"ชำนาญ" เขียนถึง "โทนี" อธิบายสรุปๆ หลักการเลือกตั้ง แบบเยอรมันโมเดล
https://www.matichon.co.th/politics/news_2779010
“ชำนาญ” เขียนถึงโทนี สรุปอย่างง่าย ระบบเลือกตั้ง แบบเยอรมันโมเดล
กรณีที่ นาย
ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซั่ม ได้ร่วมพูดคุยกับ CARE ClubHouse x CARE Talk แสดงความเห็นว่า ชอบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มากที่สุด โดยระบุว่า
“มีระบบเขต 400 เขต ปาร์ตี้ลิสต์ 100 คนไปถึงก็โหวต 2 ใบ ใบหนึ่งเลือกคน อีกใบเลือกพรรค ก็เอาใบของคนมาตัดสินเขตนั้นเลย พรรคก็เอามาดูกกต.กลาง ว่าใครได้เท่าไหร่ ข้อดี ประชาชนได้เลือกทั้งพรรค ทั้งคน ประชาชน ตัดสินได้เอง ว่าจะเลือกพรรคอะไร ส.ส.ไหน ซึ่ง ผมไม่ค่อยมีปัญหา แบบ 40 ชัด ประชาชนชิน ถ้ากลับไปอีก อย่างที่ก้าวไกลบอกว่า 2 บัตรแบบเยอรมันนั้น ผมไม่ชำนาญ เลยไม่รู้ เพราะผมเองเป็นผลผลิตของปี 40”
วันนี้ (16 มิ.ย.) นาย
ชํานาญ จันทร์เรือง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ถึงกรณีที่นาย
ทักษิณ บอกว่า ไม่ชำนาญ ระบบเลือกตั้งแบบเยอรมัน โดยระบุว่า
“#ตอบคุณโทนี
ระบบเลือกตั้งเยอรมันหรือ “ระบบการเลือกตั้งแบบ สัดส่วนที่รวมถึงการกำหนดตัวบุคคล” นั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนได้ในสองลักษณะคือ คะแนนเสียงที่หนึ่งเลือกตัวบุคคลผู้สมัครในเขตเลือกตั้ง และคะแนนเสียงที่สองเลือกพรรคการเมือง โดยการคำนวณจำนวนที่นั่งซึ่งพรรคการเมืองจะได้รับนั้น พิจารณาบนฐานของระบบสัดส่วนตาม จำนวนคะแนนเสียงที่สอง ประกอบไปกับการประกันความเป็นผู้แทนให้กับผู้ชนะการเลือกตั้งตามผลของคะแนนเสียงที่หนึ่งในเขตเลือกตั้งด้วย
สรุปให้เข้าใจง่ายๆคือ เอาคะแนนทั้งหมดที่เลือกบัญชีรายชื่อหรือ party list มาคำนวณทั้งหมดว่าแต่ละพรรคควรจะมี ส.ส.ในสภาเท่าไหร่ เช่น สภาไทยมี ส.ส. 500 เป็นเขต 400 บัญชีรายชื่อ 100 (ตามที่กำลังมีการเสนอแก้) ถ้าคำนวณโดยเอา 500 (ไม่ใช่ 100 แบบรธน.40) มาหารจำนวนเสียงจากparty list ทั้งหมดว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคได้เท่าไหร่ สมมุติว่า พรรค ฮ.คำณวนแล้วได้ 300 แต่ได้ส.ส.เขตไปแล้ว 250 ก็จะได้ party list อีก 50 น่ะครับ
อย่างไรก็ตาม เยอรมันเขาก็จำกัดคะแนน party list ไว้ให้พรรคที่จะมีสิทธิคำนวณต้องได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 น่ะครับ”
https://www.facebook.com/chamnan.chanruang/posts/4110523295658066
โควิดสายพันธุ์เดลตา ล่าสุดพบในไทย 496 คน หากระบาดหนัก 3 เดือนลามแทนอัลฟา
https://www.amarintv.com/news/detail/84791
โควิดสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ล่าสุดพบในไทย 496 คน สธ.จับตา หากระบาดหนัก ไม่เกิน 3 เดือนลามเท่าอัลฟา(อังกฤษ) ขณะที่ล่าสุดพบสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) นอกตากใบ
วันนี้(16 มิ.ย.64) นพ.
ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบในประเทศไทย จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งเข้าไปยังกรมวิทยาศาสตร์ฯ ระหว่างวันที่ 7 เม.ย.-13 มิ.ย. จำนวน 5,055 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) 4,528 ราย คิดเป็น 89.6% สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) เพิ่มขึ้นจาก 359 ราย ที่รายงานไปก่อนหน้านี้ เป็น 496 คน หรือเพิ่มขึ้นอีก 137 ราย
พื้นที่ที่พบสายพันธุ์เดลตามากที่สุด คือ กรุงเทพฯ สะสม 404 ราย โดยเป็นรายใหม่ 86 ราย และยังพบ 10 ราย ในโรงพยาบาลกลางกรุงเทพฯ 3-4 แห่ง อัตราการเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 9.8% นอกจากนี้ ยังพบที่ ปทุมธานี 28 ราย นครนายก 8 ราย สกลนคร 3 ราย พะเยา 2 ราย อุบลราชธานี 2 ราย เชียงราย เพชรบูรณ์ ชลบุรี จันทบุรี ขอนแก่น อุดรธานี เลย และ บุรีรัมย์ จังหวัดละ 1 ราย
หนุ่มโพสต์ระบายแพ้วัคซีน เข้ารพ.หลายครั้ง รู้สึกท้อ เครียด ค่าใช้จ่ายออกเองหมด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6456407
หนุ่มโพสต์ระบาย แพ้วัคซีนแอสตร้าฯ เข้าออกรพ.หลายครั้ง เสียการเสียงาน ไม่มีใครมาช่วยเหลือ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
วันที่ 16 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายรายหนึ่ง ชาว อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง โพสต์เรื่องเกิดอาการแพ้หลังฉีดวัคซีน ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า จนต้องเข้า โรงพยาบาลหลายครั้ง ทำให้รู้สึกท้อและเครียด ต้องเสียการเสียงาน เป็นภาระของพ่อแม่ ตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวฉีดวัคซีน ช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย. 64 จากนั้นมีอาการ ปวดท้อง อาเจียน หายใจลำบาก ใจสั่น คันตามตัว จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล วันที่ 8 มิ.ย. 64 ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. 64 ได้ย้ายมารักษาตัวอีกโรงพยาบาล
ล่าสุดชายคนดังกล่าว ได้โพสต์อธิบายเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่รับวัคซีนมาจนถึงวันนี้ก็ 10 วันแล้ว เกิดอาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง ต้องทนกับอาการแพ้ทุกวัน ๆ โคตรทรมาน เราเจ็บ เราปวด เราคัน หายใจลำบาก อยากแพ้ตอนไหนก็แพ้ ไม่มีใครเข้าใจเราเลย แล้วต้อง ทนกับการแพ้วัคซีนแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กัน ทั้งเหนื่อย ท้อ และเครียด ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองต้องมาเป็น ภาระพ่อแม่ ต้องเสียงานเสียการ ภาระหน้าที่การงานก็มีต้องทำ มาป่วยแบบนี้ทำงานให้หน่วยงานตัวเองไม่ได้ ถ้าเขาไล่ออกก็คงจบเห่ ใครจะรับผิดชอบ ทั้งงานประจำ งานพิเศษ กระทบไปหมด
แล้วป่วยแบบนี้มา 10 วันละ พอดีขึ้นไม่เท่าไหร่ ก็ป่วยอีก กลายเป็นเข้าๆออกๆ รพ.เป็นว่าเล่น เงินสำรองฉุกเฉินก็หมดไปกับค่าเดินทางไปรักษาตัว ค่ายานอกอีก เราออกเองหมด เราไม่โอเคว่ะ แพ้วัคซีน ไม่เห็นมีใครมาออกหน้ารับสักคน ตอนอยากให้เราฉีดบีบบังคับให้ฉีดกันถ้วนหน้าทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทุกภาคส่วนรายรอบตัว บีบบังคับให้ฉีด
