- ในอารัมมณปัจจัยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โดยความเป็นปัจจัย และ ปัจจยุบัน
- ปัจจัย องค์ธรรม ได้แก่อะไรบ้างครับ 89.52.28.นิพพาน.บัญญัติ
- ส่วนปัจจยุบันธรรม องค์ธรรมมีแค่ 89.52
- ปัจจัยของ นา กับ นู ได้เพียงแค่ 18.84.47.นิพพาน เท่านั้น
- ส่วนผู้รู้อารมณ์เหลือเพียงแค่ 8.8.4.8
------------------------------
- ในวิถีจิต จักขุทวาร ที่เป็นปัจจุบันอารมณ์แท้ๆ มีกี่ดวง ที่เป็นปัจจุบันอย่างเดียวเท่านั้น ปัญจารมณ์ที่เป็นปัจจุบันอย่างเดียวเท่านั้น ถามว่าจิตที่รู้ปัจจุบันอารมณ์มีกี่ดวง ตอบ 13 ดวงเท่านั้น ก็คือ ทวิ 10 กับ มโนธาตุ 3 นี้แหละรู้ปัจจุบันอารมณ์แท้ๆเลย
-----------------------------
- สำหรับ จิตที่เกิดใน กามภูมิ กามธรรม อย่างเดียวเท่านั้น ก็เท่ากับจิต ทำหน้าที่ ตทาลัมพนะ กับ หสิตุปา เพราะตทา กับ หสิตุปา ต้องเป็นจิตที่เกิดในกามภูมิเท่านั้น ไม่สามารถเกิดในรูปภูมิ หรือมหัคคตะ ได้เลย
- เพราะฉนั้น กามธรรมอย่างเดียว 54.52.28 เป็นอารมณ์ถูกรู้โดยจิต 12 ดวง คือ ตทา 11 และ หสิตุปา 1
---------------------------
- เราจะแสดงฝ่าย อารัมมณปัจจัย ก่อน
- สำหรับ ชวนะ อันนี้พูดถึงตัวหลัง ชวนะ และ 1 ใน ชวนะ ถามว่า ชวนะ สามารถเกิดขึ้นรู้อารมณ์กามภูมิได้ไหมได้ ตอบ ชวนะสามารถรู้ได้มากกว่านั้น คือ มหัคคตะ 27 ได้ด้วยไหม ตอบ ได้ด้วย แสดงว่า ชวนะ ก็คือ
อกุศล12 เอาเพียงแค่
ม.กุ วิป 4 ม.กิ วิป 4 สามารถรู้อารมณ์ได้มากขึ้นจาก 54 และ รู้ได้ ฌาน รวมเป็น 81.52.28.บัญญัติ
- อันนี้ได้ กาม กับ มหัคคตะ นะครับ20 ดวง รู้ 81.52.28.บัญญัติ
---------------------------
- จาก ม กุ วิป 4 เหลือ
ม กุ สัม 4
- ถามว่า ม กุ สัม 4 รู้ได้เท่ากับ ม กุ วิป 4 ไหมครับ
- กุ วิป ยังได้ 81 เลย แล้ว กุ สัม จะไม่ได้เลยหรือ คำตอบ ได้และได้มากกว่า ใช่หรือเปล่า
- ถ้าเป็น กุ สัม ของพระอริยะ ได้มากขึ้นไหมครับ ตอบ มากขึ้นอีก 7 ดวงคือ มัค 3 ผล 3 และ นิพพาน
- รวมแล้วก็คืออะไรนั่นเอง 87.52.28.นิพพาน.บัญญัติ ได้ กามะ มหัคคตะ และ โลกุตตระ โลกุตตระได้หมดไม่มีเหลือไหม เหลือ อรม. กับ อรผ.
