ที่มา
https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=40&siri=5
----------------
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๑
[๔] อนันตรปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุ
นั้นโดยอนันตรปัจจัย
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๓}
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ
และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้น เป็น
ปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิด
หลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๔}
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกใดๆ เกิดขึ้นในลำดับแห่งสภาวธรรมใดๆ
สภาวธรรมนั้นๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกนั้นๆ โดยอนันตร-
ปัจจัย
---------------
ปริจเฉทที่ 8 - ปัฏฐาน (อ.อาณัติชัย) 3/17 (ต่อ)- อนันตรปัจจัย
----------------
พระไตรปิฎกเล่มที่ ๔๐ พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๗ [ฉบับมหาจุฬาฯ]
มหาปัฏฐานปกรณ์ ภาค ๑
[๔] อนันตรปัจจัย ได้แก่ จักขุวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วย
จักขุวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุ
นั้นโดยอนันตรปัจจัย
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๓}
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
โสตวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยโสตวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
ฆานวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยฆานวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณธาตุ
และสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
ชิวหาวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยชิวหาวิญญาณธาตุนั้น เป็น
ปัจจัยแก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
กายวิญญาณธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยกายวิญญาณธาตุนั้นเป็นปัจจัย
แก่มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
มโนธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนธาตุนั้น เป็นปัจจัยแก่มโนวิญญาณ-
ธาตุและสภาวธรรมที่สัมปยุตด้วยมโนวิญญาณธาตุนั้นโดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิด
หลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอกุศล
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : ๔๐ หน้า : ๔}
สภาวธรรมที่เป็นอกุศลซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤต
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อัพยากฤตซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นกุศล
ซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นอัพยากฤตซึ่งเกิดก่อนๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็น
อกุศลซึ่งเกิดหลังๆ โดยอนันตรปัจจัย
สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกใดๆ เกิดขึ้นในลำดับแห่งสภาวธรรมใดๆ
สภาวธรรมนั้นๆ เป็นปัจจัยแก่สภาวธรรมที่เป็นจิตและเจตสิกนั้นๆ โดยอนันตร-
ปัจจัย
---------------