียบ
- จริงๆปืนให้มาครบ ไม่ต้องแต่งอะไรเพิ่ม มีทั้งศูนย์เรืองแสง แม็ก 2 อัน ไกลื่นไหลดีมาจากโรงงาน
- รูปร่างมีเอกลักษณ์ เก็บงานมาดี แค่จับก็ฟินแล้ว
- วัสดุเป็นสเตนเลสทั้งกระบอกทนทานหายห่วง

ข้อเสีย
- ปืนมีระยะรันอิน (ในคู่มือก็บอกเช่นกัน) ทำให้ช่วงแรกๆปืนติดขัดบ้าง รู้สึกไม่มั่นใจเวลาเอาไปใช้งาน
- ปืนเลือกลูก กระสุนบางชนิดใช้แล้วแจมเป็นว่าเล่นครับ โดยเฉพาะพวก JHP ยิ่งเจอหัว XTP ถึงกับกระสุนไม่ฟีดครับ ติดคารังเพลิง แนะนำให้ใช้กระสุน FMJ ครับ
- ลายกันลื่นที่ด้าม(checker หน้าด้าม) คมเกินครับ เจ็บมือเวลากำด้ามนานๆ
- Guide rod เฉพาะรุ่นเองหายากครับ แถมตามคู่มือบอกว่าให้เปลี่ยนทุก 800 นัด (บ้าไปแล้ว 😣) แต่เอาจริงๆ มันก็ใช้ได้เกินกว่านั้นเยอะครัว หรือถ้าวิตก ก็ใช้สปริง colt officer ได้ครับหรือของ DPM ก็มี ยิ่งของ DPM เขาว่าใช้ได้ถึงหลักหมื่นนัดครับกว่าจะเปลี่ยน

สำหรับการรีวิวเบาๆของผมก็ขอจบลงแต่เพียบเท่านี้ครับ แล้วพบกันใหม่เมื่อผมว่างครับ สวัสดีครับ 😄
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่