- อรม. กับ อรผ. ควรถูกรู้โดยอะไรครับ กิ สัม 4
- ถามว่า พระอริยะ กิ สัม 4 ยังรู้ 87 เลย เพราะฉนั้น พระอรหันต์ ก็ต้องรู้ 87 ทั้งหมด เหมือนกัน แล้วเหนือชั้นกว่าคือรู้ มัค ผล ของตนอีก รวมเป็น 89 เลย
- เพราะฉนั้น จากเดิม 87.52.28.นิพพาน.บัญญัติ บวกด้วย อรม. อรผ.นิพพานใหม่
- ถามว่า มีเหลือหรือเปล่า ตอบ ไม่มีเหลือแล้ว รู้ได้หมด รู้ทำนองเดียวกันกับจิตที่เป็น มโนทวาราวัชชนจิต งั้นจิตของพระอรหันต์รู้ได้อย่างมโนทวาราวัชชนะจิต รู้ได้หมดไม่มีเหลือ เพียงแต่เป็นสามัญ หรืออธิบดีอารมณ์ งั้นรวมแล้วได้เป็นเท่าไหร่ครับ 89.52.28.นิพพาน.บัญญัติ
----------------------------
- โลกุตตระ 8 รู้อะไรอย่างเดียวเท่านั้นครับ นิพพาน เท่านั้น แน่นอน
- รูป กุ กับ รูป กิ รู้อารมณ์อะไรอย่างเดียวเท่านั้น เหมือนกัน ก็รู้แบบแน่นอนเหมือนกัน แต่รู้บัญญัติแน่นอน แน่นอนทั้งคู่ คือ 25.14.12 อันนี้แหละบัญญัติ
- อันนี้จากคาถา ปัญจวีสปริตตามิน
- และ อรูป กุ กับ อรูป กิ หละครับ มีปรมัตถ์ 2 บัญญัติ 2 คือ อากาสบัญญัติ อากาสานัญจายตนะ นัตถิภาวะบัญญัติ และ อากิญจัญญายตนะ
- มโนทวาราวัชชนะ หละครับ รู้เช่นเดียวกับ จิตพระอรหันต์ รู้มโนทวาราวัชชนะ รู้เหมือนกันเลยใช่หรือเปล่า ก็คือ 89.52.28.นิพพาน.บัญญัติ
- ม กิ สัม 4 กับ มโนทวาราวัชชนะ รู้เท่ากันเลย แสดงว่า จิตของพระอรหันต์ รู้คนอื่นได้หมดเลยไหมครับ หมด มองหน้ารู้ใจเลย ครั้นพระอรหันต์รู้ว่าคนนี้มีอัธยาศัย ควรฟังธรรมะอย่างไร (นาทีที่ 49.20)
- บางคนพูดว่า ฌานลาพีบุคคล ยกอารมณ์เป็นวิปัสสนา ท่านฟังแล้วท่านพอใจไหม ฌานลาพีบุคคล ยกอารมณ์ท่านได้เป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยกกสินเป็นอารมณ์วิปัสสนาไม่ได้เลย อย่างงี้เขาพูดผิดแล้วครับ แต่ถ้าบอกว่า ฌานลาพียกฌานของตนเป็นวิปัสสนา ได้ไหมได้ ตอบ ได้ คือ ยกจิตมาได้ แต่ถ้ายกอารมณ์ตรงนี้ 25.14.12 ไม่ได้ เพราะอารมณ์กลุ่มนี้เป็นบัญญัติ
- แล้วถามว่า โลกุตตระ ต้องเกิดในวิถีที่ชื่อว่าอะไร ตอบ มัคควิถี เท่านั้น
- รูป กุศล รูป กิริยา อรูป กุศล อรูป กิริยา ต้องเกิดในวิถีไหนเท่านั้น ตอบ ฌานวิถี เกิดวิถีอื่นไม่ได้
- ถามว่า หลังจากถอนออกมา ใช้วิถีอื่นได้ไหมครับ ตอบ ได้เลย
- แต่ตอนวิถีพวกนี้เกิด ต้องเป็นอารมณ์เฉพาะ ต้องแยกบุคคลให้ออก แต่ขณะที่ท่านมีฌานวิถีเกิด ต้องเฉพาะอารมณ์
- งั้นบุคคลที่อยู่ในฌานเช่น บุคคลที่อยู่ในฌานแล้วเจริญวิปัสสนาต่อเลยได้ไหมได้ ตอบ ไม่ได้ ต้องออกจากฌานก่อนนะ ต้องมาปัจจเวกแล้วออกมาค่อยไปเจริญวิปัสสนา ไม่ใช่ขณะอยู่ในฌานแล้ววิปัสสนาไม่ได้