แล้วผิดหรอที่เป็น 1ในร้อยที่แพ้วัคซีน และถามว่า ไม่ได้ทำประกันแพ้วัคซีนเหรอ ตอบเลยว่าทำ แต่แพทย์วินิฉัยว่าอาการแพ้ของเรา ไม่เข้าขั้นโคม่า เคลมจากการบาดเจ็บแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บทุกวันเลยนะ โชคดีแค่ไหนที่ทำประกันแบบจ่ายค่ารักษาพยาบาล กับ โรงพยาบาลที่รักษาได้ทัน แต่ที่ทำไว้ที่เหลือนั้นเคลมอะไรไม่ได้เลย ไม่มีอะไรช่วยเหลือได้เลย นอกจากต้องรอลุ้นว่า เงินชดเชยเบื้องต้น นั้นจะได้กี่มากน้อยหลังจากอนุกรรมการจะพิจารณาความหนักของเคสเรา ตอนนี้ เราไม่โอเค มากๆ
ประกันแจกฟรี เราก็แห่ลงทะเบียนทุกเจ้า แต่ประกันแจกฟรีใช้ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในภาวะโคม่า ประกันเลยไม่มีผล มันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เป็นเป็นเพียงการตลาดเท่านั้น หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลมาอาการล่าสุดของวันนี้คือ ข้าวก็ทานได้น้อยมากลงปวดท้องเหมือนเดิม เหนื่อยหอบอ่อนเพลียแขนขาชาไม่มีเรี่ยวแรง ลิ้นชาไม่รับรส จมูกไม่ค่อยได้กลิ่น ใจสั่น ๆ หวิว ๆ เป็นครั้งคราว
โพสต์นี่ไม่ได้มีเจตนาโจมตีการฉีดวัคซีนนะครับ ผมยังสนับสนุนให้ฉีดอยู่ครับ พ่อกับแม่ผมยังยืนยันการฉีดครับตามที่ได้ลงทะเบียนกับหมอพร้อม แค่อยากให้พวกท่าน ๆ คุณ ๆ ทั้งหลาย เห็นใจประชาชนบ้าง ผมไม่ได้อยากดราม่านะครับ ขอเป็นหนึ่งกระบอกเสียงเล็ก เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน แค่อยากให้พวกคุณลองมาเป็นผมแล้วคุณจะรู้สึกอย่างที่ผมรู้สึก
นอกจากนั้นยังได้มีการแท็กเรื่องราวของตัวเองไปยัง สำนักนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha , สปสช กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ,สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน , กระทรวงสาธารณสุข , คปภ. , ศูนย์บริการข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี ด้วย
JJNY : "ชำนาญ"เขียนถึง"โทนี"สรุปเยอรมันโมเดล│โควิดเดลตา ล่าสุด496│หนุ่มโพสต์ระบายแพ้วัคซีน│ส.อ.ท.เร่งหารือรับมือชิพหาย
https://www.matichon.co.th/politics/news_2779010
“ชำนาญ” เขียนถึงโทนี สรุปอย่างง่าย ระบบเลือกตั้ง แบบเยอรมันโมเดล
กรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี วู้ดซั่ม ได้ร่วมพูดคุยกับ CARE ClubHouse x CARE Talk แสดงความเห็นว่า ชอบรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 มากที่สุด โดยระบุว่า
“มีระบบเขต 400 เขต ปาร์ตี้ลิสต์ 100 คนไปถึงก็โหวต 2 ใบ ใบหนึ่งเลือกคน อีกใบเลือกพรรค ก็เอาใบของคนมาตัดสินเขตนั้นเลย พรรคก็เอามาดูกกต.กลาง ว่าใครได้เท่าไหร่ ข้อดี ประชาชนได้เลือกทั้งพรรค ทั้งคน ประชาชน ตัดสินได้เอง ว่าจะเลือกพรรคอะไร ส.ส.ไหน ซึ่ง ผมไม่ค่อยมีปัญหา แบบ 40 ชัด ประชาชนชิน ถ้ากลับไปอีก อย่างที่ก้าวไกลบอกว่า 2 บัตรแบบเยอรมันนั้น ผมไม่ชำนาญ เลยไม่รู้ เพราะผมเองเป็นผลผลิตของปี 40”
วันนี้ (16 มิ.ย.) นายชํานาญ จันทร์เรือง อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ถึงกรณีที่นายทักษิณ บอกว่า ไม่ชำนาญ ระบบเลือกตั้งแบบเยอรมัน โดยระบุว่า
“#ตอบคุณโทนี
