ร้านค้าขายดี Miniso ในจีน
👉ทุกวันนี้การเริ่มต้นทำธุรกิจใด ๆ ดูเหมือนว่าจะต้องอาศัยอินเตอร์เน็ต หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ในการสร้างธุรกิจ สร้างรายได้ และนำพาธุรกิจของเราเองไปสู่เป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ทุกธุรกิจจะต้องมุ่งเน้นไปที่อินเทอร์เน็ตอย่างเดียว ในความเป็นจริงยังมีธุรกิจออฟไลน์มากมายยกตัวอย่างร้านขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ที่มีชื่อเสียงของจีน ที่น่าสนใจมาก ๆ ชื่อว่าร้าน Miniso และตอนนี้กำลังขยายการตลาดมาเปิดที่ไทยค่อนข้างเยอะ และมักจะเปิดตามแหล่งห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปอีกด้วย
🌟ดังนั้น การขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ของ Miniso จึงเป็นที่รู้จักอย่างมาก ซึ่งการขายสินค้ายังคงต้องขายของแบบออฟไลน์ (Offline) เป็นหลัก โดยที่ว่าเน้นการขายของแบบออนไลน์ (Online) เป็นรองเพราะคนส่วนใหญ่ยังคงต้องการจับต้องและดูคุณภาพสินค้าอยู่
และตอนนี้คนในประเทศจีนได้หันมาขายของออนไลน์ (Online) กันเยอะไม่ว่าจะเป็นบนแพลตฟอร์มขายของออนไลน์เช่น Taobao, Alibaba ดังนั้นพอมีการขายของออนไลน์ (Online) มากขึ้นความน่าเชื่อถือในการซื้อสินค้าออนไลน์จึงต่ำลง เพราะสินค้าในประเทศจีนนั้นของปลอมมีอยู่เยอะมาก และสินค้าหลาย ๆ ประเภทคนจีนมักจะชอบซื้อแบบหน้าร้านหรือออฟไลน์มากกว่า
👉นอกจากจีนแล้ว ในด้านของการทำธุรกิจที่ควรจะมีหน้าร้านขายของแบบออฟไลน์ (Offline) เป็นอย่างมากเลยก็คือธุรกิจสินค้าไทยของเรานั่นเอง เพราะว่าถ้าหากนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวประเทศเรา คนจีนก็จะเห็นสินค้าหรืองานหัตถกรรมของผู้ประกอบการไทยที่วางขายตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ไปเที่ยว คนจีนก็จะได้รับรู้ ได้เห็นถึงวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวของเราแบบจับต้องได้ สุดท้ายคนจีนก็จะซื้อสินค้าไทยกลับไปมากมาย นี่คงจะทำให้เห็นว่า การขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ยังสำคัญ และการทำเช่นนั้น ยังเป็นการทำการตลาดได้ดีเกิดการการกระตุ้นยอดขายให้ดียิ่งขึ้นอีกทางนึงด้วย 💪
⭕ ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับตลาดการท่องเที่ยวของไทย เพราะสามารถดึงเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวออกมาใช้กันได้ ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการและเศรษฐกิจไทยมีสภาวะที่ดีขึ้นแถมยังมีเงินสะพัดในประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นอาจจะสรุปได้ว่า การขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ก็ยังคงยังขายดีและสำคัญสำหรับไทยหรือแม้แต่ตลาดจีนอยู่ ในอนาคตก็จะมีการขยายตลาดมากขึ้น เพียงแต่ว่าต้องปรับให้เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน
💡 สรุปแล้วคือ การมีร้านค้าที่ขายของแบบออฟไลน์ (Offline) และออนไลน์ (Online) ควบคู่กันไปจะยิ่งทำให้ร้านค้ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะการขายของแบบออฟไลน์ (Offline) เป็นธุรกิจที่ทำกันมานานแล้ว การขายของแบบออนไลน์ก็สำคัญซึ่งคนไทยเพิ่งให้ความสนใจและเริ่มเข้ามาขายของออนไลน์ตั้งแต่ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2552-2555 จนถึงปัจจุบันและมีแนวโน้มคนหันมาสนใจและขายของออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
แต่สำหรับยุคปัจจุบันแล้ว ในช่วงเริ่มต้นอาจจะต้องเน้นขายของแบบออนไลน์กันอยู่ เพราะบางคนที่เริ่มต้นธุรกิจอาจจะยังไม่พร้อมจะลงทุนหรือมีทุนน้อย ก็สามารถขายของออนไลน์ก่อนได้ครับ สามารถเลือกขายของออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Lazada Shopee เป็นต้น และยังไม่ต้องเน้นขายของแบบออฟไลน์หรือขยายตลาดแบบจีนก็ได้
✅ แต่ถ้าหากเมื่อขายของออนไลน์แล้วธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดีและมีเงินสะสมพอสมควร คุณก็สามารถลงทุนเปิดร้านขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ได้ หรือสำหรับคนที่มีร้านค้าแบบออฟไลน์ (Offline) ก็สามารถขายของแบบออนไลน์ (Online) ควบคู่ไปได้เช่นเดียวกัน
👍สุดท้ายนี้ ก็อยากถามทุกคนว่า คุณคิดว่าการขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ยังสำคัญต่อการขายของในยุคปัจจุบันอยู่หรือไม่ ถ้าใช่ ยังสำคัญ! แล้วร้านค้าขายของแบบออฟไลน์ (Offline) แบบไหน จึงจะสามารถดึงให้ลูกค้ามาจับจ่ายได้อย่างมากและน่าสนใจที่สุด สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ทางด้านล่างได้เลยครับ🥰
====================
วรัทภพ รชตนามวงษ์
ร้านขายของแบบออฟไลน์ (Offline) แบบไหนยังขายดีสำหรับจีน?
👉ทุกวันนี้การเริ่มต้นทำธุรกิจใด ๆ ดูเหมือนว่าจะต้องอาศัยอินเตอร์เน็ต หรือช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ในการสร้างธุรกิจ สร้างรายได้ และนำพาธุรกิจของเราเองไปสู่เป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ทุกธุรกิจจะต้องมุ่งเน้นไปที่อินเทอร์เน็ตอย่างเดียว ในความเป็นจริงยังมีธุรกิจออฟไลน์มากมายยกตัวอย่างร้านขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ที่มีชื่อเสียงของจีน ที่น่าสนใจมาก ๆ ชื่อว่าร้าน Miniso และตอนนี้กำลังขยายการตลาดมาเปิดที่ไทยค่อนข้างเยอะ และมักจะเปิดตามแหล่งห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไปอีกด้วย
🌟ดังนั้น การขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ของ Miniso จึงเป็นที่รู้จักอย่างมาก ซึ่งการขายสินค้ายังคงต้องขายของแบบออฟไลน์ (Offline) เป็นหลัก โดยที่ว่าเน้นการขายของแบบออนไลน์ (Online) เป็นรองเพราะคนส่วนใหญ่ยังคงต้องการจับต้องและดูคุณภาพสินค้าอยู่
และตอนนี้คนในประเทศจีนได้หันมาขายของออนไลน์ (Online) กันเยอะไม่ว่าจะเป็นบนแพลตฟอร์มขายของออนไลน์เช่น Taobao, Alibaba ดังนั้นพอมีการขายของออนไลน์ (Online) มากขึ้นความน่าเชื่อถือในการซื้อสินค้าออนไลน์จึงต่ำลง เพราะสินค้าในประเทศจีนนั้นของปลอมมีอยู่เยอะมาก และสินค้าหลาย ๆ ประเภทคนจีนมักจะชอบซื้อแบบหน้าร้านหรือออฟไลน์มากกว่า