- อารัมมณปัจจัย มีข้อสงสัยไหมครับ
-------------------------------(นาทีที่ 52.00)
ปริจเฉทที่ 8 - 4/17 ต่อ - การแสดงโดยการเปรียบเทียบ อารัมมณปัจจัย กับ อารัมมณาธิปติปัจจัย กับ อารัมมณูปนิสสยปัจจัย
- ในอารัมมณปัจจัยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ โดยความเป็นปัจจัย และ ปัจจยุบัน
- ปัจจัย องค์ธรรม ได้แก่อะไรบ้างครับ 89.52.28.นิพพาน.บัญญัติ
- ส่วนปัจจยุบันธรรม องค์ธรรมมีแค่ 89.52
- ปัจจัยของ นา กับ นู ได้เพียงแค่ 18.84.47.นิพพาน เท่านั้น
- ส่วนผู้รู้อารมณ์เหลือเพียงแค่ 8.8.4.8
------------------------------
- ในวิถีจิต จักขุทวาร ที่เป็นปัจจุบันอารมณ์แท้ๆ มีกี่ดวง ที่เป็นปัจจุบันอย่างเดียวเท่านั้น ปัญจารมณ์ที่เป็นปัจจุบันอย่างเดียวเท่านั้น ถามว่าจิตที่รู้ปัจจุบันอารมณ์มีกี่ดวง ตอบ 13 ดวงเท่านั้น ก็คือ ทวิ 10 กับ มโนธาตุ 3 นี้แหละรู้ปัจจุบันอารมณ์แท้ๆเลย
-----------------------------
- สำหรับ จิตที่เกิดใน กามภูมิ กามธรรม อย่างเดียวเท่านั้น ก็เท่ากับจิต ทำหน้าที่ ตทาลัมพนะ กับ หสิตุปา เพราะตทา กับ หสิตุปา ต้องเป็นจิตที่เกิดในกามภูมิเท่านั้น ไม่สามารถเกิดในรูปภูมิ หรือมหัคคตะ ได้เลย
- เพราะฉนั้น กามธรรมอย่างเดียว 54.52.28 เป็นอารมณ์ถูกรู้โดยจิต 12 ดวง คือ ตทา 11 และ หสิตุปา 1
---------------------------
- เราจะแสดงฝ่าย อารัมมณปัจจัย ก่อน
- สำหรับ ชวนะ อันนี้พูดถึงตัวหลัง ชวนะ และ 1 ใน ชวนะ ถามว่า ชวนะ สามารถเกิดขึ้นรู้อารมณ์กามภูมิได้ไหมได้ ตอบ ชวนะสามารถรู้ได้มากกว่านั้น คือ มหัคคตะ 27 ได้ด้วยไหม ตอบ ได้ด้วย แสดงว่า ชวนะ ก็คือ อกุศล12 เอาเพียงแค่ ม.กุ วิป 4 ม.กิ วิป 4 สามารถรู้อารมณ์ได้มากขึ้นจาก 54 และ รู้ได้ ฌาน รวมเป็น 81.52.28.บัญญัติ
- อันนี้ได้ กาม กับ มหัคคตะ นะครับ20 ดวง รู้ 81.52.28.บัญญัติ
---------------------------
- จาก ม กุ วิป 4 เหลือ ม กุ สัม 4
- ถามว่า ม กุ สัม 4 รู้ได้เท่ากับ ม กุ วิป 4 ไหมครับ
- กุ วิป ยังได้ 81 เลย แล้ว กุ สัม จะไม่ได้เลยหรือ คำตอบ ได้และได้มากกว่า ใช่หรือเปล่า
- ถ้าเป็น กุ สัม ของพระอริยะ ได้มากขึ้นไหมครับ ตอบ มากขึ้นอีก 7 ดวงคือ มัค 3 ผล 3 และ นิพพาน
- รวมแล้วก็คืออะไรนั่นเอง 87.52.28.นิพพาน.บัญญัติ ได้ กามะ มหัคคตะ และ โลกุตตระ โลกุตตระได้หมดไม่มีเหลือไหม เหลือ อรม. กับ อรผ.
