ประโยคนี้พบมากในพระไตรปิฏก จึงอยากจะถามลองภูมิท่านทั้งหลายว่า...
คำว่า....
กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภิกษุนั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิบริสุทธิ์ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส อ่อน
ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว อย่างนี้ ย่อมโน้มน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ ย่อมรู้ชัด
ตามความเป็นจริงว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา เหล่านี้อาสวะ
นี้อาสวสมุทัย นี้อาสวนิโรธ นี้อาสวนิโรธคามินีปฏิปทา เมื่อเธอรู้เห็นอย่างนี้ จิตย่อมหลุดพ้น
แม้จากกามาสวะ แม้จากภาวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณว่าหลุดพ้น
แล้ว รู้ชัดว่าชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความ
เป็นอย่างนี้มิได้มี
กิจนั้นมันคืออะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง ?
ใครที่ตอบได้มีรางวัล ...อิ อิ
รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ ?
คำว่า....
กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ฯ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กิจนั้นมันคืออะไร มีกี่อย่าง อะไรบ้าง ?
ใครที่ตอบได้มีรางวัล ...อิ อิ