👉นอกจากจีนแล้ว ในด้านของการทำธุรกิจที่ควรจะมีหน้าร้านขายของแบบออฟไลน์ (Offline) เป็นอย่างมากเลยก็คือธุรกิจสินค้าไทยของเรานั่นเอง เพราะว่าถ้าหากนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวประเทศเรา คนจีนก็จะเห็นสินค้าหรืองานหัตถกรรมของผู้ประกอบการไทยที่วางขายตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ไปเที่ยว คนจีนก็จะได้รับรู้ ได้เห็นถึงวัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยวของเราแบบจับต้องได้ สุดท้ายคนจีนก็จะซื้อสินค้าไทยกลับไปมากมาย นี่คงจะทำให้เห็นว่า การขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ยังสำคัญ และการทำเช่นนั้น ยังเป็นการทำการตลาดได้ดีเกิดการการกระตุ้นยอดขายให้ดียิ่งขึ้นอีกทางนึงด้วย 💪
⭕ ในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ สำหรับตลาดการท่องเที่ยวของไทย เพราะสามารถดึงเงินในกระเป๋านักท่องเที่ยวออกมาใช้กันได้ ทำให้กลุ่มผู้ประกอบการและเศรษฐกิจไทยมีสภาวะที่ดีขึ้นแถมยังมีเงินสะพัดในประเทศไทยมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นอาจจะสรุปได้ว่า การขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ก็ยังคงยังขายดีและสำคัญสำหรับไทยหรือแม้แต่ตลาดจีนอยู่ ในอนาคตก็จะมีการขยายตลาดมากขึ้น เพียงแต่ว่าต้องปรับให้เข้ากับสังคมที่เปลี่ยนไปด้วยเช่นเดียวกัน
💡 สรุปแล้วคือ การมีร้านค้าที่ขายของแบบออฟไลน์ (Offline) และออนไลน์ (Online) ควบคู่กันไปจะยิ่งทำให้ร้านค้ามีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะการขายของแบบออฟไลน์ (Offline) เป็นธุรกิจที่ทำกันมานานแล้ว การขายของแบบออนไลน์ก็สำคัญซึ่งคนไทยเพิ่งให้ความสนใจและเริ่มเข้ามาขายของออนไลน์ตั้งแต่ช่วงประมาณปี พ.ศ. 2552-2555 จนถึงปัจจุบันและมีแนวโน้มคนหันมาสนใจและขายของออนไลน์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
แต่สำหรับยุคปัจจุบันแล้ว ในช่วงเริ่มต้นอาจจะต้องเน้นขายของแบบออนไลน์กันอยู่ เพราะบางคนที่เริ่มต้นธุรกิจอาจจะยังไม่พร้อมจะลงทุนหรือมีทุนน้อย ก็สามารถขายของออนไลน์ก่อนได้ครับ สามารถเลือกขายของออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Lazada Shopee เป็นต้น และยังไม่ต้องเน้นขายของแบบออฟไลน์หรือขยายตลาดแบบจีนก็ได้
✅ แต่ถ้าหากเมื่อขายของออนไลน์แล้วธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยดีและมีเงินสะสมพอสมควร คุณก็สามารถลงทุนเปิดร้านขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ได้ หรือสำหรับคนที่มีร้านค้าแบบออฟไลน์ (Offline) ก็สามารถขายของแบบออนไลน์ (Online) ควบคู่ไปได้เช่นเดียวกัน
👍สุดท้ายนี้ ก็อยากถามทุกคนว่า คุณคิดว่าการขายของแบบออฟไลน์ (Offline) ยังสำคัญต่อการขายของในยุคปัจจุบันอยู่หรือไม่ ถ้าใช่ ยังสำคัญ! แล้วร้านค้าขายของแบบออฟไลน์ (Offline) แบบไหน จึงจะสามารถดึงให้ลูกค้ามาจับจ่ายได้อย่างมากและน่าสนใจที่สุด สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นได้ทางด้านล่างได้เลยครับ🥰
====================
วรัทภพ รชตนามวงษ์