- อรม. กับ อรผ. ควรถูกรู้โดยอะไรครับ กิ สัม 4
- ถามว่า พระอริยะ กิ สัม 4 ยังรู้ 87 เลย เพราะฉนั้น พระอรหันต์ ก็ต้องรู้ 87 ทั้งหมด เหมือนกัน แล้วเหนือชั้นกว่าคือรู้ มัค ผล ของตนอีก รวมเป็น 89 เลย
- เพราะฉนั้น จากเดิม 87.52.28.นิพพาน.บัญญัติ บวกด้วย อรม. อรผ.นิพพานใหม่
- ถามว่า มีเหลือหรือเปล่า ตอบ ไม่มีเหลือแล้ว รู้ได้หมด รู้ทำนองเดียวกันกับจิตที่เป็น มโนทวาราวัชชนจิต งั้นจิตของพระอรหันต์รู้ได้อย่างมโนทวาราวัชชนะจิต รู้ได้หมดไม่มีเหลือ เพียงแต่เป็นสามัญ หรืออธิบดีอารมณ์ งั้นรวมแล้วได้เป็นเท่าไหร่ครับ 89.52.28.นิพพาน.บัญญัติ
----------------------------
- โลกุตตระ 8 รู้อะไรอย่างเดียวเท่านั้นครับ นิพพาน เท่านั้น แน่นอน
- รูป กุ กับ รูป กิ รู้อารมณ์อะไรอย่างเดียวเท่านั้น เหมือนกัน ก็รู้แบบแน่นอนเหมือนกัน แต่รู้บัญญัติแน่นอน แน่นอนทั้งคู่ คือ 25.14.12 อันนี้แหละบัญญัติ
- อันนี้จากคาถา ปัญจวีสปริตตามิน
- และ อรูป กุ กับ อรูป กิ หละครับ มีปรมัตถ์ 2 บัญญัติ 2 คือ อากาสบัญญัติ อากาสานัญจายตนะ นัตถิภาวะบัญญัติ และ อากิญจัญญายตนะ
- มโนทวาราวัชชนะ หละครับ รู้เช่นเดียวกับ จิตพระอรหันต์ รู้มโนทวาราวัชชนะ รู้เหมือนกันเลยใช่หรือเปล่า ก็คือ 89.52.28.นิพพาน.บัญญัติ
- ม กิ สัม 4 กับ มโนทวาราวัชชนะ รู้เท่ากันเลย แสดงว่า จิตของพระอรหันต์ รู้คนอื่นได้หมดเลยไหมครับ หมด มองหน้ารู้ใจเลย ครั้นพระอรหันต์รู้ว่าคนนี้มีอัธยาศัย ควรฟังธรรมะอย่างไร (นาทีที่ 49.20)
- บางคนพูดว่า ฌานลาพีบุคคล ยกอารมณ์เป็นวิปัสสนา ท่านฟังแล้วท่านพอใจไหม ฌานลาพีบุคคล ยกอารมณ์ท่านได้เป็นวิปัสสนากัมมัฏฐาน ยกกสินเป็นอารมณ์วิปัสสนาไม่ได้เลย อย่างงี้เขาพูดผิดแล้วครับ แต่ถ้าบอกว่า ฌานลาพียกฌานของตนเป็นวิปัสสนา ได้ไหมได้ ตอบ ได้ คือ ยกจิตมาได้ แต่ถ้ายกอารมณ์ตรงนี้ 25.14.12 ไม่ได้ เพราะอารมณ์กลุ่มนี้เป็นบัญญัติ
- แล้วถามว่า โลกุตตระ ต้องเกิดในวิถีที่ชื่อว่าอะไร ตอบ มัคควิถี เท่านั้น
- รูป กุศล รูป กิริยา อรูป กุศล อรูป กิริยา ต้องเกิดในวิถีไหนเท่านั้น ตอบ ฌานวิถี เกิดวิถีอื่นไม่ได้
- ถามว่า หลังจากถอนออกมา ใช้วิถีอื่นได้ไหมครับ ตอบ ได้เลย
- แต่ตอนวิถีพวกนี้เกิด ต้องเป็นอารมณ์เฉพาะ ต้องแยกบุคคลให้ออก แต่ขณะที่ท่านมีฌานวิถีเกิด ต้องเฉพาะอารมณ์
- งั้นบุคคลที่อยู่ในฌานเช่น บุคคลที่อยู่ในฌานแล้วเจริญวิปัสสนาต่อเลยได้ไหมได้ ตอบ ไม่ได้ ต้องออกจากฌานก่อนนะ ต้องมาปัจจเวกแล้วออกมาค่อยไปเจริญวิปัสสนา ไม่ใช่ขณะอยู่ในฌานแล้ววิปัสสนาไม่ได้
- อารัมมณปัจจัย มีข้อสงสัยไหมครับ
-------------------------------(นาทีที่ 52.00)