ระบบเลือกตั้งเยอรมันหรือ “ระบบการเลือกตั้งแบบ สัดส่วนที่รวมถึงการกำหนดตัวบุคคล” นั้น ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนได้ในสองลักษณะคือ คะแนนเสียงที่หนึ่งเลือกตัวบุคคลผู้สมัครในเขตเลือกตั้ง และคะแนนเสียงที่สองเลือกพรรคการเมือง โดยการคำนวณจำนวนที่นั่งซึ่งพรรคการเมืองจะได้รับนั้น พิจารณาบนฐานของระบบสัดส่วนตาม จำนวนคะแนนเสียงที่สอง ประกอบไปกับการประกันความเป็นผู้แทนให้กับผู้ชนะการเลือกตั้งตามผลของคะแนนเสียงที่หนึ่งในเขตเลือกตั้งด้วย
สรุปให้เข้าใจง่ายๆคือ เอาคะแนนทั้งหมดที่เลือกบัญชีรายชื่อหรือ party list มาคำนวณทั้งหมดว่าแต่ละพรรคควรจะมี ส.ส.ในสภาเท่าไหร่ เช่น สภาไทยมี ส.ส. 500 เป็นเขต 400 บัญชีรายชื่อ 100 (ตามที่กำลังมีการเสนอแก้) ถ้าคำนวณโดยเอา 500 (ไม่ใช่ 100 แบบรธน.40) มาหารจำนวนเสียงจากparty list ทั้งหมดว่าพรรคการเมืองแต่ละพรรคได้เท่าไหร่ สมมุติว่า พรรค ฮ.คำณวนแล้วได้ 300 แต่ได้ส.ส.เขตไปแล้ว 250 ก็จะได้ party list อีก 50 น่ะครับ
อย่างไรก็ตาม เยอรมันเขาก็จำกัดคะแนน party list ไว้ให้พรรคที่จะมีสิทธิคำนวณต้องได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 น่ะครับ”
https://www.facebook.com/chamnan.chanruang/posts/4110523295658066
โควิดสายพันธุ์เดลตา ล่าสุดพบในไทย 496 คน หากระบาดหนัก 3 เดือนลามแทนอัลฟา
https://www.amarintv.com/news/detail/84791
โควิดสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ล่าสุดพบในไทย 496 คน สธ.จับตา หากระบาดหนัก ไม่เกิน 3 เดือนลามเท่าอัลฟา(อังกฤษ) ขณะที่ล่าสุดพบสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) นอกตากใบ
วันนี้(16 มิ.ย.64) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสายพันธุ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พบในประเทศไทย จากตัวอย่างเชื้อที่ส่งเข้าไปยังกรมวิทยาศาสตร์ฯ ระหว่างวันที่ 7 เม.ย.-13 มิ.ย. จำนวน 5,055 ตัวอย่าง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์อัลฟ่า (อังกฤษ) 4,528 ราย คิดเป็น 89.6% สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) เพิ่มขึ้นจาก 359 ราย ที่รายงานไปก่อนหน้านี้ เป็น 496 คน หรือเพิ่มขึ้นอีก 137 ราย
พื้นที่ที่พบสายพันธุ์เดลตามากที่สุด คือ กรุงเทพฯ สะสม 404 ราย โดยเป็นรายใหม่ 86 ราย และยังพบ 10 ราย ในโรงพยาบาลกลางกรุงเทพฯ 3-4 แห่ง อัตราการเพิ่มขึ้นจาก 8% เป็น 9.8% นอกจากนี้ ยังพบที่ ปทุมธานี 28 ราย นครนายก 8 ราย สกลนคร 3 ราย พะเยา 2 ราย อุบลราชธานี 2 ราย เชียงราย เพชรบูรณ์ ชลบุรี จันทบุรี ขอนแก่น อุดรธานี เลย และ บุรีรัมย์ จังหวัดละ 1 ราย
หนุ่มโพสต์ระบายแพ้วัคซีน เข้ารพ.หลายครั้ง รู้สึกท้อ เครียด ค่าใช้จ่ายออกเองหมด
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6456407
หนุ่มโพสต์ระบาย แพ้วัคซีนแอสตร้าฯ เข้าออกรพ.หลายครั้ง เสียการเสียงาน ไม่มีใครมาช่วยเหลือ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด
วันที่ 16 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชายรายหนึ่ง ชาว อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง โพสต์เรื่องเกิดอาการแพ้หลังฉีดวัคซีน ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า จนต้องเข้า โรงพยาบาลหลายครั้ง ทำให้รู้สึกท้อและเครียด ต้องเสียการเสียงาน เป็นภาระของพ่อแม่ ตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวฉีดวัคซีน ช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย. 64 จากนั้นมีอาการ ปวดท้อง อาเจียน หายใจลำบาก ใจสั่น คันตามตัว จึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล วันที่ 8 มิ.ย. 64 ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย. 64 ได้ย้ายมารักษาตัวอีกโรงพยาบาล
ล่าสุดชายคนดังกล่าว ได้โพสต์อธิบายเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่วันที่รับวัคซีนมาจนถึงวันนี้ก็ 10 วันแล้ว เกิดอาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรง ต้องทนกับอาการแพ้ทุกวัน ๆ โคตรทรมาน เราเจ็บ เราปวด เราคัน หายใจลำบาก อยากแพ้ตอนไหนก็แพ้ ไม่มีใครเข้าใจเราเลย แล้วต้อง ทนกับการแพ้วัคซีนแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กัน ทั้งเหนื่อย ท้อ และเครียด ตอนนี้รู้สึกเหมือนตัวเองต้องมาเป็น ภาระพ่อแม่ ต้องเสียงานเสียการ ภาระหน้าที่การงานก็มีต้องทำ มาป่วยแบบนี้ทำงานให้หน่วยงานตัวเองไม่ได้ ถ้าเขาไล่ออกก็คงจบเห่ ใครจะรับผิดชอบ ทั้งงานประจำ งานพิเศษ กระทบไปหมด
แล้วป่วยแบบนี้มา 10 วันละ พอดีขึ้นไม่เท่าไหร่ ก็ป่วยอีก กลายเป็นเข้าๆออกๆ รพ.เป็นว่าเล่น เงินสำรองฉุกเฉินก็หมดไปกับค่าเดินทางไปรักษาตัว ค่ายานอกอีก เราออกเองหมด เราไม่โอเคว่ะ แพ้วัคซีน ไม่เห็นมีใครมาออกหน้ารับสักคน ตอนอยากให้เราฉีดบีบบังคับให้ฉีดกันถ้วนหน้าทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทุกภาคส่วนรายรอบตัว บีบบังคับให้ฉีด
แล้วผิดหรอที่เป็น 1ในร้อยที่แพ้วัคซีน และถามว่า ไม่ได้ทำประกันแพ้วัคซีนเหรอ ตอบเลยว่าทำ แต่แพทย์วินิฉัยว่าอาการแพ้ของเรา ไม่เข้าขั้นโคม่า เคลมจากการบาดเจ็บแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บทุกวันเลยนะ โชคดีแค่ไหนที่ทำประกันแบบจ่ายค่ารักษาพยาบาล กับ โรงพยาบาลที่รักษาได้ทัน แต่ที่ทำไว้ที่เหลือนั้นเคลมอะไรไม่ได้เลย ไม่มีอะไรช่วยเหลือได้เลย นอกจากต้องรอลุ้นว่า เงินชดเชยเบื้องต้น นั้นจะได้กี่มากน้อยหลังจากอนุกรรมการจะพิจารณาความหนักของเคสเรา ตอนนี้ เราไม่โอเค มากๆ
ประกันแจกฟรี เราก็แห่ลงทะเบียนทุกเจ้า แต่ประกันแจกฟรีใช้ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในภาวะโคม่า ประกันเลยไม่มีผล มันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เป็นเป็นเพียงการตลาดเท่านั้น หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลมาอาการล่าสุดของวันนี้คือ ข้าวก็ทานได้น้อยมากลงปวดท้องเหมือนเดิม เหนื่อยหอบอ่อนเพลียแขนขาชาไม่มีเรี่ยวแรง ลิ้นชาไม่รับรส จมูกไม่ค่อยได้กลิ่น ใจสั่น ๆ หวิว ๆ เป็นครั้งคราว
โพสต์นี่ไม่ได้มีเจตนาโจมตีการฉีดวัคซีนนะครับ ผมยังสนับสนุนให้ฉีดอยู่ครับ พ่อกับแม่ผมยังยืนยันการฉีดครับตามที่ได้ลงทะเบียนกับหมอพร้อม แค่อยากให้พวกท่าน ๆ คุณ ๆ ทั้งหลาย เห็นใจประชาชนบ้าง ผมไม่ได้อยากดราม่านะครับ ขอเป็นหนึ่งกระบอกเสียงเล็ก เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน แค่อยากให้พวกคุณลองมาเป็นผมแล้วคุณจะรู้สึกอย่างที่ผมรู้สึก
นอกจากนั้นยังได้มีการแท็กเรื่องราวของตัวเองไปยัง สำนักนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha , สปสช กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ,สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน , กระทรวงสาธารณสุข , คปภ. , ศูนย์บริการข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี ด้วย